2015 - การกลับมาของ…?
2015 - การกลับมาของ…?
“ฮวงตายแล้ว!” ผู้คนของตำหนักเซียนต่างโห่ร้อง
ในเวลานี้ผู้อมตะของตำหนักเซียนก็พุ่งออกมาจากใต้ดิน สีหน้าของเขาเย็นชา พูดอย่างลึกล้ำว่า
“เจ้าหนูนั่นระวังตัวจริงๆ ที่จริงแล้วเขาเพียงส่งร่างอวตารที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังศักดิ์สิทธิ์มาที่นี่เท่านั้น”
ในระยะไกลสือฮ่าวค่อนข้างประหลาดใจ นี่เป็นยุคที่ไร้การฝึกฝน แต่เขาเห็นผู้อมตะที่แท้จริงกำลังสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อลอบสังหารเขา
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคิดว่าเขาจะมาที่นี่ไม่ช้าก็เร็ว
“เขาไม่สามารถหลบหนีได้ ข้ารู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน เมื่อข้าจับเขาได้ข้าจะกลับไปยังดินแดนอมตะทันที!” ชายวัยกลางคนที่ถือกระบองทองคำเซียนแห่งความมืดกล่าว
“แล้วทำไมเจ้าไม่สังหารเขาไปตรงๆจะง่ายกว่า?” ผู้อมตะของตำหนักเซียนกล่าว
“ข้าเริ่มโจมตีเขาก่อนก็เพราะไว้หน้าเจ้า ข้าจะทำอะไรมันก็เรื่องของข้าไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรถาม” ผู้อมตะที่แท้จริงกล่าวอย่างใจเย็น
“ไล่ตามเขา!” ผู้อมตะของตำหนักเซียนเริ่มเคลื่อนไหวทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาตะลึงก็คือเขาตามไม่ทันจริงๆ!
เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ ทำไมความเร็วของเขาถึงเทียบกับผู้อมตะที่แท้จริงได้? ผู้อมตะของตำหนักเซียนยืนงงอยู่คู่หนึ่ง
“คิดว่าจะไปไหน” ชายวัยกลางคนคนนั้นก็เริ่มไล่ตามสือฮ่าวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ความเร็วของสือฮ่าวนั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้อมตะทั่วไปจะตามทัน
ความเร็วครั้งนี้มันเกินกว่าพวกเขาจะจินตนาการถึง แม้จะไล่ตามมาเป็นระยะเวลาหลายวันระยะห่างของพวกเขาก็ไม่ลดลงเลย
ฮ่อง!
ชายวัยกลางคนโบกคฑาทองคำเซียนแห่งความมืดในมือของเขาบดขยี้ดาวกลุ่มใหญ่ทันที ดวงดาวนับไม่ถ้วนสลายกลายเป็นควัน โดมท้องฟ้านี้มืดสนิท
อย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดแตะต้องสือฮ่าวได้
“เจ้าหนูถ้าเจ้ายังไม่หยุดเมื่อข้าจับเจ้าได้ก็อย่าโทษว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!” ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเย็นชา
“ถ้าจับได้ก็ทำตามใจเจ้าต้องการได้เลย แต่ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าอีกไม่นานเมื่อข้าแข็งแกร่งมากพอเจ้าจะเป็นผู้อมตะคนแรกที่ถูกข้าฆ่า!”
แต่ในขณะที่สือฮ่าวกำลังตะโกนสวนไปอยู่นั้น ลำแสงสีแดงก็บินออกมาอย่างรุนแรงแทบจะสังหารเขาไปพร้อมๆกับดวงดาวมากมาย
สือฮ่าวขยับปีกของเขา ปีกแห่งความโกลาหลเริ่มเคลื่อนไหว ออกจากทะเลดวงดาวนี้
ผู้เป็นอมตะตัวจริงอีกคนปรากฏตัวขึ้นที่นี่ หวังจะจับและฆ่าเขาให้ได้
“สหายเต๋าจากดินแดนปิดผนึกต้องขอบคุณท่านจริงๆ ครั้งนี้ข้ารบกวนท่านมาก” ชายวัยกลางคนที่ถือกระบองทองคำกล่าว
“นี่เป็นครั้งเดียวเท่านั้น ตอนนี้พลังแห่งธรรมชาติหวนคืนแล้วข้าไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าได้อีก” ผู้อมตะแห่งดินแดนปิดผนึกกล่าวอย่างไรอารมณ์
สือฮ่าวรู้สึกตกใจ เมื่อกี้มันอันตรายเกินไปเขาเกือบถูกฆ่าตาย
เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ เมื่อหันหลังได้เขาก็พุ่งทะยานออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วชนิดที่สายตาผู้ฝึกฝนธรรมดามองตามไม่ทัน
หากไม่ใช่ว่าเขามีความเร็วมากมายถึงขนาดนี้เขาคงตายไปนานแล้ว!
“เจ้าหนูหากเจ้ายังไม่หยุดข้าก็จะไม่จับเป็นเจ้าอีกต่อไปแต่จะสังหารเจ้าทิ้งทันที!” ด้านหลัง ชายวัยกลางคนที่ถือคทาทองคำ กล่าวอย่างเย็นชา
ฮ่อง!
ฝ่ามือของผู้อมตะที่แท้จริงจากดินแดนปิดผนึกขยายใหญ่ขึ้น ทะเลแห่งดวงดาวอันยิ่งใหญ่ถูกบดขยี้แหลกเป็นผุยผง
แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่สามารถทำอะไรสือฮ่าวได้ ด้วยความเร็วของเขามันทำให้เขาหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ คลื่นของรัศมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวและแปลกประหลาดได้แผ่กระจายไปทั่วจากความมืดนิรันดร์นั้น พร้อมกับประตูบานหนึ่ง
ใครบางคนเดินออกมาจากประตู ใบหน้าของเขาราวกับแกะสลักจากหยกเนื้อดี ดวงตาของเขาเย็นเยียบราวกับภูเขาน้ำแข็ง
เขาหล่อเหลาและแน่วแน่ ร่างกายสูงโปร่งองอาจกล้าหาญอย่างน่าเหลือเชื่อ
อา!
แม้แต่สือฮ่าวที่ปกติแล้วเป็นคนใจเย็นยังอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องพร้อมกับน้ำตาพังทลายออกมา
“ผู้อาวุโสใหญ่!” เขากรีดร้องออกมา
ร่างนั้นตั้งตรงและยิ่งใหญ่เหมือนเมื่อก่อน เขายังคงรักษาลักษณะที่ปรากฏก่อนที่เขาจะหายตัวไปในตอนนั้น
เขายังเด็กมากชุดเกราะของเขาขาดรุ่งริ่ง ทั่วร่างเต็มไปด้วยเลือด ผมสีดำกระจัดกระจายไปทั่ว ยังองอาจกล้าหาญเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง!
แม้จะผ่านไปหลายปีสือฮ่าวก็ยังเกลียดชังศัตรูเหล่านั้นในแดนรกร้างอย่างมาก เขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อกลับไปบดขยี้ศัตรูเหล่านั้น!
แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะบรรลุความเป็นอมตะได้แต่สุดท้ายเขาก็ถูกพรากไปต่อหน้าต่อตาของทุกคน
หลังจากการต่อสู้ที่ชายแดนรกร้างจบลงก็ไม่มีใครเคยเห็นเขาอีก
ใครจะคิดว่าเขาจะปรากฏตัวในเวลานี้จริงๆ หลังจากผ่านไปหลายปี!
มีเพียงเขาเท่านั้นที่ยืนอยู่ในความมืด มีรัศมีที่ไม่เป็นมงคลพลังมุ่งร้ายที่น่าสะพรึงกลัวอยู่รอบๆตัวเขา
"เจ้าเป็นใคร?!" กระบองทองคำเซียนแห่งความมืดกวัดแกว่ง ผู้อมตะวัยกลางคนคนนั้นถอยกลับหลังอย่างระมัดระวัง
ผู้อาวุโสใหญ่ค่อยๆกางมือออก
ฮอง!
หลังจากนั้น สวรรค์และปฐพีก็พังทลายลง พลังงานที่ไม่เป็นมงคลก็เพิ่มขึ้นทุกสิ่งทุกอย่างตกอยู่ในห้วงสีดำ
มือหนึ่งค่อยๆเคลื่อนลงมาคว้าอาวุธชั้นเซียน นั่นคือกระบองทองคำแห่งความมืด
ยิ่งกว่านั้นผู้อมตะที่แท้จริงดูเหมือนจะพบกับบางสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว เขาส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชแล้วสถานที่แห่งนั้นก็จมอยู่ใต้ความมืด ร่างของเขาค่อยๆถูกลากเข้าหาผู้อาวุโสใหญ่!
ในความมืดมิดนั้นเมิ่งเทียนเจิ้งที่แต่งตัวด้วยชุดเกราะสีทองขาดรุ่งริ่งเคลื่อนไหวช้าๆลากผู้อมตะที่แท้จริงไปยังพื้นที่สีดำสนิทที่น่ากลัว
อา…
ผู้อมตะที่แท้จริงกรีดร้องอย่างน่าสังเวช น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวราวกับกำลังเชิญหน้ากับสิ่งที่น่าสยดสยองมากที่สุดในโลก
ต้องเข้าใจว่าเขาเป็นผู้อมตะที่แท้จริง!
ในส่วนลึกของความเยือกเย็น ใครๆก็มองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้อมตะที่แท้จริงกำลังกวัดแกว่งคทาทองคำเซียนแห่งความมืดพยายามกำจัดสิ่งชั่วร้ายสีดำพวกนั้น
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ก็ไร้ประโยชน์ ดูเหมือนว่าเขาจะอ่อนแอลงทันที แม้แต่เสียงของเขาก็อ่อนลงแทบจะไม่ได้ยินอีกต่อไป
เมื่อกี้คืออะไร? ผู้เชี่ยวชาญจากดินแดนปิดผนึกคนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าเส้นขนทุกเส้นของเขาตั้งตรงหนาวสั่นสะท้านไปทั้งกาย
เขาไม่เคยพบกับสิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน มันทำให้เขารู้สึกอันตรายอย่างมาก
ผู้อมตะของตำหนักเซียนรีบบินถอยหลังไปไกล ใบหน้าของเขาซีดเผือด รู้สึกราวกับว่าเขาตกลงไปในส่วนลึกของนรก
ประสบการณ์ประเภทนี้ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งร่าง วิญญาณและร่างกายดั่งเดิมของเขาตึงเครียด
ความรู้สึกแบบนี้แย่มาก เหมือนกับตอนที่สี่ผู้อมตะตัวจริงเผชิญหน้ากับคุนเผิงซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญของอีกฝ่าย ร่างกายของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นคลอน
แม้ว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จในครั้งนั้น แต่พวกเขาทั้งสี่ก็เกือบจะตายไปหมดสิ้น ถ้าไม่ใช่เพราะยาเซียนช่วยชีวิตที่นำออกมาจากดินแดนอมตะ พวกมันคงตายกันหมดแล้ว
แม้จะได้รับการช่วยเหลือในวันนั้นแต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องดิ้นรนอยู่ท่ามกลางความเป็นความตายตลอดเวลา
ฮ่อง!
ไม่ไกลนักผู้เชี่ยวชาญลึกลับของดินแดนปิดผนึกได้ลงมือแล้ว ฝ่ามือของเขาขยายใหญ่ขึ้นแยกสวรรค์และปฐพีออกจากกัน จักรวาลอันมืดมิดกลายเป็นพื้นที่กว้างใหญ่แห่งการทำลายล้าง
ดวงดาวในสถานที่นั้นกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ภายใต้ความผันผวนอย่างมโหฬาร เศษฝุ่นพวกนั้นจึงถูกดูดกลับมากลายเป็นพลังโจมตีอีกครั้ง
ภายใต้แสงสว่างอันน่าสะพรึงกลัว ทะเลแห่งดวงดาวถูกเผา กลายเป็นมหาสมุทรแห่งเปลวเพลิง
นี่เป็นผลมาจากการที่ดาวทุกดวงถูกทำลายโดยการระเบิดอันน่าตกใจและเริ่มลุกไหม้อย่างดุเดือด