ตอนที่ 73 พบกับศัตรู
ทัวร์นาเมนต์การต่อสู้ดำเนินต่อไป
เมื่อการแข่งขันดำเนินไป เฉินเหิงก็มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ และชื่อของเขาก็ถูกบอกเล่าต่อผู้คนจำนวนมาก
สไตล์ของเขาเป็นที่รู้จักกันดี ตั้งแต่เริ่มต้น เขาใช้วิธีที่เร็วที่สุดในการยุติการต่อสู้เสมอ การกระทำของเขาเปรียบเหมือนสายน้ำและดูราบรื่นพริ้วไหวอย่างไม่น่าเชื่อ
ระหว่างการต่อสู้ก็มีการปะทะกับอัศวินคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน
แน่นอนว่าส่วนใหญ่ไม่ใช่อัศวินที่แท้จริงและเป็นเพียงอัศวินฝึกหัดเท่านั้น
อัศวินฝึกหัดเหล่านี้มาจากภูมิหลังที่หลากหลาย มีทั้งลูกน้องของโอลิเวียเองและที่มาจากตระกูลใหญ่ต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโดยมีเป้าหมายของตัวเอง
ในบรรดาอัศวินฝึกหัดจำนวนมาก มีบางคนที่ค่อนข้างทรงพลัง
เพียงแต่เพราะพวกเขาได้เผชิญหน้ากับเฉินเหิง อัศวินฝึกหัดเหล่านั้นทั้งหมดจึงต้องพ่ายแพ้ออกไป แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาก็ยังไม่สามารถต่อสู้กับเฉินเหิงได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ และพวกเขาทั้งหมดก็ถูกจัดการลงได้อย่างหมดจด
ไม่กี่วันผ่านไป
ในไม่ช้า เฉินเหิงก็กำลังจะได้เผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้คนสุดท้ายของเขา
เขาคือเดลาโนแห่งอาณาจักรโอลิส
เดลาโนเป็นอัศวินแห่งอาณาจักรโอลิส และเขาเป็นตัวแทนของเจ้าชายกริธในครั้งนี้
ในความเป็นจริง ทุกคนรวมทั้งเฉินเหิงรู้ว่าเป้าหมายของอัศวินคนนี้ในการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์คืออะไร
แน่นอนว่านั่นคือการทำให้โอลิเวียเสียหน้า
ทัวร์นาเมนต์การต่อสู้เป็นโอกาสที่จะอวดพลังการต่อสู้ของพวกเขา และทั้งโอลิเวียหรือกริธจะไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไป
ยิ่งไปกว่านั้น จากมุมมองของการทำลายแผนการของคู่ต่อสู้ ยิ่งโอลิเวียต้องการทำบางสิ่งมากเท่าไหร่ กริธก็ยิ่งไม่ยอมให้เธอประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงส่งเดลาโนออกมา
“นี่มันค่อนข้างลำบากนะ…” ชายวัยกลางคนถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่มองไปยังอัศวินวัยกลางคนก็ก้าวออกมา
ไม่ใช่แค่โอลิเวียและคนอื่น ๆ ที่มาร่วมทัวร์นาเมนต์การต่อสู้ครั้งนี้ แม้แต่ขุนนางอย่างเคลลี่ก็มาด้วย
คนที่พูดคือชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างเคลลี่
“ท่านพ่อ…”
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มองลงมาที่อัศวินวัยกลางคน เคลลี่อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ทำไมฝ่าบาทถึงส่งไคลินออกไปต่อสู้? เธอไม่รู้เหรอ…”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่าบาทคิดอะไรอยู่ แต่มีความเป็นไปได้อยู่สองสามอย่าง” ชายวัยกลางคนกล่าวขณะที่ส่ายหัว “บางทีเธออาจไม่ต้องการให้อัศวินของเธออีกคนถูกปราบ แล้วทำให้ต้องเสียหน้า”
“แม้ว่าไคลินจะแพ้ แต่ไคลินก็ยังไม่ใช่อัศวินที่แท้จริง ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าเขาจะแพ้หรือป่าว”
“ท้ายที่สุด เขากำลังต่อสู้ในฐานะอัศวินฝึกหัดและเผชิญหน้ากับอัศวินที่แท้จริง แม้ว่าเขาจะแพ้ มันก็จะไม่น่าละอายสำหรับเขา”
นั่นคือสิ่งที่เขาคาดเดา
“แต่ไคลิน เขา…” เคลลี่ถอนหายใจ และเมื่อมองไปยังเฉินเหิงที่ปรากฏออกมาจากอีกด้านหนึ่ง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล
เฉินเหิงขี่ม้าของเขามาที่เวทีจากอีกด้านหนึ่ง
เขาค่อย ๆ ขี่ม้าไปที่ศูนย์กลางเวทีและมองไปยังคู่ต่อสู้ของเขา
ข้างหน้าเขามีอัศวินที่ดูน่าสนใจอยู่
เขาเป็นอัศวินวัยกลางคนที่สวมชุดเกราะหนัง ใบหน้าของเขาค่อนข้างดำคล้ำและมีรอยแผลเป็นมากมาย
สายตาของเขาเฉียบแหลมราวกับนกอินทรี ทำให้ผู้คนรู้สึกเคารพและหวาดกลัวเขาตามสัญชาตญาณ
จากออร่าของเขา เขาดูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เมื่อมองไปที่คน ๆ นี้ สายตาของเฉินเหิงยังคงสงบและข้อมูลของคน ๆ นี้ก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา
เดลาโนเป็นหนึ่งในอัศวินของอาณาจักรโอลิส และภายในอาณาจักรโอลิส เขาจัดเป็นอัศวินระดับสูง
จากข้อมูล อัศวินผู้นี้เอาชนะอัศวินคนอื่น ๆ ได้ในการเผชิญหน้ากันตรง ๆ ในแง่ของพลังการต่อสู้ เขาสูงกว่า มาเดอร์ในอดีตมาก
ไม่น่าแปลกใจที่โอลิเวียจะส่งเฉินเหิงออกมารับมือ
ทัวร์นาเมนต์การต่อสู้ไม่อนุญาตให้ผู้แข่งขันคร่าชีวิตของคู่ต่อสู้
แม้ว่าเฉินเหิงจะแพ้ แต่ตราบใดที่เขายอมจำนนได้ทันเวลาก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับอัศวินหน้าใหม่อย่างเขา เขาไม่จำเป็นต้องเอาชนะอัศวินเดลาโน เขาเพียงแค่ต้องยืนหยัดต่อสู้กับอัศวินเดลาโนให้ได้เป็นระยะเวลาหนึ่งและทำให้การต่อสู้ดูน่าตื่นเต้น
เขาเป็นเพียงอัศวินหน้าใหม่ ดังนั้นคนอื่น ๆ จึงไม่ได้คาดหวังอะไรกับเขา แม้ว่าเขาจะแพ้ พวกเขาก็จะยกย่องเขาที่มีพรสวรรค์แบบนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย และจะไม่พูดอะไรเสียหายเกี่ยวกับความพ่ายแพ้ของเขา
ยังไงซะมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อัศวินหน้าใหม่จะแพ้ให้กับอัศวินที่มีชื่อเสียงซึ่งทำผลงานมามากแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับโอลิเวีย แม้ว่าเฉินเหิงจะพ่ายแพ้ คนอื่น ๆ ก็จะแค่พูดถึงว่าเธอได้รับเอาอัศวินอัจฉริยะอันทรงพลังเข้ามาอยู่ใต้คำสั่งเธอเท่านั้น
นี่คือข้อดีของการเป็นเด็กและมีประสบการณ์น้อย
แม้จะแพ้ก็ไม่เป็นไร แต่สุดท้ายแล้ว แพ้ก็คือแพ้ มันจะเปรียบเทียบกับชื่อเสียงจากชัยชนะได้ยังไง?
ชื่อเสียงและเกียรติยศคือสิ่งที่เฉินเหิงต้องการ
“ไม่ต้องเปลืองคำพูด”
ข้างหน้า เดลาโนพูดอย่างใจเย็นว่า “มาเริ่มกันเลยดีกว่า แสดงให้ฉันเห็นว่าคุณมีพลังมากแค่ไหน”
เฉินเหิงไม่ตอบและเพียงแค่พยักหน้าตอบรับ และพวกเขาก็ขี่ม้าพุ่งเข้าหากันพร้อม ๆ กัน
ปัง
ในเวลาต่อมา ดาบของพวกเขาก็ตกลงมาและปะทะกันกลางอากาศทำให้เกิดเสียงดังขึ้น
เมื่อเผชิญหน้ากับเดลาโน อัศวินที่แท้จริง เฉินเหิงไม่ได้ใช้ทวนและเขาชักดาบออกมาแทน
“คุณ!”
เมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งจากดาบของเฉินเหิง สีหน้าของเดลาโนก็เปลี่ยนไป
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่มาจากร่างกายของเฉินเหิงได้อย่างชัดเจน
พลังนั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก และไม่ใช่สิ่งที่อัศวินฝึกหัดจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้ มันไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังของเขาเลย
เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างในทันที
“เข้าใจแล้วใช่ไหม”
ต่อหน้าเขา เสียงของเฉินเหิงดังขึ้น “น่าเสียดายที่สายเกินไปแล้ว”
ขณะที่เขาพูด ร่างของเฉินเหิงเริ่มงอลงเล็กน้อย เขาแสดงท่าทางที่ไม่เหมือนใครและดาบสีเงินของเขาก็ฟันลงมาด้วยพละกำลังอันป่าเถื่อน
การโจมตีของเขามีพลังที่น่าสะพรึงกลัวมากและทำให้เกิดลมกระโชกแรง
ปัง
เดลาโนรีบถอยกลับไป เนื่องจากความมั่นใจในตัวเองที่มากเกินไป เขาจึงเสียเปรียบและถูกเฉินเหิงปราบปรามลง
ภายในอารีน่า ร่างทั้งสองปะทะกันหลายครั้ง ทำให้เกิดเสียงดังและลมกระโชกแรงอย่างต่อเนื่อง
การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น แต่ทั้งสองคนก็ต่อสู้กันอย่างดุเดือด
ดาบยาวพุ่งปะทะกันอย่างต่อเนื่อง และการโจมตีในแต่ละครั้งของพวกเขา หากเป็นคนธรรมดาที่โดนเข้าไปจะทำให้ร่างกายของคน ๆ นั้นแยกออกจากกันและกลายเป็นชิ้นเนื้อได้ทันที
ขณะที่พวกเขาต่อสู้ต่อไป ดาบของพวกเขาก็ฉายแสงสีขาวออกมา มันคือการสำแดงของพลังงานชีวิต