Ep.378 - อิทธิพลของเถ้าแก่ใหญ่ฮัง
3/4
Ep.378 - อิทธิพลของเถ้าแก่ใหญ่ฮัง
หวังเอ๋อไม่ได้โม้ ในตัวมันเหมือนมีหลายสมองรวมอยู่ในหนึ่งเดียว
และสมองนี้ยังถูกเปิดภูมิปัญญาด้วยขุมทรัพย์สวรรค์ระดับมหากายพ์
หลังจากได้มาอยู่กับฮังอวี่ มันถูกจับอ่านหนังสือคลาสสิกของจีนทั้งสมัยเก่าและสมัยใหม่ ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ขั้นสูง ที่เมื่อผ่านตาแล้วจะจดจำได้ไม่ลืม ในตอนนี้มันจึงไม่ได้ด้อยไปกว่านักวิชาการคนไหนๆ
ไม่นาน
จดหมายเปิดผนึก ‘จดหมายถึงทำเนียบขาว’ ก็ถูกปล่อยในชื่อฮังอวี่ แล้วถูกแปลเป็นหลากหลายภาษาโดยหวังเอ๋อ โพสต์ลงอินเตอร์เน็ต
และด้วยการผลักดันของสมาคมโลกวิญญาณ ทำให้จดหมายฉบับนี้แพร่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาคอย่างรวดเร็ว
ดั่งหินนับพันถูกโยนลงในน้ำนิ่ง ก่อระลอกคลื่นมากมาย
ฮังอวี่เดิมก็มีชื่อเสียงมากอยู่แล้ว
โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ทุกคำพูดและทุกการกระทำ จึงล้วนได้รับความสนใจ
เขาเลิกทำตัวติดดินตามนิสัยปกติ ออกแถลงการณ์ในนามของตนเอง
ไม่มีคำให้ร้าย ไม่มีคำดูหมิ่น เพียงอธิบายสถานการณ์ในอาณาจักรมังกรโลกาด้วยเหตุผล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องค่ายกลเทเลพอร์ต ซึ่งมีความสำคัญต่อการขยายดินแดน และประโยชน์ของสำนักกระบี่วิญญาณที่กำลังครอบครองเมืองทรายดำอยู่ และทิ้งท้ายว่าขอให้ผู้นำระดับสูงของอเมริกาตัดสินใจโดยเร็วที่สุด
เพื่อไม่ให้กระทบต่อการพัฒนากองกำลังของมนุษย์ในอาณาจักรมังกรโลกา
ชาวเน็ตเห็นบทความนี้
พวกเขาต่างพากันยกย่องบอสฮัง
นึกไม่ถึงเลย ว่าบอสฮังที่มักทำตัวลึกลับและติดดิน ไม่เพียงมีพลังรบอันยอดเยี่ยม แต่ขณะเดียวกันยังเป็นคนที่เชี่ยวชาญวรรณกรรมหลากหลายภาษา
บทความนี้เขียนได้งดงามจริงๆ
เขาไม่ได้ยกเอาศีลธรรมอันสูงส่งมากล่าวอ้าง
เขาไม่ได้ใชประโยชน์จากพลังรบและชื่อเสียงของตัวเองเพื่อกดขี่ผู้คน
เรียกได้ว่ามีคุณธรรม และทำให้ผู้คนไม่อาจปฏิเสธได้
พริบตาเดียวก็ได้แฟนคลับเพิ่มขึ้นมากมายจากทั่วโลก
ทั่วทุกมุมโลกเริ่มเกิดกระแสตอบรับเขา มีเสียงสนับสนุนมากมายนับไม่ถ้วน
ในอเมริกาเองก็มีแฟนๆของบอสฮังจำนวนมาก พวกเขาสามัคคีกันทันที นับล้านชีวิตรวมตัวกัน เรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงตัดสินใจให้มันถูกต้อง สนับสนุนการขยายขุมกำลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในโลกวิญญาณ มีกระทั่งการระดมตัวเตรียมเดินขบวน เป็นภาพที่มีชีวิตชีวามาก
