Ep.368 - มหาสงครามเริ่มต้นอีกครั้ง
1/3
Ep.368 - มหาสงครามเริ่มต้นอีกครั้ง
ฮังอวี่ทำการเรียนรู้เทคนิคโยกย้ายจนเลเวลเต็ม
เทคนิคโยกย้้ายสามารถเทเลพอร์ตได้ในชั่วพริบตา ผลของมันคล้ายคลึงกับเทคนิคบลิงค์
อย่างไรก็ตาม
เจ้าสิ่งนี้ใช้กับตัวเองไม่ได้ แต่จะส่งผลต่อวัตถุแทน มีประโยชน์ทั้งในด้านป้องกันและเป็นตัวช่วยที่ดี
แม้ว่ามันจะเป็นสกิลขั้น 1
แต่ถ้าใช้งานดีๆ สามารถมีบทบาทสำคัญ
“สืบทอดมรดกขั้น 1 จอมเวทย์บลิงค์สำเร็จแล้ว!”
[จอมเวทย์บลิงค์] มรดกขั้น 1 , สติปัญญา +2 , จิตวิญญาณ +3 , ค่าพลังจิต +4
สำหรับมรดกขั้น 1 เอฟเฟกต์ที่ช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติค่อนข้างจำกัด
ค่าคุณสมบัติสติปัญญาไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฮังอวี่ ยังไงก็ตาม ค่าคุณสมบัติจิตวิญญาณและค่าพลังจิตนั้นมีประโยชน์มาก มีเพิ่มไว้ก็ดีเหมือนกัน เพราะมันจะช่วยให้การใช้งานสกิลระหว่างสู้รบของฮังอวี่ยาวนานขึ้น
หลังจากนั้น ฮังอวี่เรียนรู้สกิลขั้น 3 อื่นๆที่ซื้อมาอันได้แก่สังหารลมกรด , ปราณกระบี่ลมกรด และกายาเกราะ
พลังรบของเขาพัฒนาได้อีกขั้น
แน่นอน
แค่เรียนรู้สกิลทั้ง 3 นี้ ก็ต้องจ่ายแต้มวิญญาณไปมหาศาลแล้ว หากต้องอัพเลเวลสกิลขั้น 3 ให้เต็มทั้งหมดในคราเดียว เกรงว่าคงไม่พอ
เพราะงั้นเรื่องสืบทอดมรดกนักรบเงาลมกรด คงต้องวางมันไว้เบื้องหลังก่อน
ฮังอวี่ใช้หินคริสตัลที่เหลือซื้อสูตรโพชั่นฟื้นฟูระดับกลาง บวกกับเม็ดยาสัตว์วิญญาณอีกนิดหน่อย
อย่างแรกมีไว้เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มมังกรฟ้า ปัจจุบันเริ่มมีนักผจญภัยเลเวล 10 เพิ่มมากขึ้น เห็นได้ชัดว่าโพชั่นฟื้นฟูระดับต่ำไม่สามารถตอบสนองต่อการบริโภคได้ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่จะยกเรื่องการผลิตโพชั่นขั้นกลางเข้าสู่วาระการประชุม
อย่างหลังซื้อไว้ให้หวังเอ๋อ เพราะมันใกล้วิวัฒนาการอีกครั้ง
เม็ดยาสัตว์วิญญาณสีเขียวสามารถช่วยเร่งกระบวนการนี้ได้ และที่ผ่านๆมาเจ้าหมาทำได้ดี ช่วยแบ่งเบาภาระให้ฮังอวี่มากมาย ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องมอบประโยชน์ให้กับมันบ้าง
หลังจากนั้นเขายังช่วยซูหยุนปิงกับคนอื่นๆซื้อของที่ต้องการ
สำหรับฮังอวี่ จุดประสงค์ของการช็อปปิ้งในครั้งนี้ถือว่าลุล่วงไปด้วยดีแล้ว
เขาพบว่าสินค้าที่พ่อค้าลึกลับนำมานั้นเริ่มมีจำกัด
ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นของเมืองหุบเขาเดียวดาย ทำให้ของหมดเอาง่ายๆ ผู้คนจำนวนมากไม่ได้ซื้อในสิ่งที่ต้องการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่แถวหลังๆ
ฮังอวี่พิจารณาว่าจะเพิ่มเกณฑ์สำหรับการเข้าร่วมในการซื้อ เขาอาจทำให้ร้านค้าลับเป็นบริการพิเศษประจำเมืองหุบเขาเดียวดาย เก็บค่าซื้อขายจากทุกคน นี่อาจทำเงินได้ดี สามารถสร้างโบนัสเล็กๆมาสู่ตัวเอง
ฮังอวี่เอ่ยถาม “เพื่อนบ้านของเรามีการเคลื่อนไหวยังไงบ้าง?”
ฉูเทียนหัวตอบว่า “ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ยังไงก็ตามน่าจะอีกไม่นานแล้ว หน่วยสอดแนมของพวกเราตรวจเจออยู่หลายครั้ง ว่าพวกมันกำลังระดมกำลังพล จะบุกเข้าโจมตีเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา”
“จับตาดูให้ผมต่อไป” ฮังอวี่กล่าว “บอกทุกคนให้ระวังเรื่องเวลาออนไลน์หลังจากนี้ด้วย ถ้าออฟไลน์ต้องพร้อมรับสายตลอดเวลา”
ฉูเทียนหัวกล่าว “รับทราบ!”
จ้าวหมิงเดินเข้ามาและพูดว่า “ตั้งแต่เมื่อวาน จำนวนสมุนทหารของเมืองหุบเขาเดียวดายเต็มแล้ว พวกเราควรขยายเพดานการสร้างทหารไหม?”
ทหาร 2000 นายถูกสร้างครบแล้วหรือ?
ฮังอวี่คิดพักหนึ่งแล้วกล่าวว่า “ตอนนี้พวกเรามีวัสดุเหลืออยู่เท่าไหร่?”
“จำนวนวัสดุพื้นฐานทั้ง 5 อย่างมีประมาณ 20000 ชิ้น” จ้าวหมิงกล่าว “ส่วนใหญ่ได้มากจากสงครามครั้งก่อน รองลงมาได้จากการนำเข้าจากโลกจริง ถ้าพวกเราทุ่มเต็มที่ อย่างมากที่สุดสามารถอัพเกรดอาคารที่พักได้ครึ่งหนึ่ง หรือเพิ่มเพดานทหารได้ราวๆ 1000 นาย”
แน่นอน
แม้กล่าวว่ามีวัสดุที่ใช้สร้างทหารจำนวนไม่น้อยมาจากโลกจริง แต่วัสดุในเจียงเฉิงโดยทั่วไปแล้วมีเลเวลไม่เกิน 6 7 เท่านั้น พวกมันเลยต้องผ่านกระบวนการกลั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้มาตรฐานเลเวล 10
“อืม ไม่ต้องใส่ใจเรื่องวัสดุพื้นฐานมากเกินไป ส่งพวกมันทั้งหมดให้ผม พวกเราจะอัพเกรดความจุประชากรของเมืองกันก่อน แล้วขยายกองกำลังทหารต่อไป เกณฑ์การสร้างหารหลังจากนั้น ขอให้เน้นไปที่ทหารราบ 50%!”
“รับทราบ!”
คนอื่นๆไม่ได้อยู่เฉย
คนที่ควรอัพเลเวลก็รีบอัพเลเวลอย่างรวดเร็ว
คนที่ควรอัพเลเวลสกิลก็เร่งมือโดยเร็วที่สุด
บรรดาผู้ที่ควรเตรียมโพชั่น คัมภีร์ และอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้
ทุกคนต่างรอคอยที่จะมีส่วนร่วมในสงครามครั้งต่อไป
และไม่ต้องรอนาน
เพื่อนบ้านแสนดีของเมืองหุบเขาเดียวดายก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
ในวันที่สาม
หน่วยสอดแนมส่งข่าวกลับมา ว่าในที่สุดพวกมันก็รวมตัวกัน
กองทัพทหารจำนวนมหาศาล ได้ตราทัพผ่านเข้ามาในอาณาเขตหุบเขา มุ่งหน้าสู่เมืองหุบเขาเดียวดาย
ทุกคนต่างตื่นเต้น!
ข่าวแพร่กระจายไปในโลกจริงอย่างรวดเร็ว
คนดังทางเน็ตและเหล่าผู้ที่มีชื่อเสียงต่างรัวข้อความถึงเรื่องนี้
สื่อหลายสาขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว แจ้งข่าวด่วนออกไป และมันได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง
《ข่าวล่าสุด :กองทัพพันธิมตรสามเมืองมุ่งเป้ามายังเมืองหุบเขาเดียวดาย!》
《กองทัพใหญ่รุกราน มนุษย์ในโลกวิญญาณกำลังเผชิญกับความท้าทายที่หนักหนาที่สุด!》
《จำนวนกองทัพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! ขนาดของกองทหารพันธมิตรชาวโลกวิญญาณมีมากถึง 7000 นาย! สำนักข่าวด่วนโลกวิญญาณจะทำการถ่ายทอดสด!》
《เมืองหุบเขาเดียวดาย ยอดฝีมือชาวจีนผู้มีชื่อเสียง บอสฮังจะสามารถทนต่อแรงกดดันครั้งนี้ได้หรือไม่? คืนนี้ผู้เชี่ยวชาญสามคนจากโลกวิญญาณจะอธิบายให้คุณฟังทางออนไลน์》
《ช็อก!:นี่คือรายงานแผนการรบของบอสฮังในเมืองหุบเขาเดียวดาย ...》
...
ฮังอวี่รู้มานานแล้วว่าเรื่องนี้ต้องดึงดูดความสนใจของคนทั่วโลก
แต่ที่เขาประหลาดใจ คือข่าวพึ่งมาถึงเมืองหุบเขาเดียวดาย แต่มันกลับลุกลามออกสู่โลกจริงเสียแล้ว
ในยุคอินเตอร์เน็ตก็เป็นอย่างนี้ ผู้คนพูดถึงมันอย่างบ้าคลั่ง จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เซิร์ฟล่มชั่วขณะ
ฮังอวี่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาที่บ้าน คอยไถแท็บเล็ตนั่งอ่านข่าว ดูชาวเน็ตโต้เถียงกัน มองหลายคนที่แสร้งทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญแล้วอดหัวเราะไม่ได้ “คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าฉันที่ใช้เมื่อก่อนชีวิตอย่างไร้ความฝัน ไร้ตัวตนมาโดยตลอด วันหนึ่งจะได้รับความนิยมราวกับดาราดังแบบนี้”
หวังเอ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆเองก็กำลังไถแท็บเล็ตของมันเหมือนกัน เอ่ยอย่างภาคภูมิใจว่า “ฮ่ง เจ้านาย ขนาดเปิ่นหวังตอนนี้ยังมีคนติดตามในเว่ยป๋อทะลุ 10 ล้านคนแล้ว เปิ่นหวังกล้าพูดเลย ว่าถ้าเจ้านายเปิดเผยตัวตน เจ้านายจะกลายเป็นดาวเด่นในยุคสมัยนี้ได้ในเวลาไม่กี่นาที”
“เหอ เหอ ไม่ล่ะแบบนี้ก็ดีแล้ว ทุกคนบอกว่าฉันคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของจีนไม่ใช่หรอ? ยอดฝีมือน่ะต้องปิดบังตัวตน ไม่จำเป็นต้องลดตัววิ่งเข้าหาแสงไฟ”
สุนัขรีบตบตูดยกยอ “เจ้านายพูดถูก!”
ฮังเสี่ยวไป๋ไม่สนใจเรื่องนี้ นั่งดูการ์ตูนอย่างเงียบๆ
ซูหยุนปิงกลับมาแล้ว เมื่อเธอเห็นฮังอวี่นั่งอยู่บนโซฟา แถมยังมีอารมณ์สั่งสอนสุนัขก็เอ่ยว่า “เฮ้ ทำไมนายยังอยู่บ้านอีก มีข่าวว่ากองทัพพันธมิตรรุกคืบเข้าอาณาเขตหุบเขาแล้วนะ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงก็จะถึงเมืองหุบเขาเดียวดายแล้ว”
“อีกไม่ถึงสองชั่วโมง?”
ฮังอวี่ทำตัวสงบมาก
เขาทานอาหารเย็นอย่างสบายๆ จนเวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับชาโลกวิญญาณ ข้อความหนึ่งก็ถูกส่งข้ามมิติเข้ามา มันบอกว่ากองกำลังศัตรูเข้าใกล้เมืองหุบเขาเดียวดายแล้ว และจะมาถึงในอีกภายในหนึ่งชั่วโมง
“ใกล้ได้เวลาแล้ว เสี่ยวไป๋ หวังเอ๋อ ไปกันเถอะ” ฮังอวี่รู้ว่าเขาไม่สามารถทำตัวสบายๆได้อีกต่อไป เรียกเสี่ยวไป๋กับเจ้าหมา เตรียมเข้าสู่โลกวิญญาณ
“อาจารย์ซู รอฟังข่าวดีจากผมได้เลย”
ซูหยุนปิงมองฮังอวี่ซึ่งมีสีหน้าผ่อนคลายอย่างลึกล้ำ “ฉันรู้ว่านายมักทำสิ่งต่างๆด้วยความมั่นใจเสมอ อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ ... สถานการณ์ของนายในอาณาจักรมังกรโลกาละเอียดอ่อนมาก ต้องระมัดระวังให้ดี”
เมื่อฮังอวี่ได้ยินคำพูดของเธอ เขาก็เริ่มตื่นตัวขึ้นเล็กน้อย
จริงด้วยสิ
ผลของการต่อสู้ครั้งนี้ ไม่มีทางปกปิดได้เป็นระยะเวลานาน
เป็นไปไม่ไดที่ขุนนางต่างๆในพื้นที่จะไม่สังเกตเห็นการกระทำของมนุษย์
เมื่อจบศึกนี้ หากคิดอยากพัฒนาต่อไปอย่างเงียบๆ เกรงว่าจะไม่ง่ายอีกแล้ว
กลุ่มของฮังอวี่ได้เข้าสู่อาณาจักรมังกรโลกาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนเต็ม
ถึงตอนนี้ ในที่สุดก็ถึงเวลาขยายดินแดนเพิ่มเสียที!