CD บทที่ 263 ผลลัพธ์อันร้ายแรง
"คุณลูกค้าคะ ช่วยป้อนรหัสผ่านของคุณด้วยค่ะ"
ภายใต้คำแนะนำของพนักงานธนาคาร จ้าวหยู่ได้ป้อนรหัสผ่านสำหรับกล่องนิรภัยของเขา หลังจากตรวจสอบแล้ว พนักงานก็ส่งกระเป๋าหนังของเขาซึ่งมีธนบัตรเก่าสองแสนใบมาให้
"กรุณาตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนออกไปด้วยนะคะ" พนักงานสาวกล่าวอย่างสุภาพด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “เพื่อเป็นการขอโทษอย่างจริงใจ เราจะคืนเงินค่าเช่าให้คุณเป็นสองเท่า โปรดไปที่เคาน์เตอร์ ทางพนักงานจะคืนเงินให้คุณตามใบคำร้องนี้ค่ะ”
จ้าวหยู่ตรวจสอบกระเป๋าเงินและเห็นกองธนบัตรเก่ายังคงอยู่ข้างใน เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ที่ได้รับกระเป๋าเงิน มันถูกฝังลึกลงไปในเหมืองเป็นเวลา 26 ปีและในที่สุดมันก็ถูกค้นพบ
แต่แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและเกือบจะถูกโจรขโมยไป โชคดีที่พวกโจรไม่สนใจเงิน
หลังจากเหตุการณ์ที่น่ากังวลได้ผ่านพ้นไป มันก็ถูกส่งกลับมาหาจ้าวหยู่อีกครั้ง เขาคิดว่าเขาควรจะรีบขายธนบัตรเก่าเหล่านี้ เพราะมันไม่ปลอดภัยแม้แต่ในธนาคารด้วยซ้ำ
แม้ว่ามันจะมีค่ามาก แต่ก็ไม่มีที่ที่ปลอดภัยพอสำหรับมัน!
"กรุณาเซ็นชื่อตรงนี้ค่ะ!" พนักงานชี้ไปที่ใบคำร้อง
จ้าวหยู่อ่านเอาแบบฟอร์ม ก่อนที่เขาจะเซ็นรับของ พนักงานได้แจ้งให้เขาลงทะเบียนพร้อมข้อมูลส่วนตัวโดยละเอียดที่สุด และทำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเขา เมื่อนึกย้อนไปตอนที่เขาเปิดบัญชี ก็มีรายละเอียดตามนั้น ธนาคารได้เตือนเขาให้จำรหัสผ่านและเก็บกุญแจไว้เท่านั้นและต้องจ่ายค่าเช่าให้ตรงเวลา
จ้าวหยู่หยิบปากกาและกำลังจะเซ็น แต่มีความคิดผุดขึ้นในใจของเขา แล้วแสร้งทำเป็นตกใจ “เฮ้! นี่มันไม่ถูกต้อง ฉันใส่เพชรอีกหกกะรัตด้วย พวกมันหายไปไหน?” จ้าวหยู่เปิดซิปและแสร้งทำเป็นตกใจ
“ห๊ะ! มัน… เป็นไปไม่ได้!” นั่นคือสิ่งที่พนักงานกลัวที่สุด เธอกลัวมากเมื่อถามว่า “คุณลูกค้าคะ อย่าล้อเล่นอย่างนั้นสิคะ ก่อนที่คุณลูกค้าจะเช่ากล่องนิรภัย คุณบอกเราว่าคุณจะเก็บกระเป๋าหนังและในกระเป๋าหนังนั้นมีเงินสด คุณไม่ได้พูดถึงเพชรเลยนะคะ!”
“ไร้สาระ! เพชรของฉันมาจากแอฟริกาใต้ ฉันกลัวว่าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยจะรู้เรื่อง ฉันก็เลยเก็บพวกมันไว้กับธนาคาร โธ่! เพชรของฉัน! ตอนนี้ราคาของพวกมันคงจะทะลุหลักล้านไปแล้ว!”
“เออ…” พนักงานถูกจ้าวหยู่หลอกเข้าเต็มเปา เธอถูกพูดไม่ออกและตัวสั่นด้วยความกลัว
ในขณะนั้น หญิงวัยกลางคนที่ดูเหมือนหัวหน้าพนักงานเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและพูดกับจ้าวหยู่อย่างสุภาพว่า “สวัสดีค่ะคุณลูกค้า กรุณาใจเย็น ๆ ไม่ว่าคุณจะสูญเสียอะไรไป ธนาคารของเราจะคืนเงินให้คุณตามราคาตลาด แต่ก่อนอื่นคุณต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และปฏิบัติตามขั้นตอนของเรา!”
"แล้วฉันต้องทำอย่างไร?"
“เรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง” หัวหน้าพนักงานอธิบายอย่างใจเย็น “ทางธนาคารจะต้องตรวจสอบคำร้องของคุณโดยได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจ หากภูมิหลังทางการเงินของคุณตรงกับมูลค่าของของที่สูญหาย ธนาคารจะคืนเงินให้คุณตามของที่สูญหาย
แต่ทางเราขอให้ท่านมั่นใจ พวกโจรจะถูกจับในไม่ช้า จากนั้นเราจะตรวจสอบคำร้องทั้งหมดทีละคน หากคุณอ้างสิทธิ์เท็จ คุณจะต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย!”
‘โอ้ วิธ๊รับมือของพวกเขา ช่างน่าประทับใจจริง ๆ!’ จ้าวหยู่คิดกับตัวเอง
เขาแอบชื่นชมพนักงานธนาคารที่ฉลาด หากมีคนหัวหมอใช้ช่องว่างนี้เพื่อหลอกทางธนาคาร พวกเขาจะต้องถูกสอบสวนโดยธนาคารและตำรวจ ถ้าหากความแตกขึ้นมา คน ๆ นั้นจะเสียหายทั้งขึ้นทั้งร่อง
‘แล้ว... มีคนในเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่า?’ จ้าวหยู่สงสัย แต่จ้าวหยู่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเป็นนักเลง เขาตระหนักว่าวิธีแรกของเขาใช้ไม่ได้ผล ดังนั้นเขาจึงนึกถึงวิธีอื่น เขามองดูหัวหน้าพนักงานและถามว่า
“หึ! ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ทำเพชรหาย แต่กล่องนริภัยของฉันก็ถูกเปิดออก! เมื่อฉันเลือกเก็บของที่นี่ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะเจอ พวกคุณสัญญากับฉันว่าจะได้รับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวร้อยเปอร์เซ็นต์!”
“ดูสิ เกิดอะไรขึ้นตอนนี้ มันไม่ปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของฉันถูกละเมิด ตอนนี้พี่น้องทั้งเจ็ดของฉันพบว่าฉันมีเงินมากมายและพวกเขาหาโทรฉันจนฉันเปลี่ยนเบอร์หนีไปแล้ว! พวกคุณต้องรับผิดชอบสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!”
“นี่มัน…” หัวหน้าพนักงานคาดไม่ถึงว่าจ้าวหยู่จะโต้ตอบแบบนี้ เธอสบถในใจว่า ‘เจ็ดพี่น้อง! คุณคิดว่าตัวเองเป็นเจ็ดพี่น้องน้ำเต้ารึไง!?’
“ยิ่งไปกว่านั้น คุณรู้หรือไม่ว่าฉันตกใจมากเมื่อได้รับแจ้งว่ากล่องนิรภัยของฉันถูกทุบและเงินของฉันอาจหายไป หัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น! บาดแผลทางจิตใจของฉันมันร้ายแรงมาก คุณชดใช้ค่าเสียหายให้ฉันเป็นสองเท่าของค่าเช่าแค่นั้นเหรอ?
ฉันเพิ่งฝากมันไม่กี่วันเท่านั้นเอง อย่างมากสุดฉันก็ได้แค่สองร้อยหยวนเท่านั้น คุณคงคิดว่าจ่ายให้มันจบ ๆ และไล่ตะเพิดฉันไปให้พ้นหน้าใช่มั้ย!?”
“นี่…” ในที่สุด หัวหน้าพนักงานก็พ่ายแพ้ เธอถอนหายใจและคร่ำครวญอยู่นาน ก่อนที่จะพูดกับจ้าวหยู่ว่า “คุณลูกค้าคะ กรุณาใจเย็น ๆ ก่อน ตอนนี้ผู้จัดการสาขาของเราอยู่ในห้อง ICU ค่ะ
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ ฉันจะรายงานให้ผู้จัดการทั่วไปทราบ และจะนำความเป็นธรรมกลับคืนมาหาคุณโดยเร็วที่สุด ขอให้คุณวางใจ ทางธนาคารของเราจะทำอย่างสุดความสามารถ!"
“ผู้จัดการสาขานอนในห้อง ICU?” จ้าวหยู่คิดเกี่ยวกับมันและถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับเขา? ทำไมเขาถึงถูกส่งตัวไปที่ห้อง ICU?"
"เฮ้อ!" หัวหน้าพนักงานถอนหายใจ “ทางธนาคารเจอปัญหาใหญ่ขนาดนี้ ใครเล่าจะรับไหว คุณไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เรากำลังวิ่งไปรอบ ๆ อย่างกับไก่หัวขาด! บริการห้องนิรภัยของเราถูกโจมตีจากสื่อต่าง ๆ สถานการณ์ของเราที่นี่ดีขึ้นบ้างแล้ว ตอนนี้เรากำลังมุ่งความสนใจไปที่กล่องนิรภัย 17 กล่องที่ถูกพังเข้าไป”
“สำหรับสาขาอื่นก็หนักหนาไม่แพ้กัน” หัวหน้าพนักงานยังคงบ่นต่อไป “ตอนนี้ไม่มีใครกล้าเก็บสิ่งของในห้องนิรภัย ดังนั้นพวกลูกค้าทั้งหมดจึงทำเรื่องถอนทรัพย์สินออกมา! ลูกค้าของเราได้ยินข่าวลือและต่างก็เข้ามาทำการถอนเงินทั้งหมดออกจากธนาคาร เฮ้อ! อันที่จริงพวกเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเลย”
"ธนาคารฉินชานของเราเป็นธนาคารที่ปลอดภัยมาก เหตุการณ์นี้ทำลายความเชื่อของเราอย่างร้ายแรง!" หัวหน้าพนักงานกล่าวอย่างมั่นใจ “นอกจากนี้ ทางตำรวจจะจับโจรและรับของที่ขโมยมา จากนั้นทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ!”
เมื่อมองไปที่หัวหน้าพนักงานที่มีความมั่นใจ จ้าวหยู่ก็อยู่ในความคิดลึก ๆ บางทีเธออาจพูดเกินจริงเพื่อทำให้เขาสงบลง แต่สิ่งที่เธอพูดมาก็สมเหตุสมผล
จ้าวหยู่ได้ตรวจสอบภูมิหลังของนายเถาอย่างละเอียดในตอนที่เขากำลังสืบสวนคดีการลักพาตัวเมียนหลิง ในฐานะเจ้าของธนาคารที่มีประสบการณ์ เขาเน้นถึงความซื่อสัตย์และเขาเป็นคนที่น่านับถือในหมู่คนทำธุรกิจในแวดวงเดียวกัน คนอย่างเขาคงไม่ผันตัวจากผู้ดูแลกลายมาเป็นโจรแน่นอน
นอกจากนี้ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากความจริงถูกเปิดเผย ทางธนาคารต้องปิดตัวลง ผู้สมรู้ร่วมคิดจะถูกลงโทษ ในฐานะผู้ถือหุ้นธนาคาร มันมีความเสี่ยงมากเกินไป!
แม้ว่ายอดขายของพวกเขาจะลดลงและธนาคารปิดตัวลง ผลกำไรใดก็ตามที่พวกเขาทำได้ก็มากเกินพอที่จะสนับสนุนพวกเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนี้!
‘ถ้าไม่ใช่ฝีมือจากคนใน มันจะมีความเป็นไปได้อะไรอีกบ้าง?’ จ้าวหยู่สงสัย
“คุณคะ? มีอะไรรึเปล่าคะ? คุณยังไม่ได้เซ็นใบคำร้องเลยนะคะ” หัวหน้าพนักงานเตือนเขาเบา ๆ
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จ้าวหยู่ก็เซ็นแต่โดยดี จู่ ๆ เขาก็นึกถึงบางสิ่งและถามว่า “อ๋อ ใช่แล้ว ฉันจำได้ว่าฉันลงทะเบียนตอนเปิดบัญชี มันมีบันทึกการลงทะเบียนถูกเก็บไว้ภายในซึ่งบุคคลภายนอกไม่สามารถตรวจสอบได้ จริงไหม?”
“คุณ... ทำไมคุณถึงอยากรู้เรื่องนี้?” หัวหน้าพนักงานรู้ว่าจ้าวหยู่รับมือได้ยาก เธอจึงรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าของเรา ข้อมูลนั้นแน่นอนว่ามันถูกเก็บเป็นความลับค่ะ”
จ้าวหยู่กำลังคิดว่า ถ้าถงหยุนถูกรายงานว่าเป็นคนหาย ตำรวจคงจะสอบสวนข้อมูลของถงหยุนแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าถงหยุนเปิดกล่องนิรภัยในธนาคารฉินชาน
นั่นหมายความว่าการลงทะเบียนกล่องนิรภัยถูกเก็บไว้ภายในและมีความปลอดภัยสูง แม้ว่าการสอบสวนของตำรวจจะเกิดขึ้น มันก็จะไม่ถูกเปิดเผย
ถ้าเป็นอย่างนั้น…
จู่ ๆ จ้าวหยู่ก็ตระหนักถึงบางสิ่งราวกับว่าเขานึกถึงสิ่งที่สำคัญขึ้นมาได้ เขาถามทันทีว่า “คุณ เท่าที่ฉันได้ยินมา ไม่ใช่แค่สาขาที่ถนนหยู่ฮัวเท่านั้นที่มีบริการห้องนิรภัย แต่สาขาอื่น ๆ ก็มีเหมือนกันใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ เรามีทั้งหมดสามแห่ง” หัวหน้าพนักงานตอบว่า “สำนักงานใหญ่ ถนนหยู่ฮัวและถนนเจียฟาง ทั้งสามแห่งนี้ให้บริการห้องนิรภัย แต่สาขาของเราเปิดให้บริการเป็นที่แรก เมื่อ 10 ปีก่อน ส่วนสำนักงานใหญ่เริ่มให้บริการนี้เมื่อ 1 ปีก่อนเมื่อพวกเขาสร้างตึกใหม่ค่ะ”
“โอ้ หมายความว่า ห้องนิรภัยในสำนักงานใหญ่ ต้องใหญ่กว่าที่นี่มากใช่มั้ย?” จ้าวหยู่ยังคงถามต่อไป
“ใช่ค่ะ สำนักงานใหญ่ของเราคืออาคารสูง 35 ชั้น ที่นั่นมีห้องนิรภัยประมาณสี่ถึงห้าห้องและทุกหลังก็ใหญ่กว่าของเราค่ะ” หัวหน้าพนักงานยังคงอธิบายว่า “แต่เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจห้องนิรภัยอย่างแน่นอน คุณคะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจ ทำไมท่านถึงสนใจธนาคารของเรามาก?”
"นอกจากธนาคารฉินชานแล้ว ยังมีธนาคารไหนให้บริการห้องนิรภัยอีกบ้าง?" จ้าวหยู่ถามอีกครั้ง
หัวหน้าพนักงานยิ่งสงสัยมากขึ้น แต่เธอก็ยังตอบไปว่า "ยังมีอีกที่ค่ะ เช่น ธนาคารถงชวน, ธนาคารต้าเจียง... เอ๊ะ?" เธอดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างและถามว่า "คุณกำลังจะบอกว่าพวกโจรถูกส่งมาจากธนาคารอื่นเพื่อจงใจเล่นงานพวกเราเหรอคะ?”
“ไม่! มันเป็นเรื่องร้ายแรงกว่านั้น” จ้าวหยู่ตอบอย่างตรงไปตรงมาในขณะที่เขาแสดงบัตรประจำตัวตำรวจและกระตุ้นให้เธอ “เร็วเข้า! รีบโทรหาเจ้านายของคุณ ฉันมีเรื่องจะบอกพวกเขา!!”