Ep.367 - ทุ่มเงินทองเพื่อความแข็งแกร่ง
3/3
Ep.367 - ทุ่มเงินทองเพื่อความแข็งแกร่ง
ณ เมืองหุบเขาเดียวดาย
ฮังอวี่ยืนอยู่บนกำแพงเมือง
ปืนใหญ่องค์รักษ์ทั้งห้าจากสกายเน็ตได้รับการติดตั้งแล้ว
ทีมวิศกรมดกว่า 30 ตัวกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ โดยมีหวังเอ๋อคอยบังคับบัญชาร่วมกับเสี่ยวไป๋ ฝังถังเชื้อเพลิงเมือกสไลม์ความเข้นข้นสูง
เนื่องจากทางเดินในหุบเขาค่อนข้างแคบ เหมาะแก่การซุ่มโจมตีโดยธรรมชาติ
ตราบใดที่ฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามา และต้องเผชิญกับกับดักดังกล่าว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบเลี่ยง
“ฮัง นายอยู่ที่นี่เอง!”
ร่างสูงหุ่นนางแบบเดินมาจากข้างหลัง
ไดอาน่าส่งรอยยิ้มเป็นมิตรและมีเสน่ห์แก่ฮังอวี่
ฮังอวี่มองอีกฝ่ายแบบไม่หลบตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่สนิทและไม่แยแส “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
สำหรับคนของสำนักกระบี่วิญญาณ ฮังอวี่ไม่กล้าประมาท
โดยเฉพาะระดับผู้นำของอีกฝ่าย ในด้านความสามารถและพลังรบพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าจ้าวหมิงกับฉูเทียนหัวเลย หากไม่ใช่เพราะถูกฮังอวี่และมังกรครามสะกดรัศมีเอาไว้ พวกเขาคงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกตั้งนานแล้ว
อีกทั้งคนจากอเมริกากลุ่มนี้ยังไงก็ไม่มีวันอยู่ภายใต้มังกรคราม ดังนั้นสำหรับพวกเขา แม้ฮังอวี่จะไม่หวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าประมาท
หากเป็นในช่วงเวลาปกติ ฮังอวี่จะไม่ติดต่อกับพวกเขาเป็นการส่วนตัว
ทุกการติดต่อจะมอบหมายให้จ้าวหมิง ฉูเทียนหัวจัดการ
จุดประสงค์ที่ทำเช่นนั้น ก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดูลึกลับคาดเดาไม่ได้
ไดอาน่ากล่าว “ผู้บริหารระดับสูงของสำนักกระบี่วิญญาณได้ให้ความสำคัญกับสงครามที่กำลังมาถึงมาก ครั้งนี้พวกเราเลยนำอุปกรณ์ล้ำสมัยมาเพียบ ในฐานะที่นายคือขุนนางเมืองหุบเขาเดียวดาย แน่นอนว่าต้องมาดู”
“งั้นพวกเราไปดูกัน”
ฮังอวี่รู้ดี ว่าไม่นานมานี้ ทุกประเทศจากทั่วทุกมุมโลกสามารถตั้งหลักในโลกวิญญาณได้แล้ว แต่มีหลายคนเลือกเข้าร่วมกับกองกำลังใหญ่ของชาวพื้นเมืองในโลกวิญญาณ เพราะน้อยนักที่จะยึดดินแดนได้เหมือนกับฮังอวี่
แต่ไม่ต้องสงสัยเลย
เมืองหุบเขาเดียวดายคือสถานที่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด
ฮังอวี่และกลุ่มของเขาเองก็จัดอยู่ในยอดฝีมือระดับสูงเช่นกัน
ดังนั้นจึงได้รับแสงมากมายจากสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น
และกระบวนการส่วนใหญ่จะได้รับการถ่ายทอดสด โดยไม่มีปิดบัง
นี่คือโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์!
เดิมอเมริกาคือประเทศมหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลก
แต่ด้วยการมาเยือนของโลกวิญญาณ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสูญเสียคุณสมบัตินี้ไป
ฮังอวี่นำคนของตัวเองคว้าชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ไม่ใช่แค่การสะกดขุมกำลังจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศอย่างต่อเนื่อง
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงไม่สามารถทนต่อผลงานของสำนักดาบวิญญาณแห่งนิวยอร์ก ตอนนี้ต่อให้แย่งแสงไฟจากฮังอวี่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยพวกเขาต้องแสดงให้เห็นว่าอเมริกาแข็งแกร่ง!
ฮังอวี่เดินไปยังจัตุรัสกลางเมืองหุบเขาเดียวดาย
ผู้คนหลายร้อยมารวมตัวกันที่นี่ เฝ้าชมบางอย่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ฮังอวี่กวาดมอง และอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา? นี่พวกคุณสร้างมันขึ้นมาได้จริงๆ?”
สมาชิกหลายคนจากสำนักกระบี่วิญญาณแห่งอเมริกายืนหยัดอย่างภาคภูมิใจอยู่ท่ามกลางจัตุรัส พวกเขานั่งอยู่ในหุ่นบรบสีดำขนาดใหญ่ที่ทรงพลัง
หุ่นรบตัวนี้สูงสามเมตร เกินพอที่จะยัดคนเข้าไปทั้งตัว ตรงหน้าอกมีฝาครอบเปิดปิดโปร่งใส สามารถมองเห็นคนข้างในได้อย่างชัดเจน
พวกมันทำจากเหล็กเย็นและทองแดงไฟที่สูงกว่าเลเวล 10
ผิวโลหะของมันถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายอันซับซ้อนซึ่งมีหน้าที่คอยนำพลังงาน
ไดอาน่าเริ่มแนะนำ
“นี่คือหุ่นรบพิฆาต -10 ที่ได้รับการพัฒนาจากสถาบันวิญญาณแห่งอเมริกา!”
“มันคือหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราคุณภาพสีเขียวเลเวล 10 เกราะบนตัวไม่ใช่แค่ทรงพลัง แต่ยังมาพร้อมกับปืนกลพลังงานวิญญาณในมือซ้าย มือขวามาพร้อมกับดาบความร้อนไฟฟ้าที่เกิดจากการเหนี่ยวนำมนตรา”
“ข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดของอุปกรณ์เหนี่ยวนำมนตราก็คือมันไม่หลอมรวมเข้ากับร่างกาย แม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดอย่างนักรบเลเวล 1 ก็ใช้งานได้”
“ตราบใดที่สวมใส่หุ่นรบนี้ ก็มีโอกาสที่จะเอาชนะมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นในเลเวล 10!”
ระหว่างพูด
หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรายกมือซ้ายขึ้น ลำกล้องปืนสีดำที่ไหลเวียนไปด้วยอักษรรูนสามกระบอกยื่นออกมา กราดยิงพื้นดินในระยะไกล
กระสุนพลังงานส่งเสียงหวีดหวิว พื้นดินปกคลุมไปด้วยควันและละอองฝุ่น
ฝูงชนต่างตื่นตาตื่นใจ พากันถ่ายภาพและวิดีโอเอาไว้
นี่มันน่าตกใจจริงๆ
ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณเตรียมหุ่นรบพวกนี้มากี่ตัว?”
ไดอาน่าตอบว่า “คราวนี้เวลากระชั้นชิด เลยนำมาได้แค่ 5 ตัว แต่นอกจากหุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราแล้ว ทางเรายังได้เตรียมปืนไรเฟิลเหนี่ยวนำมนตรากับระเบิดเหนี่ยวนำมนตรา ฯลฯ มาด้วยนะ”
“ทั้งหมดล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของสถานบันวิญญาณ ฉันเชื่อว่าพวกมันต้องมีบทบาทนการต่อสู้แน่นอน”
ในอเมริกามี 5 แผนกที่รับผิดชอบด้านโลกวิญญาณ
สำนักกระบี่วิญญาณคือหนึ่งในนั้น
ส่วนชื่อเต็มของสถาบันวิญญาณที่ไดอาน่าพูดถึงคือ ‘สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโลกวิญญาณ’
มันจัดตั้งขึ้นเพื่อศึกษาการใช้วัสดุต่างๆ วิจัยการผลิตที่สำคัญ และให้ผลสำเร็จนับไม่ถ้วน มีชื่อเสียงมาก
หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตราตัวนี้ก็ของดี
แต่เสียดายที่มันมีราคาแพงเกินไป
ถ้าให้ฮังอวี่ขับหุ่นรบออกไปในพื้นที่รกร้างเพื่อล่ามนอสเตอร์ เกรงว่ามันคงหมดพลังงานในวันเดียว และนั่นคงได้กำไรไม่เท่ากับที่เสียไป
และสำหรับคนอื่นๆ หากจะใช้งานมันให้คุ้ม เกรงว่าคงต้องใช้เวลาสู้กับ BOSS ที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในตอนนี้ ไม่ก็ใช้ในสงครามใหญ่ มิฉะนั้นการใช้หุ่นรบเหนี่ยวนำมนตรา อาจทำให้คุณต้องเอาของทุกอย่างในตัวไปจำนำไม่เว้นกระทั่งกางเกงในเพื่อจ่ายค่าใช้งานมัน
“ไม่เลว!”
“มีพลังทำลายที่ดี”
“ในบรรดาเมืองทรายดำ , เมืองเตาหลอมศิลา และเมืองขุนเขาเหล็ก”
“หลังจากยึดทั้งสามเมืองได้แล้ว พวกคุณสามารถขึ้นเป็นขุนนางในเมืองใดเมืองหนึ่งได้”
ไดอาน่าพอได้ยินคำสัญญาจากปากฮังอวี่ สีหน้าแววตาเธอปรากฏความสุขขึ้นมาทันที
ในเวลาเดียวกันถอนหายใจยาว แสดงความโล่งอก
สิ่งที่สำนักกระบี่วิญญาณกังวัลมากที่สุดคือมังกรครามขัดขวางไม่ให้พวกเขาแยกตัวออกไป
เพราะท้ายที่สุดแล้ว สมาชิกมังกรครามตอนนี้มีอยู่แค่ 1500 คน ขณะที่ประชากรทั้งเมืองหุบเขาเดียวดายมีถึง 3000 คน
สามารถกล่าวได้ว่ามังกรครามคือขุมกำลังหลักอย่างแท้จริง
และจะเกิดอะไรขึ้นหากฮังอวี่ไม่ยอมพยักหน้าอนุญาต
จะให้หักดิบกับพวกมังกรครามคงไม่ได้ถูกไหม?
และแบบนั้นมันไม่ดีสำหรับทั้งสองฝ่าย!
ดังนั้น ไดอาน่าเลยมาคุยกับฮังอวี่ เพื่อที่จะเลียบเคียงถามเรื่องนี้
แต่ใครจะทันคาดคิดว่า โดยไม่ต้องรอให้เธอบอกใบ้ ฮังอวี่ก็สามารถเดาความคิดของเธอได้ ตกปากให้คำมั่นสัญญาออกมาตรงๆ
ยอดเยี่ยม!
ตราบใดที่สำนักกระบี่วิญญาณสามารถมีเมืองได้ แม้จะช้ากว่า แต่สุดท้ายก็จะพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่ได้แย่ไปกว่ามังกรคราม
ลุค คริส ไดอาน่าต่างมีความมั่นใจเช่นนี้
อย่างไรเสียพวกเขาและเธออยู่ในองค์กรที่ดำเนินการโดยรัฐ เมื่อมีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงา เมื่อไหร่ก็ตามที่มีดินแดนเป็นของตัวเอง สำนักกระบี่วิญญาณไม่ต้องกังวลใดๆเรื่องทรัพยากรในการสร้างเมือง
จ้าวหมิงวิ่งเข้ามาและพูดว่า “คนมารวมตัวกันเกือบครบแล้ว”
ฮังอวี่พยักหน้า “ดีล่ะ งั้นให้ทุกคนมา ผมจะเปิดร้านค้าลับ”
คูลดาวน์สิบห้าวันสิ้นสุดลงแล้ว
ร้านค้าลับได้เปิดขึ้นอีกครั้ง
ฮังอวี่เตรียมหินคริสตัลขาวมูลค่ารวมกว่า 20000 ก้อนมาซื้อเฉพาะของตัวเอง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเตรียมหินคริสตัลได้มากกว่านี้ แต่ปัจจุบันมีที่ให้ใช้เงินมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นองค์กรมังกรครามหรือกลุ่มมังกรฟ้า ดังนั้นนำหินคริสตัลขาวมากมายขนาดนี้มาใช้ซื้อของให้ตัวเองถือว่ามากพอแล้ว
ไม่จำเป็นต้องพล่ามไร้สาระ
อันดับแรกฮังอวี่เลือกซื้อหินสกิลขั้น 3 จำนวนสามก้อน
สกิล ‘ปราณกระบี่ลมกรด’ ของนักรบเงาลมกรด ราคา 5000 หินคริสตัลขาว
สกิล ‘สังหารลมกรด’ ของนักรบเงาลมกรด ราคา 4500 หินคริสตัลขาว
สกิล ‘กายาเกราะ’ ของปรมาจารย์เลือดเหล็ก ราคา 4500 หินคริสตัลขาว
ถัดมาเขาเลือกซื้อหินสกิลขั้น 1
อันได้แก่ ‘เทคนิคโยกย้าย’ ของจอมเวทย์บลิงค์ ราคา 1000 หินตริสตัลขาว
ฮังอวี่มีสกิลหลัก ‘เนตรแห่งเงา’ ของนักรบเงาลมกรดแล้ว
ตอนนี้เขาต้องการแค่สกิลเสริมอีกสองสกิลเพื่อสืบทอดมรดกขั้น 3
นักรบเงาลมกรดมีทั้งหมด 5 สกิล
นอกเหนือจากเนตรแห่งเงาแล้วก็มี : ปราณสงครามพายุ , ปราณกระบี่ลมกรด , สังหารลมกรด , ท่าร่างระบำเงาลมกรด
สกิลปราณสงครามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือหากคุณครอบครองมันอยู่แล้ว เมื่อใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง อีกสกิลก็จะเข้าสู่เวลาคูลดาวน์เช่นกัน ดังนั้นเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปที่จะเรียนรู้มันซ้ำสอง
ฮังอวี่มีปราณสงครามคลั่งของขุนนางคลั่งอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้สกิลปราณสงครามเพิ่มอีก ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องตัดคือปราณสงครามลมกรด ขณะที่ฮังอวี่ยังขาดสกิลปราณกระบี่
และปราณกระบี่เป็นสกิลโจมตีระยะกลางที่มีประโยชน์และระยะเวลาคูลดาวน์ที่ดีมาก
ฉูเทียนหัวเองก็มีสกิลขั้น 3 ปราณกระบี่วินาศ
ปราณกระบี่วินาศแก่กล้าและรุนแรงที่สุดในบรรดาสกิลประเภทเดียวกันและในเลเวลเดียวกัน
เพราะยังไงซะมันคือสกิลหลักที่ใช้ปราณกระบี่เข้าทำลายล้าง
ขณะที่ปราณกระบี่ของฮังอวี่จะมีพลังน้อยกว่ามาก
แต่มันช่วยในการเสริมแทคติค นับเป็นทางเลือกที่ดีมาก
นี่คือสกิลยกระดับของโจมตีลมกรด รุนแรงกว่าโจมตีลมกรดหลายเท่า นับว่าก้าวร้าวมาก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแกร่งได้มากกว่าท่าร่างระบำเงาลมกรด
แล้วอีกอย่าง พ่อค้าลึกลับไม่ได้นำหินสกิลท่าร่างระบำเงาลมกรดมาด้วยในครั้งนี้
ดังนั้นนี่คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ส่วนสกิล ‘กายาเหล็ก’ ของปรมาจารย์เลือดเหล็กเป็นสกิลสถานะ
มันสามารเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน พละกำลัง และการโจมตีทางกายภาพได้ มีประโยชน์มากระหว่างการต่อสู้
ตั้งแต่ได้เจอมัน ฮังอวี่ตัดสินใจซื้อทันที
ส่วนสกิลโยกย้ายที่เป็นสกิลของจอมเวทย์บลิงค์
เนื่องจากฮังอวี่มีเทคนิคบลิงค์กับสกิลรับรู้พื้นที่อยู่แล้ว ดังนั้นตัดสินใจซื้อมันทันที
หลังจากได้รับหินสกิลทั้งสี่ก้อน
พลังรบของฮังอวี่ย่อมสูงไปอีกขั้น
การทุ่มเงินทองอย่างบ้าคลั่งบวกกับความได้เปรียบจากสกิลพรสวรรค์ที่สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญได้เต็ม ทำให้เขาเหนือกว่าคนอื่นๆมาก
ฮังอวี่คิดในใจ “ดูเหมือนของที่พ่อค้าลึกลับวางขายจะโดนจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ฉันซื้อได้สูงสุดแค่สกิลขั้น 3 เท่านั้น แถมส่วนใหญ่ยังเป็นสกิลรอง ถ้าต้องการแกร่งกว่านี้ คงต้องพึ่งพาความพยายามของตัวเองเพื่อค้นหาพวกมัน! ’
อย่างไรก็ตาม
ความท้าทายครั้งใหญ่กำลังรออยู่เบื้องหน้า
การที่สามารถสืบทอดมรดกขั้น 3 มรดกที่สองได้ทันเวลา
และได้รับสกิลใหม่อีกหลายอย่าง มันก็เกินพอแล้ว!