ตอนที่แล้วบทที่ 169 ยังไม่ถึงค่าเฉลี่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 171 เธอจะขโมยตำแหน่งน้องสาวสุดที่รักไปจากฉันหรือเปล่า?

(ฟรี)บทที่ 170 ข้อบกพร่องสามประการ


หลินหยวนเฝ้าดูเย่เฟิงเล่นเปียโนอย่างเงียบๆก่อนหน้านี้

ทักษะเปียโนของเย่เฟิงนั้นอยู่ในระดับมืออาชีพจริงๆ

แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เฟิงว่าคุณภาพของเปียโนนั้นอยู่ในระดับปานกลางและบางคีย์ก็ตอบสนองได้ช้า หลินหยวนก็หัวเราะ

คำพูดเหล่านี้เหมือนกับการตบหน้าเหมยอวี้เซียน

เช่นเดียวกัน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเหมยอวี้เซียนก็หายไป

เย่เฟิงพูดสองครั้งแล้วว่าเปียโนมีปัญหา

แต่ความจริงก็คือ เย่เฟิงแค่แสร้งทำเป็นว่าเขาจะเล่นได้ดีกว่านี้ หากเปียโนมีคุณภาพและไม่มีปัญหากับคีย์

แต่นี่ก็เหมือนเป็นการดูถูกตระกูลเหมย

ท้ายที่สุดแล้วนี่คืองานเลี้ยงที่จัดโดยตระกูลเหมย และเย่เฟิงกล่าวสองครั้งแล้วว่าเปียโนของตระกูลเหมยมีคุณภาพปานกลางและมีข้อบกพร่อง

เขาหมายความว่ายังไง?

เขาเล่นเปียโนเก่งมากและคุณภาพของเปียโนตัวนี้ไม่ดีพอสำหรับเขา?

กุ้ยชิงถงรู้สึกรังเกียจมากยิ่งขึ้น

【ติ๊ง! เหมยอวี้เซียนรังเกียจเย่เฟิง! รางวัล 200 คะแนนโต้กลับ!】

【ติ๊ง! กุ้ยชิงถงรังเกียจเย่เฟิง! รางวัล 200 คะแนนโต้กลับ!】

ตามที่หลินหยวนคาดไว้ ระบบดังขึ้นในใจของเขาทีละหน

แน่นอนว่าตระกูลเหมยไม่เชื่อเย่เฟิง

คนอื่นๆเชื่อเย่เฟิง เมื่อเขาบอกว่าปัญหาอยู่ที่เปียโนและมันก็ส่งผลต่อการแสดงของเขา

เมื่อได้ยินระบบแจ้งเตือนและเสียงชื่นชมเย่เฟิง หลินหยวนก็คิดว่าเขาควรพูดอะไรบางอย่าง

หลินหยวน: “ในความคิดของฉัน คุณยังไม่ถึงค่าเฉลี่ยด้วยซ้ำ”

คำพูดสั้นๆของหลินหยวนเป็นเหมือนเสียงเดียวที่ก่อให้เกิดคลื่นนับพัน

ผู้คนที่กำลังชื่นชมเย่เฟิงถูกทำให้เงียบโดยคำพูดของหลินหยวน

เกือบทุกคนในห้องโถงมองไปที่หลินหยวนในเวลานี้

“เกิดอะไรขึ้นกับนายน้อยหลิน?”

หลินหยวนกล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่าเย่เฟิงยังไม่ถึงเกณฑ์

ทักษะเปียโนของเขาอยู่ขั้นไหนกันถึงกล้าพูดแบบนี้?

เมื่อคิดถึงความขัดแย้งระหว่างทั้งสองคนก่อนหน้านี้ ทุกคนก็รู้สึกว่าหลินหยวนตั้งใจยั่วยุเย่เฟิง

เย่เฟิงก็คิดเช่นกัน

แม้ว่าเขาจะโกรธและไม่พอใจมาก แต่เย่เฟิงยังคงตอบอย่างถ่อมตนและถามว่า: “นายน้อยหลินหยวน ดูเหมือนคุณจะรู้จักเปียโนเป็นอย่างดี งั้นคุณชี้ให้เห็นถึงปัญหาได้ไหม?”

เย่เฟิงแสร้งทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตนในเวลานี้

เย่เฟิงคิดว่าหลินหยวนตั้งใจยั่วยุเขา และไม่คิดว่าหลินหยวนจะมีทักษะในการเล่นเปียโน

และแม้ว่าหลินหยวนจะมีทักษะอยู่บ้าง แต่เย่เฟิงก็ไม่คิดว่าตัวเองเล่นได้แย่เช่นกัน

เย่เฟิงคิดว่าไม่มีปัญหากับการแสดงของเขาก่อนหน้านี้

แม้ว่าทักษะเปียโนของหลินหยวนจะดีกว่าเขา แต่หลินหยวนก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าเขาเล่นได้ไม่ถึงค่าเฉลี่ย

ดังนั้นเย่เฟิงจึงแสร้งทำเป็นถ่อมตัวทันที เพื่อดูว่าหลินหยวนจะตอบสนองอย่างไร

หากหลินหยวนไม่สามารถชี้ให้เห็นถึงปัญหาในการแสดงของเขาได้ ก็เหมือนกับการตบหน้าตัวเอง

มีผู้ชมบางคนที่รู้ว่าหลินหยวนเล่นเปียโนไม่เป็น

ดังนั้นพวกเขาจึงรอคำตอบของหลินหยวน และรอเวลาที่เขาจะขายหน้า

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดก็คือ หลินหยวนพูดด้วยท่าทางสงบ: “ข้อบกพร่องประการแรกคือคุณไม่ได้เล่นด้วยอารมณ์ อย่างที่เราทุกคนทราบดีว่า 'Ballade Pour Adeline' ของ ริชาร์ด เคลย์เดอร์มอง นั้นไม่ใช่ผลงานที่ยากมาก เพราะหลายคนสามารถเล่นมันได้ดี มันควรจะเป็นการบรรเลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ตอนคุณเล่นมันไม่มีสิ่งพวกนั้นเลย ทำนองนั้นเรียบเกินไปและน่าเบื่อ”

เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยวน รอยยิ้มของเย่เฟิงก็แข็งค้างเล็กน้อย

หลินหยวนพูดถูก เพราะเขามีทักษะเปียโนระดับมืออาชีพและมีความเข้าใจในทฤษฎีของดนตรี

นักเปียโนระดับมืออาชีพจะต้องรวมร่างกายเข้ากับจิตใจ และมุ่งความสนใจไปที่การผสานอารมณ์เข้ากับจังหวะของเพลงนั้นๆ

ในตอนแรก เย่เฟิงเพียงต้องการเล่นเปียโนเพื่อดึงดูดใจผู้หญิงที่มีสถานะสูงส่งและหลังจากนั้นก็มีบางสิ่งรบกวนจิตใจของเขาอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถมุ่งความสนใจไปที่การเล่นผลงานชิ้นนี้ด้วยอารมณ์ได้

แต่ทำไมหลินหยวนถึงวิจารณ์เขาด้วยความต้องการที่สูงเช่นนี้!

สิ่งที่หลินหยวนพูดนั้นถูกต้อง แต่จะมีซักกี่คนกันที่สามารถเล่นเปียโนโดยผสมผสานอารมณ์เข้ากับปุ่มเย็นๆได้?

เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้ คนๆนั้นต้องมีทักษะเปียโนระดับปรมาจารย์ หรือต้องพยายามอย่างมากที่จะรวมอารมณ์ต่างๆไว้ในคีย์ของเปียโน

แน่นอนว่าตอนที่เย่เฟิงเล่นนั้นไม่มีอารมณ์ใดๆเลย แต่ระดับเสียงและเบสนั้นแม่นยำมาก

แม้มันจะไม่ดีเท่ากับปรมาจารย์ด้านเปียโน แต่ทุกคนก็คิดว่าทักษะของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่ามากนัก

ทำไมหลินหยวนถึงวิจารณ์เย่เฟิงมากขนาดนี้?

เย่เฟิงและผู้คนจำนวนมากมีความคิดแบบเดียวกัน

แต่ก่อนที่เย่เฟิงจะพูดอะไรต่อไป หลินหยวนก็พูดออกมาว่า “ข้อบกพร่องประการที่สองคือคีย์ของคุณไม่เสถียรมาก โน้ตพื้นฐานบางตัวไม่ได้ถูกเล่นอย่างถูกต้อง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เฟิงก็เถียงว่า “นายน้อยหลิน ไม่ใช่ว่าฉันอธิบายไปแล้วหรือไง? ปัญหามันเกิดจากเปียโน ฉันไปไม่ถึงโน้ตบางตัวเพราะมีบางอย่างผิดปกติกับคีย์...”

หลินหยวนขัดจังหวะทันที: “นี่คือข้อบกพร่องข้อที่สามของคุณ คุณโทษเปียโนนับครั้งไม่ถ้วน แน่นอนว่าเปียโนมีความสำคัญ แต่เท่าที่ฉันนั่งฟัง สิ่งที่เป็นปัญหาคือตัวคุณเอง”

ตอนนี้เย่เฟิงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย

ด้วยเพลงที่เขาเพิ่งเล่น ดูเหมือนว่าหลินหยวนจะไม่นับมันเป็นสิ่งใดเลย

ผลงานระดับมืออาชีพของเขาและเสียงเชียร์จากผู้ชมกลับกลายเป็นไร้ค่า ใครกันจะทนรับความอับอายเช่นนี้ได้?

เย่เฟิงไม่ได้แสร้งทำเป็นเป็นถ่อมตัวอีกต่อไปและถามหลินหยวนอย่างเย็นชา “ในเมื่อนายน้อยหลินมีความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับการแสดงของฉัน ทำไมคุณไม่ลองมาแสดงทักษะของคุณให้ดูบ้างล่ะ?”

เย่เฟิงบอกให้หลินหยวนขึ้นไปบนเวทีและเล่นเพลง

ไม่เพียงแค่เย่เฟิงที่ต้องการพูดแบบนี้ แต่ผู้ชมจำนวนมากก็คิดเช่นเดียวกัน

เป็นไปตามที่หลินหยวนคิด เย่เฟิงและผู้คนจำนวนมากคิดว่าความคิดเห็นของเขานั้นไร้สาระ

ข้อบกพร่องทั้งสามประการก็คงเป็นสิ่งที่เขาพึ่งแต่งขึ้น

ในฐานะผู้ฟัง ทำไมหลินหยวนถึงวิจารณ์อย่างรุนแรงเช่นนี้?

**********