ตอนที่แล้วEp.355 - ความร่วมมือแบบวิน - วิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.357 - แผนจุดไฟจากก้นหม้อ

Ep.356 - ก็อบลินหมีบุกโจมตี


2/3

Ep.356 - ก็อบลินหมีบุกโจมตี

สกายเน็ตคือกองกำลังอันดับหนึ่งในเจียงเฉิง พลังรบของพวกเขาไม่ได้เกิดจากจำนวนของกองพลน้อยและจำนวนพลรบหลายพันคนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงทีมโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง

สมาชิกของสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงโดยรวมแล้วจริงๆมีมากถึง 10000 -20000 คน

องค์กรกึ่งทหารนี้อาศัยภูมิหลังของประเทศ ติดต่อประสานงานร่วมกับภูมิภาคอื่นๆ โยกย้ายวัตถุดิบที่ต้องการจากส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแค่เฉพาะจุดนี้ก็เกินพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาทรงพลังกว่าทีมอื่นๆ

อย่างน้อยในด้านการผลิตและการวิจัยเขตแดน

ตอนนี้ยังไม่มีกองกำลังไหนไล่ทันหรือสู้พวกเขาได้!

ผู้บัญชาการเล่ยยินดีมอบเทคโนโลยีอันเป็นความลับบางอย่างที่เจียงเฉิงไม่มีขายให้แก่ฐานมนุษย์ปลา นี่เป็นเรื่องยากที่ฮังอวี่จะตอบปฏิเสธ

ผู้บัญชาการเล่ยจงใจขายอุบายนี้ต่อ “เมื่อเร็วๆนี้ ทางสกายเน็ตพึ่งได้รับค่ายกลหายากรูปแบบใหม่มา ถ้านำมันไปใช้กับฐานมนุษย์ปลาเมืองหยุนสุ่ย น่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้สองเท่า!”

ฮังอวี่รีบถาม “เป็นค่ายกลคุณภาพอะไร?”

ผู้บัญชาการเล่ยตอบว่า “ค่ายกลเขตแดนสีฟ้าขุ่น”

เมื่อฮังอวี่ได้รับคำตอบ เขาก็ตอบสนองทันที “แต่สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงจะมีปรมาจารย์ค่ายกลที่สร้างมันได้หรือ?”

เมื่อเห็นว่าฮังอวี่ไม่ได้เอ่ยถามถึงข้อมูลของค่ายกล ผู้บัญชาการเล่ยก็เข้าใจได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงพอจะคาดเดาความสามารถของค่ายกลได้แล้ว

ว่าแต่ทำไมเขาถึงมั่นใจนัก?

ผู้บัญชาการเล่ยกล่าวว่า “ได้สิ มันคือค่ายกลเขตแดนประเภทฟื้นฟู ขอบเขตของค่ายกลครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ตราบใดที่มีสิ่งมีชีวิตเข้ามา พวกเขาจะได้รับการฟื้นฟูพลังจิต 1 หน่วยต่อวินาที สำหรับฐานการผลิตแล้ว ค่ายกลนี้มีค่ามากจนประเมินไม่ได้”

เขาพูดถูก

ทหารฝ่ายผลิตนั้นมีพลังจิตจำกัด

หากพลังจิตหมดระหว่างกระบวนการผลิต ตามปกติแล้วพวกเขาต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังจิตอย่างช้าๆ แต่ถ้ามีค่ายกลดังกล่าว ทหารฝ่ายผลิตจะสามารถทำงานได้มากขึ้นและนานขึ้น

การฟื้นฟูพลังจิตได้ในทุกๆ 1 วินาที

แทบกล่าวได้ว่ามีโอกาสน้อยมากๆที่จะใช้จนหมด

ถึงขนาดนี้แล้ว ประสิทธิภาพการผลิตจะไม่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าได้ยังไง?

แน่นอน

นี่คือค่ายกลคุณภาพสีฟ้า ดังนั้นการันตีคุณภาพเอฟเฟกต์ของมันได้!

ขนาดแค่ค่ายกลคุณภาพสีเขียวก็ดีมากแล้ว ฉะนั้นคุณภาพสีฟ้าคงไม่ต้องกล่าวถึง!

และด้วยความหายากของมัน บางทีอาจถึงขั้นหาซื้อไม่ได้จากพ่อค้าลึกลับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะพ่อค้าลึกลับที่ฮังอวี่สามารถอัญเชิญได้เป็นพ่อค้าในระดับต่ำเท่านั้น

แล้วอีกอย่าง วัสดุที่ใช้สร้างค่ายกลนั้นยากต่อการจัดหา คงมีแต่องค์กรอย่างสกายเน็ตเท่านั้นที่สามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ

แต่ประเด็นก็คือ ค่ายกลประเภทนี้ไม่ใช่แบบที่สามารถคงอยู่ได้ถาวร แต่มันมีอายุการใช้งาน

เมื่อพลังงานหมดต้องซ่อมแซม

นี่อาจเป็นลูกเล่นทางเทคนิคของทางรัฐบาลเมืองเจียงเฉิง

แน่นอน ค่ายกลที่พวกเขาสร้างให้อาจสามารถช่วยมอบผลประโยชน์ได้เป็นอย่างดี

แต่ในขณะเดียวกัน ฐานมนุษย์ปลาก็จะไม่สามารถอยู่ได้หากปราศจากการสนับสนุนทางเทคนิคเหล่านี้ ในอนาคตมีแต่จำเป็นต้องร่วมมือกันยิ่งขึ้น

แต่ในส่วนของเรื่องนี้

ฮังอวี่ไม่กังวลใดๆ

เพราะเขาไม่ได้มีความทะเยอทะยานในการครอบครองเจียงเฉิง เขาแค่สนใจเรื่องรายได้ของตัวเองเท่านั้น

ในเมื่อสกายเน็ตยินดีจัดตั้งค่ายกลให้ ทำไมฮังอวี่ต้องปฏิเสธด้วย? ความร่วมมือนี้จึงได้รับความเห็นชอบอย่างรวดเร็ว

“ถ้าในจีนมีคนที่มีความสามารถอย่างนายเพิ่มมาอีกซักสองหรือสามคน สถานการณ์ทั่วประเทศคงไม่ลำบากขนาดนี้” รองเทศมนตรีหวงพอใจเช่นกัน “เป็นพรของเจียงเฉิงเราจริงๆที่มีนายอยู่!”

ฮังอวี่รีบพูด “ท่านรองเทศมนตรียกยอกันเกินไปแล้ว ผมรับไว้ไม่ไหวหรอก”

“นายไม่จำเป็นต้องถ่อมตัว ตั้งแต่การช่วยปกป้องเจียงเฉิงไปจนถึงการยึดครองเจียงซินโจว ขจัดภัยคุกคามของสมาคมฤาษีลี้ลับ พวกเราได้เห็นมันและจดจำเอาไว้ในใจแล้ว”

เทศมนตรีหวงดูกระตือรือร้นมากขณะเชคแฮนด์กับฮังอวี่

“ความร่วมมือที่นายมีต่อเจียงเฉินนั้นไม่สามารถลบล้างได้ และพวกเราจะไม่ปฏิบัติต่อผู้มีเกียรติเช่นนายอย่างผิดๆ ฉันหวังว่าความร่วมมือนี้จะล่วงลุไปด้วยดี และสร้างผลประโยชน์แบบวิน - วิน แก่ทั้งสองฝ่าย”

ฮังอวี่กล่าวทันที “ผมจะทำให้ดีที่สุด”

ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงตามเงื่อนไข

สหายเถ้าแก่ใหญ่สองในสามจากไป

เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ฉูเทียนหัวก็เอ่ยกับฮังอวี่ว่า “นายไม่ต้องกังวลเรื่องการคุกคามจากกองกำลังของผู้เบิกทางตัวอื่นๆ สกายเน็ตและแผนกอื่นๆอีกหลายแห่งกำลังจัดตั้งกองกำลัง พวกเขาพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ไม่ทันตั้งตัวของพวกมัน กวาดล้างขุมกำลังเหล่านี้”

ดีมาก!

ฮังอวี่พอใจมาก!

นี่แหละคือประสิทธิภาพที่ฉันต้องการ!

ของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องทำด้วยตัวเอง!

ฮังอวี่แค่ต้องรอฟังข่าวดีที่จะมาถึง

แม้ผู้เบิกทางเผ่าวายุคลั่งจะค่อนข้างทรงพลัง แต่พวกมันมีเวลาพัฒนาแค่หนึ่งเดือนกว่าเท่านั้น กล่าวได้ว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เพราะงั้นไม่มีทางที่จะหยุดยั้งการโจมตีจากทางสกายเน็ตได้

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า

สกายเน็ตมีข้อมูลทั้งหมดของพวกมันอยู่ในมือ

ผู้เบิกทางแห่งท้องทะเลเหล่านั้นไม่มีทางหนีพ้น

อย่าได้ประมาทความสามารถของสกายเน็ตเชียว

เมื่อพวกเขาบุกโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้สมญาตาข่ายฟ้าดินนี้ สุดท้ายผลลัพธ์คือการสังหารหมู่!

ที่ฮังอวี่ต้องทำก็แค่วางแผนล่วงหน้ากับชาลู่

แล้วรอคอยจนกว่าผู้เบิกทางเผ่าวายุคลั่งจะถูกทำลาย

จากนั้นชาลู่จะตอบสนองทันที ก่อนที่ฐานที่ถูกบุกจะโดนคนอื่นยึด มันจะเข้าไปผนวกดินแดนเพื่อขยายทีม ฮุบเอาทรัพยากรจำนวนมากมาเป็นของตัวเอง

ฮังอวี่บอกผลลัพธ์การหารือแก่ซูหยุนปิง

อาจารย์ซูกล่าวอย่างมีความสุข “รัฐบาลเจียงเฉิงยอมตกลงแล้ว? งั้นหมายความว่าเมืองหยุนสุ่ยจะกลายเป็นอาณาเขตของเราโดยสมบูรณ์นับแต่นี้ไป? ในที่สุดฉันก็สามารถวางหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่ในใจลงได้ซักที”

ฮังอวี่เอ่ยถาม “ทำไมล่ะ? หรืออาจารย์กังวลเรื่องผลลัพธ์ในวันนี้?”

