ตอนที่ 1211+1212 ไร้จุดหมาย
ตอนที่ 1211 ไร้จุดหมาย
แม้ว่าเหลียงเยวือจื่อจะอยู่ที่เมืองหยวนเมื่อวันก่อน เขาจะกลับมาที่เมืองจินโดในวันนี้อย่างแน่นอน นั่นคือการเดาของลู่ชิงสี
เขาคุ้นเคยกับเหลียงเยวือจื่อเหมือนกับเขาอยู่กับตัวเอง ลู่ชิงสีสามารถเห็นอกเห็นใจกับอารมณ์ของเหลียงเยวือจื่อในช่วงปีที่ยาวนานนั้น เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้ว
เขาคงไม่ต้องการให้หลัวเหราหลุนออกไปแบบนี้ นั่นคือเหตุผลที่เหลียงเยวือจื่อไม่ได้ไปส่งเธอที่สนามบิน แม้ว่าเขาจะอยู่ที่เมืองจินโดในวันนี้ก็ตาม
มีสิ่งหนึ่งที่ลู่ชิงสีไม่เข้าใจ ถ้าเขารับไม่ได้กับความคิดที่ว่าภรรยาจะจากไป ทำไมเขาถึงทิ้งเธอไปตั้งแต่แรก แม้ว่าเธอจะมีท่าทางที่รุนแรง แต่เธอก็ยังไม่เลวร้ายเท่าเหลียงเยวือจื่อ
ถ้าเหลียงเยวือจื่อไม่ต้องการให้ใครไปจากเขา คนคนนั้นก็ไม่สามารถบินหนีไปได้ แม้ว่าพวกเขาจะมีปีกก็ตาม
เว้นแต่เขาไม่ต้องการให้คนนั้นอยู่
แม้ว่าเขาอยากให้เธออยู่ แต่เขาไม่มีหัวใจที่จะให้เธออยู่กับเขา
มันเป็นอารมณ์ที่ขัดแย้งกันมาก ลู่ชิงสีสัมผัสได้ถึงความเครียดและความเจ็บปวดในหัวใจของเหลียงเยวือจื่อผ่านโทรศัพท์
“ไร้สาระ” เหลียงเยวือจื่อซึ่งถูกเปิดเผยไม่ได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม “ฉันขอให้พี่ใหญ่ส่งรายงานต้นฉบับจากโรงพยาบาลให้นายแล้ว นายได้รับหรือยัง มีการแก้ไขรายงาน ให้ผลออกมาเป็นไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแล้ว”
“ผมเข้าใจแล้ว” ลู่ชิงสีถอนหายใจ มันเป็นข้อบกพร่องอย่างหนึ่งของเขา เขาไม่มีความรู้วิธีปลอบโยนใคร
มันเหมือนกับตอนที่เจียงเหยาให้ความสนใจเขาเพียงเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะหงุดหงิด วิตกกังวล และสูญเสีย เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับมัน เขาไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนสถานการณ์อย่างไร
ความรู้สึกหมดหนทางนั้นคล้ายกับความหวังให้เขาเผชิญหน้ากับกองทัพเพียงลำพัง แม้ว่าเขาจะต้องทำอย่างนั้น เขาก็ไม่ต้องทำหน้าบึ้งใส่คู่ต่อสู้ของเขา
สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือเขาจะเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างกับเจียงเหยา เขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไร
เขาพูดจาหยาบคายกับเธอไม่ได้ ไม่เห็นเธอทุกข์ทรมานหรือทุกข์ใจ เขาทนไม่ได้ที่เห็นเธอไม่มีความสุข
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนที่ทำให้เธอลำบาก
ลู่ชิงสีคิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้รับการยอมรับจากเจียงเหยา ความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้งของเธอกับเขา
“เหยาเหยาบอกว่าหลัวเหราหลุนอาจไม่กลับมาอีกหลายปีเมื่อเธอเดินทางไปต่างประเทศ”
“บรรพบุรุษของเธอมาจากที่นี่ ครอบครัวของเธออยู่ที่นี่ ยังไงเธอก็จะกลับมา” เหลียงเยวือจื่อกล่าว “แม่แต่พี่น้องของนายก็กลับมาบ่อย ๆ ไม่ใช่เหรอ”
ไม่ว่าหลัวเหราหลุนจะยุ่งแค่ไหนในขณะที่เธอไม่อยู่ และไม่ว่าเธอจะไม่ต้องการกลับมามากแค่ไหน ครอบครัวของเธอก็อยู่ที่นี่ เธอเป็นลูกสาวที่กตัญญู ดังนั้นเธอจึงจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ของเธออย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ พ่อแม่ของเธอไม่ได้ชอบการผจญภัยเหมือนพ่อแม่ของกู้ฮ่าวอวี้ พ่อแม่ของเธอมักคิดถึงบ้านทุกครั้งที่เดินทางเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ พวกเขามักจะอยู่บ้านในเมืองจินโดทุกครั้งที่พวกเขาไม่ได้ทำงาน
ลู่ชิงสีไม่ได้แสดงความคิดเห็นอื่นใด ชายสองคนนั้นไม่เก่งเรื่องคำพุด พวกเขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะวางสาย
ในตอนค่ำ เจียงเหยาในที่สุดก็กลับบ้าน ลู่ชิงสียังไม่กลับบ้านเมื่อเธอกลับมา เธอตรวจสอบกระถางกระบองเพชรซึ่งมีขนาดเท่ากับฝ่ามือเท่านั้น จากนั้นเธอก็ดูทุเรียนที่มีขายเฉพาะในเมืองจินโด เธอผลักต้นไม้ออกไปข้าง ๆ แล้วเดินไปที่ห้องครัวเพื่อหามีดในการแกะเปลือกทุเรียน
เธอตั้งใจนำทุเรียนมาให้ลู่ชิงสีหนุนแทนหมอนในตอนกลางคืนเมื่อเธอรู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอได้กลิ่นทุเรียนแล้วเธอก็เริ่มจะมีความอยากอาหารมากขึ้น
เธอสามารถให้ลู่ชิงสีพิจารณาใช้ผลไม้ที่หายากและน่ารักประทานเป็นหมอน แต่มันเป็นการสิ้นเปลืองทุกเรียน ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจทิ้งต้นกระบองเพชรไว้ให้ลู่ชิงสี
__
ตอนที่ 1212 อย่ากินถ้ามันแพง
เจียงเหยาชอบผลไม้ และเธอไม่จู้จี้จุกจิกเกี่ยวกับผลไม้
ก่อนหน้านี้เธอบังเอิญได้กินทุเรียน และถึงแม้จะได้กลิ่นเหม็น แต่เธอก็ชอบรสชาติที่หอมกรุ่น น่าเสียดายที่ตอนนั้นเธอไม่มีเงิน เธอจึงไม่สามารถซื้อทุเรียนได้
ผลไม้นำเข้า เช่นทุเรียนไม่มีขายทนที นั้นหมายความว่าเจียงเหยาไม่มีโอกาสได้กินเลย
เธอลืมไปเกี่ยวกับการมีอยู่ของผลไม้ดังกล่าวหลังจากที่เธอเกิดใหม่ เธอจำทุเรียนได้เมื่อนึกถึงกระบองเพชรเท่านั้น เธอรู้ว่ามันมีหนามที่แข็งกว่ากระบองเพชร เธอจึงบอกให้ต้าเค่อหาซื้อมาให้เธอ
เจียงเหยามีมือที่แข็งแรง นั่นทำให้เธอปอกเปลือกทุเรียนได้โดยไม่ยาก เธอวางครึ่งหนึ่งไว้ใต้โต๊ะกลาง วางอีกครึ่งหนึ่งไว้บนโต๊ะ และเริ่มกิน
เมื่อศีรษะของมัวโผล่ขึ้นมา เธอก็ยื่นชิ้นหนึ่งให้เขา อย่างไรก็ตาม เขากลอกตาหลังจากที่ได้ดมกลิ่น จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ
เจียงเหยาหัวเราะออกมา เธอนั่งบนโซฟาและกินต่อ
ก่อนที่ลู่ชิงสีจะกลับบ้าน เขาโทรหาเจียงเหยาก่อน เมื่อเขารู้ว่าเธอกลับถึงบ้านแล้ว เขาสวมเสื้อคลุมหนา ออกจากห้องทำงานอย่างร่าเริงและกลับบ้าน
ไม่มีใครการันตีว่าลู่ชิงสีมีจมูกรับกลิ่นที่ยอดเยี่ยม แต่ทุเรียนมีกลิ่นแรงมาก
เขาหยุดอยู่ที่ประตู และทันทีที่เขาเปิดประตู กลิ่นเหม็นรุนแรงก็เข้าโจมตีจมูกของเขา เขาสูดหายใจเฮือกใหญ่สองครั้งก่อนเปลี่ยนรองเท้า จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ท่อระบายน้ำในห้องน้ำของเราอุดตันหรือเปล่า ทำไมกลิ่นอึถึงลอยขึ้นมาแบบนี้ ออกมาเถอะ เร็วเข้า อย่าอยู่ในห้องแล้วก็เปิดหน้าต่าง เปิดประตูด้วย ให้อากาศถ่ายเทเข้ามาเสียหน่อย ออกอยู่ข้างนอกรอจนกว่าผมจะซ่อมเสร็จ แล้วคุณค่อยเข้ามา”
ลู่ชิงสีคิดว่าท่อระบายน้ำอุดตัน แต่เขารู้ว่าเขาคิดผิดเมื่อเห็นสิ่งที่ภรรยาของเขาถืออยู่
“นั่นอะไร” ลู่ชิงสีส่ายหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องและนั่งหน้าเจียงเหยา เธอดูพอใจและมีความสุข เขายกมือขึ้นเช็ดเศษสีเหลืองออกจากใบหน้าของเธอด้วยหลังมือของเขา เขาตัดสินใจที่จะไม่ถามเจียงเหยาเกี่ยวกับกลิ่นเหม็น
“ทุเรียน ผลไม้นำเข้า มีสารอาหารมากมายเลยนะ” หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เจียงเหยาก็กล่าวว่า “ฉันชอบกินมากเลยค่ะ แต่มันแพงมาก”
เจียงเหยาสันนิษฐานว่าลู่ชิงสีจะบอกว่าไม่เป็นไรตราบเท่าที่เธอชอบมัน ไม่มีอะไรในโลกที่แพงเกินไปสำหรับภรรยาของลู่ชิงสี
เธอไม่คิดว่าลู่ชิงสีจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดว่า “ถ้ามันแพงมาก ก็อย่ากินสิ คิดเสียว่าเป็นการประหยัดเงิน”
เจียงเหยาตกตะลึง จากนั้นเธอก็เหลือบมองไปที่ลู่ชิงสี เธอรู้ทันทีว่าเขาพูดอย่างนั้นเพราะเขาเกลียดกลิ่นทุเรียน เขาเกลียดมันมากจนไม่อยากให้เธอกิน แม้ว่าเธอจะชอบมันก็ตาม
เจียงเหยาหัวเราะคิกคัก เธอได้ซื้อทุกเรียนให้เขาเพื่อใช้เป็นหมอนหนุน เธอยังสามารถหลอกเขาได้ไหม
“ลองสิ ถึงกลิ่นจะไม่หอม แต่อร่อยมากเลยนะคะ” เจียงเหยานำผลไม้มาที่ริมฝีปากของลู่ชิงสี แต่เขาถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความระมัดระวัง กลัวเธอจะยัดทุเรียนเข้าไปในปากเขา
“น่ากินมากเลยล่ะ” เจียงเหยากล่าวอย่างช้า ๆ
ลู่ชิงสีส่ายหน้า การแสดงออกของเขาเย็นชา “เอาออกไป”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่าง