ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 88 จิตวิญญาณเต่า
ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 88 จิตวิญญาณเต่า
แปลโดย iPAT
หลี่ฉิงซานถอนหายใจ ตอนนี้นักสู้ชั้นหนึ่งไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของเสี่ยวอันได้อีก เด็กน้อยก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วโดยไม่พบจุดคอขวด ตราบเท่าที่เขามีเวลาและได้รับการสนับสนุนมากพอ ผู้ใดจะรู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งขึ้นถึงเพียงไหน
เพลิงโลหิตเผ่าศพทั้งหมดก่อนจะบิดเป็นเกลี้ยวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและวกกลับเข้าไปในปากของเสี่ยวอันอีกครั้ง เปลวไฟในเบ้าตาของเขากลายเป็นยิ่งสว่างไสวราวกับมันดูดซับเพลิงโลหิตเข้าไปและเพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวมันเอง
หลังจากเก็บกวาดสนามรบ หลี่ฉิงซานก็เรียกเสี่ยวอันและให้เด็กน้อยกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของเขาก่อนที่ทั้งสองจะหายตัวไปในภูเขา
หลี่ฉิงซานวิ่งเข้าไปในป่า ต้นไม้สูงตอนนี้ดูเตี้ยและสั้นมาก เขาพบท่อนไม้ที่ล้มลงขวางทางเป็นครั้งคราวแต่เขาไม่จำเป็นต้องเดินอ้อม เขาทุบทำลายพวกมันและเปิดเส้นทางของตนเองด้วยกำลังโดยตรง
ความแข็งแกร่งและความเร็วไม่ใช่สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไป ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาไม่เคยเฉียบคมเท่านี้มาก่อน ทุกอย่างในป่าดูชัดเจนในความรู้สึกของเขา แม้มันจะเป็นฤดูหนาวแต่เขากลับเห็นสีสันต่างๆได้อย่างมแจ่มชัด
เขาได้ยินทุกสรรพเสียง เขาได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของกระต่ายป่าที่อยู่ลึกลงไปใต้พื้นหิมะ
เขารู้สึกเหมือนมนุษย์ถ้ำที่หวนคืนสู่ยุคดึกดำบรรพ ดื่มด่ำกับธรรมชาติทั้งหมดราวกับมันเป็นน้ำหวานที่เติมเต็มหัวใจของเขา โลกใบนี้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์มากขึ้นสำหรับเขา
เมื่อร่างกายเปลี่ยนแปลง จิตใจของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขารู้สึกเหมือนป่าและภูเขาที่เหมือนกรงขังไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
อย่างไรก็ตามเมื่อเขามองไปที่เสี่ยวอัน สติของเขาก็ฟื้นคืนกลับมา เขายังจำคำสัญญาทั้งหมดได้ดี เขาต้องช่วยเสี่ยวอันกู้คืนร่างมนุษย์และส่งเด็กน้อยกลับบ้าน
เสี่ยวอันมองกลับไปที่หลี่ฉิงซานด้วยความสับสน
หลี่ฉิงซานเผยรอยยิ้มสำนึกของคุณเด็กน้อยอยู่ภายใน
หลังจากวัวดำสอนเคล็ดวิชาใหม่ให้เขา มันก็หายตัวไปอีกครั้ง
หลี่ฉิงซานเดินทางโดยไม่หยุดพัก ระหว่างทาง เขาทำความเข้าใจความลึกลับของเคล็ดวิชาใหม่อย่างเงียบๆ
ชื่อของมันคือจิตวิญญาณเต่า มันแตกต่างจากเคล็ดวิชาเก้ากระทิงสองพยัคฆ์อย่างสิ้นเชิง นี่เป็นเคล็ดวิชาที่มุ่งเน้นการบ่มเพาะพลังปราณ มันมีเก้าระดับขั้น ตราบเท่าที่เขาบรรลุขั้นแรก เขาจะสามารถหวนคืนสู่ร่างมนุษย์และซ่อนปราณปีศาจ เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะสามารถกลับสู่สังคมมนุษย์
เคล็ดวิชานี้จะฝึกได้ก็ต่อเมื่อหลี่ฉิงซานครอบครองปราณปีศาจแล้วเท่านั้น นั่นทำให้เขาตระหนักว่าทุกย่างก้าวของเขาถูกวัวดำคำนวณมาเป็นอย่างดีแล้ว มันพยายามวางรากฐานสำหรับอนาคตให้เขาตั้งแต่ต้น
เขาไม่รู้ว่าจุดมุ่งหมายของวัวดำคือสิ่งใด แต่ดูเหมือนมันจะมีแรงจูงใจที่ไม่ดีนัก
ทันทีที่หลี่ฉิงซานเข้าใจบางสิ่งเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจิตวิญญาณเต่า เขาจะหยุดและนั่งสมาธิ ปราณปีศาจในร่างของเขาค่อยๆสงบลงและหมุนเวียนไปตามรูปแบบบางอย่าง กระทั่งความรู้สึกกระสับกระส่ายของเขาก็ค่อยๆสงบลงระหว่างกระบวนการนี้
เขาเข้าใจบางสิ่งในที่สุด เคล็ดวิชาจิตวิญญาณเต่าเป็นวิธีปราบปรามจิตใจที่พุ่งพล่านซึ่งเกิดจากเคล็ดวิชาเก้ากระทิงสองพยัคฆ์
เต่าจิตวิญญาณเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน เท้าทั้งสี่ของมันใหญ่โตราวกับเสาที่ค้ำยันท้องฟ้าเอาไว้ มันสามารถสยบคลื่นสมุทร แม้เต่าจิตวิญญาณจะแข็งแกร่งแต่มันมีธรรมชาติที่อ่อนโยน
ตราบเท่าที่เขาบรรลุขั้นแรกของเคล็ดวิชานี้ เขาจะสามารถจัดการกลิ่นอาย ปกปิดปราณปีศาจ และปราบปรามจิตมารในใจ ด้วยวิธีนี้เขาจะกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง อย่างไรก็ตามความเร็วในการฝึกฝนเคล็ดวิชานี้เหมือนธรรมชาติของเต่า มันมีความคืบหน้าช้ามาก หลี่ฉิงซานรู้สึกว่าเขาต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อบรรลุขั้นแรกของมัน มันไม่แปลกหากเขาต้องใช้เวลาถึงสามสิบปี
แม้มันจะเร็วกว่าเวลาในการก้าวข้ามภัยพิบัติสวรรค์และกลายเป็นขุนพลปีศาจ แต่มันก็ยังนาน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำได้มีเพียงการเตรียมตัวให้พร้อมกับการต่อสู้อันยาวนานในอนาคตเท่านั้น
หลี่ฉิงซานและเสี่ยวอันกลับมาที่น้ำตกเดิมที่พวกเขาเคยใช้เป็นสถานที่บ่มเพาะครั้งล่าสุด ยืนอยู่ต่อหน้าน้ำตกขนาดใหญ่ที่ทิ้งตัวลงมาจากความสูงหลายสิบเมตร หลี่ฉิงซานวางแผนการที่จะบ่มเพาะอย่างเงียบๆอยู่ที่นี่เป็นระยะเวลาหนึ่ง ตั้งแต่เคล็ดวิชานี้มีคำว่าเต่าอยู่ในชื่อ มันก็ย่อมต้องการน้ำ
หูของหลี่ฉิงซานกระตุก เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงร้องเพลงที่ฟังดูคลุมเครือสายหนึ่ง
เขาหรี่ตามองผ่านหมอกสีขาวและพบเงาร่างด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่ง ดูเหมือนนางกำลังอาบน้ำ!
‘ข้าจะพบเรื่องโรแมนติกที่นี่งั้นหรือ?’ หลี่ฉิงซานคิด
น้ำตกเสียงดังมาก แม้คนทั่วไปจะตะโกนสุดเสียง เสียงของพวกเขาก็จะถูกกลบด้วยเสียงน้ำที่ตกลงมา ทว่าเสียงเพลงของนางราวกับเข็มที่เจาะทะลวงผ่านเสียงทั้งหมด
พลังของน้ำตกรุนแรงถึงระดับที่หลี่ฉิงซานในอดีตไม่สามารถยืนตัวตรงอยู่ภายใน แต่หญิงผู้นี้กลับกำลังอาบน้ำอยู่ท่ามกลางมวลน้ำมหาศาลที่ร่วงหล่นลงมา
สัดส่วนของหญิงสาวดูเลือนรางอยู่ในหมอกสีขาว
หลี่ฉิงซานไม่เคยต่อต้านการล่อลวงชนิดนี้ เขามองอย่างพินิจพิจารณา หลังจากชั่วครู่เขารู้สึกถึงสิ่งผิดปกติและรับประกันได้เลยว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องโรแมนติกขนาดนั้น
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
เสียงร้องเพลงหยุดลงทันที หญิงสาวหันกลับมาและเผยให้เห็นรูม่านตาสีเขียวหยกคู่หนึ่ง จากนั้นนางก็หายตัวเข้าไปในม่านน้ำตก
หลี่ฉิงซานสังหรณ์ร้าย เขากระโจนไปข้างหน้าก่อนจะรู้สึกถึงสายลมกรรโชกแรงที่พุ่งมาจากด้านหลังพร้อมกับความเจ็บปวดเล็กน้อยบนแผ่นหลัง ชั้นผิวหนังที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่งของเขาถูกผ่าออก!
ขณะที่เขาอยู่กลางอากาศและกำลังจะตกลงไปในน้ำ มือเรียวบางข้างหนึ่งก็คว้าหางเสือของเขาและออกแรงดึงอย่างแรง “ขึ้นมา!”
ร่างมหึมาของหลี่ฉิงซานถูกดึงกลับ นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกสังหรณ์ร้ายมากขึ้นไปอีก
เมื่อมองย้อนกลับไปและเห็นฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน เขาพบว่าคนที่ดึงหางของเขาเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบสี่หรือสิบห้าปี นางแต่งกายด้วยชุดสีเขียวพร้อมกับดวงตาสีเขียวหยก นางคือหญิงที่อาบน้ำอยู่ในน้ำตกแต่ตอนนี้นางแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
เขาไม่แปลกใจกับอายุหรือความแข็งแกร่งของนางแต่เป็นหูแมวบนศีรษะของนางรวมถึงหางแมวสีดำที่เต้นรำอยู่ด้านหลังนาง
เป็นเพียงเวลานี้ที่จิตใจอันเงียบสงบในฐานะเด็กเนิร์ดที่ไม่สนใจสิ่งรอบข้างของเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
หากความรู้สึกที่กู่เยี่ยนหยินมอบให้เขาสามารถอธิบายได้ด้วยคำว่าเป็นหญิงงามในฝัน หญิงผู้นี้ก็คือสาวน้อยน่ารักในความฝัน
หลี่ฉิงซานมองนางและรู้สึกตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโลกใบนี้มีสิ่งมหัศจรรย์อยู่มากมายจริงๆ อย่างไรก็ตามความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจของเขา ปีศาจที่สามารถจำแลงกายเป็นมนุษย์ อย่างน้อยนางก็ต้องอยู่ในระดับขุนพลปีศาจ เมื่อเปรียบเทียบกับความปรารถนาและความเพ้อฝันของเขา ตอนนี้เขาควรคิดถึงชีวิตที่น่าอนาถของตนเองมากกว่า!