ตอนที่ 29 ที่หนึ่ง
“หากเขาก้าวอีกก้าวหนึ่งไปถึงขั้นที่ 100 มันจะทำให้ทั้งสี่นิกายขุ่นเคืองอย่างแน่นอน”
“มันน่าตื่นเต้น น่าตื่นเต้นจริงๆ! ข้าไม่เคยคิดว่าจะมีคนจากเมืองแม่น้ำของข้าสร้างสถิติแบบนี้ได้!”
มีการพูดคุยกันทั่วทั้งสนามเกี่ยวกับผลงานที่น่าตกใจของเขา การแข่งขันประตูสวรรค์จัดขึ้นมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีใครไปถึงจุดสูงสุดเลย และตอนนี้เขาเหลืออีกแค่ก้าวเดียวจากการสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครทำได้มายาวนาน
ผู้อาวุโสจากนิกายอรุณรุ่งส่ายหัวและยิ้ม เมื่อพวกเขาพบไมเคิลครั้งแรก พวกเขาไม่คิดเลยว่าไมเคิลจะเป็นคนพิเศษขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากำลังจะไปถึงขั้นที่ 100 เซลินาก็จ้องเขม็งและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"อย่า!"
"เจ้าพิสูจน์คุณค่าของเจ้าแล้ว อย่าให้ความดื้อดึงมาทำลายชีวิตเจ้า"
เห็นได้ชัดว่าอเล็กซ์กำลังคุกคามเขาซึ่งเป็นนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“ด้วยระดับของเจ้า ข้าจะทำให้เจ้าเป็นศิษย์ภายในของนิกายจันทร์เงินโดยตรงและช่วยเจ้าในการบ่มเพาะเป็นการส่วนตัว”
นางเน้นคำว่า’เป็นการส่วนตัว’ และหัวเราะอย่างเย้ายวน
"นkงบ้า"
กายะพูดสั้นๆ
"เจ้ามีอนาคตที่สดใสรออยู่ อยู่แค่ตรงนั้น แล้วข้าจะยื่นข้อเสนอแบบเดียวกับซาดี้"
อดัมยิ้มให้เขาและพูดอย่างใจเย็นขณะที่อเล็กซ์พูดกับเขาอีกครั้ง
“แต่หากเจ้ากล้าก้าวไปอีกก้าว เจ้าควรจะรู้ผลของการเพิกเฉยต่อคำแนะนำของเรา”
ไมเคิลไม่ชอบรังแกคนอื่นและถูกรังแก แต่ทั้งสี่คนนี้พยายามรังแกเขา พวกเขาแค่เสแสร้งเพื่อให้เขาอยู่ในที่ที่เขาอยู่
เขายิ้มอย่างสงบและสั่งให้ระบบเปิดใช้งานคาถาเคลื่อนย้ายถ้าพวกเขาพยายามโจมตีเขา แล้วเขาก็จ้องกลับไปที่อเล็กซ์โดยปราศจากความกลัวบนใบหน้า
"มีกฎว่าข้าไม่สามารถไปถึงขั้นที่ 100 ได้ด้วยอย่างงั้นหรอ?"