แต่ถ้ามันหยุดแค่เฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่สนับสนุนไอดอลที่อยากทำอะไรซักอย่างมันก็แล้วไป
แต่นี่กระทั่งประธานสมาคมโลกวิญญาณฝั่งอเมริกาก็ยังออกมาพูดในนามของสมาคมโลกวิญญาณ ขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับฮังอวี่
“ฮังคือพลังรบที่แข็งแกร่งในโลกวิญญาณ แต่เขาก็ยังมีความชอบธรรมให้สำนักกระบี่วิญญาณเข้าครองเมือง แต่พอถึงเวลาขอความช่วยเหลือ อเมริกากลับไม่เต็มใจที่จะมอบพิมพ์เขียวแค่สองสามชุดให้? ปรัชญาที่สมาคมโลกวิญญาณทั่วทุกมุมโลกยึดถือ คือต่อต้านเผด็จการ พวกเราพร้อมยินดีให้ความร่วมมือแบบวิน วิน แก่มวลมนุษยชาติ ดังนั้นในครั้งนี้ เพื่อความยุติธรรม พวกเราขอสนับสนุนฮัง”
โฆษกอย่างเป็นทางการของจีนก็ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นเช่นกัน พวกเขาประณามพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอเมริกาอย่างรุนแรง “พิมพ์เขียวถ้าไม่ได้ใช้มันก็เป็นแค่เศษกระดาษ แต่ถ้านำมาใช้งานจริง มันจะสร้างคุณค่าได้มหาศาล และนั่นชัดเจนว่าจะมีประโยชน์ต่ออเมริกาและสำนักกระบี่วิญญาณ ฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ต้องหวงแหนมัน”
เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกของฮังอวี่นั้นสงบและอ่อนโยนมาก
แต่กลับสามารถสร้างแรงกดดันทางความคิดได้ทั้งในและนอกประเทศ ปลุกความคิดเห็นของประชาชนอย่างรวดเร็ว
บอสฮังพึ่งยึดสามเมืองได้ในโลกวิญญาณ หัวข้อนี้ยังอยู่ในใจของพวกเขา เรียกได้ว่าไฟยังไม่มอด อิทธิพลของเขาช่างน่าประทับใจ ไม่ด้อยไปกว่าดาราดังระดับโลกหลายๆคนในสมัยก่อน
ผู้บริหารระดับสูงของอเมริกาเริ่มปวดหัว
พวกเขาสามารถเมินเฉยต่อคนอื่นๆได้
แต่สำหรับศักดิ์ศรีของยอดฝีมือผู้โด่งดังคนนี้ไม่อาจละเลย
ประธานาธิบดีเรียกประชุมทันที
“พวกคุณคิดยังไงกับเรื่องนี้?”
หัวหน้าสำนักกระบี่วิญญาณตอบเป็นคนแรก “ผมคิดว่าพวกเราควรส่งมอบพิมพ์เขียวให้กับทางสำนักกระบี่วิญญาณนิวยอร์กทันที ถึงจดหมายเปิดผนึกของฮังจะใช้ถ้อยคำสุภาพ แต่มองยังไงเขาก็ดูไม่พอใจมาก การล้ำเส้นยอดฝีมือที่มีอิทธิลพลแบบนี้ ไม่มีประโยชน์กับทางเรา ไม่ต้องพูดถึงว่าในอาณาจักรมังกรโลกา สำนักกระบี่วิญญาณยังต้องการการสนับสนุนจากมังกรคราม”
ได้ยินแบบนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในห้องประชุมแสดงท่าทีไม่พอใจทันที
อเมริกาคือประเทศที่ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พวกเขาต้องยอมไว้หน้าใครซักคน?
