Chapter 22
“ดูเหมือนว่าข้อมูลที่ตระกูลซ่งได้รับจะไม่สมบูรณ์เท่าไรนะ คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือจักรพรรดิยุทธ์ในเมืองเทียนไห่” หวังไห่เยาะเย้ย
“ผู้อาวุโสหวัง ใครจะกล้าเอ่ยชื่อจักรพรรดิ์ยุทธ์ง่ายๆ ตระกูลซ่งของฉันรู้เพียงว่าหนึ่งในจักรพรรดิ์ยุทธ์ที่อาจจะกลายเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักหกทวารคือผู้อาวุโสเทียนหยางจื่อ”
“เขาเพิ่งเริ่มที่จะบอกตระกูลซ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และฉันไม่คิดจะล้อท่านเล่นนะ ผู้อาวุโสเทียนหยางจื่อติดต่อมาเมื่อวานให้ไปรับเขามาเมืองเทียนไห่” ซ่งเจี๋ยพูดอย่างขมขื่น
"คนที่คุณต้องการขับไล่คือจักรพรรดิยุทธ์อีกคนไงล่ะ" หวังไห่กล่าวอย่างเย็นชา
“อะไรนะหลินเทียนอะนะ ผู้อาวุโสหวังอย่าล้อเล่นเลย หลินเทียนเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดาที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ เขาเป็นแค่ขยะ เขาอายุยังไม่ถึง 20 ปีเลยไม่ใช่หรือ?” ซ่งเจี๋ยมองไปที่หวังไห่และส่ายหัว
“คิดว่าฉันจะล้อเล่นเรื่องนี้เหรอ?” หวังไห่มองไปที่ซงเจี๋ยอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ปล่อยออร่าของกษัตริย์ยุทธ์
หวังไห่ไม่พอใจที่ผู้นำสูงสุดในอนาคตของสำนักหกทวาร หลินเทียน ถูกซงเจี๋ยดูถูก
"เดี๋ยวๆ เรื่องจริงหรอเนี่ย!" ซงเจี๋ยไม่เชื่อคำพูดของหวังไห่
“ฉันเห็นด้วยตาของฉันเองว่านายน้อยหลินเป็นจักรพรรดิยุทธ์ ในตอนที่นายน้อยหลินที่ฆ่ากู่เหิง ผู้ฝึกตนสายมารที่เคยหนีไปจากสำนักหกทวาร”
“ฉันยังใจดีที่บอกคุณเรื่องนี้ ถ้าฉันไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลซ่งของคุณ ฉันคงทิ้งคุณและตระกูลซ่งของคุณให้หายนะครั้งใหญ่ไปแล้ว” หวังไห่ชี้ไปที่ซ่งเจี๋ยด้วยนิ้วของเขาและพูดอย่างเย็นชา
“อะไรนะ หลินเทียนเป็นจักรพรรดิยุทธ์!” ซ่งเจี๋ยถามหวางไห่ด้วยความตกใจ
"ใช่" หวางไห่พยักหน้าเบา ๆ
“แต่คนอื่นพูดกันว่าหลินเทียนเป็นชายหนุ่มที่ไร้ค่าและไม่สามารถฝึกฝนได้ แล้วเขากลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์ได้ไง? เขาฝึกฝนอย่างไร? ซงเจี๋ยตกใจเมื่อได้ยินคำตอบของหวังไห่
“ถ้าข้ารู้ว่านายน้อยหลินฝึกฝนอย่างไร ข้าก็คงเป็นจักรพรรดิยุทธ์ไปแล้ว” หวังไห่ส่ายหัว
“ถ้าอย่างนั้น นายน้อยหลินเทียนจะเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักหกทวาร?” ซ่งเจี๋ยถามอย่างจริงจัง
“ถูกต้อง เขาจะกลายเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักในไม่ช้า แต่นายน้อย หลิน ไม่ต้องการให้เขาได้ตำแหน่งแบบง่ายๆ นายน้อยหลินจึงท้าทายเทียนหยางจื่อให้ต่อสู้” หวังไห่มองไปที่ซ่งเจี๋ย แล้วกล่าว
"อะไรนะ?" ซงเจี๋ยตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดของหวังไห่
ซ่งหลัวรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินว่าหลินเทียนเป็นจักรพรรดิยุทธ์? โชคดีที่เขาไม่ได้โยนหลินเทียนออกจากการประมูลทันทีและเลือกพบซ่งเจี๋ยก่อน มิฉะนั้นตระกูลซ่งจะเจอปัญหาใหญ่
ซงเจี๋ยครุ่นคิดขณะคิดอะไรบางอย่าง
'ถ้าหลินเทียนและเทียนหยางจื่อต่อสู้กัน หนึ่งในนั้นก็จะเป็นผู้พ่ายแพ้ และผู้ที่ชนะการต่อสู้นั้นอาจกลายเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักและเทียนหยางจื่อก็มีแนวโน้มที่จะชนะการต่อสู้นั้นด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเขา'
'อย่างไรก็ตามหลินเทียนคนนี้ไม่ธรรมดา เขาซ่อนพรสวรรค์ที่ท้าทายสวรรค์ของเขาไว้ และเป็นจักรพรรดิยุทธ์ที่น้อยกว่า 20 ปีและยังมีอนาคตอีกไกลแบบไม่มีรู้ว่าจะจบตรงไหนเลย'
'ถ้าฉันเข้าข้าง เทียนหยางจื่อ…นั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่เมื่อพิจารณาถึงอายุของเขา มันก็เป็นการเปลืองแรงเล็กน้อย แต่ถ้าฉันเข้าข้างหลินเทียนที่ยังเด็กและมีอนาคตที่สดใส เขายังได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลินและตระกูลหยาง ที่ดียิ่งขึ้น' ซ่งเจี๋ยคิดในใจและวิเคราะห์สถานการณ์
_________________________
“ที่พูดแบบนี้เพราะว่าตระกูลซ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับฉัน” หวังไห่มองไปที่ซ่งเจี๋ยและพูดเบาๆ
“ผู้อาวุโสหวัง ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่คุณเตือนฉัน ถ้าฉันทำอะไรโดยไม่คิดก่อนหน้านี้ ตระกูลซ่งอาจจะต้องทนทุกข์เพราะฉัน” ซ่งเจี๋ยมองไปที่หวังไห่และกล่าวอย่างซาบซึ้ง
“ถ้านายน้อยหลินรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่กับคุณและปล่อยให้คุณทำอะไรโง่ๆ ฉันคงเป็นคนแรกที่ต้องทนทุกข์แหละ ฉันแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น” หวังไห่ส่ายหัว
“ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโสหวังการต่อสู้ระหว่างหลินเทียนและเทียนหยางจื่อนี้ ท่านคิดว่าใครจะชนะ?” ซ่งเจี๋ยมองไปที่หวังไห่และถาม
“ข้าจะรู้ผลของการต่อสู้ระหว่าง 2 จักรพรรดิยุทธ์ได้อย่างไร แต่ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ของเทียนหยางจื่อเขาน่าจะมีโอกาสชนะสูง แต่นายน้อยหลินก็เก่งไม่แพ้เขาเช่นกัน ฉันเคยลองสู้กับนายน้อยแล้ว และแพ้ราบคาบไปแบบง่ายๆเลย” หวังไห่ส่ายหัว
"อ้อ เข้าใจแล้ว" ซงเจี๋ยพยักหน้า
“ยังไงก็ตาม ผู้อาวุโวหวัง ฉันยังอยากจะขอบคุณมากกว่านี้ เหรียญหยกนี้มีชื่อของฉันสลักอยู่ ถ้าผู้อาวุโสหวังต้องการความช่วยเหลือจากฉัน ฉันจะช่วยทันที” ซงเจี๋ยมองไปที่หวางไห่และพูด จากนั้นเขาก็มอบเหรียญหยกสีเขียวให้เขา
“ในกรณีนั้น ข้าจะยอมรับความเมตตาของนายน้อยซ่ง” หวังไห่ได้รับเหรียญหยก
“ลุงซ่งหลัว คืนเหรียญหยกขาวนี้ให้เย่เฉิน และให้บอกไปว่าตระกูลซ่งไม่รู้จักเขา และมอบภาพวาดให้นายน้อยหลิน แล้วไล่เย่เฉินออกจากการประมูล” ซ่งเจี๋ยยื่นเหรียญหยกของเย่เฉินให้ซ่งหลัวและพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
"ครับ" ซ่งหลัวพยักหน้าด้วยความเคารพ
__________________________
ในห้องประมูล ทุกคนต่างรอคอยด้วยสีหน้าสงสัย
เมื่อซ่งหลัวมาที่ห้องประมูล ทุกคนต่างมองมาที่เขาเพื่อรอการตัดสินใจของตระกูลซ่ง
“ท่านครับ โปรดส่งภาพวาดนั้นให้ผม แล้วไล่ หลินเทียน ออกไปจากที่นี่” หลังจากเห็นซ่งหลัว เย่เฉินมองไปที่หลินเทียน แล้วพูดด้วยสีหน้าแห่งชัยชนะ
ในความคิดของเขา ตระกูลซ่งต้องเห็นด้วยกับคำขอของเขา เพราะหลินเทียนเป็นเพียงชายหนุ่มที่ไม่สามารถฝึกตนได้ เขาเป็นเพียงหลานชายของประมุขตระกูลหยาง เขารู้มาจากถังซวน เพราะงั้นหลินเทียนจะเทียบกับผู้ที่เป็นศิษย์ของผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิยุทธ์ได้อย่างไร?
“ท่านครับ เก็บเหรียญนี้ไว้เถอะเพราะทางตระกูลซ่งไม่สามารถทำตามที่ท่านขอได้” ซ่งหลัวโยนเหรียญหยกไปทางเย่เฉินและพูดอย่างเย็นชา