Ep.388 - พื้นที่ลับ
2/3
Ep.388 - พื้นที่ลับ
ทีมของฮังอวี่ไม่ได้สำรวจห้องขังขนาดใหญ่ แต่พวกเขามุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก และวนอ้อมเขาวงกตไปทางทิศตะวันตกแทน
มองหาพื้นที่ที่ไม่โดดเด่น และในสถานที่แห่งนั้นมีมอนสเตอร์รูปร่างคล้ายกับโครงกระดูกมนุษย์กำลังเดินเตร่อยู่
มันคือผู้คุม เลเวล 13 เป็นมอนสเตอร์ขั้นยอดขั้นโกลด์
และอีกตัวหนึ่งคือหัวหน้าผู้คุม เลเวล 14 เป็นมอนสเตอร์ชั้นยอดขั้นโกลด์เช่นกัน
ฮังอวี่ "ถ้าเป็น ไปได้พยายามเลี่ยงผู้คุม เลเวล 13 แล้วฆ่าแต่หัวหน้าผู้คุม เลเวล 14 เท่านั้น"
คนอื่นๆแม้ยังสับสน แต่ไม่ได้เอ่ยถามเพิ่มเติม ที่สั่งให้ทำแบบนี้แสดงว่าฮังอวี่มีเหตุผลอยู่ในใจ
2 ชั่วโมงผ่านไป
พวกเขาเจอหัวหน้าผู้คุมและทำการสังหารมันไปนับสิบตน เจ้าตัวนี้ดรอปชุดเซ็ทสีขาวเลเวล 13
แต่ค่าคุณสมบัติไม่ดี โดยรวมแล้วถือว่าค่อนไปทางปานกลาง
เมื่อเทียบกับผู้คุมพวกนี้แล้ว มอนสเตอร์ในห้องขังขนาดใหญ่ดูน่าสนใจกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ห้ามลืมนะว่าซากปรักหักพังอย่างคุกโบราณ แห่งนี้มีเวลาเปิดที่จำกัด
แต่ให้ฆ่าเฉพาะผู้คุม? แบบนี้มันเสียเวลาเปล่า!
มีมอนสเตอร์ชั้นยอดอยู่มากมายทุกที่!
แต่ทำไมต้องเฉพาะเจาะจงที่นี่ด้วย?
หัวหน้าผู้คุมอีก 2 ตัวถูกกำจัดลง
เมื่อเจียงหนานสัมผัสศพ อยู่ๆเธอก็เจออะไรบางอย่าง " พี่มหาเทพ ดูนี่สิ หัวหน้าผู้คุมตัวนี้ดรอปอะไรแปลกๆด้วย"
[กระดิ่งของผู้คุม] ไอเทมเฉพาะ , สีขาวคุณภาพต่ำ
มองแวบแรกก็ดูเหมือนเป็นแค่กระดิ่งธรรมดา
อีกทั้งข้อมูลในรายการแนะนำก็ไม่ได้บอกอะไร
" ในที่สุดก็ดรอปสักที!" ฮังอวี่เผยรอยยิ้มกว้าง " ไอเท็มชิ้นนี้จะดรอปเฉพาะจากหัวหน้าผู้คุมเท่านั้น แถมโอกาสก็ยังมีน้อยมาก มันคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดกลไกรับของคุกโบราณ"
สำหรับเจียงหนานน้อย เธอคือคนที่ฮังอวี่ชื่นชมมากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะเธอคือนางฟ้านักเปิดกล่องสมบัติของเขา!
เดิมที ฮังอวี่คิดว่าอาจจะต้องวนรอบชั้น 1 เพื่อล่าผู้คุมอีกสัก 20-30 ตัว จึงจะมีโอกาสดรอปไอเทมชิ้นนี้ได้ แต่ไม่นึกเลย ว่ายังไม่ถึงที่คาดไว้ มันก็ดรอปตั้งแต่เนิ่นๆ
เขาตบไหล่เจียงหนาน " ทำได้ดีมาก"
เจียงหนานเกาหัวอย่างเขินอาย เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ไอเทมที่ดรอปมันก็ดรอปจากมอนสเตอร์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอกัน?
10 นาทีต่อมา
ฮังอวี่หยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน
เบื้องหน้าเขาคือห้องที่ดูจะแตกต่างจากห้องขังอื่นๆ เพราะมันถูกปิดล้อมจากทุกด้าน เหมือนเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ แต่หาทางเข้าไม่เจอ
" น่าจะเป็นที่นี่ ..." ฮังอวี่เปิดใช้งานกระดิ่ง
กระดิ่งโบราณที่ดูแปลกตาลอยขึ้นไปในอากาศ และเริ่มสั่นเองโดยอัตโนมัติ ทว่ามันไม่ปรากฎเสียงใดๆ ตรงกันข้าม กลับปล่อยคลื่นแสงที่ไม่สามารถแยกแยะด้วยตาเปล่าออกไปแทน
จางเสี่ยวเฉียงอุทาน " เปิดแล้ว! มีทางลับซ่อนอยู่จริงๆด้วย!"
กระดิ่งหายไป แต่ทางลับปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา
จ้าวหมิง ฉูเทียนหัวเหลียวมองหน้ากัน และคิดว่าขุนนางใหญ่คาลิมัวน่าจะไม่รู้เรื่องทางลับแห่งนี้
ฮังอวี่สั่งการ " เจ้าหมา ไปสำรวจเส้นทางซะ"
ร่างแยกของหวังเอ๋อ วิ่งเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว ไม่กี่นาทีต่อมามันก็รายงาน " เจ้านาย ข้างในมี มอนสเตอร์ ไม่มากนัก แต่หนึ่งในนั้นพลังรบค่อนข้างแข็งแกร่ง ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวตนระดับเจ้าถิ่น"
" อย่างนั้นหรอ?" ถึงแม้ฮังอวี่จะพอทราบข้อมูลคร่าวๆอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับคำยืนยันจากปากหวังเหอตี้ เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก " ไปกันเถอะ"
สถานการณ์ข้างในก็คล้ายกับที่หวังเอ๋อรายงาน สภาพของสถานที่แห่งนี้เหมือนว่าจะเป็นห้องรับรองของพวกผู้คุม
มีผู้คุมราวๆ 20 ตนเดินไปมาอยู่รอบๆ แต่ในบรรดาพวกมัน มีอยู่ 1 ตนที่โดดเด่นอย่างชัดเจน มันดูเหมือนโครงกระดูกที่มีสีดำราวกับหมึก ขนาดตัวสูงราวๆ 3 เมตร สวมชุดเกราะ และถืออาวุธคู่
นี่คือหัวหน้าพัศดี เลเวล 14 เป็นมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ พลังรบถือว่าไม่เลว มันคือ BOSSลับของห้องนี้
" เหล่าจ้าว เหล่าฉู ฝากพวกคุณจัดการผู้คุมตัวอื่นๆที่อยู่รอบรอบ เดี๋ยวผมจะไปฆ่าลูกพี่ของพวกมันเอง"
" ลงมือได้!"
อีก 5 คน หนึ่งหมาและหนึ่งมดยักษ์ พุ่งออกไปพร้อมกัน
พวกผู้คุมที่อยู่รอบๆ ถูกดึงดูดความสนใจทันที
ในเบ้าตาสีดำสนิทของหัวหน้าพัศดี ลูกไฟสีแดงเข้ม 2 ดวงลุกโชน
แต่ขณะที่มันกำลังจะโจมตีเหล่าผู้บุกรุกกลุ่มนี้ จู่ๆก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น ต่อหน้าต่อตามันอย่างกะทันหัน
เนื่องจากเป็นมอนสเตอร์อันเดธ ระบบกระบวนการคิดของหัวหน้าพัศดีจึงไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาทั่วไป มักลงมือตามสัญชาตญาณ
มันยกอาวุธที่เหมือนกับกรรไกรยักษ์ขึ้น เตรียมจะปลดปล่อยสกิลโจมตีที่รุนแรงที่สุด อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่เตรียมโจมตีมาก่อนแล้ว ความเร็วในการโจมตีของเขาจึงไวกว่าหนึ่งก้าว!
" ค่ายกลแสงและเงา!"
เขาเปิดใช้งานกระบี่ 30 เล่มที่อยู่รอบกาย กระบี่เปลี่ยนสถานะของพวกมัน จากเดิมที่เวียนว่าอย่างสบายๆ พริบตาเดียวกลายเป็นลำแสง 30 สาย ระเบิดออกจากรอบตัวของฮังอวี่ ตรงเข้าล้อมร่างของหัวหน้าพัศดี
จากนั้น กระบี่เริ่มแยกตัว กลายเป็นกระบี่โปร่งแสงที่เล็กกว่าเดิม จากในตอนแรกมีแค่ 30 เล่ม เวลานี้กลายเป็นปราณกระบี่กว่า 60 - 70 เล่มในพริบตา จากนั้นพวกมันเริ่มหมุนวนด้วยความเร็วสูง ก่อตัวเป็นพายุปราณกระบี่
หัวหน้าพัศดีถูกพายุปราณกระบี่กวาดขึ้นไปในอากาศ
-52!
-55
-51!
...
ภายใต้ปราณกระบี่นับไม่ถ้วน
หัวหน้าพัศดีโดนดาเมจนับหลายสิบครั้ง
พลังชีวิตเกือบ 1500 หน่วย ของมันแทบเหือดแห้ง!
2 วินาทีต่อมา ปราณกระบี่แหลกสลาย หัวหน้าพัศดีล้มลงกับพื้น ตามตัวของมันเต็มไปด้วยรูพรุน ราวกับของเล่นที่ถูกผู้คนนับพันทิ่มแทง
" ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้!"
คนอื่นๆที่สู้อยู่รอบๆต่างแตกตื่นตกใจ
ค่ายกลกระบี่ของฮังอวี่ ตั้งแต่ได้รับมันมา เขาเก็บมันไว้ตลอดไม่เคยปลดปล่อยเลย ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้เห็นเขาใช้สกิลนี้ และคาดไม่ถึงเลยว่าอำนาจของมันจะรุนแรงถึงขั้นนี้!
คู่ต่อสู้คือมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเชียวนะ!
แถมไม่ใช่เจ้าถิ่นใน เลเวล 11 หรือ 12 แต่เป็นเจ้าถิ่นใน เลเวล 14!
ฮังอวี่สามารถสร้างดาเมจที่สูบเอาพลังชีวิตของศัตรูไปได้มากกว่าหลักพันหน่วยด้วยสกิลเดียว อำนาจทำลายล้างของมันน่าสะพรึง ยิ่งกว่าคลื่นมังกรปฐพีถึง 2 หรือ 3 เท่า เกรงว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ น่าจะไม่มีคนใดสามารถเอาชีวิตรอดจากสกิลนี้ได้
มันรุนแรงมาก!
สมแล้วที่เป็นสกิลขั้น 4!
ต้องรู้นะว่าสกิลนี้ยังเป็นแค่เลเวล 1 เท่านั้น!
นอกจากนี้ ค่ายกลแสงและเงามีความยืดหยุ่นในการใช้งานมาก มันสามารถมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเดียว หรือขยายการโจมตีไปยังหลายเป้าหมายก็ได้
แต่แบบแรกจะสามารถสร้างดาเมจได้สูงกว่า ขณะที่แบบหลังสามารถโจมตีได้กว้างกว่า
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมความเร็วของค่ายกลกระบี่ได้ เลือกว่าจะสร้างดาเมจในเวลาสั้นๆ หรือใช้พวกมันโจมตีทีละนิดแต่สามารถกินระยะเวลานาน
เจ้าถิ่นเลเวล 14 สมควรมีพลังชีวิตที่หนามากๆ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้พายุปราณกระบี่ กระดูกทั้งร่างของหัวหน้าพัศดีหักเป็นชิ้นๆ เกือบตกอยู่ในสถานะพิการ
ถึงมันจะเหลือพลังชีวิตอยู่อีกนิดหน่อย แต่ก็ไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่อฮังอวี่ได้อีกต่อไป
ฮังอวี่พุ่งเข้าหาศัตรู เปิดใช้งานปลุกเลือดปีศาจ ชุบโลหิต คลุ้มคลั่งเข้าสังหาร เนตรแห่งเงา และสังหารลมกรด เรียกได้ว่าโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ
หัวหน้าพัศดี มีหรือจะรอดชีวิตไปได้ ร่างโครงกระดูกของมันพังทลายกลายเป็นกองกระดูกหัก
เจ้าถิ่นขั้นซิลเวอร์ตอนนี้มีเลเวลสูงกว่าฮังอวี่ถึง 3 เลเวล!
แต่มันกลับไร้กำลังที่จะตอบโต้เขา!
ขณะเดียวกันพวกผู้คุมถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว
เจ้าหมาหวังเอ๋อเห่า "ฮ่ง เจ้านาย เปิ่นหวังอัพเลเวลแล้ว!"
หลังจบศึก
เจ้าหมาสามารถอัพเลเวล 11
ค่าคุณสมบัติทั้งหมดของมันได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก
เวลานี้เจ้าหมาสามารถแยกร่างได้ 6 ตัวแล้ว และสกิลอื่นๆก็ได้รับการเสริมแกร่ง ช่วยให้มีพลังมากขึ้น
ส่วนสินสงคราม
หัวหน้าพัศดีดรอปอุปกรณ์สีเขียวใสสองชิ้น
พิมพ์เขียวสีฟ้าเลเวล 12 หนึ่งชิ้น
อีกหนึ่งเป็นหินสกิลของผู้ใช้วิญญาณ
ฮังอวี่กวาดดู
และพบว่าอุปกรณ์สีเขียวใส 2 ชิ้นนี้ไม่เลว มันอยู่ในเลเวล 12 ช่วยเพิ่มพละกำลัง เพราะงั้นมอบให้เหล่าฉู
ส่วนพิมพ์เขียวที่ได้มาเป็นพิมพ์เขียวของโล่ยักษ์สีฟ้า เลเวล 12
ทุกวันนี้เหล่าจ้าวยังคงใช้โล่ยักษ์สีเขียวในเลเวล 10 อยู่เลย เจ้าสิ่งนี้ส่งผลอย่างมากต่อพลังป้องกันของเขา ดังนั้นพิมพ์เขียวจึงมอบแก่เขา
ส่วนหินสกิลสีเขียว แน่นอนว่าต้องมอบมันให้กับฉินมู่ ผู้ใช้วิญญาณเพียงหนึ่งเดียวในทีม
ฮังอวี่กล่าวว่า " เจียงหนาน จางเสี่ยวเฉียง ถึงจะยังไม่มีของดรอปที่เหมาะสมกับทั้งสองคน แต่อย่าได้ท้อแท้ พวกเราเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น อีกเดี๋ยวจะมีของดีๆตามมาอีกเยอะ"
เจียงหนานกล่าวว่า " ไม่เป็นไรเลย"
จางเสี่ยวเฉียงหัวเราะและกล่าวว่า " ติดตามลูกพี่ยังไงก็ได้กินเนื้อ ผมไม่ได้รีบร้อนหรอก!"
เจ้าหมาเดินเข้ามาแล้วพูดว่า " ฮ่ง เจ้านาย พบทางเดินใหม่แล้ว"
ฮังอวี่พยักหน้า " ไปเถอะ ไปชั้นต่อไปกัน"
ทางเดินใหม่ที่ว่านี้คือเส้นทางลับ บางทีทีมของฮังอวี่อาจไปถึงชั้น 2 ก่อนทีมเมืองธารทะเลทราย
และเมื่อทีมของเมืองธารทะเลทรายมาถึงชั้น 2 พวกของฮังอวี่คงลงไปถึงชั้นล่างสุดแล้ว