พวกเขาตกใจเมื่อเห็นท่าทางที่สงบและเยือกเย็นของเขา ปกติแล้ว เด็กอย่างเขามักจะชื่นชมพวกเขาและไม่กล้าทำอะไรที่พวกเขาไม่ชอบ ทว่าเด็กนั่นไม่เพียงแต่ประพฤติตัวเย่อหยิ่งต่อหน้าพวกเขาเท่านั้น แต่ยังถามพวกเขาต่อหน้าคนเหล่านี้ด้วย ไมเคิลไม่ได้ปิดเสียงและทุกคนในฝูงชนได้ยินคำถามของเขา หากพวกเขากล้าทำอะไรกับเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้จะสร้างความอับอายให้กับนิกาย แถมยังทำให้ราชวงศ์และราชาแห่งเบรเดียโกรธเคือง
“ไม่ แต่”
เซลินากัดฟันและพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่คำพูดเหล่านั้นจะหลุดออกจากปากนาง เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งและขึ้นสู่ขั้นที่ 100 สุดท้าย ตอนนี้เขายืนอยู่เคียงข้างพวกเขา
ขณะที่เขาทำอย่างนั้น ใบหน้าของอเล็กซ์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รัศมีน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกจากร่างกายของเขา และน้ำแข็งที่เยือกเย็นราวกับกระดูกก็เริ่มปรากฏขึ้นรอบๆ มือของเขา
ในทางกลับกัน อดัมตกใจแต่เขาไม่ได้โกรธเหมือนอเล็กซ์ เขาส่ายหัวและยืนอยู่ข้างๆ เนื่องจากไม่มีกฎเกณฑ์ใดที่บอกว่าห้ามคนขึ้นไปขั้นที่ 100
อีกด้านหนึ่ง จู่ๆ ซาดี้ก็ส่งเสียงครางแปลกๆ และหน้าแดงระเรื่อ สาวๆ จากนิกายจันทร์เงินเหล่านี้เริ่มทำให้เขาประหลาดใจด้วยรูปลักษณ์และการกระทำที่แปลกประหลาดของพวกนาง
ตอนนี้ฝูงชนที่กำลังดูฉากนั้นตื่นเต้นมาก ไม่มีใครคิดว่าจะมีใครสามารถทำลายสถิติขั้นที่ 70 ได้ นับประสาอะไรกับขั้นที่ 100 และยืนเคียงข้างสาวกคนดังสี่คน
“ให้ตาย! เขาไปถึงจุดสูงสุดแล้วจริงๆ!”
"เราเพิ่งได้เป็นพยานในประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่!"
“เขามาจากไหน ชื่อจริงของเขาคืออะไร? แม้แต่ในท่ามกายสายตาของสาวกคนดังทั้งสี่ เขาไม่ถอยกลับ ข้าเคารพเขาจริงๆ!”
“ตั้งแต่นี้ไป คนทั้งอาณาจักรคงรู้จักชื่อผีแล้ว!”
“แต่เขาทำผิดที่ไปทำให้พวกเขาขุ่นเคือง ดูสีหน้าของอเล็กซ์สิ ดูเหมือนจะฆ่าเขายังไงยังงั้น!”
"การมีปัญหากับคนใหญ่คนโตไม่มีวันจบลงด้วยดี ข้ามั่นใจว่านิกายดาวอรุณรุ่งจะทำให้ชีวิตเขายากขึ้นในรอบต่อไป"
ทุกคนซุบซิบและแสดงความคิดเห็นในขณะที่คนนิกายอรุณรุ่งเริ่มกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขา
“เจ้าเพิ่งทำผิดพลาดครั้งใหญ่ มนุษย์”
เขาไม่ได้สนใจคำเตือนของกายะ ขณะที่เขากำลังมองคะแนนประสบการณ์ ตอนนี้เขามีคะแนนมากพอที่จะไปถึงระดับหลอมกายาขั้น 6 และได้รับคะแนนสุดโกงที่เขาใช้ไปกับคาถากลืนกินพลังงานกลับมาแล้ว
"การเดินทางงครั้งนี้คุ้มสุดๆ"
เขารู้ดีว่าเมื่อทำเขาก้าวขึ้นไปถึงขั้นสุดท้าย เขาจะทำให้อเล็กซ์ ตัวร้ายในอาณาจักรนี้ขุ่นเคือง แต่ผลประโยชน์ที่เขาได้รับนั้นคุ้มที่จะเสี่ยง
“ไม่มีใครเคยดูหมิ่นข้าแบบที่เจ้าเพิ่งทำไป ผี เจ้าจะต้องชดใช้!”
