บทที่ 796 รับความยุติธรรมด้วยตนเอง(ตอนฟรี)
บทที่ 796 รับความยุติธรรมด้วยตนเอง
“โอ๊ยย—!”
ด้วยเสียงกรีดร้องของอิจิโร่ วาตานาเบะ จึงดึงดูดสายตาของทุกคนในทันที และในวินาทีต่อมา พวกเขาก็เห็น อิจิโร่ วาตานาเบะ บินกลับหัวกลับหางและล้มลงกระแทกพื้นเหมือนกับลูกมะระกลิ้ง
นอกจากความตกตะลึงแล้ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชาที่หนังศีรษะ อิจิโร่ วาตานาเบะเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วน เขาล้มลงกระแทกกับพื้นแรงขนาดนั้น อวัยวะภายในไม่ไหลมากองรวมกันหมดแล้วหรือ?
ช่วงระยะเวลาหนึ่งไม่มีใครตอบสนองได้ทันเวลา สิ่งที่ทุกคนเห็นมีเพียงประตูของห้องอาหารใหญ่ถูกเปิดออกและมีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงเดินเข้ามาจ้องมองที่อิจิโร่ วาตานาเบะด้วยสายตาเย็นชา จิตสังหารรุนแรงจนทำให้พวกเขารู้สึกหนาวสั่นโดยทันที
เซียวหยูซวนก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่เมื่อเธอเห็นคนๆนั้นอย่างชัดเจน หัวใจของเธอก็ผ่อนคลายลงทันที
“จี้เฟิง! นายนั่นเอง!”
ร่างที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจี้เฟิงที่มารับเซียวหยูซวน
หลังจากที่รู้ว่าเซียวหยูซวนเข้าร่วมงานเลี้ยงนี้จี้เฟิงก็โกรธมาก ระหว่างทางที่ขับรถเขาจึงเพิ่มความเร็วจนถึงขีดจำกัดบวกกับทักษะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมของเขาจึงทำให้เขาใช้เวลาเพียงแค่ประมาณสิบนาทีก็มาถึงที่นี่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงและไม่เห็นเซียวหยูซวนมายืนรออย่างที่คุยกันไว้ หลังจากสอบถามพนักงานอย่างเร่งด่วน จี้เฟิงก็ขึ้นมาที่ชั้นสามทันที แต่เมื่อเขาผลักประตูห้อง เขาก็เห็นฉากที่ทำให้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
จิตสังหารที่รุนแรงพุ่งออกมาจากหัวใจของจี้เฟิงทันที และเขาก็ตบออกไปอย่างแรง
“โอยยย...”
อิจิโร่ วาตานาเบะ ที่ถูกตบจนกระเด็นลอยไปล้มลงกระแทกพื้นนอนขดตัวและร้องคร่ำครวญด้วยเสียงเบาๆพร้อมกับตัวสั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวด
“ไอ้สารเลว!”
ทันใดนั้นน้ำเสียงที่ดุดันและเย็นชาก็ดังขึ้น และจู่ๆก็มีร่างหนึ่งแวบผ่านไป ภายในชั่วพริบตาเงาร่างนั้นก็มาถึงจี้เฟิงตามมาด้วยลมแรง
“ระวัง!”
เซียวหยูซวนร้องตะโกนเสียงดัง
ดวงตาของจี้เฟิงส่องแสงเย็นวาบ เขาไม่ได้เป็นกังวลเลย และชกสวนออกไปโดยอัตโนมัติ
“ตู้ม—!”
ร่างนั้นถูกหมัดของจี้เฟิงชกจนปลิวไปจนกระแทกพื้นอย่างแรง และหมดสติไปทันที
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ร่างนั้นได้เป็นลมหมดสติข้างๆอิจิโร่ วาตานาเบะ เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย!
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นทันที!
ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไป! การใช้หมัดชกมันจะทำให้คนทั้งคนกระเด็นลอยไปแบบนั้นได้ยังไง? และดูเหมือนว่าเขาชกออกไปแบบสบายๆด้วย?!
สมาชิกทั้งหมดจากกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงมีใบหน้าโกรธเคืองทันที เพราะคนที่ถูกส่งไปเมื่อครู่นี้ก็เป็นสมาชิกของกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงเช่นกัน
“บากะ!” จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนจากกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงพ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและเดินไปชี้หน้าจี้เฟิงและตะโกนด่าด้วยภาษาเจี๋ยเผิงอย่างโกรธแค้น “@#%*&$%# ...”
จี้เฟิงไม่ได้โต้ตอบอะไร เขายังคงจ้องมองไปที่อิจิโร่วาตานาเบะที่นอนอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อชายวัยกลางคนถูกจี้เฟิงเมิน เขาก็ยิ่งโกรธจัดและคำรามเสียงดังเป็นภาษาเจี๋ยเผิง
ดวงตาที่เย็นชาของจี้เฟิงกวาดมองไป และทำให้ชายชาวเจี๋ยเผิงหยุดชะงักและตัวแข็งทื่อทันที คำพูดที่เพิ่งจะพูดได้เพียงครึ่งเดียวก็จบลงอย่างกะทันหัน ราวกับไก่ที่กำลังขันแล้วถูกรัดคอโดยฉับพลัน ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงก่ำ แต่เขาไม่กล้าพูดอะไรอีก
ผู้คนของกลุ่มแลกเปลี่ยนเจี๋ยเผิงเดินมารวมตัวกันทันที และมีสองสามคนเดินไปอยู่ด้านหน้าเพื่อช่วยพยุงอิจิโร่ วาตานาเบะกับชายหนุ่มที่นอนหมดสติอยู่ข้างๆอย่างรวดเร็ว และเคลื่อนย้ายพวกเขาไปพักอยู่ด้านข้าง
คนที่เหลือต่างจ้องมองมาที่จี้เฟิงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ผู้คนของสหพันธ์มหาวิทยาลัยก็รีบมาตรงนี้เช่นกัน และคนแรกที่เดินมาก็คือเกาต้าซงที่มีใบหน้ามืดมน เขาตะโกนด้วยความโกรธ “คุณเป็นใคร? ทำไมถึงบุกเข้ามาในงานเลี้ยงของเรา? และทำร้ายแขกของเรา!”
จี้เฟิงเพิกเฉยต่อเขาและหันหน้าไปพูดกับเซียวหยูซวน “หยูซวน ไปหาผู้จัดการโรงแรม แล้วแจ้งเขาว่ามีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น และขอให้พวกเขาจัดเตรียมวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของห้องนี้ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ไว้ด้วย”
“โอเค!”
แม้ว่าเธอจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าการจัดเตรียมที่จี้เฟิงพูดหมายถึงอะไร แต่เซียวหยูซวนก็รีบออกไปทันทีเพื่อจัดการตามที่จี้เฟิงบอก
“หยุด!” เสียงที่เป็นภาษาจีนทื่อๆดังขึ้น จากนั้นหนุ่มสาวสองคนก็เดินแหวกฝูงชนและเดินตรงมาที่จี้เฟิง
ผู้หญิงที่เป็นหนึ่งในสองคนนี้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่มีราคาแพงและดูหรูหรามาก แต่ในดวงตาของเธอมีความโกรธอย่างรุนแรง
ส่วนผู้ชายก็มีสีหน้าที่บึ้งตึงไม่ต่างกัน และดวงตาของเขาก็แผ่จิตสังหารออกมาอย่างรุนแรงเป็นครั้งคราว
จี้เฟิงสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายในทันที แต่เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เขาแค่หันหน้าไปพูดกับเซียวหยูซวนอีกครั้ง “ไปเถอะ เดี๋ยวตรงนี้ฉันจัดการเอง”
เซียวหยูซวนพยักหน้าและเดินออกไป
“ทำร้ายร่างกายคนอื่นแล้วจะหนีออกไปหน้าด้านๆเนี่ยนะ?!” ทันใดนั้นชายหนุ่มก็พุ่งตัวออกไปและยกขาขึ้นเพื่อจะเตะเซียวหยูซวน
“วาบ—!”
แสงเย็นในดวงตาของจี้เฟิงฉายวาบออกมาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้หันหน้ากลับไปมองด้วยซ้ำ แต่ขาของเขากวาดผ่านออกไปอย่างรวดเร็วพอๆกับฟ้าผ่า
“เปรี้ยง—!”
ขาของเขากระแทกเข้ากับเท้าของชายหนุ่ม และด้วยแรงกระแทกที่มหาศาลนั้นทำให้ชายหนุ่มที่ถูกจี้เฟิงเตะสวนกระเด็นลอยออกไปทันที แต่ชายหนุ่มคนนั้นดูเหมือนจะมีทักษะที่ค่อนข้างดี เขาหมุนตัวกลางอากาศและลงสู่พื้นอย่างมั่นคง
จี้เฟิงเหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจทันที และกล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะ “ไม่แปลกใจเลยที่คุณกล้าทำตัวหยิ่งผยอง ปรากฏว่าพอจะมีทักษะอยู่บ้างนี่เอง!”
“ฉันชื่อซาซากิ เป็นตัวแทนของเจี๋ยเผิง!” ชายหนุ่มมองไปที่จี้เฟิงอย่างเคร่งขรึม “คุณเป็นใคร?!”
เพียงแค่เห็นการเคลื่อนไหว ผู้ที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริงก็จะรู้ได้ทันที
ขาที่รวดเร็วดุสายฟ้าของจี้เฟิงทำให้ซาซากิรู้ว่าจี้เฟิงเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ระดับปรมาจารย์อย่างแน่นอน เพราะคงมีไม่กี่คนในโลกใบนี้ที่สามารถหยุดเขาอย่างง่ายดาย แม้ว่าเมื่อครู่นี้เขาจะไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ก็ตาม แต่ไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ธรรมดาสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน!
แต่ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ตรงหน้าเขาคนนี้สามารถตอบโต้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทำให้ซาซากิรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที
จี้เฟิงเพิกเฉยซาซากิ เขาชี้ไปที่อิจิโร่ วาตานาเบะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่สนหรอกว่าคุณเป็นใคร แต่ถ้าอยากจะให้เรื่องจบคือคุณจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉัน ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันจะทำสิ่งที่คุณจะต้องรู้สึกเสียใจทีหลังอย่างแน่นอนที่ไม่เลือกทางแรก!”
ในความเป็นจริง ความรู้สึกโกรธในหัวใจของจี้เฟิงนั้นเป็นสิ่งที่เขาแทบจะทนไม่ได้ เซียวหยูซวนเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาต่างประเทศ ไม่ได้เป็นล่ามมืออาชีพ อีกทั้งภาษาเจี๋ยเผิงก็ยังไม่ใช่วิชาเอกของเธอ แต่กลับถูกเรียกใช้ให้มาเป็นล่ามที่ได้ค่าแรงที่แสนต่ำ แม้ว่าจี้เฟิงจะคิดว่ามันแปลก แต่เป็นเพราะเซียวหยูซวนเต็มใจที่จะทำ เขาจึงไม่อยากพูดอะไรมาก
อย่างไรก็ตาม ไอ้คนพวกนี้ยังต้องการให้เธอมาเป็นล่ามในงานเลี้ยงอีก! พวกมันคิดว่าเธอเป็นอะไร? เด็กเชียร์แขกหรือโสเภณีประจำร้านเหล้า?!
จี้เฟิงที่รู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับเซียวหยูซวนจึงได้รีบขับรถมารับเธอ แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นฉากที่ทำให้เขาโกรธจริงๆ ไอ้อ้วนนั่นต้องการใช้ประโยชน์จากเซียวหยูซวน!
“ให้ตายสิ! ความแข็งแกร่งของคุณทำให้คุณกลายเป็นคนยิ่งใหญ่จนมองไม่เห็นหัวคนอื่นสินะ!” ซาซากิยิ้มบางๆ แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
“ไสหัวมาตรงนี้ มาคุกเข่าขอโทษ!” จี้เฟิงยังคงเมินซาซากิและพูดกับวาตานาเบะอย่างเย็นชา อย่างไรก็ตาม จี้เฟิงไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน เซียวหยูซวนกำลังไปหาผู้จัดการโรงแรมเพื่อรับวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ถ้าเขาออกจากที่นี่ในตอนนี้ เขาอาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ไอ้ชาติชั่ว!” แก้มของวาตานาเบะบวมเป่งและเป็นรอยมือสีแดง ทันทีที่เขาอ้าปากตะโกนด่า ฟันของเขาก็หลุดออกมาสองสามซี่
การตบของจี้เฟิงทำให้ฟันของเขาโยกและหลุดออกมาหลายซี่
วาตานาเบะมองไปที่จี้เฟิงอย่างโกรธจัด แต่เมื่อเห็นสายตาของจี้เฟิง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ดวงตาของชายหนุ่มตรงหน้าเขามันคมกริบราวกับสัตว์ป่าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อทุกเมื่อ
บรรยากาศในตอนนี้ดูอึมครึมมาก มีเพียงเกาต้าซงที่ยังคงคำราม “โทรแจ้งตำรวจเร็วเข้า! โรงแรมปล่อยให้มีคนบ้ามาอาละวาดทำร้ายแขกชาวเจี๋ยเผิงของเราแบบนี้ได้ยังไง!”
“ไปให้พ้น!” จี้เฟิงพูดสั้นๆด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม
“ว่าไงนะ?!” เกาต้าซงตกใจ และไม่ได้ตอบกลับไปชั่วขณะ
“อย่าบังคับให้ฉันโยนคุณออกไป!” จี้เฟิงพูดอย่างเย็นชา
“นาย...” เก้าต้าซงต้องการจะพูด แต่เมื่อเขามองไปที่ดวงตาอันเย็นชาของจี้เฟิง เขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว และไม่สามารถพูดคำต่อไปได้
“คุณ!” จี้เฟิงชี้ไปที่อิจิโร่ วาตานาเบะที่อยู่ไม่ไกล “อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำๆ มาคุกเข่าตรงนี้!”
“คุณยิ่งใหญ่มาจากไหนถึงพูดกับหัวหน้าพวกเราแบบนี้? คุณรู้ตัวหรือไม่ว่าคำพูดของคุณเท่ากับการดูหมิ่นชาวเจี๋ยเผิงทั้งหมด!” คาวากิ ไยโกะ ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “คุณจะก่อข้อพิพาทระหว่างสองประเทศจริงๆน่ะหรือ?”
“ฉันจะไม่พูดซ้ำอีก!” จี้เฟิงพูดอย่างเย็นชา “ฉันให้เวลาก่อนที่อาจารย์เซียวจะกลับมา ถ้าคุณยังไม่มาคุกเข่าขอโทษ ก็อย่าหวังว่าจะได้เดินออกไปจากที่นี่แบบครบ 32!”
จี้เฟิงไม่ได้ตะโกน เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ยินเสียงของเขาดังก้องอยู่ในหูอย่างชัดเจน และภายใต้น้ำเสียงที่สงบนั้นก็แฝงไปด้วยจิตสังหารอย่างไม่ปิดบัง!
“งั้นเพื่อไม่ให้คุณต้องเสียเวลารอ ฉันขอบอกเลยว่าหัวหน้าของเราจะไม่ขอโทษคุณ!” ซาซากิที่ยืนอยู่ตรงหน้าจี้เฟิงพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มจางๆ “เชื่อฉันเถอะ สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ตอนนี้มันไม่ได้เป็นประโยชน์กับคุณแม้แต่น้อย!”
“ไม่ต้องมาแส่!” จี้เฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
“แล้วคุณจะต้องเสียใจ!” ใบหน้าของซาซากิเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมและกล่าวอย่างเย็นชา
จี้เฟิงไม่ได้สนใจซาซากิเลยแม้แต่น้อย เขายังคงจ้องมองไปที่อิจิโร่ วาตานาเบะอย่างเย็นชา ถ้าเป็นเรื่องอื่น เขาอาจจะพอทนได้ แต่เรื่องแบบนี้เขาจะไม่ทนอย่างแน่นอน!
“น้องชาย หากมีปัญหาอะไรเราควรแก้ไขกันด้วยเหตุผลและกฎหมายดีมั้ย ความรุนแรงมันแก้ปัญหาไม่ได้หรอกนะ!” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ผู้นำของสหพันธ์มหาวิทยาลัยก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ใครผิดใครถูกยังไงก็ปล่อยให้ตำรวจสอบสวนไป ดีมั้ย?”
“ใช่! พวกเรากำลังจัดงานเลี้ยงกันอยู่ดีๆ แต่การกระทำของคุณมันไร้มารยาทและเลวทรามมาก สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสหพันธ์มหาวิทยาลัยของเราเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายให้แก่ชื่อเสียงของประเทศชาติด้วย เราควรให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมเป็นอันดับแรก!” ผู้นำอีกคนกล่าวเสริม
“ตึก ตึก ตึก—!”
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้น และเซียวหยูซวนก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
จี้เฟิงถามทันที “ได้วิดีโอมามั้ย?”
“ฉันได้มาแล้ว!” เซียวหยูซวนพยักหน้าเล็กน้อย ในความเป็นจริง รปภ.ที่อยู่ในห้องตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่เนื่องจากเห็นว่ามีชาวต่างชาติอยู่และไม่ได้มีการแจ้งเหตุ พวกเขาจึงไม่กล้าออกตัวแรงมาก และพอเซียวหยูซวนไปขอบันทึกวิดีโอของกล้องวงจรปิด อีกฝ่ายก็ตกลงทันที”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย “เอาล่ะ! เส้นตายที่ฉันให้ไว้ได้สิ้นสุดลงแล้ว ในเมื่อคุณไม่ขอโทษ ฉันคงต้องหาความยุติธรรมด้วยตัวเอง!”
…จบบทที่ 796~❤️