ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0085
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0087

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0086


บทที่ 29 วิธีเอาตัวรอดในทะเลทราย (2)

* * *

ตุ้บ!

ทั้งมนุษย์ปลาและเบดูอินต่างก็มองหน้ากันด้วยความตกตะลึง

บาลูร์·กาซุนตายไปโดยไม่รู้ตัว

ราชาแห่งบ่อนรกที่ปกครองฝั่งตะวันตกของทะเลทรายมานานหลายสิบปี มนุษย์ปลาผู้ถูกคาดการณ์ว่าจะรวมทะเลทรายให้เป็นหนึ่ง

นักรบที่เก่งกาจ ผู้จารึกประวัติศาสตร์มากมายไว้บนผืนทะเลทราย ทรุดลงไปนอนบนพื้นประหนึ่งกระดาษถูกขยำ เลือดสาดกระเซ็นไปทุกทิศ

“…”

ความเงียบปกคลุมชั่วขณะ ตามด้วยความหวาดกลัว

จอมเวทที่แค่ยื่นแขนออกไป ก็สามารถเจาะทะลวงหน้าผากได้ง่ายดาย

จอมเวทที่เดินผ่านกำแพงซึ่งไม่มีใครข้ามได้

เหล่ามนุษย์ปลาคนเถื่อนเริ่มคิด

หากยังนิ่งเฉยต่อไป พวกมันไม่รอดแน่

มนุษย์ปลาได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว จึงเริ่มลงมือทันที

“อี๊ก—!”

พวกมันปล่อยเสียงประหลาดออกจากเหงือกพร้อมกับยิงฟัน

เริ่มจากมนุษย์ปลาตนที่อยู่หน้าสุด ทุกตนทยอยกรูเข้าใส่ด้วยดาบโค้งในมือ

ชาวเบดูอินสั่นกลัวอีกครั้ง แต่โชคดีที่รอบนี้ดาบโค้งไม่ได้เล็งมาทางตน แต่เป็นมนุษย์กับแวมไพร์

ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่มนุษย์ปลาจู่โจม มนุษย์มิได้พยายามร่ายเวทมนตร์ใดเพิ่มเติม

เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปลดปล่อยเวทมนตร์ทรงพลังได้อย่างอิสระ

นั่นคือข้อสรุปของมนุษย์ปลา พวกมันจึงพุ่งเข้าใส่มนุษย์โดยปราศจากความกลัว

ทันใดนั้น

“—”

ภาษาที่มิอาจได้ยินถูกพ่นจากปากมนุษย์

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเปล่งเสียง และมีเสียงดังขึ้นแน่นอน แต่กลับไม่ได้ยินอะไรเลย

กลุ่มมนุษย์ปลาชะงักฝีเท้าในทันที ปลายดาบแกว่งส่งเดช แต่ก็ทำได้เพียงวาดไปบนอากาศ

และผลลัพธ์ของความผิดพลาดคือความตาย

ฉัวะ!

ขณะมนุษย์ปลาตัวหน้าสุดถูกฟัน แวมไพร์สาวข้างๆ ปิดฉากด้วยการตัดเส้นเลือดใหญ่อย่างประณีต เป็นการโจมตีผสานอันแม่นยำราวกับซักซ้อมจนเกิดความชำนาญ

ขณะกำลังมึนงง มนุษย์ปลาตัวหน้าสุดล้มลงในสภาพเลือดท่วม

ซู่ว!

ในเวลาเดียวกัน กำแพงที่ไม่มีวันพังแหวกออกอีกครั้ง ราวกับถูกสั่งให้ทำหน้าที่เป็นประตู

มนุษย์ชายเดินออกไปจากตรงนั้น กำแพงปิดตัวลงและกลายเป็นกระจก

มองไม่เห็นอีกฝั่ง จะข้ามตามไปก็ทำไม่ได้

ขณะมนุษย์ปลากำลังยืนมึนงง

“—.”

ประตูเปิดออกอีกหน มนุษย์ปลาหันไปมองโดยพร้อมเพรียง

พวกมันยกดาบเตรียมสู้ แต่มนุษย์ชายกลับไม่ได้เดินเข้ามา

มนุษย์คนนั้นพกธนูมาด้วยหรือ?

