ตอนที่แล้ว856 - ปล้น?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป858 - แปดต้องห้าม 

857 - ทวนทองคะนองฤทธิ์ 


857 - ทวนทองคะนองฤทธิ์

“คราวก่อนเจอกันที่แผงขายอาหาร ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร แต่มีคำโบราณกล่าวไว้ว่าศัตรูมักพบกันบนทางครับแคบ เจ้าก็ยอมรับชะตากรรมของตัวเองเถอะ”ชายหนุ่มหลายคนส่งเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

“พวกเจ้ากำลังพล่ามอะไร พวกเจ้าไม่มีความกล้าแม้แต่จะสู้กับข้า ถึงกับต้องให้ผู้อาวุโสสี่คนให้ลงมือแทน” เย่ฟ่านกล่าวอย่างเย็นชา “ในอนาคตหากพ่อและปู่ของพวกเจ้าตายไปแล้ว พวกเจ้าจะพึ่งพาใครได้?”

เย่ฟ่านไม่สนใจคนเหล่านี้อีกและหันไปมองชายชราทั้งสี่พร้อมกับกล่าวว่าว่า “ผู้อาวุโสทั้งสี่ท่านนี้ นี่คือหลานชายของท่านหรือไม่?”

หนึ่งในนั้นนั้นส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้สติขึ้นมาและกล่าวด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

“เลิกเล่นลิ้นได้แล้ว ภูเขายอมรับความตายซะ” จินฉีเซียวและคนอื่นๆ ที่ด้านหลังต่างมีสีหน้าเย็นชาและหนึ่งในนั้นกล่าวว่า

“กล่าวไปก็ไร้ประโยชน์ เราไม่ปล่อยเจ้าไปแน่ คุกเข่าลง”

“พวกเขาทั้งสี่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเจ้า เหตุใดพวกเจ้าไม่เรียกบรรพบุรุษของพวกเจ้ามาเอง?”

เย่ฟ่านกล่าวด้วยรอยยิ้มตัวตนของคนทั้งเจ็ดไม่ธรรมดา เมื่อได้ยินคำเยอะๆของเขาหนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้าด้วยสีหน้ามืดมนและกล่าวว่า

“ข้ามาที่นี่เพื่อฆ่าเจ้า จะใช้ใครก็ไม่เรื่องที่ต้องแจ้งให้เจ้าทราบ”

“เป็นเรื่องธรรมดา แค่ขอให้ผู้อาวุโสทั้งสี่ลงมือแทน ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้เลือดเปื้อนมือเรา”

สหายของจินฉีเซียวคนหนึ่งส่ายหัว เขาเดินไปข้างหน้าขณะกล่าว ฝ่ามือของเขาเปล่งแสงจางๆ ออกมาและตรีศูลสีทองก็ปรากฏขึ้น

ตรีศูลทองคำยาวเพียงหนึ่งนิ้ว มันถูกขยายใหญ่ขึ้นในมือของเขาจนมีความสูงถึงสิบจั้ง แสงสีทองจากสวรรค์อาบไล้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ รัศมีสีทองมันส่องประกายไปทุกทิศทาง จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างสงบและกล่าวว่า

“ผู้อาวุโสทั้งสี่ ข้าจะลงมือเอง”

เย่ฟ่านยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบและไม่กล่าวอะไร แต่เตรียมพร้อมที่จะรับการโจมตีแล้ว

“ยังไม่สายเกินไป คุกเข่าลงในตอนที่ข้ายังมีความปราณีอยู่”

นี่คือนายน้อยของตระกูลมหาอำนาจที่ทรงพลังและเก่าแก่ในเป่ยหยวนซึ่งมีฐานการฝึกฝนอยู่ในการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สี่ของอาณาจักรแปลงมังกร

“ในเมื่อเจ้าเรียกร้องหาความตาย ข้าจะสนองให้เจ้าเอง!” ในที่สุดเย่ฟ่านก็เคลื่อนไหว ร่างของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ราวกับสายฟ้าที่พุ่งทะยานไปข้างหน้า

“ตาย!”

ชายหนุ่มคนนั้นฟาดฟันตรีศูลลงไปอย่างรุนแรง และคลื่นระเบิดสีทองที่เหมือนกับทะเลได้ซัดสาดเข้าหาเย่ฟ่าน

มือซ้ายของเย่ฟ่านก็เปลี่ยนเป็นสีทองเช่นกัน ในขณะที่มือขวาของเขากลายเป็นสีดำสนิทด้วยอักขระเต๋าที่ส่งประกายแวววาว

ปัง!

เสียงโลหะกระทบกันอย่างรุนแรงดังขึ้น ทั้งสองปะทะกันหนึ่งครั้งด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

แสงของตรีศูลหรี่ลงเล็กน้อย ทันใดนั้นใบมีดสองอันก็หักออกเหลือเพียงปลายทวนยาวที่อยู่ตรงกลาง ในตอนนี้มันเปลี่ยนจากตรีศูลสีทองกลายเป็นทวนศึกสีทองสีสันสดใส

เย่ฟ่านทุบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ด้วยมือเปล่าจนผู้คนไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวของเขาได้

“เคร้ง”

ความเร็วของเย่ฟ่านนั้นเร็วมาก กำปั้นสีทองของเขาทุบลงที่ปลายทวนทำให้ประกายไฟสาดกระจายขึ้นสู่ท้องฟ้า

ชายหนุ่มหน้าซีดด้วยความตกใจเขาไม่เคยคิดว่าร่างกายของคนคนนี้จะทรงพลังมากจนทำลายอาวุธสีทองอันล้ำค่าของเขาได้

“ปัง!”

เขาต้องรีบโต้กลับโดยละทิ้ง "ทวนศึก" ที่ไม่สามารถเหวี่ยงในระยะประชิดได้ ..เขาพยายามถอยกลับไปตั้งหลักในขณะที่ป้องกันการโจมตีของศัตรูด้วยมือทั้งสองเพื่อซื้อเวลาให้กับตัวเอง

น่าเสียดายที่ทันทีที่ยกมือขึ้น เย่ฟ่านก็คว้ามือของเขาอย่างรวดเร็วพร้อมกับหักกระดูกของเขาจนพังยับเยิน

มือซ้ายของเย่ฟ่านเปรียบได้กับโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

ชายหนุ่มคนนั้นกรีดร้อง แต่เขาไม่สามารถหยุดมันได้เลยพละกำลังของเย่ฟ่านเปรียบเสมือนภูเขาขนาดใหญ่ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าและบดขยี้แขนของเขาจนขาดออกจากร่าง

“แย่แล้ว”

เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวภายใต้แรงกดดันนี้ได้ ขาของเขาเกือบจะหัก และเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเป็นท่าทางที่น่าอับอายไม่น้อย

ในตอนแรกเขาขู่ว่าจะให้เย่ฟ่านคุกเข่าลง แต่เขากลับถูกกดดันให้เป็นคนต้องคุกเขาเสียเอง เขารู้สึกว่านี่เป็นความอัปยศอดสูที่เสื่อมเสียไปถึงบรรพบุรุษด้วยซ้ำ

เย่ฟ่านกดฝ่ายตรงข้ามลงพื้นก่อนจะกระแทกศีรษะของชายหนุ่มคนนั้นให้แตกละเอียดเหมือนทุบแตงโม

จากนั้นเขาก็หยิบอาวุธที่กลายเป็นทวนสีทองและถอยกลับไปทางด้านหลัง ศพของชายหนุ่มคนนั้นยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม แต่ศีรษะของเขาหายสาบสูญไปแล้ว

กลุ่มชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลังไม่มีโอกาสให้ความช่วยเหลือได้ ชายชราทั้งสี่ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ แต่ทักษะการเคลื่อนไหวของเย่ฟ่านนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างพวกเขาจะไล่ตามทัน

“คืนชีวิตพี่ชายของข้ามา!”

ชายหนุ่มที่อยู่ไกลออกไปตะโกนเสียงดัง ใบหน้าของเขาซีดเผือด ในขณะนั้นน้ำเต้าทองแดงขนาดใหญ่ได้ปรากฏออกมาในความว่างเปล่าพร้อมกับดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไปภายในทันที

เย่ฟ่านยิ้มอย่างเย็นชาและเหวี่ยงทวนสีทองไปข้างหน้าโดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

“เคร้ง”

ทวนสีทองสอดจากปากน้ำเต้าและแทงสมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ให้พังยับเยินจากภายใน

“แย่แล้ว”

หลังจากที่ทวนสงครามสีทองแทงผ่านน้ำเต้าทองแดง ความเร็วของทวนก็เร็วขึ้น แสงสีทองพุ่งทะลุอาวุธศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะทิ่มแทงเข้าสู่หน้าอกของชายหนุ่มคนนั้นและลากร่างของเขาให้ติดตามไปด้วย

“อา”

ชายหนุ่มคนนั้นตะโกน หน้าอกของเขาถูกแทงทะลุ อวัยวะภายในทั้งห้าของเขาแตกสลาย และจิตวิญญาณของเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เย่ฟ่านเคลื่อนไหวติดตามทวนศึกราวกับวิญญาณร้าย มือของเขาหยิบด้ามทวนพร้อมกับโบกสะบัดมืออย่างรวดเร็วและทำให้เลือดเนื้อของชายหนุ่มคนนั้นสาดกระจายไปทุกที่

จิตวิญญาณของชายหนุ่มถูกทำลายแล้ว ปลายทวนสีทองยังคงมีคราบเลือดของเขาติดอยู่ เลือดเหล่านั้นยังคงหยดลงพื้นอย่างช้าๆ ผมสีดำของเย่ฟ่านโบกสะบัด เขาถือทวนในมือก้าวไปข้างหน้าโดยไม่หยุด

“นี่”…” ทุกคนตะลึงวิธีการดังกล่าวทั้งเด็ดขาดและน่ากลัว

เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้า ทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบย่ำลงไปทำให้พื้นพิภพสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ผู้อาวุโสทั้งสี่เริ่มการโจมตีอีกครั้ง แต่พวกเขาเห็นเพียงภาพติดตา ความเร็วของเย่ฟ่านนั้นเกินจะคาดเดา ในตอนแรกดูเหมือนว่าเขายืนอยู่ที่นี่ แต่เมื่อเดินเข้ามาเขาก็หายไปในทันที

เขาถือทวนสงครามสีทองโจมตีเข้าหาจินฉีเซียวที่อยู่ด้านหลังสุดราวกับปีศาจโบราณที่หลุดจากโซ่ตรวนแห่งขุมนรก

ห้าชายหนุ่มผู้แข็งแกร่งที่ยังรอดชีวิตหน้าซีดตัวสั่น อีกฝ่ายพุ่งทะยานด้วยรัศมีอันทรงพลังราวกับมังกรคลั่ง และทุกคนจำเป็นต้องรับมือการโจมตีครั้งนี้ด้วยพลังทั้งหมดที่มี

“อ๊า”…”

“ครืน”

เย่ฟ่านถือทวนทองคำกวัดแกว่งไปมาเหมือนกับกระบี่สวรรค์ เขาถือมันด้วยมือทั้งสองข้างโดยใช้มันต่างไม้พลองเพื่อทุบตีคนเหล่านั้น

“เคร้ง!”

บูม!

เย่ฟ่านเหวี่ยงทวนสีทองลงไป ทำลายต้นไม้ทั่วบริเวณ ตัดสวรรค์และพิภพออกเป็นสองส่วน ทำให้เกิดรอยร้าวบนพื้นที่ยาวไกลกว่าสิบลี้

“อา...”

ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องลั่น คิ้วของเขาแตกออกจากกันและทำให้เลือดของเขาไหลทะลักออกมาราวกับน้ำพุ แม้กระทั่งก่อนตายดวงตาของเขาก็ยังไม่เชื่อว่าเขาจะมาจบชีวิตในดินแดนรกร้างแห่งนี้ได้

“ตาย!”

ทวนทองในมือของเย่ฟ่านไม่ต่างจากกระบี่สวรรค์ มันฟันลงมาหลายร้อยครั้ง ปลายทวนก็ตัดเข้าที่ศีรษะของชายหนุ่มอีกคนพร้อมกับฉีกร่างของฝ่ายตรงข้ามออกเป็นสองส่วน

“พรึ่บ”

ร่างทั้งสองซีกล้มลงกับพื้น เย่ฟ่านยืนอยู่ตรงกลาง ผมของโบกสะบัดอย่างบ้าคลั่งภายใต้แสงแดดแห่งรุ่งอรุณ เลือดสีแดงสดหยดลงมาจากปลายทวนอย่างช้าๆ รูปลักษณ์ของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณราวกับอสูรสงครามผู้บ้าคลั่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด