845 - แย่งชิงมรดกของจักรพรรดิ
845 - แย่งชิงมรดกของจักรพรรดิ
ภัยพิบัตินั้นรุนแรงมาก สายฟ้าหลายร้อยหลายพันตกลงมาไม่หยุด กลายเป็นพื้นที่สีขาวกว้างใหญ่
สายฟ้าพังทลายลงสู่พื้นดินจมลงในความว่างเปล่านี้ ยอดภูเขาถล่มลงมา และแผ่นดินก็ทรุดตัวลง กลายเป็นเศษดินที่ถูกไฟแผดเผาโดยไม่มีชีวิตชีวาใดๆ
“ฮะ”
ในเวลาเดียวกันเย่ฟ่านถือคันเกาทัณฑ์ว่านซาง ลูกเกาทัณฑ์สีทองตัดผ่านคลื่นสายฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อพุ่งไปข้างหน้า ทำให้พลังของสายฟ้ารุนแรงยิ่งขึ้น
“บูม!”
ในที่สุดเซียวอวิ๋นเฉิงก็สัมผัสได้ถึงหายนะของตัวเอง และแสงสีขาวที่ท่วมท้นก็เป็นเหมือนหมู่ดาวที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
ทุกคนรู้ว่าทัณฑ์สายฟ้าของเซียวอวิ๋นเฉิงสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยสายฟ้าที่ใหญ่โตขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องตายแน่นอน
“ภัยพิบัติครั้งนี้ใหญ่โตเกินไป!”
นี่คือหายนะครั้งใหญ่ ไม่ใช่แสงเท่านั้น แต่เป็นการมาถึงอย่างเต็มรูปแบบของพลังแห่งสวรรค์ที่ไม่อาจต้านทานได้
“ต้องเป็นเพราะว่าวันนี้มีภัยพิบัติมากเกินไป สวรรค์จึงเกิดความพิโรธ!”
ทุกคนเชื่อว่าสายฟ้าสวรรค์ของเซียงอวิ๋นฉิงสิ้นสุดลงและแทบจะไม่มีทางรอด เพราะมันยิ่งใหญ่กว่าภัยพิบัติของปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาหลายเท่า
เย่ฟ่านก็ตกตะลึงเช่นกัน ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกขนลุก มีเพียงสายฟ้าเส้นเดียวที่ตกลงมาก็สามารถบดขยี้ยอดเขาขนาดใหญ่ได้อย่างแน่นอน
เขาเคยเห็นภัยพิบัติเล็กๆน้อยๆของดิน น้ำ ลม และไฟแต่เมื่อเปรียบเทียบกับภัยพิบัติประเภทนี้แล้วมันคนละระดับกันเลย สิ่งที่เขาเห็นต่อหน้าต่อตาของเขาคือธาตุทั้งสี่นั้นปั่นป่วนและโกลาหล
“บูม”
แสงไฟหลายพันดวงสว่างวาบ แสงสว่างพร่างพราวจนมองไม่เห็นสิ่งใด
เซียวอวิ๋นเฉิงคำราม สายฟ้าที่ผ่าลงมาครั้งแรกทำให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกทำลายไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
ครั้งที่สองร่างกายของเขาไหม้เกรียมเผยให้เห็นกระดูกสีขาวด้านใน เมื่อครั้งที่สามมาถึง ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นๆกระดูกของเขาดำสนิท และเลือดของเขาก็แห้งเหือด
ด้วยวิธีนี้ หลังจากครั้งที่แปดผ่านมาถึง เขาก็ไม่อาจต้านทานมันได้อีกต่อไป
เย่ฟ่านเหาะหนีไป ภัยพิบัติของเขาใกล้จะจบลงแล้ว และมันคงเป็นทายานะอย่างร้ายแรงหากเขาไม่จากไป แต่เส้นทางในโลกใบเล็กนี้คดเคี้ยวเกินไป การหาทางออกคงต้องใช้เวลาชั่วขณะหนึ่ง
เย่ฟ่านหน้าซีดลง ภัยพิบัติกำลังจะหายไป และสิ่งมีชีวิตผู้แข็งแกร่งจากจงโจวคงไม่คิดจะละเว้นชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
“ทิ้งคัมภีร์จักรพรรดิไว้ซะ!”
จักรพรรดิเซี่ยกล่าวอย่างเฉยเมย เขาจะไม่ยอมให้ใครนำมรดกที่บรรพบุรุษทิ้งไว้จากไปอย่างแน่นอน มิฉะนั้น คัมภีร์โบราณจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป และใครบางคนสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อสร้างราชวงศ์เซี่ยอันยิ่งใหญ่ที่สองขึ้นมาได้
สายฟ้าครั้งสุดท้ายหายไป สีหน้าของเย่ฟ่านเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ทางออกอยู่ข้างหน้า แต่มีมังกรตัวใหญ่อยู่บนท้องฟ้า ม้วนตัวอยู่รอบๆความว่างเปล่า และรังสีของแสงที่ปปลดล่อยออกมาก็สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
นี่คือกระบี่ของจักรพรรดิ์ซึ่งเป็นอาวุธเตาสุดขั้วที่สั่นสะเทือนสวรรค์ในสมัยก่อน พลังการโจมตีของมันไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้!
ทุกคนต่างก็สั่นสะท้านด้วยความกลัว อาวุธของจักรพรรดิ์ค่อยๆฟื้นตัว กลิ่นอายของจักรพรรดิโบราณกำลังแทรกซึม และแม้กระทั่งกลุ่มที่มีอำนาจสูงสุดก็อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง
เย่ฟ่านรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาคัมภีร์จักรพรรดิจากไป นี่คือเส้นเลือดใหญ่สิ่งสำคัญของราชวงศ์เซี่ยและเป็นที่มาของมรดกของพวกเขา ไม่ว่าเขาจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้มันตกไปอยู่ในมือของคนนอก
ไม่ไกลออกไป พลังปราณที่น่าสะพรึงกลัวอีกอันก็พุ่งขึ้น ทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนในทันที
แผนที่จิ่วหลีเป็นอาวุธของจักรพรรดิโบราณ อาวุธเต๋าสุดขั้วนี้สามารถผนึกยุคสมัยและกวาดล้างโลกทั้งสามพันใบได้
ตามตำนานเล่าว่าศัตรูของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เคยต่อสู้เพื่อตำแหน่งจักรพรรดิ แต่สุดท้ายพวกเขาพ่ายแพ้และวิญญาณของพวกเขาถูกสังเวยให้กับอาวุธชิ้นนี้
มุมปากของเย่ฟ่านบิดเบี้ยว หนังศีรษะของเขาชาด้าน หัวใจของเขาหวาดผวา แล้วเขาจะหนีออกไปได้อย่างไร? หายนะหายไปแล้ว แต่พลังอันเป็นอมตะจากอาวุธเต่าของจักรพรรดิสามารถทำให้เขากลายเป็นเถ้าถ่านได้อย่างง่ายดาย
ในขอบเขตดังกล่าว เขาไม่สามารถหลบหนีได้เลย ทั้งยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาวุธ 2 ชิ้นนี้สามารถกวาดล้างโลกได้อย่างแน่นอน นับประสาอะไรกับตัวเขา
“เย่ฟ่าน เย่เจ๋อเทียน ขอข้าดูหน่อยว่าเจ้ากำลังหนีไปไหน!” ประมุขตระกูลเซียวกล่าวอย่าเฉยเมย
ข้างเขาปรมาจารย์นิกายหยินหยางกำลังจ้องมองอย่างเย็นชา ราวกับว่าเย่ฟ่านกลายเป็นศพไปแล้ว
“บูม!”
ในอีกด้านหนึ่ง หม้ออสูรกลืนสวรรค์โบราณฟื้นขึ้นมา พลังของจักรพรรดิผู้ไร้ขอบเขตก็หลั่งไหล และชายผู้โหดเหี้ยมที่สั่นสะเทือนสมัยโบราณดูเหมือนจะได้เกิดใหม่ รัศมีที่อธิบายไม่ได้ของเขาแทรกซึมไปทั่วบริเวณ
“อาวุธของจักรพรรดิโบราณฟื้นคืนชีพแล้ว!”
ทุกคนประหม่าอยู่ครู่หนึ่ง หม้อกลืนสวรรค์นั้นถือได้ว่าเป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วที่แข็งแกร่งที่สุด มันถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน และหายสาบสูญไปเป็นเวลานานแทบไม่มีใครรู้ว่ามันทรงพลังขนาดไหน
“แย่แล้ว!”
ผู้อาวุโสสูงสุดบางคนที่กำลังมองไปยังพื้นที่รอบนอกและอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง พวกเขาไม่สามารถทนต่อแรงกดดันของอาวุธจักรพรรดิทั้งสามได้
นี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าละอาย เพราะแม้แต่ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่หลายคนก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ร่างกายของพวกเขาสั่นอย่างต่อเนื่อง และขาของพวกเขาก็สั่นไร้ซึ่งเรี่ยวแรงขัดขืนโดยสิ้นเชิง
เย่ฟ่านรีบวิ่งไปที่หม้ออสูรกลืนสวรรค์ สำหรับเขานี่เป็นดินแดนบริสุทธิ์เพียงแห่งเดียวและทุกคนภายนอกต่างจ้องมองมาที่เขาและจ้องมองไปที่คัมภีร์ของจักรพรรดิ
“พี่เย่ กลายเป็นว่าเจ้าเป็นทรราชแห่งดินแดนรกร้างตะวันออก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำให้เหยียนอวิ๋นหรันเป็นบ้า” ตงฟางเย่ก้าวไปข้างหน้า
“สุนัขสีดำที่เคยอยู่กับเจ้าล่ะ อยู่ที่ไหน” ต้วนเต๋อถามอย่างขุ่นเคืองเล็กน้อย จักรพรรดิดำเกือบจะกัดแขนของเขาในอดีต
เย่ฟ่านถอนหายใจเขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถเก็บม้วนคัมภีร์นี้ไว้ได้ นี่คือที่มาของมรดกของราชวงศ์เซี่ย แม้ว่าพื้นหลังทั้งหมดจะถูกถอดออกมา แต่พวกเขาจะไม่ยอมปล่อยมันหลุดมือไปแน่
ยิ่งกว่านั้น ปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์มากมายยังคอยจับจ้องสถานการณ์อยู่ด้านข้าง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ฟื้นคืนชีพแล้ว หากมีการต่อสู้จริงๆโลกนี้ก็จะถูกทำลายอย่างแน่นอน
หม้ออสูรกลืนสวรรค์นั้นทรงพลังจริงๆแต่มันจะยากมากที่จะต่อสู้กับอาวุธของจักรพรรดิทั้งสองในเวลาเดียวกัน
เย่ฟ่านดึงสลักหินสองสามตัวและพลิกเอาแผ่นกระดานด้านล่างออก จากนั้นเขาก็โบกมือแล้วโยนคัมภีร์เพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที
“เคร้ง”
ในขณะนั้นกระบี่ของจักรพรรดิถูกปลดปล่อยออกมา เสียงคำรามของมังกรดังก้องไปถึงสวรรค์ มันแสดงออกอย่างเด็ดขาดว่าหากผู้ใดคิดแย่งคัมภีร์นี้จะต้องเป็นศัตรูกับราชวงศ์เซี่ยอย่างถึงที่สุด
“ครืน”
แผนที่จิ่วหลีสั่นสะเทือนและผนึกท้องฟ้าทั้งหมด จากนั้นพลังของมันได้ม้วนเข้าหาคัมภีร์โดยไม่สนใจคำเตือนของจักรพรรดิเซี่ยแม้แต่น้อย
แม้ว่าคนอื่นๆจะเสียดายแต่ไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้า จักรพรรดิทั้งสองกำลังปะทะกัน ใครก็ตามที่สอดมือเข้าไปย่อมเป็นการรนหาที่ตายอย่างแท้จริง
“กระบี่ไท่ฮวงและจิ่วหลีถูไม่ได้ต่อสู้กัน พวกมันเพียงแค่คุมเชิงเท่านั้น”
ในเวลานี้ผู้คนต่างประหม่าอย่างยิ่ง เมื่ออาวุธของจักรพรรดิทั้งสองฟื้นคืนชีพและปะทะกันกันเต็มที่โลกนี้ก็จะพังทลาย ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่
ชายชราตาบอดหลั่งเหงื่อเย็นเยียบและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกระตุ้นหม้อวิเศษให้ป้องกันตัวเอง มิฉะนั้นหลังจากการล่มสลายของโลกใบเล็กนี้ ยกเว้นผู้ที่ได้รับการคุ้มกันโดยอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ คนอื่นๆจะถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน
“คัมภีร์จักรพรรดิเป็นความลับของตระกูลตระกูลเซี่ยเราไม่อนุญาตให้ผู้ใดนำมันออกไป ส่วนน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์ห้าสีซึ่งมีผิวหนังของจักรพรรดิอมตะพวกเจ้าก็แย่งชิงกันตามสบายเถอะ…” จักรพรรดิเซี่ยกล่าวเบาๆ
“แล้วพวกเราล่ะ…”
เจ้าอ้วนต้วนพูดเตือนทุกคนว่าอย่าลืมว่าพวกเขาก็มีอาวุธของจักรพรรดิเช่นกัน คนอื่นไม่มีส่วนแบ่งไม่เป็นไรแต่พวกเขาจะต้องได้รับส่วนแบ่งด้วย
เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะหนึ่ง และความคิดของทุกคนก็แตกต่างกัน
ในเวลานี้จิตใจของเย่ฟ่านกำลังตื่นตระหนก เพราะทางออกของโลกใบเล็กๆถูกเปิดออกแล้ว เขารู้ดีว่าตัวเขาเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด และคงเป็นเรื่องยากที่จะเอาตัวรอดได้
เย่ฟ่านคืนกระดูกแขนสีทองให้กับตงฟางเย่เขาก็พยักหน้าให้กับสหายทุกคนและทะลวงความว่างเปล่าด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของสวรรค์
“อย่าปล่อยให้เขาหนีไปได้!”
หวังหยางซานเป็นคนแรกที่ไล่ตามไป เขารู้ว่าการที่อาวุธเต๋าสุดขั้วอยู่ที่นี่มันไม่มีทางที่เขาจะได้รับประโยชน์อะไร ดังนั้นเขาจึงไล่ล่าเย่ฟ่านโดยต้องการขุดค้นความลับจากฝั่งนั้นแทน
“หยุดแล้วยอมรับความตายของเจ้าซะ!”
ผู้คนในตระกูลเซียวก็ตะโกนเช่นกัน ตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาได้ตายไปแล้ว มันไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยให้เย่ฟ่านหลบหนีไปเช่นกัน
เมื่อทุกคนกำลังไล่ตามอย่างถึงที่สุด ในพริบตาเดียวเย่ฟ่านก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาได้รับคัมภีร์โบราณในขอบเขตทักษะแปลงมังกรที่เขาต้องการแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องวนเวียนอยู่ที่นี่อีกต่อไป