(ฟรี)บทที่ 200 ฉันขอพิงไหล่ของเธอได้ไหม?
“โอเค โอเค ตามที่เธอว่าก็แล้วกัน” เมื่อได้ยินหลินหยวนดูเหมือนจะพูดเรื่องไร้สาระ เหมยอวี้เซียนก็ไม่อยากถามอะไรเพิ่มเติม
เหมยอวี้เซียนตรวจสอบแผนเสร็จแล้วและเริ่มตรวจสอบสัญญา
จากนั้นเธอก็ค้นพบว่ามันเป็นมากกว่าแค่แผนการกำจัดแก๊งชิงซาน
รายได้ที่จะได้รับหลังจากการทำลายแก๊งชิงซานจะแบ่งเป็น 70-30%
หลินหยวนผูกขาด 70% ในขณะที่อีก 30% ที่เหลือจะถูกแบ่งระหว่างตระกูลเหมยและตระกูลถัง โดยแต่ละตระกูลได้รับ 15%
ใช่ ในสัญญาของหลินหยวน แม้แต่ตระกูลถังก็มีส่วนเกี่ยวข้องและจะได้รับส่วนแบ่ง
แม้ว่าการแบ่งจะอยู่ที่ 70-30% แต่เหมยอวี้เซียนก็ไม่ได้คัดค้านแม้แต่น้อย
เหตุผลแรกก็คือหลินหยวนเป็นผู้ควบคุมและมีส่วนสนับสนุนความคิดมากมายเกี่ยวกับแผนนี้
สำหรับกองกำลังขนาดเล็กเช่นแก๊งชิงซานที่มีตระกูลเฉินหนุนหลัง ทำให้ตระกูลเหมยและตระกูลถังเต็มใจที่จะทำเงินและรับผลประโยชน์มากขึ้น
แน่นอน นั่นอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ว่าอัตราความสำเร็จในแผนของหลินหยวนนั้นสูงมาก และแผนที่หลินหยวนสร้างขึ้นจะทำให้แก๊งชิงซานเข้าสู่ทางตัน
อีกเหตุผลหนึ่งที่เหมยอวี้เซียนพอใจกับการแบ่งปัน และเธอเชื่อว่าตระกูลถังก็คิดเช่นเดียวกัน นั่นคือท่าเรือเฟิงหยูที่เธอต้องการมากที่สุดถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งในส่วนแบ่งรายได้ของเธอ
และเช่นเดียวกับตระกูลถังซึ่งน่าจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องการมากที่สุดเช่นกัน
ดูเหมือนว่าหลินหยวนจะเข้าใจสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องการตอนที่ร่างสัญญา ซึ่งมันน่ากลัวจริงๆ และเมื่อคุณคิดอย่างรอบคอบ...
เหมยอวี้เซียนรู้สึกว่าตัวตนของหลินหยวนนั้นลึกลับยิ่งขึ้น
ความสามารถในการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอย่างฉุ่ยหยุนหรง และการเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าชายชราคนนั้นเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ
เขามีทักษะและความรู้ทุกประเภท รวมทั้งการแพทย์ การทำนาย ธุรกิจ เปียโน ภาพวาดดอกพลัม เครื่องลายคราม...
และเขาก็ดูหล่อมากด้วย
หลินหยวนมีคุณสมบัติที่เปล่งประกายมากมายที่เธอไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรกเห็น
เหมยอวี้เซียนรู้สึกเหมือนเธอพึ่งเจอสมบัติ
หลินหยวนเป็นสมบัติที่แท้จริง
เธออยากรู้ว่ามีอะไรอีกบ้างที่เขายังไม่เปิดเผย
เหมยอวี้เซียนลงนามในสัญญาทันทีโดยไม่ลังเล
แม้ว่าเธอจะยังมีคำถามมากมายเกี่ยวกับหลินหยวน แต่เธอก็รู้สึกโน้มเอียงไปทางเขา
เหมยอวี้เซียนคิดว่าหลินหยวนได้ใช้ความคิดอย่างมากในแผนการนี้
เธอค่อนข้างมั่นใจในทักษะการวางแผนและวิธีการเช่นเดียวกัน
แต่ดูเหมือนว่ามันจะเทียบไม่ได้กับหลินหยวน
หลังจากเซ็นสัญญา เหมยอวี้เซียนก็รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะมันเป็นความร่วมมือที่มีค่ามาก
ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะผลประโยชน์มหาศาลที่เธอจะได้รับ แต่ยังเพราะเธอรู้ว่าหลินหยวนน่ากลัวเพียงใด และความสามารถที่เขามี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเธอและตระกูลเหมย
เหมยอวี้เซียนคิดว่าแม้หลินหยวนจะดูเด็กมาก แต่เขาก็ดูเก่งกว่าเธอ
“เสี่ยวหยวน!” เหมยอวี้เซียนก็ตะโกนขึ้นทันที
“ครับ?” หลินหยวนงงงวย
“ขอให้ร่วมมือกันอย่างมีความสุข” ใบหน้าเหมือนลูกพีชของเหมยอวี้เซียนแสดงรอยยิ้มที่สวยงาม และเธอยังเหยียดมือหยกที่เรียวยาวของเธอออกมา
หลินหยวนเองก็ยิ้มและยื่นมือออกไปพร้อมกล่าวว่า “ยินดีที่ได้ร่วมงาน”
หลังจากเซ็นสัญญา เหมยอวี้เซียนก็ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม
เธอนั่งลงข้างหลินหยวนแทน
หลินหยวนรู้ดีว่าทำไม และความหมายของการจับมือในตอนนี้หมายถึงอะไร
นั่นคือถือว่าหลินหยวนเท่าเทียมกันและเธอถือว่าเขาเป็นเพศตรงข้าม
แผนของหลินหยวนมีรายละเอียดอย่างมากและถูกคิดมาอย่างรอบคอบ
สิ่งนี้ทำให้เหมยอวี้เซียนตกใจมาก เพราะเธอคิดว่าตัวเองเหนือกว่าในด้านนี้มาโดยตลอด
แต่หลินหยวนที่อายุน้อยกว่าดูเหมือนจะเก่งกว่าเธอ
แน่นอน เธอไม่คิดว่าเธอทำได้ไม่ดีในเรื่องนี้ เธอแค่คิดว่าหลินหยวนทำได้ดีกว่า
ธรรมชาติของคนก็เหมือนกันกับสัตว์ คนอ่อนแอชื่นชมผู้แข็งแกร่ง
และเหมยอวี้เซียนก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน
เธอยอมรับว่าเธอไม่เคยรู้จักใครที่เหมือนกับหลินหยวน
นั่งบนโซฟาข้างหลินหยวน เหมยอวี้เซียนหัวใจเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย
ในมุมมองของเหมยอวี้เซียน มีแอปเปิ้ลของอดัมและ ‘สิ่งนั้น’ ไม่ได้ทำให้คนๆหนึ่งเป็นผู้ชายที่แท้จริง
(T/N: แอปเปิ้ลของอดัมหมายถึงลูกกระเดือก ส่วน ‘สิ่งนั้น’ ก็หมายถึง ‘ไอนั่น’ นั่นแหละ)
สำหรับเธอแล้ว เฉพาะผู้ที่มีความรับผิดชอบและมีความสามารถเท่านั้นที่สามารถถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่แท้จริง
และสำหรับเธอแล้ว ผู้ชายที่แท้จริงคือคนแบบหลินหยวน!
เพราะมีแต่คนแบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้ใจเธอสั่นระรัวหลังจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา!
ใช่ เหมยอวี้เซียนรู้สึกว่าหัวใจของเธอสั่นไหวเล็กน้อยอย่างไม่ทราบสาเหต แต่เธอก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก
‘ถ้าไม่ใช่เพราะอายุของเราต่างกัน และชิงถง...’
'ฉันกับเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ'
'น่าเสียดายจริงๆที่เราไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน'
'มันช่างน่าเสียดายจริงๆ'
'ถ้าฉันได้เจอเขาก่อนหน้านี้ซักสิบห้าหรือสิบปีก็คงจะดี'
'มันคงจะแตกต่างออกไป'
เหมยอวี้เซียนดื่มไวน์ไปหลายจิบทันที
ทันใดนั้นเหมยอวี้เซียนก็พูดว่า: “เสี่ยวหยวน ฉันขอพิงไหล่ของเธอได้ไหม?”
“แน่นอน” หลินหยวนยิ้ม
เหตุผลที่เธอถามว่าเธอสามารถพิงไหล่ของหลินหยวนได้หรือไม่นั้น ไม่ใช่เพราะความสับสน
แค่เธอจำประโยคนึงได้
'เมื่อคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถมีมันได้ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือจดจำมันเอาไว้'
เหมยอวี้เซียนเอนตัวลงบนไหล่ของหลินหยวนเบาๆ
นี่ไม่ได้หมายความว่าเธอสนใจหลินหยวน
เป็นเพียงความรู้สึกอุ่นใจ อบอุ่น และพึ่งพาได้เท่านั้น
เธอต้องการจดจำความรู้สึกนี้ไปชั่วชีวิต
เมื่อเหมยอวี้เซียนพิงไหล่ของหลินหยวน ระบบก็ดังขึ้น
【ติ๊ง! ความชื่นชอบของเหมยอวี้เซียน +5! รางวัล 1,000 คะแนนโต้กลับ!】
หลินหยวนรู้ว่าขั้นตอนแรกในแผนของเขาสำหรับเหมยอวี้เซียนประสบความสำเร็จ
นั่นคือการเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมในสายตาของเหมยอวี้เซียน
หลินหยวนได้ตัดสินใจที่จะใช้ขั้นตอนต่อไปในแผนของเขา
ขั้นตอนแรกคือการทำลายเพดาน 60 แต้มของเหมยอวี้เซียน และให้มองเขาเป็นผู้ชายและเพศตรงข้าม
คำนี้พูดง่ายแต่ทำสำเร็จยากมาก
มีผู้ชายเพียงไม่กี่คนที่เหมยอวี้เซียนถือว่าเป็นเช่นนั้น
และไม่เคยมีใครที่ทำให้หัวใจของเหมยอวี้เซียนสั่นไหว
สำหรับก้าวแรก หลินหยวนรู้ว่าเขาประสบความสำเร็จ
แต่นี้ไม่เพียงพอ ถ้าเขาต้องการพิชิตเธออย่างสมบูรณ์
มันไม่ได้ใกล้เคียงเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้หลินหยวนกำลังจะทำตามขั้นตอนที่สอง ซึ่งก็คือการสั่นคลอนหัวใจของเธอ
หลินหยวนรู้ดีว่าเพราะถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยและอีกหลายสิ่งหลายอย่าง
เหมยอวี้เซียนได้สร้างกำแพงป้องกันในใจของเธอโดยไม่รู้ตัว
กำแพงป้องกันนี้ดูเรียบง่าย แต่ใครก็ตามจากเพศตรงข้ามที่ต้องการเข้าใกล้จะถูกผลักออกไป
ดังนั้นหลินหยวนจึงต้องใช้ขั้นตอนที่สองเพื่อสั่นคลอนหัวใจของเธอ
เขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากช่องโหว่และจุดอ่อนใดๆ
เขาแค่ต้องการให้เหมยอวี้เซียนทำลายการป้องกันระหว่างเธอกับเขา
แล้วเขาจะเดินเข้าไปในหัวใจของเธออย่างสง่างาม
ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลินหยวนยังคงคุยกับเหมยอวี้เซียน
ในตอนนี้ เหมยอวี้เซียนถามว่า: “พูดถึงเรื่องนั้น เสี่ยวหยวน เธอวางแผนจะทำยังไงกับชิงถง? เธอจะตอบรับชิงถงหรือเปล่า?”
เหมยอวี้เซียนถามสิ่งนี้เพื่อถอนตัวเองออกจากหลินหยวน
เมื่อนึกถึงสาวสวยและเด็กสาวมากมายเช่นเหยียนหรูเยว่กับฉุ่ยซูซูที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอในวันนี้ เหมยอวี้เซียนก็รู้ว่าต้องมีผู้หญิงอีกหลายคนที่ซุ่มอยู่รอบตัวเขา
ดังนั้นเธอจึงถาม
เหมยอวี้เซียนคิดว่าหลินหยวนมีเพียงสองคำตอบคือ 'ใช่' หรือ 'ไม่ใช่'
แต่เหมยอวี้เซียนไม่ได้คาดหวังคำตอบที่ทำให้เธอตกตะลึง
“เมื่อเทียบกับชิงถงแล้ว ผมต้องการพี่สาวอวี้เซียนมากกว่า” หลินหยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลในขณะที่ดูจริงจัง
**********