Ep.376 - สืบข้อมูล
1/4
Ep.376 - สืบข้อมูล
ระยะห่างระหว่างเมืองหุบเขาเดียวดายกับเมืองธารทะเลทรายนั้นอยู่ใกล้กันยิ่งกว่าเมืองทรายดำ เมืองเตาหลอมศิลา และเมืองขุนเขาเหล็ก จุดนี้นับเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ เผ่าพันธุ์จากเมืองทั้งสามจึงต้องการยึดครองเมืองหุบเขาเดียวดาย
นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ว่า หากคิดตรวจสอบสถานการณ์ ตัวเลือกแรกย่อมเป็นเมืองหุบเขาเดียวดาย
ใบหน้าของชาร์โมโดกลายเป็นสีฟ้า
มันไม่คาดหวังว่าจะเกิดความยุ่งเหยิงเช่นนี้
มันจำได้ว่าขุนนางแห่งเมืองหุบเขาเดียวดายที่อยู่ข้างใน เป็นเพียงชาวต่างถิ่นอ่อนแอที่ย้ายเข้ามาใหม่ และตั้งแต่ยึดเมืองหุบเขาเดียวดายได้ นี่ก็ยังไม่ถึง 30 วันด้วยซ้ำ แต่ไฉนจู่ๆกระทำการใหญ่โต ยึดสามเมืองในคราเดียวได้?
เรื่องนี้ทำให้ขุนนางคาลิมัวแห่งเมืองธารทะเลทรายโกรธกมาก ชาร์โมโดถูกลงโทษอย่างรุนแรงจากงานที่ผิดพลาดของตน
และคราวนี้ขุนนางใหญ่ส่งมันมาอีกครั้ง ย้ำว่าต้องตรวจสอบสถานการณ์ให้ชัดเจน มิฉะนั้นขุนนางใหญ่จะไม่มีวันให้อภัย
“ข้าถูกหลอก!”
“พวกมันต้องเล่นตุกติกแน่ๆ!”
“ไอ้สารเลวพวกนั้น คราวที่แล้วคงจงใจแสดงความอ่อนแอ เป็นไปได้หรือไม่ว่าขุนนาางที่ปรากฏตัวต่อหน้าข้าเป็นแค่ตัวปลอม? อันที่จริงเผ่าพันธุ์ที่ถูกเนรเทศกลุ่มนี้มีพลังรบแก่กล้า?”
เมื่อไม่ทราบสถานการณ์ในเมืองหุบเขาเดียวดาย ชาร์โมโดไม่กล้าลอบเข้าไปใกล้
เผื่ออีกฝ่ายเตรียมกับดักไว้รอรับ แล้วมันก้าวเข้าไป นั่นไม่เท่ากับเป็นการโยนตัวเองเข้าตาข่ายหรอกหรือ?
เป็นเรื่องธรรมดาที่ขุนนางเล็กจะทะเลาะและฆ่าฟันกันเอง แต่การทลายสามเมืองในคราเดียวโดยไม่มีการปรึกษาขุนนางใหญ่ เป็นพฤติกรรมที่ยอมรับไม่ได้
ไม่มีขุนนางใหญ่ตนไหนยอมทนต่อขุนนางเล็กที่ไม่กริ่นเกรงภายใต้อาณาเขตของตัวเอง
พวกเขากล้าทำอย่างนี้ ไม่คิดหรือว่าอาจต้องเผชิญกับโทสะ?
พูดมาถึงขนาดนี้ ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเสียสติไปแล้ว หรือมั่นใจในเสาหลักของตัวเอง ไม่กลัวว่าจะเป็นการล่วเงกินเมืองธารทะเลทราย จะอย่างไกนก็ไม่ดีสำหรับ ชาร์โมโด
สำหรับชาร์โมโด เมืองหุบเขาเดียวดายตอนนี้เปรียบดั่งถ้ำเสือสระมังกร หากมันทะลึ่งเข้าไปตรงๆเหมือนครั้งแรก เกรงว่าคงถูกจับและโดนทรมานทั้งเป็น ใช้ความแข็งแกร่งข่มคงไม่ได้ อ้างชื่อเมืองธารทะเลทรายก็คงไม่ได้เช่นกัน
ครั้งนี้จึงต้องระวังให้มากขึ้น
ชาร์โมโดแอบเข้ามาในอาณาเขตเมืองหุบเขาเดียวดายอย่างลับๆ ก่อนอื่นมันสำรวจพื้นที่ล่าสัตว์และแหล่งทรัพยากรในบริเวณใกล้เคียง เพื่อค้นหาว่าเผ่าพันธุ์นี้มันเป็นยังไงกันแน่
แต่ระหว่างกระบวนการแอบสำรวจ จู่ๆชาร์มาโดก็รู้สึกเจ็บหน้าอก พร้อมถูกแรงปะทะสายหนึ่ง กระแทกถอยหลังไปหลายก้าว เมื่อก้มมองลง สีหน้าของมันก็เปลี่ยนไป
มันพบว่ามีลูกศรปักอยู่บนหน้าอก เจาะทะลุเกราะตัวเอง
ถูกเจอตัวแล้ว?
“เป็นใครกัน? กล้าดียังไง! รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร!”
ชาร์โมโดดึงลูกศรออกด้วยความโกรธ มองไปรอบๆอย่างเย็นชา แต่ในขณะนั้น ลูกศรอีกดอกตรงเข้ามาโดยปราศจากการแจ้งเตือนใดๆ ศรนี้เงียบเชียบและมองไม่เห็น ปักเข้าที่ไหล่มัน
ซุ่มยิงเงามืดของนักลอบยิงขั้น 2 ?
อย่างไรเสีย ชาร์โมโดเป็นชาวโลกวิญญาณที่มีชีวิตอยู่มาหลายปี และเซนทอร์ก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่ยิงธนูได้ดีมาก สหายร่วมเผ่ามากมายเลือกเดินในเส้นทางนักธนู จึงคุ้นเคยกับสกิลขั้น 2 นี้เป็นอย่างดี
มันรีบเปิดใช้งานสกิลสอดแนมทันที คราวนี้สามารถมองเห็นลูกศรและเงาที่อยู่ภายใต้ความมืดอย่างชัดเจน
มันตะโกนกร้าว ยกขวานรบขึ้นเหวี่ยง สร้างลมพายุพัดลูกศรกระเด็นออกไป
ชาร์โมโดกระทืบเท้าสี่กีบ พุ่งไปข้างหน้าด้วยเทคนิคพุ่งเข้าชาร์จ
เซนทอร์นั้นมีความเร็วในการเคลื่อนที่ไว ซึ่งเป็นพรสวรรค์โดยกำเนิด ด้วยพลังรบของมัน หากวิ่งสุดกำลัง สมควรเร็วไม่ด้อยไปกว่ารถแข่ง F4
“เป็นเจ้านั่นเอง!” มันพบเป้าหมายในการลอบโจมตี มิใช่ใครอื่น เป็นขุนนางเมืองหุบเขเาดียวดายที่พบเจอกันครั้งก่อน
“กล้าลอบโจมตีข้า ช่างแส่หาที่ตาย!”
ชาร์โมโดพอพบว่าเป็นฮังอวี่ก็ไม่หวั่นกลัวอีกต่อไป
ฮึ่ม!
มาได้เวลาพอดี ไม่ว่าเจ้าหมอนี่คือขุนนางเมืองหุบเขาเดียวดายตัวจริงหรือไม่ แต่เขาคงมีข้อมูลสำคัญอยู่กับตัวแน่ๆ แค่ทุบตีปางตายแล้วนำกลับไปยังเมืองธารทะเลทราย หลังจากนั้น ก็มีวิธีทรมานมากมายเพื่อสอบปากคำ
แต่ช้าก่อน
มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!
ครั้งก่อนที่ข้าเห็นชายผู้นี้ เขายังเป็นแค่ขยะเลเวล 10 อยู่เลย
นี่คือเหตุผลที่ชาร์โมโดมั่นใจว่าสามารถโค่นฮังอวี่ลงได้ แต่ตอนนี้เมื่อระยะห่างเริ่มแคบลง มันกลับรู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากฮังอวี่อย่างชัดเจน
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้เก็บซ่อนกลิ่นอาย และการที่ครอบครองแรงกดดันเช่นนี้ได้ แสดงว่าอย่างน้อยต้องครอบครองกว่าสองมรดกขั้น 3!
นอกเหนือไปจากนั้น
อาวุธทั้งสองในมือเขา สนับแขนทั้งสองข้าง เสื้อคลุมบนหลัง สร้อยคอ ทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยแสงพลังงานวิญญาณสีฟ้า
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร?
ในเวลาอันสั้นเช่นนี้
เขาสามารถอัพเลเวล 11 ได้จริงๆ?
ทั้งยังได้ครอบครองอุปกรณ์สีฟ้ามากมาย .... ไหนจะมรดกขั้น 3 อีกหลายสกิล
นี่มันเป็นไปไม่ได้!
ไม่ได้การ!
ต้องรีบหนี!
ฮังอวี่อดหัวเราะไม่ได้ “พี่ชาย อุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่แวะไปเยี่ยมเมืองของน้องชายคนนี้ก่อนล่ะ? ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายกลับไปในเมืองธารทะเลทราย เดี๋ยวขุนนางใหญ่จะดุเอาว่าฉันไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าบ้านที่ดี”
ระหว่างกล่าว
สกิลของเสื้อคลุมเงาสะท้อน ‘ระบำเงา’ ได้ถูกเปิดใช้งาน
ทั้งร่างของฮังอวี่กลายเป็นเงาสะท้อนวูบไหว แทบจะในชั่วพริบตา เขาขยับมาประชิดเบื้องหน้าชาร์โมโด
สีหน้าของชาร์โมโดดูตกใจมาก มันเหวี่ยงขวานฟาดออกไป
เคร้ง!
ฮังอวี่รับคมขวานด้วยสนับแขนได้อย่างง่ายดาย
เขาเปิดใช้งานปลุกเลือดปีศาจ
ตามต่อด้วยชุบโลหิต
และสุดท้ายสังหารลมกรด!
ชาร์โมโดไล่ตามความเร็วของเขาไม่ทันอย่างสิ้นเชิง รู้สึกแค่ว่าฮังอวี่ราวกับสร้างร่างแยกเป็นของตัวเอง ขยายกลายเป็นหกร่างทันที กระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
วินาทีถัดมา
ฮังอวี่ทั้งหกลงมือพร้อมกัน
ฮังอวี่แต่ละร่างทำการโจมตีคนละสองครั้ง
เท่ากับว่า ชาร์โมโดได้รับการโจมตีถึง 12 ครั้งในชั่วพริบตาเดียว
คำสาปกระดูกสามานย์ของกระบี่
พิษจากขวานปีศาจแมงป่อง
สะกดให้ชาร์โมโดไร้กำลังอย่างสิ้นเชิง แทบจะเรียกได้ว่าโดนบดขยี้ รู้สึกตัวอีกทีถูกเหยียบย่ำใต้ฝ่าเท้าของฮังอวี่
ชาร์โมโดอยู่ในอารมณ์หวาดกลัวและตกตะลึง
ตอนนี้มันมั่นใจแล้ว
ชายผู้นี้คือขุนนางเมืองหุบเขาเดียวดายตัวจริงเสียงจริงแน่นอน แต่เขาเป็นแค่ไก่อ่อนคนเดิมที่เคยเจอก่อนหน้านี้จริงๆน่ะหรือ?
แต่คราวก่อนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เขาใช้ลูกเล่นบางอย่างเพื่อปกปิดพลังรบใช่หรือไม่?
ถึงจุดนี้ ชาร์โมโดกลับคาดเดาได้ถึงเรื่องน่ากลัวอีกอย่าง ... หรือว่าจริงๆแล้วอีกฝ่ายไม่ได้เสแสร้ง แต่ใช้เวลาแค่ 20 กว่าวันเพิ่มพูนพลังรบจนถึงขั้นนี้!
หากใช่
นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ฮังอวี่สยบชาร์โมโดตกอยู่ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตายภายในสองสามกระบวนท่า เขาหันหลังแล้วกวักมือ
เจียงหนาน ฮังเสี่ยวไป๋ และคนอื่นๆวิ่งเข้ามาทันที
ฮังเสี่ยวไป๋ปลดปล่อยเทคนิคผนึกเพื่อสะกดชาร์โมโด
“เอามันกลับไป”
“ขังไว้ในคุกใต้ดิน”
เจียงหนานเดินมาหาฮังอวี่ ขณะเดียวกันมองไปยังผู้ส่งสารแห่งเมืองธารทะเลทรายถูกมนุษย์จิ้งจอกพาตัวไป อดรู้สึกกังวลไม่ได้
“พี่มหาเทพ ถ้าเราจับมันมาแบบนี้ เมืองธารทะเลทรายจะต้องโกรธมากแน่ๆ”
ฮังอวี่กล่าว “มันโกรธพวกเราตั้งแต่ตอนยึดสามเมืองแล้ว”
“เอ่อ ...” เจียงหนานเถียงไม่ออก
ฮังอวี่กล่าวต่อ “ความขัดแย้งระหว่างเมืองหุบเขาเดียวดายกับเมืองธารทะเลทรายไม่อาจประนีประนอม พวกเราได้ก้าวข้ามขีดจำกัดความอดทนของเมืองธารทะเลทรายมาแล้ว ฉะนั้นจะก้าวข้ามมากกว่านี้ฉันก็ไม่สนใจ
“แทนที่จะปล่อยให้เมืองธารทะเลทรายรู้ว่าพวกเรากำลังทำอะไร ควรใช้ผู้ส่งสารตนนี้ มาทำความเข้าใจสถานการณ์ในเมืองธารทะเลทรายกันก่อน”
“ไปเรียกถังรู่มา”
เจียงหนานเข้าใจทันทีว่าฮังอวี่ต้องการทำอะไร
ถังรู่คือคนที่มีความสามารถพิเศษในมังกรคราม เขามีสกิลพรสวรรค์ในการอ่านใจ และมันให้ผลดีมาก ไม่ว่า ชาร์โมโดจะอยากพูดหรือไม่ มีความลับอะไรเก็บซ่อนเอาไว้ ก็ไม่อาจปกปิด
หลังสอบปากคำชาร์โมโด
ด้วยผลของเทคนิคอ่านใจ ข้อมูลทุกอย่างถูกคายออกมาทันที
เมืองธารทะเลทรายเป็นดินแดนขนาดใหญ่ แค่กำลังทหารเพียงอย่างเดียวก็เกือบ 20000 นาย
ดินแดนขนาดใหญ่สามารถสร้างทหารได้มากมาย และเนื่องจากการรับส่วยจากดินแดนเล็กๆโดยรอบมาตลอดหลายปี
ทำให้ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้มั่นคงและทรงอำนาจมาก สะท้อนให้เห็นได้จากคุณภาพของสมุนทหาร
สมุนทหารในดินแดนเล็กโดยทั่วไปมักเป็นชนชั้นยอดขั้นบรอนซ์เลเวล 10
แต่ดินแดนอันกว้างใหญ่อย่างเมืองธารทะเลทราย ไม่ใช่แค่มีกองทัพมากกว่าเท่านั้น แต่ยังมีทหารอีกหลายประเภท และเลเวลโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 12 อุปกรณ์ครบครันในสภาพดีเยี่ยม ส่วนใหญ่สามารถไปถึงชั้นยอดขั้นซิลเวอร์ และมีหลายตัวสามารถขึ้นไปถึงชั้นยอดขั้นโกลด์แล้ว
พูดได้เลยว่า
ทหารพันนายของเมืองธารทะเลทราย สามารถคว่ำทหารสองพันนายในดินแดนเล็กได้!
ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะขุนนางใหญ่แห่งเมืองธารทะเลทราย อีกฝ่ายไม่เพียงแต่เป็นขุมพลังที่ครอบครองมรดกขั้น 4 เท่านั้น แต่มันยังสามารถสั่งการขุนนางเล็กในดินแดนใกล้เคียงได้อีกด้วย เป็นคู่ต่อสู้ที่ยากจะต่อกรในช่วงนี้
สำหรับจำนวนของเซนทอร์ระดับสูง?
ได้ยินว่ามีเซนทอร์ระดับสูงมากกว่า 200 ตัวในเมืองธารทะเลทราย
นอกจากนี้ ท่ามกลางดินแดนเล็กภายใต้การปกครอง ยังมีกว่า 6 ดินแดนที่เป็นของเซนทอร์
กล่าวคือ พวกมันเป็นดินแดนเล็กที่ถูกควบคุมโดยญาติๆของขุนนางใหญ่คาลิมัว หากรวมพลังกันคงมืดฟ้ามัวดิน
หากเผ่าพันธุ์เซนทอร์โจมตีตอนนี้
เมื่อหักเวลาระดมพล อาจใช้เวลาราวๆ 4 - 5 วัน
แม้จะรวมพลังรบของทั้งสี่เมืองเข้าด้วยกัน ก็เกรงว่าจะหยุดยั้งพวกมันไม่ได้ และคงมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
ฮังอวี่ “เมื่อไหร่ที่เมืองธารทะเลทรายจะลงมือ?”
“ข้าไม่รู้ ...”
ชาร์โมโดถูกควบคุมโดยเทคนิคอ่านใจ ความทรงจำของมันเหมือนหนังสือที่สามารถพลิกดูได้ตามต้องการ
“แต่ลึกเข้าไปในทะเลทรายมรณะ ที่นั่นมี ‘คุกโบราณ’ ในตำนานปรากฏขึ้น ข้างในมีสิ่งมีชีวิตระดับทรราชย์ และทรัพย์สมบัติทุกชนิด คาลิมัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ตอนนี้ต่อให้โจมตีเมืองหุบเขาเดียวดาย ก็ไม่น่าจะลงมือด้วยตัวเอง”