ย้อนเวลากลับสู่วันโลกาวินาศ ตอนที่ 144 ข่มขู่? นี่แกกำลังข่มขู่ฉันคนนี้อยู่งั้นเหรอ!!
ตอนที่ 144 ข่มขู่? นี่แกกำลังข่มขู่ฉันคนนี้อยู่งั้นเหรอ!!
7 ชั่วโมง หลังจากหลินฟานเดินทางออกมาจากค่ายมณฑลซานต๋า
ภายในรถฮัมวี่ หลินฟาน หลี่หมิง หนิงซิวเย่ และเวโรนิก้า กำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน
ก่อนออกเดินทางหนิงซิวเย่กับเวโรนิก้ามาหาหลินฟาน และบอกอยากจะออกมาด้วย หลินฟานเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยให้พวกเธอตามมา อีกอย่าง การพาพวกเธอมาถือว่าเป็นประโยชน์ด้วย หากหมู่บ้านเป็นแบบที่ซูเป่ยเล่าให้ฟังจริง ๆ
หลินฟานมั่นใจว่า ถ้าทั้ง 2 คน เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งนั้น พวกเธอทั้ง 2 คน คงมีจิตใจแข็งขึ้นไม่มากก็น้อย
โดยเฉพาะเวโรนิก้า เธอยังไม่เคยฆ่าคนเลยสักครั้ง
“พวกเรามาถึงทางเข้าแล้วครับ ซ่า…”
วิทยุในมือหลี่หมิงดังขึ้น
หลินฟานลุกขึ้นทันที แล้วพูดว่า
“ไปกันเถอะ”
….
ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาที
ภายในห้องขนาดใหญ่สักห้อง ในหมู่บ้านต้นข้าว
ปัก!!!
ชายคนหนึ่งผลักประตูด้วยท่าทางตื่นตูม เขารีบวิ่งเข้าไปทางเตียงขนาดใหญ่ในห้องด้วยความเร็วเต็มที่ที่เขาสามารถทำได้ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า
“หัวหน้าหมู่… ไม่สิ! องค์จักรพรรดิตอนนี้แย่แล้วครับ คนของเราเห็นรถทหารจำนวนมากกำลังตรงมาทางนี้ คาดว่าพวกมันคงมีไม่น้อยกว่า 1,000 คน แถมยังมีรถฮัมวี่และรถ IFV มาด้วย”
ชายอายุประมาณ 50 ปี รูปร่างใหญ่ ท่าทางแข็งแรง ผลักผู้หญิง 2 คน ที่เขากำลังนอนกอดอยู่ออกจากตัวเอง ชายคนนี้คืออดีตหัวหน้าหมู่บ้านต้นข้าว ตอนนี้สถานะของเขาก็คือ องค์จักรพรรดิหวังที่ 1 ส่วนชื่อก็คือ หวังหยาน!
“แกจะตื่นตูมไปทำไม พวกเราไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้พวกมันสักหน่อย พวกมันมาก็แค่ให้ความร่วมมือให้พวกมันผ่านทางก็พอ เรื่องที่มีกองกำลังเดินทางผ่านหมู่บ้านครั้งนี้มันครั้งแรกซะที่ไหน ไปจัดเตรียมอาหารเอาไว้ให้พวกมันซะ”
หวังหยานพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น ขอแค่อีกฝ่ายไม่รู้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้มีต้นข้าวกลายพันธุ์ อีกฝ่ายก็จะผ่านไปเฉย ๆ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ตลอด
ตั้งแต่เกิดวันโลกาวินาศขึ้น มีกองกำลังหลายกองกำลังเดินทางผ่านหมู่บ้านต้นข้าว มีทั้งกองกำลังขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ และเมื่อหวังหยานเสนออาหารและน้ำให้กับอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็จะยอมจากไปดี ๆ ทั้งหมด
ขอแค่ปิดบังไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าหมู่บ้าต้นข้าวแห่งนี้มีต้นข้าวกลายพันธุ์ แค่ให้อาหารนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องปะทะแล้ว หวังหยานแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้มาตลอด และครั้งนี้เองเขาก็คิดว่าปัญหาจะแก้ง่าย ๆ แบบที่ผ่านมา
….
กลับมาสถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อหลินฟานเดินลงจากรถก็มีกลุ่มผู้ชาย 5 คน ยืนรออยู่หน้าประตูหมู่บ้าน ครั้งนี้หลินฟานเดินลงมากับพวกหนิงซิวเย่ เขายังไม่ได้ให้ซูเป่ยเดินลงมาด้วย
เหตุผลที่หลินฟานไม่ให้ซูเป่ยเดินลงมาก็เพื่อป้องกันเอาไว้ เพราะถ้าอีกฝ่ายเลือกจับครอบครัวของซูเป่ยเป็นตัวประกันในระหว่างต่อสู้ มันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเอา ถึงหลินฟานจะไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนอื่น ๆ เท่าไหร่
แต่ในกรณีของซูเป่ยมันแตกต่างออกไป หลินฟานไม่ใช่คนที่จะลืมบุญคุณคนง่าย ๆ ข้อมูลที่ซูเป่ยเอามาบอกเขาครั้งนี้เป็นข้อมูลที่มีค่าอย่างมาก หลินฟานเลยเลือกใส่ใจกับซูเป่ยเป็นพิเศษ
“ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านต้นข้าวของพวกเรา”
ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 30 ปี พูดกับหลินฟานด้วยใบหน้ายิ้ม
คนที่พูดออกมาคือ 1 ใน 5 คน ที่ยืนรอหลินฟานอยู่ และการแต่งตัวของคนที่พูดออกมาก็แปลกประหลาด… ไม่สิ! พูดให้ถูกคือการแต่งตัวเลียนแบบราชวงศ์ถึงจะถูก เสื้อผ้าสีเหลืองทอง บนชุดปักลายมังกรกำลังบิน
หลินฟานยอมรับว่าเสื้อผ้าเลียนแบบได้เหมือนจริง ๆ แล้วเขาอยากถามด้วยว่า ไปเอาเสื้อแบบนี้มาจากไหน? ชุดแบบนี้ไม่น่าจะหาได้ในวันโลกาวินาศแบบนี้แน่ ๆ แต่เขาก็เงียบเอาไว้ เรื่องชุดมันไม่ได้สำคัญสำหรับเขา
ชายคนนั้นพูดต่อ
“ ฉันคือองค์รัชทายาทของราชวงศ์หวัง หวังเทียน! พวกเราราชวงศ์หวังได้ยึดหมู่บ้านแห่งนี้เป็นอาณาเขตปกครองแล้ว หากพวกคุณต้องการผ่านพวกเราสามารถให้ผ่านทางได้ แต่หลังจากเข้าหมู่บ้านต้นข้าวพวกคุณต้องทำตามกฎของเรา
“อีกอย่าง องค์จักรพรรดิหวังที่ 1 มีจิตใจดี ท่านสั่งมาว่าให้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พวกเราจะให้อาหารและน้ำกับพวกคุณด้วย แต่… ถ้าพวกคุณมาแบบไม่เป็นมิตรก็อย่าหาว่าราชวงศ์หวังของเราเสียมารยาท”
เมื่อหวังเทียนพูดจบ บนหน้าอกของหลินฟานและคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านหลังก็มีแสงเลเซอร์สีแดงส่องเข้าหา แสงสีแดงที่ส่องพวกหลินฟานอยู่ตอนนี้เป็นแสงเลเซอร์จากปืน
แต่ถึงจะโดนข่มขู่จากปืนหลินฟานก็ไม่ได้ตื่นตูม หลินฟานก็คิด ๆ เอาไว้แล้วว่าเรื่องต้องเป็นแบบนี้ ข้อมูลที่หลินฟานได้จากซูเป่ยเป็นเพียงข้อมูลจากคนชนชั้นล่างเท่านั้น ไม่แปลกที่ซูเป่ยจะไม่รู้ว่าพวกผู้ใหญ่บ้านมีอาวุธดี ๆ
ถ้าถามว่าอาวุธปืนทันสมัยพวกนี้มาจากไหน หลินฟานก็สามารถตอบคำถามได้ง่าย ๆ โดยที่เขาไม่ต้องคิดอะไรเลย คำตอบที่หลินฟานคิดได้ก็คือ พวกมันโดนแลกเปลี่ยนมา หัวหน้าหมู่บ้านคงมอบข้าวจำนวนมากให้กับกองกำลังที่เดินทางผ่านมา และขอปืนจากพวกนั้นเป็นการตอบแทน
ที่ไปที่มาของปืนเหล่านี้ หลินฟานสามารถหาคำตอบได้ง่าย ๆ
หลินฟานแสยะยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า
“นี่แกกำลังขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ? เหอะ!!”
พูดจบหลินฟานก็ค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้น
จากนั้นทหารกองทัพตระกูลหลินก็ทำแบบเดียวกัน เลเซอร์จำนวนหลายสิบสายส่องไปทางพวกหวังเทียน แต่จำนวนมันต่างกันเยอะ พวกหลินฟานโดนส่องคนล่ะสายเท่านั้น แต่หวังเทียนและคนอื่น ๆ อีก 4 คน ที่อยู่ข้าง ๆ ต่างโดนส่องคนล่ะประมาณ 10 สาย
หวังเทียน และอีก 4 คน หน้าซีดขาวเหมือนไก่ต้มเพราะความกลัว พวกเขาสามารถบอกได้เต็มปากเลยว่า ถ้าโดนยิงจากปืนหลายสิบกระบอกที่กำลังส่องตัวเองอยู่ พวกเขาต้องพรุนเป็นรังผึ้งกันแน่นอน