ตอนที่แล้วตอนที่ 639 : ใครกันแน่ที่โดนหลอก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 641 : ซื้อไปเลย!

ตอนที่ 640 : ตีลูกตัวเอง!


ตอนที่ 640 : ตีลูกตัวเอง!

เจียงเฉินที่เพิ่งเดินออกมาจากประตูมาได้ไม่นานแต่เขาก็เห็นรถโรลส์-รอยซ์ที่ดูทรงพลังและมีอำนาจขับเข้ามา

ชายที่ดูคล้ายกับจางชุ่ยรีบลงมาจากรถ

“หืม? ดูเหมือนฉันจะเคยเห็นคนๆนั้นมาแล้วเมื่อตอนมหาลัยเปิด เขาน่าจะเป็นพ่อของจางชุ่ย!”

หยางยี่ยี่พูดออกมา

เจียงเฉินยิ้มเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่จบที่ลูกแล้วสินะ

จางชุ่ยถูกเขาหลอกให้ต้องจ่ายเงิน 1.7 ล้านหยวน ซึ่งมากกว่าเงินที่เขาใช้ซื้อบาร์ จางชุ่ยคงจะไม่สามารถรับเรื่องนี้ได้ก็เลยขอให้พ่อของตัวเองเข้ามาช่วย

เจียงเฉินพาหยางยี่ยี่กลับเข้าไป

และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ

พ่อของจางชุ่ยกำลังคำรามออกมาด้วยความโกรธ

“ใครโกงลูกของฉัน?! ใครกันที่บังคับให้น้องชายของฉันต้องขายบาร์?! ไหนมังกรที่เห็นหัวแต่ไม่เห็นหาง?! หายหัวไปไหนแล้ว?!”

เจียงเฉินพูดออกมา “ฉันเอง! ทั้งหมดเป็นการทำธุรกิจตามกฎหมาย คุณจะเข้ามายุ่งอะไรได้?”

สายตาของผู้ชมจับจ้องไปที่เจียงเฉินทันที

มีเสียงสูดลมหายใจดังอย่างต่อเนื่อง

“ฉันมาทำอะไรที่นี่”

“เทพบุตรผู้หล่อเหลาคนนี้ โกงคนรวยรุ่นที่สองงั้นหรอ?”

“พ่อของคนรวยรุ่นที่สองดูยังไงก็ไม่น่ายั่วยุเลยนะ!”

"มีรายการดีๆมาให้ชมอีกแล้วครับท่านผู้ชม!"

เมื่อจางชุ่ยเห็นพ่อของเขามา เขาก็กระโดดขึ้นทันที

ฉันรู้สึกเหมือนฉันกลับมามีกำลังอีกครั้ง!

จางชุ่ยชี้ไปที่เจียงเฉินและพูดออกมาเสียงดังว่า "พ่อ! เขาโกงเงินผมไป 1.7 ล้าน! แถมเขายังใช้เงินเพียงแค่ 1.5 ล้านเพื่อซื้อบาร์ของลุงสาม! ตอนที่ลุงสามซื้อที่นี่เขาก็มีค่าใช้จ่ายหลายพันล้านแถมยังมีค่าตกแต่งที่เริ่มต้นก็อย่างน้อย 30 ล้าน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมลุงสามถึงขายมันให้เขาแบบขาดทุนอย่างนี้?”

พ่อของจางชุ่ยมองไปที่เจียงเฉินอย่างเย็นชา "โชคดีที่ฉันเป็นพ่อของจางชุ่ย ฉันชื่อว่าจางหยุนเถา ฉันยังไม่รู้ชื่อของนายนะ”

เจียงเฉินพูดออกมา “คุณไม่รู้หรอว่าผมชื่ออะไร?”

จางหยุนเถาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ใช่”

เจียงเฉิน "ถ้าคุณไม่รู้จักชื่อของผมมาก่อนก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก เพราะมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าระดับของคุณมันยังไม่เพียงพอและคุณก็ไม่สมควรที่จะรู้!"

ซีด....

ทุกคนตกใจ

คาดไม่ถึงว่าเจียงเฉินจะกล้าทำตัวหยาบคายกับจางหยุนเถาแบบนี้

เจียงเฉินถือตัวเองสูงเกินไปไหม

เขากล้าดูถูกจางหยุนเภาซึ่งหน้าแบบนี้เลยหรอ?

