856 - ปล้น?
856 - ปล้น?
“ไอ้สารเลวนี่!”
จินฉีเซียวกัดฟัน เขาจ้องไปที่ห้องส่วนตัวที่เย่ฟ่านอยู่ด้วยเจตนาฆ่าอย่างไม่รู้จบ
เกิดความโกลาหลในห้องประมูล
จากนั้นก็มีการประมูลสมบัติอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นม้วนคัมภีร์ซึ่งเป็นทักษะการฝึกฝนของราชาแฝดโบราณ มันบันทึกส่วนหนึ่งในความรู้แจ้งของเขาไว้ แม้จะเป็นทักษะเพียงเล็กน้อยแต่ก็ยังมีคุณค่ามหาศาล
เย่ฟ่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเข้าร่วมอีกครั้ง คราวนี้เขาร่วมประมูลอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่าทุกครั้งที่เสนอราคาเขาจะยังมีความระมัดระวังเป็นอย่างมากแต่ก็ดันราคาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ
“ให้ตายสิ แย่มาก!”
“มันน่ารังเกียจ การขึ้นราคานั้นชัดเจนเกินไป!”
ในท้ายที่สุด บันทึกความรู้แจ้งรู้ที่ไม่สมบูรณ์นี้ก็ถูกดันขึ้นสู่ราคาที่สูงเกินจริงอีกเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมการประมูลเกิดความโกรธและความขุ่นเคืองไม่น้อย
“ไปตายซะ!”
หลายคนสบถคำหยาบด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
เย่ฟ่านรู้ดีว่าทุกคนต้องการสิ่งนี้มากแค่ไหน ดังนั้นในเมื่อราคามันสูงเกินกว่าที่เขาจะยอมซื้อ เขาจึงพยายามผลักดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก
หลังจากนั้น ก็มีใครบางคนซื้อสมบัติชิ้นนี้ด้วยราคาสูงเสียดฟ้า
“สมบัติชิ้นสุดท้าย ขวดไขกระดูกมังกรมีทั้งหมดสิบสองหยด และราคาเริ่มต้นคือหนึ่งล้านสองแสนจิน แต่จะต้องจ่ายด้วยต้นกำเนิดสวรรค์เท่านั้น”
มีความโกลาหลเกิดขึ้นอีกครั้งทั่วห้องโถงและในที่สุดก็มาถึงตอนจบของการประมูล ไขกระดูกมังกรถูกนำออกมาต่อหน้าทุกคนในหอประมูล นี่คือสมบัติสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้
มันไม่เพียงยืดอายุของผู้คนเท่านั้นมันยังมีผลทำให้เกิดความรู้แจ้งได้อีกด้วย
ขวดหยกใสมองเห็นทุกอย่างที่อยู่ภายในได้ชัดเจน มีไขกระดูกมังกรสิบสองหยด เบ่งบานอย่างศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ห้องโถงมึนเมาจากกลิ่นหอมของมัน
แต่ละหยดมีขนาดใหญ่เท่ากับนิ้วโป้ง ใสและโปร่งแสง มีเมฆสีม่วงริบหรี่ ราวกับหมอกม่วงจากทางทิศตะวันออก ห้องโถงนั้นบรรจุจำนวนคนไม่น้อย ในมวลอากาศที่หนาแน่น กลิ่นหอมหลั่งไหลเข้าสู่จิตวิญญาณของผู้คนโดยตรง
สิบสองหยด แต่ละหยดมีการตั้งราคาที่หนึ่งแสนจิน ซึ่งเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้า
“แค่สิบสองหยด ราคาเริ่มต้นคือหนึ่งล้านสองแสนจิน!”
หลายคนตะโกนว่าราคาแพงและที่สำคัญที่สุดคือการประมูลครั้งนี้ไม่ใช่การจ่ายด้วยต้นกำเนิดบริสุทธิ์ แต่เป็นต้นกำเนิดสวรรค์ซึ่งปิดกั้นผู้คนมากเกินไป
“หนึ่งล้านสามแสนจิน” เย่ฟ่านกล่าว น้ำเสียงของเขายังคงสงบนิ่ง
ห้องโถงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วเสียงสาปแช่งก็ตามมาอย่างรวดเร็ว
“ให้ตายสิ เขาทำตัวแบบนี้อีกแล้ว!”
“เจ้าเล่นเองเลย เราไม่ประมูล!”
“หนึ่งล้านสามแสนจินครั้งที่หนึ่ง หนึ่งล้านสามแสนจินครั้งที่สอง...”
“ปัง”
เสียงค้อนเคสาะลงบนโต๊ะประมูล ทุกคนต่างกร่นด่าและสาปแช่ง ไม่มีใครแข่งขันกับเย่ฟ่านเพื่อประมูลไขกระดูกมังกรเลย ด้วยราคาหนึ่งล้านสามแสนจินที่เขาเสนอไปในครั้งเดียว เขาก็กลายเป็นผู้ชนะในที่สุด
ในห้องโถงเงียบลง แล้วก็เริ่มมีคำสาปแช่งต่างๆ นานา ผู้คนเชื่อว่านี่เป็นการตบหน้าครั้งใหญ่
“ให้ตายสิ เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว ไม่อยากประมูลแล้วทำไมถึงทำเช่นนี้?”
ข้างๆ กัน ผู้รับผิดชอบงานประมูลก็ไร้คำกล่าว นี่คือขวดไขกระดูกมังกรซึ่งหาได้ยากในโลก เดิมเป็นสินค้าปิดท้ายการประมูลและจะต้องประมูลราคาที่สูงจนน่าตกใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
“เชื่อเขาเลย!”
ทุกคนในห้องประมูลสาปแช่ง
ผู้รับผิดชอบหอประมูลอยากจะร้องไห้และบีบคอเย่ฟ่านให้ตาย
ในขั้นต้นการประมาณการที่ระมัดระวังที่สุดคือราคาซื้อขายมากกว่าสี่ล้านจินเพราะคราวนี้ไม่ใช่ไขกระดูกมังกรเกรดต่ำ ย่อมมีมูลค่าที่นับไม่ถ้วน
ท่ามกลางเสียงกร่นด่าจากผู้คนจำนวนมาก ผู้รับผิดชอบงานประมูลได้ทุบหน้าอกของเขาเพราะเกือบจะหายใจไม่ออก
เมื่อทุกคนในห้องโถงทยอยกันออกไป เย่ฟ่านก็จ่ายเงินในห้องส่วนตัวและนำขวดไขกระดูกมังกรมาไว้ในอกเสื้อ
“ดีจริงๆ ข้าจะมาที่นี่บ่อยๆในอนาคต”
“เจ้าไม่รู้สึกผิดหรือ นั่นไม่ใช่ไขกระดูกมังกรธรรมดา เจ้าแค่วางประมูลราคาต่ำสุดแล้วได้มันไป?” ผู้ที่รับผิดชอบการประมูลกล่าวขึ้นอย่างขุ่นเคือง
“พวกเราร่วมมือกันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ สำหรับสมบัติสองสามชิ้นแรก ข้าดันราคาให้สูงขนาดนี้ท่านยังไม่รู้สึกยินดีอีก?”
“นี่เป้นการร่วมมือที่ทำลายชื่อเสียงของหอประมูล” ผู้ดูแลกล่าว
“รู้มั้ยว่าไขกระดูกนี้คืออะไร มันถูกขุดมาจากรากบรรพชนของมังกรม่วง รู้มั้ยว่าสิบสองหยดนี้มีคนตายไปกี่คน ของเหลวศักดิ์สิทธิ์นั่นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าไม่ละอายใจหน่อยหรือ?”
หัวใจของเย่ฟ่านขยับและกล่าวว่า “มันอยู่ที่ไหนบางทีเราอาจจะร่วมมือกันได้ ท่านลองกล่าวมาสิต้องทำอย่างไร?”
“จะให้กล่าวอะไร ไม่เกี่ยวกับเจ้า ได้แล้วก็รีบไปเถอะ ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก!”
“ผู้อาวุโสอย่าได้โกรธเคือง ข้ามีความรู้มากมายมากมายเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ของภูเขาและแม่น้ำ ข้าอาจจะช่วยท่านได้ไม่น้อย”
“ออกไปๆ”
ในที่สุดเย่ฟ่านก็ถูกชายชราไล่ออกมา ผู้เข้าร่วมประมูลหลายคนจ้องมาที่เขาและระบุว่าเขาเป็นแขกที่ไม่พึงประสงค์มากที่สุด
“ผู้อาวุโส มีเพียงข้าเท่านั้นที่ช่วยสนับสนุนราคาอยู่เบื้องหลังท่านได้ ท่านจะรีบไล่ข้าทำไม” เย่ฟ่านบ่น
“ไป ไป ไป อย่าให้เราได้พบกันอีก”
“องค์หญิงเยว่หลิงแห่งราชวงศ์จิ่วหลีเซินได้ไปเชิญยอดฝีมือมาแล้ว เจ้ารีบออกจากที่นี่ดีกว่า!”
เย่ฟ่านประหลาดใจเยว่หลิงแห่งราววงศ์จิ่วหลีเซิน องค์หญิงที่งดงามเป็นอันดับสองในจงโจวชื่อเสียงของนางโด่งดังไปทั่วในหมู่ยอดฝีมือรุ่นเยาว์
“ไม่รู้ว่านางจะเชิญยอดฝีมือคนไหนมา”
เย่ฟ่านแตะจมูก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกไล่ออกมาเช่นนี้ เขาจึงหันหลังเดินจากไป
ไม่นานหลังจากนั้นเย่ฟ่านก็ออกจากเมืองซีปา เตรียมหาที่หลบภัยและหลีกหนีจากภัยพิบัติ
เย่ฟ่านเดินออกจากเมืองซีปาและเดินเข้าไปในเทือกเขา เขาต้องการเลือกสถานที่สันโดษเพื่อเลื่อนระดับ
“ในที่สุดเจ้าก็มา เรารอมานานแล้ว” เสียงเย็นชากล่าวขึ้น
“เจ้าเอาไขกระดูกมังกรมาให้เราแล้วหรือ มันอยู่ที่ไหน?” อีกคนหัวเราะเยาะเย่ฟ่าน
ที่ด้านหน้าของเขาตอนนี้มีชายฉกรรจ์เจ็ดคนเป็นจินฉีเซียวและยอดฝีมือรุ่นเยาว์อีกหลายคน
“ข้าคิดว่าเป็นเจ้าต่างหากที่เป็นคนนำระฆังปี้หลัวมาให้ข้า” เย่ฟ่านกล่าวด้วยสีหน้าเฉยชา
จินฉีเซียวยิ้ม สะบัดนิ้วมือช้าๆ และกล่าวว่า “เจ้ามีโอกาสไม่มาก”
ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในแต่ละทิศทางทั้งสี่อย่างเงียบๆ และล้อมเย่ฟ่านไว้ตรงกลาง
“น่าเสียดายที่เจ้าประมูลไขกระดูกมังกรมาเพียงอย่างเดียว หากเจ้าประมูลบันทึกของราชาฝาแฝดมาด้วย มันจะเป็นของขวัญที่น่าตกใจถึงสองชิ้น มันคงจะคุ้มค่ากับการลงมือครั้งนี้”
จินฉีเซียว จื่ออี้ และคนอื่นๆ มาเพื่อฆ่าเย่ฟ่านและต้องการชิงไขกระดูกมังกรและสมบัติหายากชิ้นอื่นๆ ไขกระดูกมังกรม่วงเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่ค่อนข้างหายาก ของเหลวศักดิ์สิทธิ์ขวดนี้มีมูลค่ามากกว่าต้นกำเนิดสี่ล้านจิน
“มีของเหลวศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดสิบสองหยด และเราทั้งเจ็ดคนก็ยากที่จะแจกจ่าย” อีกคนนั่งลงและกล่าวอย่างสบายๆ โดยคิดว่าเย่ฟ่านจะรับมือได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
จินฉีเซียวเอามือไพล่หลังและเดินไปอย่างช้าๆราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว เขากล่าวว่า
“เขาอาจจะไม่มีสมบัติอื่นอยู่อีกก็ได้ เมื่อถึงเวลาเราค่อยตรวจสอบดู”
ชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังคงสงบนิ่ง หลังจากเหลือบมองเย่ฟ่านเเล็กน้อยเขาก็กล่าวว่า “จัดการให้จบๆไปก่อนแล้วจึงตัดสินใจในภายหลัง”
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นลูกพลับนิ่มจริงๆ?” เย่ฟ่านแค่นเสียงอย่างเย็นชาและเดินไปข้างหน้า
ในเวลานี้เขาไม่ได้กลัวจินฉีเซียวและคนอื่นๆ ที่เขากลัวคือผู้อาวุโสทั้งสี่คนซึ่งมีขอบเขตการบ่มเพาะสูงล้ำกว่าเขามาก
“มีผู้อาวุโสสี่คนที่นี่ เจ้ายังจะต่อต้านอีกหรือ?” หนึ่งในนั้นส่ายหัวและเยาะเย้ย
จินฉีเซียวและคนอื่น ๆ ถอยกลับ พวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะเผชิญหน้ากับเย่ฟ่านโดยตรง พวกเขาต้องการให้ผู้อาวุโสในขอบเขตสูงสุดสี่คนฆ่าเย่ฟ่านในทันที