ตอนที่ 26 ยืนเชิด
ที่ที่ไมเคิลยืนอยู่ พวกสาวกของนิกายใหญ่ต่างก็กำลังเตรียมตัว ทุกคนดูตื่นเต้นและอยากจะแข่งขัน ดวงตาของพวกเขาฉายแววดุร้าย ความสัมพันธ์ระหว่างสามนิกายนี้ไม่มีใครเป็นมิตรกัน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างดาวอรุ่ณรุ่งและหุบเขาทองคำดูจะแย่มาก
เมื่อมองดูวิธีที่อีวาน คลาร์กและวิตอเรีย พาร์คเคนจ้องมองกัน มันก็เผยให้เห็นถึงความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างพวกเขา ดังนั้นจึงเหมือนแกะที่เดินตามคนเลี้ยงแกะ สาวกจากทั้งสองนิกายเริ่มทำสงครามด้วยคำพูด ไม่นานมานี้ ในการแข่งขันระหว่างสามนิกาย อเล็กซ์ ฟิชเชอร์ เอาชนะอดัม เคนจากหุบเขาทองคำภายในห้ากระบวนท่า และทำให้สาวกของหุบเขาทองคำหลายคนไม่พอใจ ตอนนี้พวกเขาตั้งตารอให้วิตอเรีย พาร์คเคนเอาชนะอีวาน คลาร์กและกำจัดความละอายออกไปในระดับหนึ่ง ดังนั้นรอบที่สองของการแข่งขันจะยิ่งเข้มข้นขึ้นอย่างแน่นอน
ที่ด้านล่างของบันได ศิษย์ของนิกายและผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ มองไปยังสี่คนที่ยืนอยู่ด้านบน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา ในขณะที่เด็กผู้ชายหลายคนกำลังน้ำลายไหลขณะมองสาวสวยที่อยู่ด้านบน
“ศิษย์พี่อเล็กซ์และศิษย์พี่เซลิน่าเป็นนิยามของคู่รักที่สมบูรณ์แบบ จากท่าทางและกลิ่นอายของทั้งคู่ ข้าจะมีวาสนาได้แฟนแบบนางบ้างไหมนะ เฮ้อ”
“และแฟนอย่างพี่อเล็กซ์ด้วย”
"เฮ้ ดูพวกหมาหุบเขาทองคำน้ำลายไหลเพราะดาวอรุ่ณรุ่งสิ"
“หุบปากซะ ไอ้เวร ถ้าวันนั้นไม่ใช่เพราะว่าศิษย์พี่อดัมของเราป่วย เขาคงจะเตะตูดศิษย์พี่ของแกและส่งเขากลับไปยังที่ที่เขาจากมาไปแล้ว”
“แกกล้าดียังไงถึงไม่เคารพศิษย์พี่อเล็กซ์ของเรา รอจนกว่าอีวาน คลาร์กของเราจะได้เจอกับคุณหนูวิตอเรียของแก แล้วเรามาดูกันว่าใครจะเตะตูดใคร”
“ศิษย์พี่วิตอเรียจะเตะตูดเขาแน่”
****************
สถานการณ์รุนแรงมากในทันที ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะเริ่มโจมตีกัน คนที่สงบที่สุดในนี้คือไมเคิล แม้ว่าเขาจะหงุดหงิดกับการปรากฏตัวของเซลิน่า แต่เขาก็ไม่เคยสนใจเรื่องความเป็นปฏิปักษ์ในหมู่สาวกคนดังเหล่านี้ ที่เขาสนใจคือเขามาที่นี่เพื่อรับคะแนนสุดโกง และช่วยนิกายอรุณรุ่ง เพื่อที่เขาจะได้มีที่พักสำหรับบุกทะลวง เขาเกิดมาหลงตัวเอง เขาจะชื่นชมสาวกเหล่านี้ได้ยังไง
“เริ่ม” อเล็กซ์พูดเสียงเรียบ แต่เสียงของเขาถูกเสริมด้วยพลังงานอาร์คจนมันดังมาก เป็นสัญญาณการเริ่มต้นรอบแรก
หนุ่มสาวเกือบ 700 คนเริ่มวิ่งขึ้นบันไดทันที บันไดนั้นกว้างมากและดูราวกับว่าสามารถจุคนได้มากกว่าหนึ่งพันคนในเวลาเดียวกันก็ไม่รู้สึกว่าแออัด
มีบันไดหินทั้งหมด 100 ขั้นบนบันไดประตูสวรรค์ และแต่ละขั้นมีความสูงอย่างน้อยครึ่งเมตร
ดูเหมือนว่าคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถปีนบันไดนี้ได้อย่างง่ายดาย
นับประสาอะไรกับผู้บ่มเพาะอย่างพวกเขา ในสายตาของพวกเขา มันธรรมดามาก
บางคนถึงกับกระโดดไปข้างหน้าเหมือนกระต่ายหลังจากได้ยินคำพูดของอเล็กซ์ มันตลกมากเมื่อมองดูพวกเขา ไมเคิลหัวเราะเยาะอยู่ข้างใน
“มนุษย์ เจ้าทำอะไร!? ถ้านางเห็นเจ้า นางคงจะคลั่งอีกครั้งแน่”
เขาไม่สนใจเสียงตะโกนของกายะ เขาก้าวเข้าสู่ขั้นแรก...ขั้นสอง....ขั้นสาม และเมื่อเขาก้าวเข้าสู่ขั้นที่แปด เขาก็รู้สึกกดดันเล็กน้อย ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเดินนำเขาไป ทิ้งเขาไว้ข้างหลัง
“อะไรกัน ข้าอ่อนแอขนาดนี้เลยหรอ?”
เขาเห็นคนอื่นๆ เดินขึ้นบันไดอย่างง่ายดายโดยไม่เสียเหงื่อ
“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนสุดท้าย”
สาวกคนหนึ่งของนิกายอรุณรุ่งพูดขณะมองไปที่ไมเคิลบนบันได หลายก้าวเหนือไมเคิล เด็กที่เดินผ่านเขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองช้าลงพอรู้สึกถึงแรงกดดันที่สร้างขึ้นโดยผู้บ่มเพาะระดับแรกก่อตั้งทั้งสามคน
ต่างจากอาจารย์ที่มาประเมินการแข่งขันเมื่อสองปีที่แล้ว สามคนนี้ไม่ใช่ผู้บ่มเพาะธรรมดา แต่เป็นอัจฉริยะรุ่นใหม่ แต่ละคนมีพรสวรรค์และทรงพลังอย่างมาก แรงกดดันจากวิญญาณที่สร้างขึ้นโดยพวกเขาไม่ธรรมดา ซึ่งทำให้การแข่งขันในปีนี้ยากที่สุด
ยิ่งบันไดขั้นนสูงเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นเท่านั้น
“มนุษย์ เจ้ากำลังทำให้ตัวเองอายเปล่าๆ ร่ายคาถาแปลกๆนั่น แล้วหายตัวไปเดี๋ยวนี้!”
กายาะทนไม่ได้ที่จะมองสายตาเยาะเย้ยของคนอื่นๆ
"ระบบ ซื้อกลืนกินพลังงานและเปิดใช้งาน"
[ติ๊ง! เจ้าของได้รับกลืนกินพลังงานระดับ 1 ]
[เปิดใช้งานกลืนกินพลังงาน]
[กำลังโหลด 120...119...118...]
“ชิบ ข้าต้องรอสองนาทีเลยหรอ”
เขาออกจากระบบแล้วหันไปมองรอบๆ และเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างหลังเขา เนื่องจากเขาเป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่บนขั้นที่ห้า
“ตราบใดที่เจ้าสามารถเข้าสู่ 40 อันดับแรก เจ้าจะสามารถเลือกเป็นศิษย์ของนิกายใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ”
แม้ว่าฝูงชนจะรู้เรื่องนี้ แต่ทันทีที่คำพูดนั้นออกจากปากของซาดี้ คาแพลนฝูงชนก็เริ่มกระสับกระส่าย
“แล้วร้อยอันดับแรกล่ะ?เด็กนั่นดูจะยังมีโอกาสนะ”
"ฮิๆๆๆ"
"มนุษย์ ข้าบอกเจ้าแล้วนะ!"
กายะได้ยินคำพูดเยาะเย้ย และนางไม่สามารถระงับความโกรธได้อีกต่อไป
ไมเคิลพยายามไม่สนใจความคิดเห็นเหล่านี้ แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเหมือนกัน เนื่องจากเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เช่น การคุยโวหรืออะไรก็ตาม
น่าแปลกที่สาวกบางคนที่อยู่เหนือเขาเริ่มทำตามฝูงชนและเยาะเย้ยเขา พวกเขาจิตใจผ่อนคลายลงเล็กน้อยด้วยการเยาะเย้ยเขา
“ดูคนอ่อนแอนั่นสิ ข้าพนันได้เลยว่าเขาต้องไปได้ไม่ถึงยี่สิบก้าว!”
“ยี่สิบก้าว ดูเขาสิ เขายืนอยู่ตรงไหน เขาติดอยู่ที่ขั้นที่ห้านะพวก ข้าแน่ใจว่าเขาจะไปไม่ถึงขั้นสิบด้วยซ้ำ”
คำพูดดูถูกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่เขากำลังรอให้ระบบเปิดใช้งานคาถา
[30...29...28]
“ดีที่เขาไม่ใส่ชื่อนิกายของเรา”
ผู้อาวุโสไมล์สถอนหายใจ เมื่อมองดูชายหนุ่มที่ยืนหลับตาอยู่คนสุดท้ายนั่น
"หึ"
แต่ทันใดนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นและเยาะเย้ยเหล่าสาวกที่อยู่ข้างบน
เขาปัดผมสีดำยาวประบ่าไปด้านหลัง เริ่มเดินไปหาพวกเขาทีละก้าว
“อาจารย์ เขากำลังเคลื่อนไหว”
ในขณะที่สาวกของนิกายกำลังเหงื่อตกและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปีนไปข้างหน้า เขากลับสงบและมีรอยยิ้มบนใบหน้า
[ค่าประสบการณ์ 2000]
[ค่าประสบการณ์ 3000]
[ค่าประสบการณ์ 4000]
คาถาในตำนานเผาพลาญแรงกดดันวิญญาณ และแปลงเป็นค่าประสบการณ์ พลังที่มองไม่เห็นที่เขารู้สึกก่อนหน้านี้หายไปแล้ว
ในไม่กี่วินาที เขาก็ไปถึงขั้นที่สิบและมองพวกที่เยาะเย้ยเขาก่อนหน้านี้ ผู้หญิงสองคนอยู่เหนือเขาเพียงไม่กี่ก้าว และเห็นเขาเดินเข้ามาหาพวกนางอย่างสงบ พวกนางตกใจอย่างมาก
"เอานิ้วกลางไปซะ นางตัวเมียทั้งหลาย"
เขายกนิ้วกลางให้สองสาวและเดินผ่านไปขณะที่ใบหน้าพวกนางเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ แต่ทว่า พวกนางทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้แค่ยืนก็ยังลำบาก
“เขากล้าดียังไง?!”
“หุบปาก พวกเจ้าสมควรได้รับมัน”
ฝูงชนบางคนสังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในขั้นที่สิบสามและเริ่มโต้เถียงกัน ขณะที่ไมเคิลปีนขึ้นบันไดอย่างสงบ
“มนุษย์ เจ้าหลอกข้าหรอเมื่อสักครู่นี้?”
กายะถาม มองเขาขยับสูงขึ้นไปทีละขั้นโดยไม่หยุด
เมื่อหลายคนไปถึงขั้นที่ 20 แรงกดดันก็เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าและเริ่มทนไม่ไหว แต่ละคนรู้สึกเหมือนถูกภูเขาลูกเล็กๆ บดขยี้ เข่าเริ่มงอ เหงื่อออกทำให้เสื้อและกางเกงเปียก ยิ่งปีนขึ้นสูง แรงกดดันก็ยิ่งสูงขึ้น และหลายคนหยุดเคลื่อนไหว
“ข้าไม่คิดว่าจะไปไกลได้กว่านี้ แรงกดดันนี้รุนแรงเกินไป ข้าสัมผัสได้ว่าวิญญาณของข้ากำลังสั่นสะท้าน”
"ใช่ ข้าด้วย"
บางคนถอนหายใจและพูดพลางปาดเหงื่อ บนขั้นที่ 20 คนส่วนใหญ่ที่ยืนอยู่คือระดับหลอมกายาขั้น 4 แต่เมื่อพวกเขาเห็นไมเคิลซึ่งเป็นเพียงระดับหลอมกายาขั้น 1 เดินผ่านพวกเขาไปอย่างสงบ พวกเขาก็อ้าปากค้าง
"ฮะ?"
จากขั้นที่ 20 ไปถึงขั้นที่ 30 มีเพียงประมาณร้อยคนเท่านั้นที่ไปได้จากทั้งหมด 700 คน
ในจำนวน 100 คนนี้ อัจฉริยะอย่างอีวาน คลาร์กและวิตอเรีย พาร์คเคนก้าวไปถึงขั้นที่ 30 แล้ว และยังคงดูผ่อนคลาย ขณะที่หลายคนที่อยู่ข้างๆ ดูเหนื่อยล้า
“ผู้อาวุโสแซนดร้า เขาปีนขึ้นไปด้วยระดับการบ่มเพาะนั้นของเขาได้ยังไง?”
เจ้านิกายแคลร์อ้าปากกว้างมองเขาและถามผู้อาวุโสแซนดร้า
“ข้า...ไม่รู้ มันไม่น่าจะเป็นไปได้”