2017 - กลับสู่หมู่บ้านหินผา
2017 - กลับสู่หมู่บ้านหินผา
สือฮ่าวรีบร้อนรีบร้อนเป็นอย่างมาก เขาก้าวขาเพียงครั้งเดียวก็กลับสู่หมู่บ้านหินผา
ที่ขอบเขตการบ่มเพาะของเขา เพียงยกเท้าขึ้นครั้งเดียวก็สามารถข้ามแม่น้ำแห่งดวงดาวนับล้านแห่งได้อย่างง่ายดาย
สือฮ่าวยืนอยู่บนยอดเขามองดูหมู่บ้านหินผา เขาถอนหายใจที่นี่เงียบสงบมาก มีเสียงหัวเราะและตะโกน เด็กๆวิ่งไปพร้อมกับสัตว์ร้าย ดูเหมือนไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้น
เมื่อเขาเข้าใกล้ ต้นไม้เทพสวรรค์ก็ส่องแสง ยาศักดิ์สิทธิ์และสมุนไพรวิญญาณทุกประเภทก็ปลดปล่อยสารสำคัญ แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเข้าสู่ยุคไร้การฝึกฝน แต่ก็ดีกว่าที่อื่นมาก
เขาเห็นกระดูกมังกรที่ด้านหลังของหมู่บ้าน เช่นเดียวกับโลงศพทองแดงนั้น ดูเหมือนว่ามันสามารถระงับโศกนาฏกรรมของการบ่มเพาะได้ มันสามารถหยุดการกัดกร่อนจากสวรรค์ได้อย่างแท้จริง
“ใช่แล้ว มันเป็นสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียนซึ่งสามารถต่อต้านเจตจำนงแห่งสวรรค์ได้” สือฮ่าวกล่าว
หัวหน้าเผ่าอาวุโสสือหยุนเฟิงยังสบายดี แค่มีรอยย่นบนหน้าผากของเขา ผมของเขาที่กลายเป็นสีดำก่อนหน้านี้ตอนนี้กลับกลายเป็นสีขาวอีกครั้ง
สือฮ่าวรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย แม้แต่ผู้อาวุโสที่อาวุโสที่สุดก็ยังดูดี คนอื่นๆก็คงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก
เป็นเพราะที่นี่ไม่มีสัตว์ประหลาดโบราณที่อาศัยอยู่เป็นเวลาหลายล้านปี อายุขัยของพวกเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก!
นอกเหนือจากนี้มังกรเก้าตัวลากโลงศพสามโลก วัตถุชั้นเต๋าอมตะประเภทนี้ที่นี่สามารถต้านทานการกัดกร่อนมันทำให้เขารู้สึกกังวลน้อยลงมาก
"ท่านลุง!"
“พี่ใหญ่!”
เด็กกลุ่มหนึ่งแห่กันมา เมื่อพวกเขาเห็นสือฮ่าวพวกเขาทั้งหมดตื่นเต้นและสนุกสนาน พวกเขารู้อยู่แล้วว่ายุคไร้การฝึกฝนมาถึงแล้ว
ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลเสมอสำหรับสือฮ่าวที่ไม่ได้กลับมาสักระยะหนึ่ง
“เจ้าหายไปนานเหลือเกิน เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้เป็นห่วงเจ้ามาก!” เจ้าแดงใหญ่สะกิดไหล่ของเขาเบาๆ
“พวกเขาได้รับการฝึกฝนจากข้า ไม่เพียงทักษะเต๋าของพวกเขาจะไม่ลดลงเท่านั้น พวกเขายังแข็งแกร่งขึ้นด้วย!” เจ้าดำสามโผล่หัวออกมาอวดความสำเร็จของมัน
“ท่านลุง เกิดอะไรขึ้นในอาณาจักรที่สูงกว่า? เมื่อไหร่เราจะกลับไปสังหารศัตรูทั้งหมดได้!” หญิงงามคนหนึ่งเดินออกมา
คนเหล่านี้บางคนเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านหิน ซึ่งเป็นทายาทของเจ็ดราชาแดนรกร้าง ที่สือฮ่าวพากลับมาจากเมืองจักรพรรดิ์เดิม
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดโตขึ้นแล้ว
“แดนรกร้างที่เรียกว่าเก้าสวรรค์สิบพิภพนั้นไม่มีอนาคตอีกต่อไปแล้ว ดินแดนที่เราต้องท้าทายไม่มีขอบเขตพวกมันยิ่งใหญ่จนไร้ขอบเขต
แม้แต่ศัตรูต่างมิติก็ไม่สามารถเทียบได้ พวกมันคือสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด! นั่นคือเหตุผลที่พวกเจ้าทุกคนต้องเข้มแข็ง
ทำตามขั้นตอนของข้า วันหนึ่งเราจะสังหารจนกว่าสวรรค์และปฐพีจะเปลี่ยนสี ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สูญเสียแสง ธารดวงดาวไหลย้อนกลับ จักรวาลต้องพลิกผัน!” สือฮ่าวกล่าว
"เกิดอะไรขึ้น?" สิงโตทองเดินมา
แม้ว่ามันจะต้องการปลดปล่อยตัวเองจากตัวตนที่เป็นสัตว์ขี่มาโดยตลอดอยากจะทรยศและหนี แต่ตอนนี้มันก็ยังตกใจอยู่
คนอื่นๆก็ตกใจเช่นกัน แม้แต่ดินแดนอมตะก็อาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนอันไร้ขอบเขตที่พวกเขาจะบุกเข้าไป?
“ไม่มีอะไร รีบและใช้เวลาฝึกฝนให้คุ้มค่าที่สุด!” สือฮ่าวกล่าว
“เราฝึกฝนอย่างตั้งใจมาโดยตลอด เราเต็มใจที่จะทำมันต่อไป!”
เมื่อสือฮ่าวได้ยินเรื่องนี้ เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า
“ข้าจะพาพวกเจ้าไปที่นึงซึ่งจะทำให้พวกเจ้าสามารถฝึกฝนตัวเองได้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น”
"เราจะไปที่ไหน?" บางคนรู้สึกตื่นเต้นรีบเอามือถูหมัด พวกเขาต้องการออกจากถิ่นทุรกันดารอันยิ่งใหญ่นี้ไปนานแล้ว
“ขุนเขาร้อยยอดที่พังทลาย หรือบางทีอาจจะเป็นดินแดนสุสานตะวันตก!” สือฮ่าวกล่าว
………….
สือฮ่าวพักผ่อนในหมู่บ้านสองสามวัน เหตุผลหลักเพราะพ่อแม่ของเขาและหัวหน้าเผ่าอยู่ที่นี่ เขาจากไปนานแล้วคนพวกนี้จะสบายใจได้อย่างไร?
ในหมู่บ้าน ในตอนแรกเขารู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะเขาเห็นอวิ๋นซี นางยังคงเหมือนเมื่อก่อน สงบและสบาย แบกความห่างเหินเล็กน้อย
หลายปีผ่านไปนางก็ยังเหมือนเดิม รออยู่ในหมู่บ้านหิน ไม่เคยคิดที่จะจากไป อวิ๋นซีมาที่นี่เพื่อดูแลสือฮ่าวแม้ว่าเขาจะพิการถูกทำลายในอาณาจักรที่สูงกว่า แต่นางก็ยังเต็มใจที่จะอยู่กับเขาในช่วงชีวิตที่เหลือ
ต่อมาพวกเขาแต่งงานกัน แต่เป็นเพราะสือฮ่าวกำลังคิดหาวิธีที่จะบรรลุเต๋าเขาจึงไม่ได้ใส่ใจนางเท่าที่ควร
สือฮ่าวรู้สึกละอายใจ รู้สึกว่าเขาไม่ได้ปฏิบัติต่ออวิ๋นซีเป็นอย่างดี เขาได้พบกับผู้หญิงหลายคนในชีวิตของเขา แต่คนที่เดินตามเขามากลับมีเพียงแค่ผู้หญิงคนนี้
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ควรทำให้อวิ๋นซีผิดหวัง
“นางเป็นเด็กดี แม้ว่าเจ้าจะพิการแต่นางก็ยังเต็มใจที่จะดูแลเจ้าเจ้าควรเอาใจใส่นางมากกว่านี้หน่อย” นี่คือสิ่งที่หัวหน้าเผ่าพูดกับเขาอย่างจริงจังเมื่อหลายปีก่อน
ในโลกนี้หัวหน้าเผ่าอาวุโสสือหยุนเฟิงคือคนที่สือฮ่าวเคารพมากที่สุด เขาเป็นคนที่เลี้ยงดูสือฮ่าวมา การที่เขาแข็งแกร่งได้อย่างในปัจจุบันก็เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากชายชราคนนี้
“อวิ๋นซีพวกเรามาเป็นคู่ชีวิตของกันและกันเถอะ” สือฮ่าวพูดกับอวิ๋นซีเบาๆ
อวิ๋นซีงงงัน ดวงตาที่ชาญฉลาดของนางเป็นประกาย นางค่อนข้างพูดไม่ออกหลังจากหลายปีมานี้ นางพึ่งได้ยินคำพูดแบบนี้ของเขาเป็นครั้งแรก
ย้อนกลับไปในตอนนั้นเขายังชอบพูดจาแบบนี้อยู่เหมือนกันแต่นั่นเป็นเพียงการล้อเลียนของเด็กน้อยแล้วนางจะคิดจริงจังไปได้อย่างไร?
มันหายากมากสำหรับเขาที่จะจริงจังขนาดนี้ อย่างน้อยที่สุด เมื่ออวิ๋นซีอยู่กับเขา เขาไม่ได้สัญญาอะไรที่มันเลื่อนลอย ดวงตาของอวิ๋นซีเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร
“ขอบคุณที่เจ้าเดินเคียงข้างข้าอยู่ตลอด!” สือฮ่าวกล่าว เขาโอบกอดนางเบาๆแล้วหันหลังเดินจากไป เขากำลังเตรียมการ กำลังจะนำเด็กหนุ่มสาวเหล่านั้นออกไปฝึกฝนตัวเอง
สือฮ่าวบอกพวกเขาถึงสิ่งที่ควรคำนึงถึง เตือนพวกเขาอย่างระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นประสบการณ์การต่อสู้ที่แท้จริงครั้งแรกของพวกเขา อาจมีอันตรายถึงชีวิตของพวกเขาด้วย
“จำไว้ว่าในการต่อสู้จริง การตายเป็นเรื่องปกติพี่น้องในวันนี้อาจกลายเป็นกองกระดูกในวันหน้า หากไม่ได้อาบเลือดและเปลวไฟพวกเจ้าจะไม่สามารถเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งได้!”
พวกเขาเดินไปตามทางสือจื่อหลิงและภรรยาไม่ได้หยุดพวกเขา พวกเขาจะไม่ขัดขวางการตัดสินใจของสือฮ่าวเป็นเพราะพวกเขารู้ว่าลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นแล้ว
ซึ่งตอนนี้เขาเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงสุดแล้ว มันเป็นระดับที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาไปมากซึ่งพวกเขาไม่สามารถเข้าใจถึงเหตุผลของการต่อสู้สือฮ่าวได้
จูเหยียนก็เดินตามไปด้วย มันอยากจะเห็นว่าภูเขาร้อยขุนเขาในตำนานจะเป็นอย่างไร
เป็นเพราะได้ยินว่ามีลิงตัวหนึ่งอยู่ภายในเขาลูกนั้น มันต้องการดูว่าลิงตัวนั้นคือพันธุ์อะไรกันแน่
นี่เป็นดินแดนแปลกๆคล้ายกับดินแดงปิดผนึก เมื่อเข้ามาระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะถูกระงับ ยากที่จะเกินขีดจำกัดได้
สถานที่แห่งนี้จะเปิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหลังจากทุกช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ย้อนกลับไปเมื่อสือฮ่าวเข้าไปในตอนนั้นเขายังเป็นเพียงผู้ฝึกตนเล็กๆ มีหลายสิ่งเกิดขึ้นที่นั่นมากเกินไป เขารู้จักฮั่วหลิงเอ๋อ พบกับอวิ๋นซีและคนอื่นๆ
“ท่านลุง เป็นไปได้ไหมที่ท่านต้องการให้พวกเราต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่อยู่ที่นี่?”
“พี่ใหญ่ ระดับการบ่มเพาะของสิ่งมีชีวิตข้างในนั้นต่ำเกินไปหรือเปล่า?”
นี่คือกลุ่มคนที่ผ่านประสบการณ์มากมาย รู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถทดสอบผลการฝึกฝนของพวกเขาได้จริงๆ
“สถานที่แห่งนี้สามารถระงับการบ่มเพาะของผู้ที่เข้ามา หมายความว่ามันถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดาในอดีตอย่างแน่นอน
เหตุผลที่ข้าให้เจ้าออกไปสำรวจด้วยตัวเองคือการค้นหาความลับที่ลึกที่สุดของอาณาจักรนี้ ในทุกระดับบ่มเพาะเจ้าจะต้องแข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นจึงจะสามารถเป็นยอดคนเหนือคนได้” สือฮ่าวกล่าว
ยิ่งกว่านั้นเมื่อระดับการบ่มเพาะของคนเหล่านี้ถูกระงับ การต่อสู้ของพวกเขาภายในโลกใบนี้จะต้องไม่ง่ายอย่างแน่นอน การต่อสู้นองเลือดในระดับที่ต่ำกว่าก็เป็นประสบการณ์ประเภทหนึ่งเช่นกัน
ยังไม่ถึงเวลาเปิดภูเขาร้อยยอดพวกเขาจึงทำได้เพียงแค่รอ โลกใบเล็กๆที่นี่จะเปิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบหลายปี โดยปกติแล้วพวกมันจะไม่ปรากฏตัวขึ้นให้ใครได้เห็น