ใบหน้าของจางหยุนเถาแดงก่ำด้วยความโกรธ

เขาไม่เคยโดนดูถูกแบบนี้มาก่อน

“ฮ่าฮ่า ฉันอยู่ในโลกธุรกิจของเมืองหลวงมาหลายสิบปีแล้วและนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคนแบบนาย!”

จางหยุนเถาหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและเย่อหยิ่งแต่ในใจของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยความสงสัย!

ให้ตายเถอะ!

ฉันยังไม่ได้โอ้อวดแต่ฉันกลับถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม?

ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็พูดออกมา “คุณจาง ผมไม่ได้ตั้งใจจะว่าร้ายคุณ แต่ผมแค่พูดความจริง คุณกับผมไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกัน”

จางหยุนเถาหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ “โอเคๆ เราไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน แต่ฉันมาที่นี่เพื่อพาลูกสุนัขของฉันกลับไป เจ้าเด็กนี่มันโง่เองที่ตกหลุมพรางของนาย นายคงจะไม่ว่าอะไรสินะถ้าฉันจะพาเขาไป?”

เจียงเฉินยิ้มและพูดว่า "ช่วยพูดให้ชัดเจนด้วยว่านี่เป็นแผนการของใครกันแน่ เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจพาผมมาที่บาร์ที่น้องชายของคุณเปิดเพื่อโกงผม แถมเขายังจงใจยั่วโมโหผมด้วยการสั่งชุดมังกรมูลค่า 100,000 หยวน ถ้าผมไม่ได้ค้นพบแผนการของเขามานานแล้วคงเป็นผมเองที่โดนหลอกไป 1.7 ล้านหยวน ผมตามหาพี่ชายของคุณเพื่อขอซื้อบาร์ ถ้าคุณมีหลักฐานว่าผมใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้บาร์นี้มาคุณก็ไปฟ้องศาลเอาได้เลย แต่ถ้าไม่มีก็อย่ามาเอะอะ เพราะทางผมเองก็พร้อมที่จะหาทนายมาปกป้องชื่อเสียงของผมเหมือนกัน”

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเคร่งขรึมและผู้คนที่ดูอยู่รอบๆ ก็พากันพยักหน้า

“ใช่แล้ว พวกเราสามารถเป็นพยานได้ว่าเป็นลูกชายของคุณที่พาเขามาที่นี่ก่อนและยังเป็นฝ่ายยั่วยุเขาก่อนด้วย!”

นอกจากนี้ยังมีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งและเพื่อนร่วมชั้นของหยางยี่ยี่ที่เป็นพยานด้วย

“เป็นจางชุ่ยที่พาพวกเรามาที่นี่ก่อนและก็เขาที่ไปยั่วยุพี่เจียงก่อน! แถมตัวเขายังประกาศออกมาเองว่านี่คือการต่อสู้เพื่อแข่งความมั่งคั่ง!”

จางหยุนเถาพูดไม่ออก "..."

มีพยานมากขนาดนี้แล้วเขาจะปฏิเสธได้อีกหรอ? แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้!

เขามองลูกชายของเขาด้วยความโกรธ

จางชุ่ยรู้สึกอับอายเขาก้มหน้าลงและใบหน้าของเขาก็แดงก่ำก่อนจะพูดออกมาว่า "ผมไม่เชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะมีเงิน ผมแค่คิดว่าเขาแค่ต้องการโอ้อวดด้วยการเหมาดิสนี่ย์แลนด์ด้วยเงินทั้งหมดของเขา หลังจากนั้นผมก็เลยวางแผนให้เขามาที่ร้านของลุงสามด้วยวิธีนี้ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงสุดท้ายแล้วผลประโยชน์ก็จะมาตกอยู่ที่เราแต่ผมก็ไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดจะออกมาเป็นแบบนี้ "

จางหยุนเถาตบลูกชายของตัวเองด้วยความโกรธ!

เพี๊ยะ!

จางชุ่ยท่ถูกตบก็เซ!

บนใบหน้ามีรอยนิ้วทั้งห้านิ้ว!

“พ่อครับ พ่อตีผมทำไม?!”

จางชุ่ยตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด

จางหยุนเถาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ฉันตีแกไม่ใช่เพราะแกต้องการสู้กับเขา! ไม่ใช่เพราะแกต้องการแข่งความร่ำรวยกับเขา! ทีนี้แกคิดได้รึยังว่าเพราะอะไร?”

คนรอบข้างถึงกับอึ้ง!

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าพ่อของคนรวยรุ่นที่สองตรงหน้าของพวกเขานั้นจะยังมีความคิดที่เหมือนกับคนปกติ!

จางหยุนเถามองไปที่เจียงเฉินแล้วต่อว่าลูกชายของเขาว่า “สาเหตุก็เพราะว่าแกไปโกงเงิน 1.7 ล้านหยวนของคนอื่นก็แค่นั้น! แกอับอายบ้างไหม?! ครอบครัวของแกเห็นเงิน 1.7 ล้านมีค่ามากขนาดนั้นเลยหรอ?! ครอบครัวของเรายากจนขนาดนั้นเลยหรอ?! เงินแค่นั้นมันมีค่าขนาดนั้นเลยหรอ?!”

คนที่อยู่รอบๆพากันตัวแข็งด้วยความตกตะลึง!

หยางยี่ยี่ขมวดคิ้ว “มีคนโอ้อวดอีกแล้ว! เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้! เห้อ นี่มันครอบครัวอะไรกัน?”

คนรอบข้างก็พากันพูดออกมาอย่างมีความสุข

“พระเจ้า! เป็นการโอ้อวดที่เนียนจริงๆ!”

"ฉันให้ 105 คะแนนเลย! คนพ่อมีฝีมือกว่าคนลูกจริงๆ!"

“ฉันทุบตีลูกตัวเอง ไม่ใช่เพราะลูกตัวเองไปต่อสู้เพื่อวัดว่าใครร่ำรวยกว่ากัน แต่เพราะลูกของตัวเองเป็นหมาที่พยายามหลอกลวงเงิน 1.7 ล้านของคนอื่น!”

จางชุ่ยปิดใบหน้าที่ร้อนฉ่าของเขาและพูดอย่างไม่พอใจ “นี่ ผมรู้”

แม้ว่าใบหน้าของเขาตอนนี้จะเต็มไปด้วยความสำนักผิด แต่ในใจกลับตรงกันข้าม!

ให้ตายเถอะ!

ถ้าไม่เลวจริงๆ งั้นฉันขอเงินค่าขนมเดือนละ 2 ล้านได้ไหมล่ะ?

ถ้ามีมากขนาดนั้นแล้วพ่อคิดว่าผมจะยังไปโกงเจียงเฉินอยู่อีกไหม?

เห็นได้ชัดว่าลูกตัวเองกำลังจะตาย แต่พ่อกลับมาตบหน้าผมเนี่ยนะ?

จางหยุนเถามองดูลูกชายที่กำลังเสียใจของเขาก่อนจะลูบหัวของลูกชายและพูดด้วยดวงตาที่เปียกชื้นว่า "ลูกชาย บางทีพ่อของลูกอาจจะเข้มงวดกับลูกมากเกินไปจนควบคุมเงินค่าขนมของลูกในหนึ่งเดือนหนึ่งให้อยู่ที่ 300,000 หยวนจนมันทำให้ลูกคิดทำอะไรบ้าๆแบบนี้ขึ้นมาทั้งหมดนี้เป็นความผิดของพ่อเอง!"

คนรอบข้างตกใจทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น

“พระเจ้า เงินค่าขนม 300,000 หยวนต่อเดือน ยังจะน้อยไป?”

"ตาสุนัขของฉันบอดแล้ว!"

“แล้วที่พ่อฉันให้เงินค่าขนมเดือนละ 1,000 หยวนเท่านั้น ฉันควรจะไปปล้นธนาคารตั้งนานแล้วไหม?”

“ฉันได้แค่เดือนละ 300 เอง! ให้ตายเถอะ! นี่มันโลกแบบไหนกัน?”

เจียงเฉินที่อยู่ด้านข้างและเฝ้าดูการแสดงของสองพ่อลูกด้วยความสนใจ

เล่นต่อไปสิ! เล่นเพื่อฉันต่อไปสิ! ฉันสนใจที่จะดูมากเลยจริงๆนะ

จางหยุนเถาเอามือแตะศีรษะของเขาก่อนจะพูดออกมาเสียงดังว่า: "พ่อตัดสินใจแล้ว! เริ่มตั้งแต่วันนี้ เงินค่าขนมของลูกจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้าน! นอกจากนี้ พ่อจะให้ Lamborghini ราคาคันละ 5 ล้านหยวนกับลูก! ใช่แล้ว หลังจากที่ได้เงินไปแล้วลูกจะต้องกลับไปเดินบนทางที่ถูกต้อง ลูกจะต้องไม่ไปขุดหลุมพรางใครอีก เข้าใจไหม"

จางชุ่ยไม่อยากจะเชื่อเลยเขาเงยหน้าขึ้น!

น้ำตาซึม!

พัฟ!

ตื่นเต้นจนคุกเข่าลง!

“พ่อ! ผมผิดไปแล้ว! ผมรู้ดีว่าผมคิดผิด! ผมไม่ควรไปโกงเจียงเฉินเพื่อเงินจำนวน 1.7 ล้านหยวนและทำให้ครอบครัวของเราต้องอับอาย! ผมมันไม่ใช่คน! ผมไม่คู่ควรที่จะเป็นทายาทของตระกูลจาง! ฉันผิดไปแล้ว!”

ขณะที่เขาคร่ำครวญออกมาเขาก็ตบหน้าตัวเอง!

เสียงตบหน้าดังออกมาเรื่อยๆ

จางหยุนเถามีสีหน้าอ่อนโยนขึ้นมา หลังจากนั้นเขาจึงหยุดจางชุ่ยและพ่อกับลูกชายก็กอดกันและร้องไห้ออกมา!

“ลูกเอ๋ย มันไม่ใช่ความผิดของลูก! มันเป็นความผิดของพ่อเอง พ่อมักจะเข้มงวดกับลูกมากเกินไป เพราะพ่อหวังว่าลูกชายของพ่อจะกลายเป็นมังกรในอนาคต! แรงกดดันที่ลูกได้รับมันมีมากเกินไป พ่อเชื่อในวิธีการเลี้ยงลูกแบบเด็กยากจนมาโดยตลอด พ่อเลยให้ลูกขับรถยนต์คันละ 1 ล้านหยวนและให้เงินค่าขนมลูกเดือนละ 3 แสนเท่านั้น พ่อทำให้ลูกหลงทางเอง!”

จางหยุนเถาเอามือแตะหัวลูกชาย!

แสร้งทำเป็นพ่อลูกที่รักกัน...

ในเวลานี้เองเพลง BGM ก็ดังขึ้น!

แสงสว่างแห่งเส้นทางที่ถูกต้องส่องบนแผ่นดินโลก.....

เจียงเฉินที่มองจากด้านข้างก็หัวเราะเยาะออกมากับการทำงานอย่างหนักของพ่อและลูกชาย

ปากของหยางยี่ยี่กระตุก

“พวกคุณจะขอโทษสำหรับอะไรล่ะ? อาศัยแค่มุมมองแค่นั้นมันจะไปช่วยจางชุ่ยให้เดินไปในทางที่ถูกต้องได้ยังไง?”

“หึหึ สาวน้อย เธอยังเด็ก เธอไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้หรอก!”

จางหยุนเถาโบกมือ "สถานะทางครอบครัวของเราแตกต่างกัน ดังนั้นวิธีการสอนจึงแตกต่างกัน! สภาพครอบครัวของตระกูลจางของฉัน ลูกหลานตระกูลจางทุกคนได้รับการสั่งสอนไม่เหมือนกับคนธรรมดา! ดังนั้นคนที่ไม่รู้อะไรอย่างเธอก็อย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า"

ขณะที่เขาพูด เขาก็กำลังจะจากไปพร้อมกับจางชุ่ย

เจียงเฉินพูดออกมา “พ่อกับลูกโอ้อวดเหมือนกันเรื่องนั้นฉันไม่ได้สนหรอก แต่สำหรับเงิน 1.7 ล้านหยวน คุณที่เป็นพ่อจะไม่จัดการให้ลูกหน่อยหรอ?”