ธนูคืออาวุธที่เทอะทะ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีทางที่พวกมันจะไม่สังเกตเห็นธนูที่อลังการเช่นนี้

ในท่าง้างสายจนตึง มนุษย์ชายกำลังเล็งศรมาทางพวกมัน

“หมอบ…”

ลูกศรถูกยิงก่อนที่มันจะพูดจบ หัวศรแยกออกเป็นสามเส้น ปลิดชีพมนุษย์ปลาสามคนที่ยืนใกล้กับกำแพง

ยังไม่ทันจะได้โต้กลับ กำแพงปิดตัวลงอีกครั้ง

มนุษย์ปลาสบถถ้อยคำหยาบคายด้วยเสียงสั่นเครือ

มนุษย์ปลาสี่จากยี่สิบกว่าตนเสียชีวิตในพริบตา

ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ใช้เวทมนตร์ทรงพลัง แต่สถานการณ์กลับแย่ลงเรื่อยๆ

พวกมันตัดสินใจแก้ไขสถานการณ์ บางตนหยิบหนังสติ๊กและหินแหลมออกจากอก

การรุมยิงพร้อมกันเมื่อกำแพงรอบถัดไปเปิดออก จะทำให้เป้าหมายบาดเจ็บสาหัสอย่างไม่ต้องสงสัย

มนุษย์ชายต้องคาดไม่ถึงแน่

นั่นคือสิ่งที่พวกมันคิด

ซู่ว!

ดวงตาทุกคู่แข็งทื่อทันทีที่กำแพงเปิดออก

ม้าสีดำกำลังยืนขวางทางเข้า

ม้าที่มีดวงตาสีแดงและเปลวไฟสีฟ้าแทนแผงขน

มันส่งเสียงคำรามต่ำ

เสียงที่ไม่เหมือนม้าเลยสักนิด

ม้าดำกำลังยิงฟันขาวคล้ายกำลังยิ้ม เป็นพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับบรรยากาศ

หนึ่งในมนุษย์ปลาที่มองด้วยสายตาเหม่อลอยตัดสินใจยิงหินแหลมใส่

มันคิดว่าคงข่มขวัญได้ไม่ยากเพราะม้าเป็นสัตว์ขี้กลัว

ทว่า ขณะหินแหลมพุ่งเข้าใส่ ม้าสีดำไม่แม้แต่จะหันไปมอง

เพียงใช้ปากคาบหินและกัดจนแตก

กร๊อบ—!

เศษหินแตกกระจาย

“สัตว์ประหลาด…”

มนุษย์ปลาก้าวถอยหลัง แต่ก็ช้าเกินไป

“กรร!!”

ม้าดำกระโจนเข้าใส่ในท่าแยกเขี้ยว โลหิตสาดกระเซ็นพร้อมกับเศษเนื้อที่กระจัดกระจาย

* * *

หากได้มองเข้าไปในตาของมัน ฉันสามารถอ่านความต้องการของสัตว์ร้าย

แม้จะฟังดูยิ่งใหญ่ แต่ความจริงแล้วไม่ขนาดนั้น ก็เหมือนกับคนธรรมดาที่บอกได้ว่าสิงโตกำลังหิวเมื่อมองเข้าไปในดวงตา

แต่ด้วยประสาทสัมผัสที่ถูกขัดเกลา ฉันรับรู้ได้ละเอียดอ่อนกว่านั้นเล็กน้อย

และเป็นเหตุผลที่ช่วยให้ตระหนักว่า เรลิกซิน่ากำลังฝืนยับยั้งสัญชาตญาณอันดุร้าย

ครั้งนี้จึงปล่อยให้อาละวาดได้ตามใจชอบ มันคงไม่ตายง่ายๆ ด้วยร่างกายที่เป็นม้าโลกันตร์จากไวลด์ฮันต์

ฉันอยากจะเห็นเรลิกซิน่าได้ยืดเส้นยืดสายบ้าง

ทว่า

“อุก…”

ลิลี่ขมวดคิ้วขณะเดินกลับมายังทะเลทราย

กำแพงปิดลงอีกครั้งพร้อมกับเสียงคล้ายไข่มุกกลิ้งบนถาดเหล็ก

“เรลิกซิน่า”

“กรร…”

“สกปรกน่า คายออกมา”

“กรร!”

“คายออกมา!”

เรลิกซิน่าคำรามต่ำพร้อมกับถุยสิ่งที่อยู่ในปาก โศกนาฏกรรมที่นี่โหดร้ายเกินกว่าจะบรรยายอย่างละเอียด ซากกระดานโต้คลื่นของพวกโจรกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น มองยังไงก็ดูคล้ายเซิร์ฟบอร์ดของโลก แต่มีบางจุดที่พิเศษกว่า

ฉันจ้องพวกมันสักพักก่อนจะยัดใส่กระเป๋า

“เจ้าจะพกไปด้วย?”

“มันดูน่าสนุกดี เธอจะเอาด้วยไหม”

“ไม่”

หลังจากยืนมองแผ่นหลังพวกโจรไม่กี่คนที่หลบหนีไป ฉันเดินไปทางกลุ่มเหยื่อที่ถูกปล้น

ผิวดำเกรียมมอบความรู้สึกคล้ายชาวทะเลทรายของโลก

ทว่า ร่างกายที่เล็กกว่าและหนามบนหลังมือบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสายพันธุ์ย่อย

ฉันจ้องพวกเขาสักพักก่อนจะเดินต่อไปบนทะเลทราย เพราะไม่มีธุระอะไรที่นี่แล้ว

หลังจากนำเข็มชี้ทองคำออกจากเสื้อ ฉันเดินต่อไปยังทิศทางที่เข็มเล็ง

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง กลุ่มคนที่ฉันช่วยไว้ยังคงตามหลังมา

ราวสามสิบคนเห็นจะได้ ไม่มีที่ให้ไปหรือ?

ฉันตัดสินใจหันไปถามไถ่ความเป็นมา เพราะคิดว่าพวกเขาอาจจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี

หนึ่งในนั้นตอบกลับมาทันทีราวกับรออยู่แล้ว

“…พวกเราคือชนเผ่าสมาคมการค้าเล็กๆ ที่ดำรงชีวิตโดยการค้าขายทางภาคเหนือ ขอบคุณที่ช่วยชีวิต”

“ดูไม่เหมือนสมาคมการค้าเลยนะ สินค้าถูกปล้นไปหมดแล้วหรือ”

หัวหน้าสมาคมพยักหน้า สีหน้าดูเศร้าหมอง

“ใช่ พวกเราถูกปล้นขณะกำลังขนส่งสิ่งสำคัญ ดูเหมือนว่าข้อมูลจะรั่วไหลไปถึงกลุ่มโจรที่อาศัยในบ่อนรก”

สิ่งสำคัญ?

เรื่องราวชักน่าสนใจ

“สิ่งนั้นคือ?”

“อาวุธสำหรับล่าคราเค่น สร้างโดยนักแปรธาตุจากตะวันออกเฉียงใต้”

“พวกนายคิดจะจับคราเค่น?”

หัวหน้าสมาคมพยักหน้า

“ถ้าไม่จัดการมัน พวกเราตายกันหมดแน่ คราเค่นขยายดินแดนในทะเลทรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากสัตว์ประหลาดที่เกิดในห้วงลึกขึ้นมาบนผิวทรายได้เมื่อไร เผ่าเบดูอินคงสูญพันธุ์กันหมด”

“จะจับคราเค่นได้ถ้ามีอาวุธนั่น?”

“ต้องลองดู… แต่ก็โอกาสต่ำมาก”

ขณะฉันพยักหน้ารับ สีหน้าของหัวหน้าสมาคมยิ่งขื่นขม

“แต่พวกโจรขโมยสินค้ากับเรือของเราไปแล้ว ตอนนี้คงไม่มีหวัง”

ห้วงลึก — ตำแหน่งของสัมบัติของคำชิ้นถัดไป

ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าไปด้วยวิธีไหน แต่ถ้าคิดจะลงไป ก็ต้องหาวิธีจัดการกับคราเค่นที่เฝ้าอยู่

ฉันเดินพลางครุ่นคิดสักพัก

จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อตัดสินใจเรื่องสำคัญ หลายๆ ปัญหาสามารถสะสางได้ง่ายดายหากมีเวลาคิดที่มากพอ

ขณะกำลังเดินไปคิดไป เท้าของฉันจมทรายกะทันหันจนต้องผงะก้าวถอยหลัง ลิลี่รีบเข้ามาคว้าแขนและดึงกลับ

“ตกใจหมดเลย”

“ทรายกำลังสั่น”

ฉันจมอยู่กับความคิดจนไม่ได้สังเกตเห็นภูมิประเทศที่เปลี่ยนไป

ซ่า!