ซูหยุนปิงยิ้มและตอบ “พูดตามตรง ฉันไม่คาดหวังว่ามันจะราบรื่นขนาดนี้ เพราะสิ่งที่ฉันจดจำได้เกี่ยวกับพวกเขา คนของรัฐบาลไม่ใช่คนที่จะยอมรับข้อตกลงอะไรง่ายๆ”

ฮังอวี่ยิ้ม “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาคุยกับใครด้วย”

ซูหยุนปิงมองบน “คนหลงตัวเอง!”

แต่ในความเป็นจริงมันคือเรื่องจริง

เพราะหากเป็นคนอื่น

ตัวอย่างเช่น ซูหยุนปิง เกรงว่าข้อตกลงในวันนี้คงไม่จบลงง่ายๆ

ไม่ใช่แค่เพราะพลังรบและชื่อเสียงของอาจารย์ซูไม่มากพอ

แต่เธอคือคนที่มีภูมิหลังลึกซึ้งกับสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง ซึ่งแม้สมาคมนี้จะมีอำนาจน้อยกว่าสกายเน็ตมาก แต่พวกเขามีบทบาทที่สามารถส่งผลทางความคิดต่อสาธารณชนทั่วโลก ซึ่งในแง่ความนิยมมีมากกว่าสกายเน็ต

สิ่งที่ต้องกลัวคือผู้คน

หากเป็นซูหยุนปิง เจ้าหน้าที่ของเจียงเฉิงไม่น่าจะยอมให้เธอปกครองกองทัพขนาดใหญ่ของพวกมนุษย์ปลาง่ายๆ หรือต่อให้ตกลงกันได้ ผลลัพธ์คงแย่กว่านี้

ขณะที่ตัวตนของฮังอวี่นั้นพิเศษมาก

ปัจจุบันเขาไม่เพียงเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสกายเน็ต แต่ยังเป็นเลขานุการกิตติมศักดิ์ของสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณ

ไหนจะประวัติของเขาที่อุทิศต่อเจียงเฉิง และชื่อเสียงในระดับแนวหน้าของโลก บวกกับความสัมพันธ์กับฉูเทียนหัว และมิตรภาพที่มีต่อสกายเน็ต แค่นี้ก็ช่วยให้มีโอกาสบรรลุข้อตกลงได้ครึ่งทางแล้ว

เมื่อทุกอย่างมาถึงขั้นนี้

ฐานการผลิตเมืองหยุนสุ่ยก็ถือว่าได้ถูกปูไปในเส้นทางที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ

การมีอยู่ของมันเสมือนดั่งกลไกที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนากลุ่มมังกรฟ้าในเจียงเฉิงและองค์กรมังกรครามในโลกวิญญาณให้เร็วขึ้น

ตกเย็นของวันเดียวกัน

ฮังอวี่ได้รับข้อความจากเมืองหุบเขาเดียวดาย

ใกล้กับอาณาเขตของเมืองหุบเขาเดียวดาย กองทหารจำนวนมากปรากฏกายขึ้น

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว!

เพื่อนบ้านจากดินแดนถัดไปกำลังมาเยี่ยมเยียน!

ฮังอวี่รีบคำนวณเวลาเพื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ เมื่อมาถึงเมืองหุบเขาเดียวดาย เขาก็พบกับหัวหน้าทีมคนอื่นๆ

จ้าวหมิงลุกขึ้นกล่าว “ฉันจะแนะนำสถานการณ์โดยย่อ”

“สี่ชั่วโมงที่แล้ว หน่วยลาดตระเวนรอบนอกของเราพบว่ามีกองกำลังขนาดใหญ่จากทิศทางเมืองทรายดำกำลังเดินทางมายังเมืองหุบเขาเดียวดาย”

“ขนาดกองทัพใหญ่มาก จำนวนน่าจะสูงถึง 1500 ตัว จุดประสงค์ของพวกมันชัดเจน ว่าต้องการบุกเมืองหุบเขาเดียวดาย”

ทุกคนพอได้ยินเรื่องนี้

มีหลายคนเริ่มไม่สามารถสงบใจได้

เมืองทรายดำคือดินแดนของก็อบลินหมี ซึ่งหลายวันก่อนพวกมันพึ่งส่งหน่วยสอดแนมมา แต่ถูกจับได้ สุดท้ายไม่ยอมอยู่เฉยอีกต่อไป

พูดตามตรง

ทุกคนในห้องเริ่มนั่งไม่ติด

ประชากรเมืองหุบเขาเดียวดายยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่มอนสเตอร์ระดับสูงเริ่มมีไม่พอต่อความต้องการ แต่ละทีมต้องแบ่งกันตีมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่น ทำให้ยากที่จะแบ่งหินสกิล วัสดุ และอุปกรณ์คุณภาพสูงอย่างทั่วถึง

เรื่องนี้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาของทุกคนอย่างจริงจัง

ความต้องการในการขยายดินแดนของมนุษยชาตินับวันยิ่งสูงขึ้น!