ตอนที่ 68 ชนชั้นสูงดั้งเดิม
“นี่คือ…” เมื่อมองไปที่สิ่งที่อยู่ในมือของคอร์ริโป ทั้งเฉินเหิงและครูโดต่างก็ประหลาดใจ
มันเป็นขวดแก้วใบเล็ก ๆ
ขวดแก้วนั้นกว้างพอ ๆ กับมือของคนทั่วไปและมีของเหลวสีดำอยู่ข้างใน ดูเหมือนจะเป็นเลือดสีดำและดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แค่มองดูขวดของเหลวสีดำนี้ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังงานพิเศษที่อยู่ภายในทันที
ราวกับว่าของเหลวนั้นยังมีชีวิตอยู่และบรรจุพลังชีวิตบางอย่างไว้
“เลือดหมาป่าทมิฬ… นี่คือยาที่หายากมากในทวีปนี้ และมันมีค่ามาก”
เมื่อมองไปที่ขวดนี้ คอร์ริโปก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “ถ้าคุณใช้เลือดหมาป่าทมิฬ คุณจะกระตุ้นพลังงานชีวิตและสามารถปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตขึ้นมาได้”
“แน่นอนว่าผลข้างเคียงของมันก็ชัดเจนเหมือนกัน” คอร์ริโปเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เฉินเหิงและครูโดแล้วพูดต่อว่า “หลังจากดื่มเลือดหมาป่าทมิฬเข้าไปแล้ว คุณจะกระตุ้นพลังงานชีวิตของคุณจนถึงขีดสุดและการกระตุ้นนี้จะหยุดได้ก็ต่อเมื่อคุณสามารถปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตของคุณได้แล้วเท่านั้น ถ้าคุณไม่สามารถปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตขึ้นมาได้ คุณก็จะ…”
“จะเกิดอะไรขึ้น?” เฉินเหิงขมวดคิ้วและถามตามสัญชาตญาณ
“คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่คุณใช้พลังชีวิตจนหมด” คอร์ริโปถามอย่างใจเย็น
“ภายใต้สถานการณ์ปกติ ถ้าหากอัศวินล้มเหลวในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต ส่วนใหญ่พวกเขาก็ยังจะสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ อย่างไรก็ตามหลังจากดื่มเลือดหมาป่าทมิฬเข้าไปแล้ว ถ้าล้มเหลวในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต สิ่งเดียวที่รอคุณอยู่คือความตาย”
“คุณกลัวไหม” คอร์ริโปมองไปที่เฉินเหิงและครูโดขณะที่เขาถามออกมาอย่างเย็นชา
ทั้งสองคนเงียบไป
ความตาย…
ด้วยวัยนี้ พวกเขาจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจแห่งความเป็นความตายแล้วเหรอ นี่ดูเหมือนจะเร็วไปหน่อย
อย่างไรก็ตามไม่นานหลังจากนั้น เฉินเหิงก็ยิ้มและตอบด้วยความกล้าหาญ “ด้วยความเสี่ยงที่มากแบบนี้ มันก็ย่อมต้องมีประโยชน์พิเศษบางอย่างด้วยเหมือนกันใช่ไหมครับอาจารย์? คุณจากไปนานมากเพื่อไปเอาสิ่งนี้มาให้เรา แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เพียงเพื่อฆ่าเรา”
“แน่นอน”
คอร์ริโปยิ้มออกมาและบรรยากาศที่จริงจังก็หายไป “ความเสี่ยงนั้นยิ่งใหญ่ แต่ก็สามารถเพิ่มความเป็นไปได้ที่คุณจะปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตขึ้นอย่างมากด้วยเหมือนกัน”
“ถ้าคน ๆ หนึ่งใช้เลือดหมาป่าทมิฬแล้วตายไป แม้ว่าคน ๆ นั้นจะพยายามปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาก็ไม่สามารถทำมันได้อยู่ดี” คอร์ริโปกล่าวอย่างใจเย็น
“ที่แท้เป็นแบบนี้” เฉินเหิงรู้สึกรู้แจ้งและเข้าใจเจตนาของคอร์ริโป
ดูเหมือนว่าเลือดหมาป่าทมิฬจะมีไว้สำหรับผู้ที่มีความหวังในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเท่านั้น
ถ้าคน ๆ หนึ่งไม่มีความหวังในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตแต่ต้องการปลุกมันด้วยเลือดหมาป่าทมิฬ จุดจบของพวกเขาคงจะน่าอนาถทีเดียว
เลือดหมาป่าทมิฬจะมีประโยชน์เฉพาะกับผู้ที่มีพรสวรรค์เพียงพอและมีคุณสมบัติในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงผลสนับสนุนและจะไม่เปลี่ยนชะตากรรมของคน ๆ หนึ่ง
เฉินเหิงและครูโดมีความหวังในการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตหรือไม่?
ไม่ต้องสงสัยเลย
ไม่ว่าจะเป็นเฉินเหิงหรือครูโด พวกเขาล้วนมีพรสวรรค์ที่ดี มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่มาถึงขั้นนี้ภายในระยะเวลาอันสั้น
สำหรับเฉินเหิง แม้ว่าพรสวรรค์ด้านอัศวินของเขาอาจจะไม่สามารถเทียบได้กับของครูโด แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยอย่างแน่นอน เมื่อรวมกับร่างกายอันทรงพลังของเขาแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตได้สำเร็จ
อันที่จริงเมื่อครึ่งปีที่แล้ว เขาก็มีสัญญาณของการปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตระหว่างการต่อสู้กับมาเดอร์มาแล้ว เพียงแต่ในตอนนั้น เขาเลือกที่จะระงับมันเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้รอโอกาสที่ปลอดภัยกว่า
“ถ้าลองคำนวณเวลา ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคุณที่จะใช้สิ่งนี้” คอร์ริโปกล่าวขณะมองดูทั้งสองคน
“ฉันจะบอกไว้ก่อน แม้ว่าความเสี่ยงของการตายจากการใช้สิ่งนี้จะไม่สูงนัก แต่ก็ยังมีอยู่”
“ดังนั้นไม่ว่าคุณจะต้องการใช้มันหรือไม่ก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง”
“มาหาฉันเมื่อคุณตัดสินใจได้แล่วว่าต้องการใช้หรือไม่” คอร์ริโปกล่าวก่อนยื่นขวดแก้วให้เฉินเหิงและครูโด
ทั้งสองพยักหน้าเพื่อแสดงว่าพวกเขาเข้าใจ
ต่อจากนั้น พวกเขาก็พูดคุยกันต่อไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหยิบอาวุธขึ้นมาและเริ่มฝึกต่อ
เหมือนกับเมื่อก่อน พวกเขาใช้อาวุธเพื่อต่อสู้กับคอร์ริโป
นี่เป็นวิธีหนึ่งของเขาในการตรวจสอบความก้าวหน้าของพวกเขา
ท้ายที่สุด พวกเขาก็ไม่ได้เจอกันมาครึ่งปีแล้ว ดังนั้นเพื่อที่จะได้สัมผัสถึงความสามารถของพวกเขา คอร์ริโปเลือกที่จะทำแบบนี้
“ความแข็งแกร่งของคุณเพิ่มขึ้นถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?”
ในระหว่างการต่อสู้ คอร์ริโปค่อนข้างตกใจกับการพัฒนาของเฉินเหิง
“เรื่องนี้ค่อนข้างน่าประหลาดใจ คุณสามารถเพิ่มพลังของคุณไปจนถึงระดับนี้ได้โดยไม่ต้องปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต คุณทำได้ยังไง?” คอร์ริโปมองขึ้นลงที่ร่างกายของเฉินเหิง ความไม่เชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
สายตาของเฉินเหิงยังคงสงบในขณะที่เขากำลังถูกตรวจสอบ
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ด้วยความช่วยเหลือของพลังงานชีวิต เขามีความก้าวหน้าอย่างมากในการฝึกเทคนิคการฝึกฝนร่างกายหินแข็ง ตอนนี้เขาเสร็จสิ้นขั้นตอนแรกแล้วและกำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สอง
ด้วยความช่วยเหลือของเทคนิคการฝึกฝนร่างกาย ร่างกายของเขาจึงมีพลังมากกว่าของของครูโด และเขาก็มีพลังมากกว่าอัศวินทั่วไป
ถ้าหากอัศวินที่ผ่านการกระตุ้นเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตมาแล้วต่อสู้กับเฉินเหิง ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน
ความผิดปกติแบบนี้ดึงดูดความสนใจของคอร์ริโปได้ในทันที
“คุณไม่ใช่อัศวิน แต่คุณแข็งแกร่งกว่าอัศวินบางคนไปแล้ว”
เขายืนอยู่ข้างหน้าเฉินเหิงและสังเกตุร่างกายของเฉินเหิงอย่างต่อเนื่อง
“ทำไมเหรอครับอาจารย์” ครูโดถามด้วยความชื่นชม
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นเหมือนกัน และเขาก็เกือบจะมาถึงจุดที่สามารถปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากมาถึงจุดนี้แล้ว มันก็ยากอย่างเหลือเชื่อที่จะก้าวหน้าต่อไป
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว เฉินเหิงมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อครึ่งปีที่แล้ว เขาพัฒนาอย่างรวดเร็วมาก
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมเฉินเหิง
“นี่อาจเป็น… เพราะสายเลือดและร่างกายของเขา…”
หลังจากสังเกตุดูเฉินเหิงเสร็จแล้ว คอร์ริโปก็กลับมารู้สึกตัวและตอบว่า “ร่างกายของทุกคนต่างกัน และในโลกนี้ก็มีคนมากมายที่มีความพิเศษโดยธรรมชาติ อันที่จริงพวกเขาอาจไม่ได้ถูกเรียกว่ามนุษย์ด้วยซ้ำ”
“ไม่ถูกเรียกว่ามนุษย์เหรอ” เฉินเหิงและครูโดรู้สึกสับสนมาก
เมื่อมองดูท่าทางของพวกเขา คอร์ริโปก็ส่ายหัวและพูดว่า “คุณรู้ไหมว่าชนชั้นสูงดั้งเดิมเกิดขึ้นมาได้ยังไง”