เขาแสดงเจตนาฆ่าที่รุนแรงซึ่งจะทำให้ใครก็ตามที่มองเขาตกใจ ทว่าไมเคิลเกือบจะหัวเราะออกมาเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเจตนาฆ่าที่มีต่อเขาถูกเปลี่ยนเป็นคะแนนประสบการณ์ คาถานี้เป็นระดับตำนานและมีพลังมาก การทำให้ใครบางคนโกรธตอนนี้เขาสามารถได้รับคะแนนประสบการณ์ด้วยคาถานี้
นับตั้งแต่ที่เขาเกิด อเล็กซ์ ฟิชเชอร์ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเยี่ยมจากครอบครัวที่มีอำนาจมากที่สุดครอบครัวหนึ่งในเบรเดีย เขาเป็นเด็กที่ได้รับพรจากพระเจ้าจริงๆ เพราะเขามีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการบ่มเพาะ ความมั่งคั่ง และร่างกายที่น่าดึงดูดใจด้วยใบหน้าที่หล่อเหลา จิตสำนึกนี้ได้หยั่งรากลึกลงไปในจิตใจของเขาว่าเป็นอัตตาและความภาคภูมิใจ
ผีคนนี้เป็นใครถึงไม่เคารพเขา? คนที่ไม่มีภูมิหลังใดๆ เช่นนี้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกโกรธอย่างไม่น่าเชื่อและไม่สามารถระงับความโกรธได้
“เจ้าก้าวข้ามขีดจำกัดแล้ว!”
เซลินากัดฟันและพูดด้วยความโกรธเมื่อไมเคิลเอียงหัวเหมือนลูกหมาและขมวดคิ้ว
“เจ้าเป็นใครอีก?”
“อยากตายจริงๆ หรือไง”
การแสดงออกของอเล็กซ์เริ่มเย็นลง และเจตนาในการฆ่าของเขาก็รุนแรงขึ้น เมื่อเห็นปฏิกิริยาของไมเคิลที่ดูยินดี
“อเล็กซ์ มองรอบๆ ตัวเจ้า นี่คือการแข่งขันประตูสวรรค์ และเรามาที่นี่เพื่อประเมินการแข่งขัน ทุกสิ่งที่เจ้าพูดหรือทำจะเป็นในนามตัวแทนของนิกายดาวอรุณรุ่ง ไม่มีกฎใดในการแข่งขันนี้ซึ่งระบุว่าห้ามใครไปถึงจุดสูงสุด เจ้าจะโจมตีเขาเพียงเพราะเขาไปถึงจุดสูงสุดอย่างงั้นหรือไง?”
อดัมเข้ามาห้ามอย่างรวดเร็วก่อนที่สถานการณ์จะแย่ลงไปกว่านี้ แม้ว่าการก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 100 จะทำให้ชื่อเสียงของพวกเขามัวหมอง พวกเขาก็ยังต้องคิดถึงนิกายของพวกเขาก่อนที่จะทำอะไรก็ตามที่จะนำความอับอายมาสู่นิกายของพวกเขา
"เจ้ามีสิทธิ์จะพูดกับข้าได้ก็ต่อเมื่อเจ้าล้มข้าภายในห้าการโจมตี"
อดัมคาดเดาคำตอบนี้ได้ เขากัดฟันด้วยความโกรธ
อย่างไรก็ตาม หลังจากอดัมเตือน เขาลดละเจตนาฆ่าและตัดสินใจไม่โจมตีเขา เพราะเขารู้ว่าผู้อาวุโสจะลงโทษเขาเพราะทำให้ชื่อเสียงของนิกายเสื่อมเสีย นั่นเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด กรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเหตุการณ์นี้ไปถึงหูของราชา และเมื่อถึงจุดนั้น ราชาจะทำลายการบ่มเพาะของเขาหรือตัดสินประหารชีวิตเขาอย่างแน่นอน
“ครั้งนี้ข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ไปก่อน”
เขาพูดอย่างเย็นชาและบินลงไปที่พื้น และขึ้นยืนบนหอก บินออกไปกับเซลิน่า
"หนุ่มน้อย"
ซาดี้แตะไหล่ไมเคิล
“ข้อเสนอของข้ายังคงเหมือนเดิม ข้าจะแนะนำผู้อาวุโสเพื่อทำให้เจ้าเป็นสาวกหลัก”
“ขออภัยคุณหนู ข้าตัดสินใจเข้าร่วมนิกายอื่นแล้ว”
ณ ตอนนี้ การแข่งขันรอบแรกได้จบลงเมื่อศิษย์ของนิกายและคนจำนวนมากกระโดดลงจากบันได แต่เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา พวกเขาทั้งหมดก็หยุดเพื่อฟังว่าเขาตัดสินใจเข้าร่วมนิกายใด
"โอ้?"
ซาดี้รู้สึกประหลาดใจเนื่องจากไม่มีโอกาสที่อเล็กซ์จะให้เขาเข้าร่วมนิกายดาวอรุณรุ่งและอดัมก็ดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งใจชวนเขาเข้าร่วม
ตัดสองนิกายนี้ออกห็ไม่มีนิกายใดที่เหมาะกับพรสวรรค์ของเขา ยกเว้นนิกายของนาง
“นิกายอะไร?”
"นิกายอรุณรุ่ง"
คำตอบของเขาเกือบทำให้ฝูงชนหัวใจวาย ในบรรดานิกายทั้งหมด เขาเลือกนิกายที่แย่ที่สุด แม้ว่าเด็กจำนวนมากเหล่านี้จะไม่สามารถเข้าสู่นิกายใหญ่ได้ แต่ก็ยังมีนิกายอันทรงเกียรติอื่นๆ ในราชอาณาจักร แต่ไม่มีใครคิดว่าเขาจะเข้าร่วมนิกายอรุณรุ่ง
ซาดี้มีสีหน้าแปลกๆ บนใบหน้าของนาง เนื่องจากหลายคนคิดว่าเขาบ้าที่เลือกนิกายอรุณรุ่ง
“แน่ใจนะผี?”
“ข้ารับปากไปแล้ว ข้าจะไม่กลับคำเด็ดขาด”
ซาดี้มองเห็นความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันโอนเอียงในดวงตาของเขา ขณะที่นางถอนหายใจ
“ก็ได้ แต่ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจ ประตูนิกายของข้าก็เปิดกว้างสำหรับเจ้าเสมอ”
สาวกจากนิกายดาวอรุณรุ่งจำนวนมากจ้องมองมาที่เขา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เนื่องจากเขาเพิ่งได้อันดับหนึ่งในการแข่งขันวันนี้ และทำให้ศิษย์พี่ของพวกเขาขุ่นเคืองต่อหน้าคนเหล่านี้ พวกเขาจึงกาเครื่องหมายว่าเขาเป็นศัตรูของพวกเขา
“อย่าคาดหวังว่ารอบต่อไปจะเป็นแบบนี้ ในสมรภูมิ มีแค่ระดับการบ่มเพาะเท่านั้นที่สำคัญ”
มีคนเดินเข้ามาหาไมเคิลและกระซิบกับเขา เขาหันไปมองชายหนุ่มผมแดงที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา และข้างหลังชายหนุ่มผมแดงก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่ดูเหมือนลูกน้องของเขา
"ไอ้บ้านี่เป็นใคร? เจ้าไปยุ่งกับมันตอนไหน?"
หากมีคนต้องการทำร้ายเขา อย่างน้อยพวกเขาต้องมีระดับเสริมกายาขั้น 2 และเด็กพวกนี้ไม่มีใครอยู่ในระดับนั้น
"แล้วแต่"
เขาแค่ยักไหล่และเดินไปหานิกายอรุณรุ่งที่มองมาที่เขาราวกับเห็นปีศาจ