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต้องยอมรับก็คือ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว จากคนที่เคยเล็กจ้อยแทบไม่มีตัวตน มาตอนนี้บางคนมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะคนอย่างฮังอวี่ที่อาจได้ร่วมมือกันอีกหลายครั้งในอนาคต มันไม่ฉลาดเลยที่จะทำให้เขาขุ่นเคือง
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ขณะนี้มีแรงกดดันทางความความคิดจากประชากรจำนวนมาก
แฟนคลับบอสฮังเริ่มวางแผนตั้งขบวนแล้ว
หลายประเทศรวมทั้งจีนกำลังกล่าวโทษผู้นำสูงสุดของสหรัฐอเมริกา
ทำให้ประธานาธิบดีรู้สึกกดดันเล็กน้อย เพราะยังไงซะสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศไม่ได้ดีเหมือนที่เคยเป็น ...แน่นอน สิ่งที่เขากังวลจริงๆ ไม่ใช่แรงกดดันจากภายนอกเหล่านี้
อเมริกาพึ่งขยายดินแดนของตนในโลกวิญญาณ
ทีมงานของแผนกยุทธศาสตร์ทั้งห้าในโลกวิญญาณต่างก็เริ่มทำกำไรในส่วนของตัวเองได้
ตอนนี้พวกเขายึดดินแดนในโลกวิญญาณได้มากกว่าสิบแห่งแล้วก็จริง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในดินแดนเหล่านั้นไม่อยู่ในแง่ดี มีเพียงดินแดนในแคว้นเดียวดายใน อาณาจักรมังกรโลกาเท่านั้นที่ยังคงรักษาจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้เอาไว้ได้ และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวสู่ภายนอก
จากการวิเคราะห์โดยที่ปรึกษาและเหล่ายอดฝีมือ ศักยภาพของกำลังคนในแคว้นเดียวดายมีขนาดใหญ่และสำคัญมาก
จึงเป็นเหตุผลที่ดินแดนแคว้นเดียวดายจะล่มสลายไม่ได้
ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะแคว้นเดียวดายมีความก้าวหน้าเร็วที่สุดยังไงเล่า!
อาจกล่าวได้ว่าเป็นสัญญาณของการสร้างอารยธรรมมนุษย์ในโลกวิญญาณ
ทุกประเทศต่างเฝ้ามองมาที่เมืองหุบเขาเดียวดาย ดูว่าพวกเขามีระบบจัดการอย่างไร ดูว่าพวกเขาจะสร้างสมุนทหารอย่างไร ดูว่าพวกเขาจะสู้ศึกสงครามอย่างไร ดูว่าพวกเขาจะผลิต ... ฯลฯ
ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศและขุมกำลังต่างๆ ดังนั้นดินแดนมนุษย์ในแคว้นเดียวดายจึงไม่อาจล่มสลาย
“ดูท่าพวกเราคงต้องยอม” ประธานาธิบดีตัดสินใจ “ให้สำนักกระบี่วิญญาณแห่งนิวยอร์กเลือกสมาชิกฝ่ายผลิตด้านโลจิสติกส์ที่เชื่อถือได้สองคนไปเรียนรู้พิมพ์เขียวค่ายกลเทเลพอร์ต!”
“นอกจากนี้ ให้เพิ่มการลงทุนในทุกทีมที่ตัดสินใจเข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกา โดยเฉพาะการฝึกอบรมยอดฝีมือ ประเทศจีนมีฮังแค่คนเดียว แต่อาณาจักรมังกรโลกามีตั้งสิบแคว้น ไม่สำคัญว่าองค์กรมังกรครามจะก้าวหน้าได้ขนาดไหน แต่สุดท้ายดินแดนส่วนใหญ่ในอาณาจักรมังกรโลกาก็ต้องตกเป็นของเราอยู่ดี!”
ประธานาธิบดีตัดสินใจแล้ว ผู้นำทั้งห้าแผนกหลักแห่งโลกวิญญาณไม่มีข้อโต้แย้งใดๆอีก
อาณาจักรมังกรโลกาเป็นสถานที่ที่คู่ควรแก่การทุ่มเทอย่างเต็มที่
คาดว่าฝ่ายจีนก็คงคิดเสริมกำลังพลไปประจำการในแคว้นอื่นๆของ อาณาจักรมังกรโลกาเช่นกัน
แต่ที่แน่ๆในตอนนี้
อาณาจักรมังกรโลกาได้กลายเป็นเวทีที่ทุกสายตาต่างจับจ้อง ในเมื่อมีผู้ชมจำนวนมาก เช่นนั้นนักแสดงก็จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม บรรเลงการเดินทางอันน่าตื่นเต้นให้พวกเขาดู
แล้วเดี๋ยวก็จะได้รู้กัน ว่าประเทศไหนกันแน่ที่จะสามารถหัวเราะได้เป็นคนสุดท้าย!
...
ณ ชุมชนมังกรฟ้า
ฮังอวี่พึ่งวางสายจากเล่ยหยิง
เล่ยหยิงสัญญาว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่
แม้ฝั่งอเมริกาจะไม่ทำอะไรเลยก็ตาม แต่พวกเขาจะช่วยฮังอวี่คิดหาวิธีอื่นเพื่อแก้สถานการณ์
ก็นี่แหละหนา
หลังจากมีชื่อเสียงแล้ว เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น คนมากมายก็พร้อมเข้าช่วยเหลือ
และถ้าสำนักกระบี่วิญญาณได้รับพิมพ์เขียวค่ายกลมาจริงๆ ลุคและเพื่อนๆของเขาต้องขอบคุณฮังอวี่
ซูหยุนปิงมาหาฮังอวี่ “การประมูลของสมาคมโลกวิญญาณกำลังจะจัดขึ้นบนถนนมังกรฟ้า ฉันเห็นว่าตอนนี้นายไม่มีอะไรทำ สนใจไปดูด้วยกันไหม? บางทีอาจมีของที่นายต้องการก็ได้”
ฮังอวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขาจำได้ว่าซูหยุนปิงเคยพูดถึงเรื่องนี้เมื่อสองสามวันก่อน
“ก็ในเมื่อนี่คืองานประมูลของสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง แล้วไหงครั้งนี้มาจัดงานในอาณาเขตของพวกเราได้?”
“ไม่ใช่แค่ครั้งนี้ แต่ครั้งต่อๆไปก็จะจัดขึ้นที่ถนนมังกรฟ้า” ซูหยุนปิงดูภูมิใจเล็กน้อยกับผลลัพธ์นี้ “ฉันได้ทำข้อตกลงร่วมกับผู้บริหารระดับสูงหลายคนของสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิงแล้ว งานประมูลที่จะจัดขึ้นโดยมีพวกเราทั้งคู่เป็นเจ้าภาพ และถือหุ้นกันคนละครึ่ง”
ฮังอวี่รับฟังรายละเอียดอย่างถี่ถ่วน
งานประมูลนี้เป็นโครงการของสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง รูปแบบธุรกิจไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการรวบรวมสินค้ามูลค่าสูงจากกองกำลังหลักในสังกัดของสมาคมโลกวิญญาณ หรือสมบัติธรรมชาติที่หามาได้ออกประมูลขาย
ส่วนเรื่องงานประมูลก็จะจัดขึ้นตามปกติ และมีค่าคอมมิชชั่นเพื่อให้ได้กำไร
เมืองเจียงเฉิงมีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
สมาคมโลกวิญญาณตั้งใจจะจัดงานประมูลในสี่พื้นที่
ซูหยุนปิงประสบความสำเร็จในการได้รับคุณสมบัติร่วมมือจัดงานประมูลครั้งแรก
ที่งานประมูลครั้งนี้จึงจัดขึ้นในเขตมังกรฟ้า และเหตุผลที่สมาคมโลกวิญญาณเลือกร่วมมือกับซูหยุนปิง นอกเหนือจากความสัมพันธ์ภายในของซูหยุนปิงกับทางสมาคมโลก ยังเป็นเพราะพวกเขาสนใจในพลังรบของกลุ่มมังกรฟ้าอีกด้วย
ต่อไปในอนาคต
เมื่อไหร่ก็ตามฮังอวี่และกลุ่มของเขาได้รับหินสกิล อุปกรณ์ระดับสูง ม้วนคัมภีร์ หรือวัสดุขั้นสูงที่หาได้ยาก ทั้งหมดจะสามารถนำเข้าประมูลได้ เรื่องนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของงานประมูลได้มาก
สำหรับกลุ่มมังกรฟ้า งานประมูลคือธุรกิจที่ยังไงก็กำไร
การเปิดประมูลครั้งแรกบนถนนมังกรฟ้า ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะยิ่งเป็นการเพิ่มความนิยมแก่ถนนมังกรฟ้า
ฮังอวี่คิดว่ามันน่าสนใจ จึงเรียกเจ้าหมากับเสี่ยวไป๋ไปด้วยกัน
ให้ทุกคนได้หยุดพักและออกงานบ้าง นี่ก็น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี