Chapter 8
เมื่อเห็นเงินทั้งหมดของเขาตกลงไปในท่อระบายน้ำ เย่เฉินก็ขมวดคิ้ว
“ไม่มีตารึไง?” เย่เฉินขมวดคื้วและมองไปที่หลินเทียน
“ดูเหมือนแม่จะไม่ได้สอนเรื่องมารยาทสินะ มัวแต่นับเงินไม่ดูทางเนี่ย บ้ารึเปล่า” หลินเทียนเยาะเย้ย
เย่เฉินเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:
“โอเค ฉันผิดเอง แต่นายต้องคืนเงินทั้งหมด”
“อะไรนะ นี่เป็นความผิดของคุณ ทำไมฉันต้องคืนเงินให้คุณด้วย” หลินเทียนขมวดคิ้ว
“คุณชนฉัน และเงินของฉันหล่นหายไปหมดแล้ว รู้ไหมว่าการหาเงินมันยากแค่ไหน” เย่เฉินมองไปที่หลินเทียน
“นักพนันแบบคุณสามารถพูดแบบนั้นออกมาได้ด้วยรึไง” หลินเทียนเยาะเย้ย
"อะไรนะ?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เฉินขมวดคิ้ว เขารู้สึกขุ่นเคือง
“ถึงฉันจะเป็นเศรษฐี แต่ฉันก็ยอมให้เงินกับคนจนดีกว่าคนติดพนัน”
“สุดท้ายแล้วนายมันก็เป็นแค่เด็กไม่รู้จักโต ถ้าเกิดว่ายากจน ก็หางานทำซะสิ อย่ามัวมาเล่นพนันบ้าๆนี่” หลินเทียนสอนเย่เฉิน
“ครับ ขอบคุณทีสอนนะ แต่ไม่ต้องหรอก เกรงใจ” เย่เฉินขมวดคิ้วและกล่าว
“รู้ไหม ฉันเคยเจอคนมากมายที่เป็นเหมือนคุณนะ และพวกนั้นต่างก็เป็นพวกขยะไร้ค่าด้วยกันทั้งนั้น” หลินเทียนพูดประชดประชัน
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดแบบนั้นทำไม เรื่องแค่นี้ทำไมต้องจริงจังด้วย”
“แต่สิ่งที่คุณพูดทำให้ผมโกรธอะ ขอโทษนะถ้าผมจะใช้ความรุนแรงสักหน่อย” เย่เฉินมองไปที่หลินเทียนและพูดอย่างเย็นชา
“อยากสู้นักเดี๋ยวสนองให้เอง เพื่อชำระล้างขยะอย่างคุณให้เป็นคนที่ดีมากกว่านี้สักหน่อย” หลินเทียนยิ้ม
“ได้สิ ลูกผู้ดีอย่างแกมันน่าขยะแขยง” เย่เฉินกล่าวขณะแสดงท่าทางเกรี่ยวกราด
ฮ๊าาา!!
เย่เฉินพุ่งเข้าใส่เขา
แต่ก่อนที่เย่เฉินจะเริ่มการโจมตี หลินเทียนได้ชกเย่เฉินด้วยกำลังทั้งหมดของเขา
ตุบ!
เขาไม่สามารถละสายตาได้ แม้ว่าฐานการบ่มเพาะของเย่เฉินจะต่ำกว่าเขา แต่ตัวเอกก็มีความลับและเทคนิคอันทรงพลังมากมายที่สามารถคุมเกมได้
เมื่อเย่เฉินโดนหลินเทียนชก เย่เฉินก็หมดสติอยู่พักหนึ่ง แต่เขาตื่นมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขาเวียนหัวมากในขณะนั้น
'เป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้' เย่เฉินไม่อยากเชื่อว่าตัวเขาจะแพ้
ก่อนที่เขาจะฟื้นตัวเต็มที่ จู่ๆ ก็มีหมัดซัดมาที่ศีรษะของเขาอีกครั้ง
ตุบ!
เย่เฉินเซ และในที่สุดก็หมดสติและล้มลงกับพื้น
______________________
“อะไรเนี่ย ง่ายขนาดนี้เลยหรอ” หลินเทียนกล่าวด้วยความสับสน
ปกติตัวเอกจะแข็งแกร่งมาก และยากมากที่จะเอาชนะ แต่นี่คืออะไร? ง่ายมาก!?
หลินเทียนนั่งลงและตรวจสอบเย่เฉิน ปรากฏว่าเขาหมดสติไปแล้ว
“ไม่ต้องลงแรงอะไรมากก็ดีแล้วล่ะ” หลินเทียน ยิ้ม
จากนั้นเขาก็แบกร่างของเย่เฉินและใส่ลงในถังขยะใกล้ตรอกแคบๆ
อย่างน้อยเขาก็สามารถฆ่าเย่เฉินในตอนนี้ได้แน่ๆ
แต่ก่อนหน้านั้น ระบบเตือนว่าเขาไม่สามารถฆ่าตัวเอกได้ในทันที
ระบบบอกว่าสวรรค์จะลงโทษเขา ถ้าเขาฆ่าตัวเอกตอนนี้
พูดตามตรง เขาไม่รู้เลยว่าทำไมเขาต้องกลัวสวรรค์?
แต่หลังจากที่ระบบเตือนหลายครั้ง หลินเทียนก็ยอมเชื่อในที่สุด
ท้ายที่สุดแล้ว ตัวเอกก็คือตัวแสดงหลักในเรื่อง ถ้าเขาตาย เนื้อเรื่องจะวุ่นวาย
ตัวเอกมีโชคมากมายและเขาเป็นคนที่สวรรค์เลือก
เขาสามารถฆ่าตัวเอกได้ถ้าเขาเอาความโชคดีของตัวเอกทั้งหมดไป
แต่ระบบยังบอกด้วยว่าในอนาคตเมื่อเขามีแต้มทรราชมากมาย เขาสามารถฆ่าตัวเอกได้เลย
__________________________________________
หลังจากโยนร่างของเย่เฉินทิ้งแล้ว หลินเทียนก็ขับรถออกไป
เขาใช้เวลา 10 นาทีเพื่อมาที่สนามฟุตบอล
หลินเทียนมาที่นี่เพราะนี่คือที่ที่เย่เฉินและผู้ฝึกตนวิถีมารต่อสู้กัน
เขาลงจากรถแล้วไม่เจอใครเลย ที่นี่เงียบมาก
แต่เขายังคงรอ ผู้ฝึกตนวิถีมารจะมาที่นี่ในไม่ช้า
________________________________
ในทางกลับกัน สถานที่จัดงานวันเกิดฮั่นเสี่ยวหยู
คนในชุดคลุมสีเขียวน่าสงสัยนั่งอยู่บนเก้าอี้แขก
ดวงตาของเขาจ้องมองที่ฮั่นเสี่ยวหยูอยู่ตลอดเวลา
'เป็นออร่าหยินที่หนามาก ร่างกายแบบนี้ค่อนค่างหายากมาก ไม่คิดว่าจะเจอร่างแบบนี้ในที่แบบนี้'
'ด้วยร่างกายนั้น ข้าจะเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพและฐานการฝึกตนอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่านี่คือหนทางที่พระเจ้าประทานมาให้ข้า'กู่เหิง' ที่จะก้าวสู่เส้นทางแห่งเซียน'กู่เหิงฉีกยิ้มคืดในใจ
จากนั้นเขาก็เดินอย่างเงียบ ๆ ไปทางฝูงชนที่อยู่ใกล้ฮั่นเสี่ยวหยูด้วยเทคนิคการปกปิดออร่าของเขา ทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น
ทันทีที่ทุกคนไม่ได้สังเกต เขาก็เดินไปหา ฮันเสี่ยวหยูทันที และเอาผ้าปิดปากเธอ
ผ้านี่มีพิษที่ทำให้หมดสติหลังจากสูดดมเข้าไป
จากนั้นเขาก็แบกเธอขึ้นบนไหล่ของเขาและวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
“ฮั่นเสี่ยวหยู ถูกใครบางคนลักพาตัวไป!”
“คนลักพาตัว!”
“ฮั่นเสี่ยวหยู ถูกลักพาตัว!”
เสียงกรีดร้องของผู้คนดังขึ้น
ฮั่นเทาที่ได้ยินว่าฮั่นเสี่ยวหยูถูกลักพาตัว เขาก็เมินแขกที่เขากำลังคุยอยู่ด้วยทันที
เมื่อเขาเห็นว่า ฮั่นเสี่ยวหยูไม่อยู่ที่นั่น เขาก็ตื่นตระหนก
เขาเดินเข้าไปที่ฝูงชนและถามอย่างรีบเร่ง
“อะไรนะ ฮั่นเสี่ยวหยูถูกลักพาตัวเหรอ?”
“ใช่ ก่อนหน้านี้เราเห็นคนในชุดคลุมสีเขียวแบก ฮั่นเสี่ยวหยู่ไว้บนบ่าของเขาอย่างรวดเร็ว” หนึ่งในนั้นตอบคำถามของฮั่นเทา
“แล้วทำไมไม่หยุดเขาเล่า!” ฮั่นเทาเขย่าไหล่ของบุคคลนั้น เขากำลังตื่นตระหนกในเวลานี้
“แต่ว่า คนคนนั้นเร็วมาก ฉันคิดว่าเขาเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง การวิ่งของเขาจะเร็วราวกับสายฟ้า ฉันเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาจะไล่ตามผู้ฝึกตนได้อย่างไร” คนๆ นั้นตอบอย่างประหม่า เขากลัวออร่าที่น่าสะพรึงกลัวที่ฮั่นเทาปล่อยออกมา
เมื่อฮั่นเทาได้ยินว่าคนที่ลักพาตัวลูกสาวของเขาคือคนในชุดคลุมสีเขียว เขานึกถึงใครบางคน
มันเป็นผู้ฝึกตนวิถีมารที่อันตรายมาก ชื่อ กู่เหิง ฮั่นเทาได้รับรายงานเกี่ยวกับเขาจากสำนักหกทวารมามากมายเป็นเวลานาน
“ผู้เฒ่าหวัง ได้โปรดโทรหาหลินฮงและให้เรียกบุคลากรชั้นยอดจากสำนักหกทวารมาช่วย เรื่องนี้สำคัญมาก รีบไป!” ฮั่นเทาสั่งผู้เฒ่าหวังข้างหลังเขา
ผู้เฒ่าหวังเป็นหนึ่งในคนรับใช้ในบ้านของตระกูลฮั่นเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง
"ครับ" ผู้เฒ่าหวัง พยักหน้าอย่างจริงจัง
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์และโทรหาหลินฮงทันที
__________________________
“คนร้ายหนีไปไหน” ฮั่นเทาถามคนหนึ่ง
“นั่น ไปทางทิศตะวันออก”
ฮั่นเทาทำใจให้สงบไม่ได้เมื่อลูกสาวสุดที่รักของเขาถูกลักพาตัวไป เขารีบตามกู่เหิงไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เขาจริงจังมาก กู่เหิงแข็งแกร่งมาก เขาเคยต่อสู้กัน และเขาก็แพ้
ยิ่งไปกว่านั้นกู่เหิง เป็นผู้ฝึกตนวิถีมาร ดังนั้นเขาจึงช้าไม่ได้ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
_____________________________________
ในทางกลับกัน.
หลังจากผ่านไปเกือบ 10 นาทีหลินเทียนก็พบผู้หญิงคนหนึ่งบนไหล่ของคนน่าสงสัย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือผู้ฝึกตนวิถีมารและฮั่นเสี่ยวหยู
หลินเทียนขวางทางบุคคลนั้นและกล่าวว่า:
"กู่เหิง การที่ผู้ฝึกตนวิถีมารเช่นคุณกำลังลักพาตัวลูกสาวของบุคคลระดับสูงในสำนักหกทวารเท่ากับคุณกำลังรนหาที่ตายนะรู้ป่าว"