ชาวโลกจะรู้ไหมนะ ถึงข้อเท็จจริงที่ว่า คลื่นทะเลและคลื่น ‘ทราย’ มีเสียงเหมือนกัน

ฉันไม่รู้จะอธิบายลักษณะการกระเพื่อมของทรายอย่างไรดี

หนึ่งในจุดเด่นของทะเลที่ทุกคนมักมองข้ามคือความระยิบระยับ เนื่องจากน้ำทะเลสะท้อนแสงแดดได้ดีมาก

จึงคิดไม่ถึงมาก่อนว่าทะเลที่ไม่ ‘ระยิบระยับ’ จะมอบความรู้สึกแปลกประหลาดได้ขนาดนี้

ทรายทุกเม็ดเคลื่อนตัวไปมา จากนั้นก็ปะทะกันและสร้างฝุ่นฟุ้ง

ลิลี่กับฉันมองดูฉากดังกล่าวสักพัก เป็นเวลานานกว่าจะดึงสติกลับมาได้

ฉันค่อยๆ ย่ำเท้าไปข้างหน้า ยังเป็นจุดที่พอจะยืนได้อยู่ คล้ายกับหาดทรายช่วงที่คลื่นทะเลสาดถึง

แต่เมื่อขยับไปอีกนิด ทุกสิ่งต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

“ถัดจากนี้ไปจะเดินเท้าเปล่าไม่ได้แล้ว ต้องมีเรือหรือกระดานเหมือนกับที่พวกโจรใช้”

ฉันจ้องคลื่นทรายพลางพยักหน้ารับ

ได้ข้อสรุปทางความคิดพอดี

“นายชื่ออะไร”

“ฮามูดี… พวกเราคือสมาคมการค้าฮามูดี”

“ฮามูดี นายอยากได้เรือกลับมาไหม”

“หา?”

“อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมไหม”

“…ก็อยาก”

“อยากได้คืนสินะ? อาวุธกับเรือน่ะ”

หนึ่งในลูกน้องที่ยืนฟังเงียบๆ มาสักพักก้าวขาออกมาและพูด สำหรับชาวเบดูอิน ชายคนนี้ค่อนข้างตัวใหญ่และหนวดดก

“พวกเราไม่รู้ว่ากลุ่มโจรกบดานที่ไหน เจ้ารู้หรือ?”

“ถึงต้องไว้ชีวิตพวกมันไง ไม่เห็นหรือว่ามีสองสามตัวหนีรอดไปได้”

“…เจ้าตั้งใจปล่อยให้รอด?”

“ถ้าไล่ตามผึ้งที่หนีไป ไม่นานก็จะได้พบรัง”

“ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด เราคลาดกับพวกมันแล้วไม่ใช่หรือ?”

“มาร์คามา ทู มารค์ เดอโมห์ส marlkaama to marlk de mohs”

กลุ่มลูกไฟสว่างขึ้น จากนั้นก็เรียงแถว

นี่คือทิศทางที่มนุษย์ปลาหนีไป

ประโยครูนซึ่งจะมุ่งหน้าไปหาเครื่องหมายที่ฉันทำเอาไว้

“ตามลูกไฟไป และจะได้พบรังผึ้งในที่สุด”

ชาวสมาคมการค้าต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นตัวจากอาการตกตะลึง

“ภาษารูน… ข้าเพิ่งเคยเห็นครั้งแรก เป็นเวทมนตร์ที่แปลกมาก… ฮามูดี เจ้าเคยเห็นในอาณาจักรมาก่อนใช่ไหม?”

ตรงกันข้าม สีหน้าฮามูดีทวีความตึงเครียด

“เคยเห็น… แต่ไม่เคยเห็นใครพูดได้ยาวขนาดนี้ในประโยคเดียว”

“ฮามูดีคงเคยเห็นแต่พวกจอมเวทมือใหม่”

“ลูกค้าคนสุดท้ายที่ข้าค้าขายด้วยคือจอมเวทราชสำนัก… จอมเวทชราคนนั้น แค่จะพูดสองคำติดกันยังลำบาก…”

ถึงจะคาดเดาไว้แล้ว แต่สถานการณ์มืดหม่นว่าที่ฉันคิด จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องคุย

“เอาล่ะ ถ้าตามลูกไฟไปเรื่อยๆ ก็จะได้พบสิ่งที่ถูกขโมยไป”

“แต่พวกเราไม่มีเรือ… รู้เส้นทางไปก็ไร้ประโยชน์ถ้าไม่มีเรือ…”

「ใครบอกว่าไม่มีเรือ เจ้าพวกโง่! คึฮ่าฮ่าฮ่า!!」

รู้อยู่แล้วว่าต้องออกมา

ถึงจะยังไม่เข้าใจว่า ทำไมหมอนี่ถึงเอาแต่ฟังอยู่เฉยๆ มาสักพัก

ซ่า—

“ว๊ากก!”

ชาวสมาคมการค้าผงะถอยหลังทันที

ควันกลุ่มหนึ่งโชยออกจากตะเกียงตรงเอวฉัน จากนั้นก็ค่อยๆ กลายเป็นรูปร่างเอ็ดเวิร์ด — โจรสลัดหนวดดำ

เขาแกว่งดาบโค้งสีใสไปมาเพื่อข่มขู่ทุกคน

คงได้ฟังเรื่องราวมาสักพักแล้วสินะ

ไม่จำเป็นต้องถาม เพราะสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังนั่นคือคำตอบ

ฉันยิ้มขณะมองเอ็ดเวิร์ด

「เจ้ายิ้มทำไม!? กัปตันไม่ใช่ตัวตลก! ข้าจะจับเจ้าแขวนไว้ที่กราบเรือและปล่อยให้กินทรายทั้งวัน!!」

“เอ็ดเวิร์ด”

「พูดสิ่งที่ต้องการมาเลย! อย่าเอาแต่ยึกยักลีลา!!」

“ไปปล้นกันไหม”

「ปล้น! ข้าจะปล้น!!」

โครม!

ทันทีที่เอ็ดเวิร์ดแหกปาก เรือลำใหญ่โผล่ขึ้นจากอากาศและตกกระแทกทราย

แตกต่างจากตอนเบสแคมป์ ครั้งนั้นเรือยักษ์ตกกระแทกพื้นและจมแน่นิ่งอยู่ในดิน แต่ปัจจุบันกำลังลอยอย่างมั่นคงบนผิวทราย ด้วยความช่วยเหลือจาก OWIC เรือที่ถูกซ่อมจนเสร็จสมบูรณ์กลายเป็นเรือโจรสลัดในอุดมคติ

「ขึ้นเรือ! ตรวจสอบเสบียงกับน้ำ! เหล้ารัมด้วย! ไม่มีก็ไม่เป็นไร! เพราะพวกเราจะไปปล้นมา!!」

“…”

ผิดจากความกระตือรือร้นของเอ็ดเวิร์ด ทุกคนเอาแต่ยืนมองฉากดังกล่าวด้วยสายตาว่างเปล่า

ฉันช่วยเร่งเร้า

“พวกนายอยากทวงเรือคืนใช่ไหม”

หัวหน้าสมาคมพยักหน้ารับ แต่ยังคงจ้องเอ็ดเวิร์ดด้วยอาการตกตะลึง

「เจ้าพวกหอยทาก! มัวทำอะไรอยู่? ถ้าไม่รีบขยับก้น ข้าจะจับทุกคนแขวนไว้บนใบเรือครึ่งวัน! ขึ้นเรือเดี๋ยวนี้!!」

“…”

「ขึ้น! เรือ!!」

“ร…รับทราบ!”

「โจรสลัดต้องขานรับว่า ‘อายอาย!’ เพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียว! พวกเจ้าอยากถูกแส้เฆี่ยนรึไง!!」

“อ…อายอาย!!”

กลุ่มคนที่ถูกข่มขวัญทยอยขึ้นเรือทีละหนึ่ง ฉันแทบกลั้นขำไม่อยู่ขณะมองฉากเหล่านั้น

เอ็ดเวิร์ดมองทุกคนปีนขึ้นเรือจนครบ จากนั้นก็ปีนขึ้นเรือตามไปและหันมาพูดกับฉัน

「ข้าขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นรองกัปตัน! จงสำนึกในเกียรติที่ได้รับซะ!!」

“โอ้ เป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

「เฮ้ย! นังหน้าเด็ก! ปรกติแล้วข้าจะไม่รับสตรีขึ้นเรือ แต่โจรสลัดหัวก้าวหน้าและวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างข้าไม่ถือสาเรื่องนั้น! ขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็น… ผู้ช่วยกัปตันและนักสู้ประจำเรือ! เจ้าใช้มีดเก่งดี!!」

“…”

「ขานรับสิ!」

“…อื้อ”

「โจรสลัดต้องขานรับว่าอายอาย!!」

“อ…อายอาย”

ฉันจงใจไม่หันหลังกลับไปมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าลิลี่กำลังทำหน้าแบบไหน

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (3/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด