ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 151 สถานะ!!!
ตอนที่ 151 สถานะ!!!
12 เมตร!
หลังจากโตขึ้นเรื่อย ๆ ต้นข้าวขนาด 3 – 4 เมตร ก็หยุดโตที่ 12 เมตร
ทหารรอบ ๆ ต่างพากันแสดงท่าทางดีใจออกมา เมื่อเป็นแบบนี้ก็แปลว่าไม่ต้องกังวลเรื่องข้าวอีกต่อไปแล้ว ถึงจะต้องเสียศพซอมบี้ 600 ตัว เพื่อทำให้ต้นข้าวกลายพันธุ์จากต้นกล้ากลายเป็นต้นสูงมากกว่า 10 เมตร แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะทุกอย่างมันต้องมีการลงทุนกันบ้าง
หลินฟานเองก็สบายใจเมื่อเห็นขนาดต้นของมัน ต้นข้าวกลายพันธุ์ไม่ได้สูงขึ้นเท่านั้น แต่ขนาดต้นของมันใหญ่ขึ้นด้วย จากต้นขาของคนปกติ ตอนนี้ลำต้นมันอย่างน้อย ๆ ก็ใหญ่ประมาณ 1 คนโอบ
อีกอย่าง รวงข้าวก็งอกออกมาแล้ว รวงข้าวงอกออกมาแบบนั้นแปลว่ามันพร้อมให้ผลผลิตแล้วนั่นเอง
หลินฟานหันไปทางโอหยางห่าวข้าง ๆ
“ ตอนนี้เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ผมและทหารบางส่วนจะเดินทางกลับเพื่อเริ่มแผนต่อไป ที่นี่คงต้องฝากให้คุณดูแล เรื่องข้อมูลของพวกต้นข้าวไม่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ประกาศไปตรง ๆ ว่ากองทัพตระกูลหลินของเราเจอต้นข้าวที่สามารถให้ผลผลิตไม่จำกัดได้ ขอแค่มีสารอาหารให้พวกมันข้าวก็ผลิตออกมาได้เรื่อย ๆ
“ เรื่องนี้คงทำให้ผู้คนในค่ายควบคุมง่ายขึ้น เพราะถ้าพวกเขารู้ว่าเชื่อฟังกองทัพตระกูลหลินแล้วไม่อดตาย พวกเขาต้องไม่คิดต่อต้านกันแน่นอน
“ส่วนเรื่องสารอาหาร บอกไปตรง ๆ ว่าเราใช้ศพซอมบี้แปลงเป็นข้าว ใครไม่ชอบก็ไม่ต้องกิน อีกอย่าง หมู่บ้านต้นข้าวจะกลายเป็นฐานลับของพวกเรา ถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากผมต่อให้เป็นผู้นำตระกูลจาง ผู้นำตระกูลเจียง หรือผู้นำตระกูลหม่า ก็ไม่มีใครได้รับสิทธิ์เข้ามาในอาณาเขตหมู่บ้านทั้งนั้น”
หลินฟานหยุดพูดและหันมองไปทางต้นข้าวกลายพันธุ์ จากนั้นก็พูดอีกว่า
“ ถ้าเป็นไปได้ผมต้องการให้คุณหาทางย้ายพวกมัน เพื่อความปลอดภัยเราไม่ควรเก็บของล้ำค่าแบบนี้เอาไว้ที่เดียว แต่ว่า ความปลอดภัยของพวกมันต้องอยู่ในจุดสูงสุด
“พวกต้นข้าวกลายพันธุ์ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เมื่ออยู่ในการควบคุมของเรา! แต่ถ้ามันไปอยู่ในมือกองกำลังอื่น ๆ มันจะกลายเป็นปัญหาสำหรับพวกเราได้ ระวังเรื่องการขนย้ายเอาไว้ดี ๆ ผมไม่ต้องการได้ยินว่าต้นข้าวกลายพันธุ์ไปอยู่ในมือคนอื่น”
หลินฟานสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ครับ ท่านจอมพลไม่ต้องเป็นห่วง ผมขอเอาเกียรติของตระกูลโอหยางเป็นเดิมพัน ถ้าต้นข้าวไปอยู่ในมือกองกำลังอื่นจากความผิดพลาดผม ทุก ๆ คน ในตระกูลโอหยางจะรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยชีวิต”
“ดี!!”
หลินฟานพอใจกับคำตอบของโอหยางห่าวมาก
หลังจากปล่อยเรื่องหมู่บ้านต้นข้าวให้โอหยางห่าวจัดการ หลินฟาน หลี่หมิง หนิงซิวเย่ เวโรนิก้า และทหารบางส่วนก็เดินทางกลับไปที่มณฑลซานต๋า ตอนที่อยู่ในหมู่บ้านหลินฟานได้รับรายงานมาแล้วว่า โอหยางซิน และเฮลิคอปเตอร์ ไฟต์เตอร์ แทงค์ จำนวน 10 ลำ เดินทางมาถึงค่ายแล้ว
เป้าหมายต่อไปของหลินฟานก็คือ ฐานยานเกราะที่มณฑล J
…
ณ ห้องโถงสักห้องในค่ายมณฑลซานต๋า
หลินฟาน โอหยางซิน และอีกคนคือหวงซาน พวกเขาทั้ง 3 คน กำลังนั่งอยู่ในห้องโถงและหันหน้าเข้าหากัน
หวงซาน คือคนที่เอาข่าวเรื่องฐานยานเกราะมณฑล J มาบอกหลินฟาน เขากำลังนั่งเกร็ง ๆ อยู่ในห้อง
หลินฟานถามขึ้นว่า
“ทหารที่ให้คัดเลือกเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”
“ค่ะ”
“แผนที่มณฑล J เตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม?”
“ค่ะ”
“อาหารและน้ำล่ะ?”
“เตรียมเพียงพอสำหรับ 3 เดือน แล้วค่ะ”
“วิศวะกรที่สามารถปล่อยดาวเทียมได้ล่ะ?”
“เรียบร้อยค่ะ”
มีอาชีพ! ทำงานกับมืออาชีพมันก็ดีแบบนี้!! หลินฟานยังไม่ได้สั่งอะไรโอหยางซินก็เตรียมพร้อมเอาไว้หมดแล้ว
“ทำงานกับมืออาชีพที่มันดีจริง ๆ”
หลินฟานคิดในใจด้วยความพอใจ
หลินฟานมองไปทางหวงซานที่นั่งอยู่ จากนั้นก็ถามว่า
“คุณบอกว่าฐานยานเกราะต้องใช้รหัสเปิดใช่ไหม”
“ครับ”
หวงซานตอบ
หลินฟานถามต่อ
“แล้วทำไมคุณต้องมาด้วยตัวเอง ให้รหัสพวกเราก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง”
“คือ…”
“รหัสคือเทคโนโลยีชีวะภาพค่ะ ครั้งก่อนที่เขาไม่ได้บอกพวกเราเป็นเพราะกลัวเราไม่ให้สิทธิ์พิเศษกับเขาและครอบครัว ครั้งนี้ฉันพาเขามาเพื่อรับการลงโทษจากท่าน”
อ้อ!
หลินฟานเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ตอนแรกเขาก็สงสัยว่าหวงซานมาทำไม ที่แท้เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง แต่เรื่องนี้หลินฟานก็เดาเอาไว้แล้ว เพราะในชาติก่อนของหลินฟานฐานไหนที่เป็นฐานสำคัญ ๆ ของรัฐบาล มันก็จะต้องเปิดด้วยระบบชีวะภาพทั้งนั้น
ระบบชีวะภาพที่พูดถึงตอนนี้ก็คือ ม่านตา ลายนิ้วมือ ใบหน้า หรืออะไรทำนองนี้
แต่ว่า มันไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับหลินฟาน ถ้าประตูปิดก็ระเบิดเพื่อเปิดเรื่องนี้มันแก้ปัญหาง่าย ๆ ตอนนี้มันยุควันโลกาวินาศ ต่อให้ระเบิดแรงขนาดไหนรัฐบาลกลางก็ไม่เคลื่อนไหวกันหรอก ส่วนสาเหตุนะเหรอ ก็เพราะรัฐบาลกลางมันล่มสลายไปแล้วยังไงล่ะ
ส่วนเรื่องระบบทำลายตัวเองก็ไม่ต้องกังวล เพราะเมื่อวันโลกาวินาศเกิดขึ้น ระบบแบบนั้นมันดับกันไปหมดแล้ว
หลินฟานคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็พูดว่า
“ตัวคุณสามารถเปิดประตูอะไรได้บ้าง?”
“ไม่ได้ครับ ระดับของผมไม่สามารถเปิดอะไรได้เลย จะเข้าจะออกก็ต้องให้หัวหน้าพาเข้าออกทุกครั้ง”
หวงซานตอบด้วยใบหน้าเศร้า เขาพูดต่ออีกว่า
“ยะ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยปล่อยครอบครัวของผมไปด้วยเถอะครับ”
“ เดี๋ยว ๆ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรคุณหวง คุณน่าจะรู้ว่ากองทัพตระกูลหลินของเราให้ค่ากับความสามารถ และคนที่ทำประโยชน์ให้กับกองทัพ คุณเอาข่าวเรื่องฐานยานเกราะมาบอกเราถือว่าทำประโยชน์มาก ๆ ผมไม่ลงโทษคุณหลอก
“อีกอย่าง แค่เรื่องรหัสชีวะภาพมันไม่ได้เป็นปัญหากับผมเลย คุณจะไม่โดนลงโทษอะไรทั้งนั้น กลับไปหาครอบครัวของคุณที่ค่ายหลินหนานเถอะ”
หลินฟานพูด
“ขอบคุณครับ!!”
หวงซานรีบขอบคุณ
“คุณออกไปเถอะ เดี๋ยวอีกไม่นานจะมีทหารเดินทางไปส่ง”
หลินฟานสั่งให้ออกจากห้อง
“ขอบคุณครับ!!”
หวงซานขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นก็ออกจากห้องไป
เมื่อหวงซานออกไปหลินฟานก็มองไปทางโอหยางซิน เมื่อหวงซานออกไปแล้วคราวนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าเรื่องหลัก
หลินฟานถาม
“เป็นยังไงบ้าง จากที่เธอตรวจสอบดูพวกเราควรทำยังไงกับค่ายนี้ ควรเปลี่ยนตรงไหน หรือควรแก้ไขอะไรบ้าง บอกความคิดของเธอออกมาตรง ๆ ได้เลย”
“นี่มันก็หลายวันแล้วนะ”
โอหยางซินยิ้มบาง ๆ ระหว่างพูดออกมา
หลินฟาน “…. ”