จางหยุนเถาและจางชุ่ยหยุดลงทันที

ไปต่อไม่ถูก!

พวกเขาโอ้อวดออกมาและคิดว่าเจียงเฉินคงจะไม่คิดบัญชีกับพวกเขาแล้วแต่ใครจะไปคิดว่าเจียงเฉินกลับยังจะเอาเงินให้ได้?!

เจียงเฉินโบกมือ!

พนักงานเสิร์ฟยื่นบิล 1.7 ล้านให้จางหยุนเถา

ปากของจางหยุนเถากระตุกสองครั้ง

ฮึ่ม!

หลังจากโอ้อวดไปขนาดนั้นตอนนี้จะมาบอกว่าไม่มีเงินมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

เดี๋ยวเสียหน้ากันหมดพอดี!

อย่างไรก็ตามจางหยุนเถาก็ไอและยิ้มออกมาอย่างเย็นชา!

เขาหยิบบัตรเครดิตออกมา!

เป็นบัตรสีดำ!

เมื่อเห็นบัตรใบนี้ ผู้คนก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที!

“พระเจ้า! บัตรใบนี้มีแต่มหาเศรษฐีในตำนานเท่านั้นถึงจะครอบครองได้ไม่ใช่หรอ?”

“พระเจ้า! นี่คือการ์ดเซ็นจูรี่!”

"อะไรนะ [บัตรเซ็นจูรี่] ในตำนานที่มีเพียงไม่กี่คนบนโลกเท่านั้นที่ได้ครอบครองงั้นหรอ?!"

“ใช่แล้ว! ฉันดูไม่ผิดแน่ นี่เป็นของจริง!”

หยางยี่ยี่ไม่เข้าใจ เธอมองไปที่เจียงเฉินอย่างสงสัย "บัตรเซ็นจูรี่คืออะไรหรอ"

เจียงเฉินยิ้ม "มีคนบางคนพูดว่ามันคือสิ่งที่มีเอาไว้เพื่อคนที่รวยสุดๆบนโลกเท่านั้นและพวกเขาก็มักจะชอบเอามันมาโอ้อวด! เมื่อหยิบมันออกมาส่วนใหญ่แล้วมันก็จะเพื่อการโอ้อวด!"

บัตรเซ็นจูรี่รุ่นทองคำดำ (เป็นระดับสูงสุด) ของ "บัตรเครดิตเซ็นจูรี่" ที่ออกโดยบริษัทอเมริกันเอ็กเพรส ในปี 2542 หรือจะเรียกอีกอย่างว่า "บัตรเครดิตเซ็นจูรี่" เนื่องจากสีหลักของหน้าบัตรเป็นสีดำมันจึงได้ชื่อเล่นว่า บัตรดำ" บัตรเซ็นจูรี่รุ่นทองคำดำได้รับการยอมรับว่าเป็น "ราชาแห่งบัตรเครดิต" บนโลก บัตรเครดิตรุ่นนี้ถูกจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นๆของโลก มันไม่มีการจำกัดวงเงิน ดังนั้นผู้ถือบัตรส่วนใหญ่จึงเป็นบุคคลสำคัญ มหาเศรษฐีและคนดังจากหลากหลายประเทศและการที่จะได้รับบัตรเครดิตรุ่นนี้พวกเขานั้นจะต้องได้รับเชิญจากบริษัทอเมริกันเอ็กเพรสเท่านั้น!

ผู้ถือบัตรนั้นจะสามารถเพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษ สิทธิประโยชน์และบริการที่พิเศษที่สุดของโลก

รวมถึง "ความต้องการส่วนตัวของคุณ" คุณจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกพิเศษซึ่งจะให้บริการและสนับสนุนคุณตลอดทั้งวันและคืนแก่สมาชิกและให้บริการให้คำปรึกษาด้านการศึกษาในต่างประเทศและบริการที่เกี่ยวข้องกับการย้ายถิ่นฐานที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสมาชิกชาวจีน

สรุปก็คือ! ไม่ว่าอะไรที่คนบนโลกสามารถทำได้บัตรดำใบนี้ก็จะช่วยคุณทำได้เกือบทุกเรื่อง!

ฟังแค่นี้ก็รู้สึกถึงความน่ากลัวของมันแล้วใช่ไหม?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด