Ep.354 - ชมฐาน
4/4
Ep.354 - ชมฐาน
ไม่นาน
นอกเมืองหยุนสุ่ย
ร่างทั้งสามบนสัตว์ขี่หยุดลงเบื้องหน้าเมืองเก่า
พวกเขามิใช่ใครอื่น เป็นฮังอวี่ ซูหยุนปิง ฉูเทียนหัว
ฉูเทียนหัวพลิกตัวลงจากหลังหมูป่า กวาดสายตาไปทั่วเมืองตรงหน้า
แม้เวลาจะผ่านไปเพียงสองเดือนนับแต่การมาเยือนของโลกวิญญาณ แต่จากรูปลักษณ์ภายนอก สถานที่แห่งนี้มันราวกับถูกทิ้งร้างมานับพันปี
สถานที่ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยมนุษย์ อาคารต่างๆเวลานี้ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด จนแทบแยกไม่ออกว่าสภาพเดิมของมันเป็นยังไง
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดีๆจะพบว่า ไม่ไกลจากริมฝั่งแม่น้ำ มีอาคารใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมหลายหลัง ซึ่งเป็นโซนโรงงานเก่า
ฉูเทียนหัวอุทาน “มนุษย์ปลา!”
จากสายน้ำที่เคยปกคลุมไปด้วยหมอกหนา เวลานี้ปรากฏมนุษย์ปลาเดินออกมาจากโรงงานเหล่านั้น ทยอยขนย้ายวัสดุต่างๆอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ฮังอวี่ไม่ตั้งใจจะปิดบังเรื่องฐานมนุษย์ปลา เพราะยังไงก็คงปิดไม่ได้
เมืองหยุนสุ่ยอยู่ห่างจากตัวเมืองเจียงเฉิงเพียงเล็กน้อย ราวๆ 20 - 30 กม. เท่านั้น
สถานที่แห่งนี้อาจหลบซ่อนสายตาจากคนธรรมดาได้ แต่ไม่มีทางหลบพ้นจากสกายเน็ตหรือกองกำลังระดับสูงอื่นๆ
เรพาะท้ายที่สุดแล้ว หน่วยข่าวกรองไม่ได้ตาบอด ไม่ช้าก็เร็วที่แห่งนี้ต้องถูกเปิดเผย
เมื่อเป็นอย่างนั้นทำไมเขาไม่ชิงเปิดเผยมันก่อนเพื่อแสดงความจริงใจซะล่ะ?
ฮังอวี่พึ่งสร้างผลงานใหญ่แก่เจียงเฉิง ด้วยมิตรภาพและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ ฉูเทียนหัว การเปิดเผยมันอาจเป็นเรื่องดีและนำมาซึ่งความร่วมมือแบบวิน - วิน
ซูหยุนปิงกล่าว “ฝั่งชาลู่ได้สั่งการไว้แล้ว มนุษย์ปลาบริเวณนี้จะไม่โจมตีพวกเรา”
ฮังอวี่พยักหน้า พูดกับเหล่าฉู “มาเถอะ มาดูข้างในกัน”
ทั้งสามเดินผ่านกำแพงสีเขียวที่ปกคลุมไปด้วยเถาวัลย์
ฉูเทียนหัวพบว่าโรงงานดั้งเดิมของมนุษย์ เวลานี้ถูกมนุษย์ปลายึดครองอย่างสมบูรณ์แล้ว กลายเป็นโรงงานมนุษย์ปลาเต็มตัว มีทหารมนุษย์ปลาคอยลาดตระเวน
เมื่อพวกเขาเข้ามา พวกมันสังเกตเห็นทันที ทว่าถึงจะเป็นศัตรู แต่กลับไม่มีความคิดเริ่มโจมตี เห็นได้ชัดว่าพวกมันรับฟังคำสั่งของผู้นำระดับสูงกว่า
แม้เป็นสายพันธุ์รองที่ไม่ค่อยมีสติปัญญา แต่ก็ไม่ได้สมองตายจนคิดอะไรไม่เป็น
ตามคำอธิบายของซูหยุนปิง
ชาลู่เอารูปถ่ายของเธอกับฮังอวี่ให้พวกทหารมนุษย์ปลาดู เพื่อสร้างภาพจำในใจให้สามารถจดจำทั้งคู่ได้
นี่คือวิธีการเดียวกับการฝึกสัตว์ พวกมันจะค่อยๆซึมซับและตอบสนอง เมื่อเวลาผ่านไปแล้วจดจำได้ก็จะไม่ริเริ่มเป็นฝ่ายเปิดการโจมตี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคราวนี้มีหนึ่งคนที่ไม่เข้าพวก ดังนั้นพวกมนุษย์ปลาจึงดูกระสับกระส่ายเล็กน้อย
อย่างไรเสียเผ่าพันธุ์จากโลกวิญญาณมักปฏิเสธผู้รุกรานจากต่างแดน แต่โชคดีก็คือมนุษย์ปลาเหล่านี้ชาลู่ทำให้เชื่องแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าตราบใดที่คุณไม่แสดงพฤติกรรมคุกคามใดๆกับพวกมัน สถานการณ์ก็จะยังอยู่ในการควบคุม
ซูหยุนปิงเดินนำทำหน้าที่เป็นไกด์
“ตอนนี้พวกเรามีทหารมนุษย์ปลาฝ่ายผลิตจำนวน 900 นาย และ 70% ของพวกมันมีสกิลรวบรวมวัตถุดิบ มีหน้าที่ออกเดินทางไปกลับในแหล่งทรัพยากรใกล้เคียงทุกวัน คอยขุดแร่เหล็กเย็น แร่ทองแดงไฟ แร่มิธริล , แร่ทองคำเนื้อดี , แร่ไม้เหล็กดำ ที่ใช้สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุและกลั่นโพชั่น”
“นอกจากทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ในบริเวณใกล้เคียงแล้ว มนุษย์ปลายังสามารถใช้ประโยชน์จากทำเล เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านแม่น้ำแยงซี ไม่ใช่แค่สามารถควานหาทรัพยากรก้นแม่น้ำได้เท่านั้น แต่ยังสามารถรวบรวมทรัพยากรทุกอย่างที่อยู่ในน้ำได้”
“นี่คือโกดังทรัพยากรของพวกเรา”
“ส่วนนั่นคือโรงงานแปรรูปของมนุษย์ปลา”
“และนั่นคือโรงงานผลิตของมนุษย์ปลา”
“...”
ซูหยุนปิงชี้ไปยังอาคารทีละหลัง โรงงานพวกนี้มองแวบแรกเหมือนเป็นแค่ซากตึกที่ไม่มีใครดูแล พืชพรรณต่างๆเกาะและกัดเซาะจนเสียทรงไปนานแล้ว
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตดีๆ จะพบว่าภายในได้รับการตกแต่งใหม่โดยมนุษย์ปลา พวกมันเก่งในการสร้างอาคารโดยใช้ทรายและโคลน ซึ่งมีความทนทานสูงกว่าซีเมนต์ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องพัง
และที่เลือกปล่อยพืชพรรณรกทึบไว้ข้างนอก มันกลับกลายเป็นช่วยปิดบังสายตาได้ดี
โกดังมนุษย์ปลาได้มีการสะสมวัตถุดิบไว้เป็นจำนวนมาก
วัตถุดิบเหล่านี้ไม่สามารถใช้ในการผลิตได้โดยตรง แต่จะถูกส่งไปยังโรงงานแปรรูปเพื่อเข้าสู่กระบวนการอีกที ตัวอย่างเช่นการสกัดเอาเหล็กเย็นจากแร่เหล็กเย็น จากนั้นกลั่นเหล็กเย็นคุณภาพต่ำให้กลายเป็นเหล็กเย็นคุณภาพสูง
และเมื่อวัตถุดิบถูกแปรรูปแล้ว บางส่วนจะถูกส่งไปยังโรงงานผลิตต่อ
มนุษย์ปลาในโรงงานผลิตล้วนมีเทคนิคการกลั่นโพชั่นและหลอมอาวุธ
พวกมันรู้วิธีสร้างอุปกรณ์คุณภาพต่ำและโพชั่นคุณภาพต่ำ
แน่นอน วัตถุดิบที่แปรรูปแล้วส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังฐานการผลิตในชุมชนมังกรฟ้า และจะกลายเป็นโพชั่นหรืออุปกรณ์วางขายในร้านของพวกเขาบนถนนมังกรฟ้า
ในทางกลับกัน ส่วนหนึ่งได้ถูกส่งมอบให้แก่องค์กรมังกรครามในอาณาจักรมังกรโลกาเพื่อใช้ในการพัฒนาเมืองหุบเขาเดียวดาย
ฉูเทียนหัวเดินชมโรงงานจนทั่ว ในหัวใจเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
หลายเรื่องที่เกิดขึ้นในที่นี้สร้างความตกใจมากเกินไปสำหรับเขา
ฉูเทียนหัวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอธิบายอารมณ์ความรู้สึกในขณะนี้อย่างไร
จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในเมืองหยุนสุ่ย สวนพืชวิญญาณขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้า
ขนาดและพื้นที่ของมันใหญ่กว่าชุมชนมังกรฟ้าหลายเท่า
อันที่จริง สวนพืชวิญญาณไม่เคยเป็นทรัพยากรที่หาได้ยาก
กล่าวได้เลยว่าในพื้นที่รกร้างมันมีมากเท่าที่คุณต้องการ เพียงแต่ว่ามนุษย์ไม่มีพลังหรือความสามารถมากพอในการเข้าไปครอบครอง
ซูหยุนปิงกล่าวว่า “นี่คือพื้นที่นาที่เราบุกเบิก ต่อไปจะมีการปลูกวัตถุดิบทั่วไปอย่างสมุนไพรพลังจิตและสมุนไพรพลังชีวิตเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการทำสวนผลไม้และฟาร์มขนาดใหญ่ ปลูกผลไม้วิญญาณ และข้าววิญญาณหลากหลายสายพันธุ์สำหรับการผลิตไวน์และเบียร์”
การเยี่ยมชมใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว
ฐานการผลิตพึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อไม่นาน
ตอนนี้เลยยังมีข้อบกพร่องอยู่มาก
ฮังอวี่เอ่ยถาม “เหล่าฉูว่าอย่างไร มีข้อเสนออะไรไหม?”
ฉูเทียนหัวไม่ใช่คนขี้แตกตื่นโวยวาย แต่ก็ต้องยอมรับว่าฮังอวี่ทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก อีกฝ่ายได้พลิกโฉมความคิดของเขาไปเลย
โลกทั้งใบกำลังทุกข์ทรมานจากการรุกรานของเผ่าพันธุ์จากโลกวิญญาณ
ทุกคนถือว่าชาวโลกวิญญาณเป็นปัญหาร้ายแรง
แต่ที่นี่ฮังอวี่กลับทำในสิ่งตรงกันข้าม เขาใช้ประโยชน์จากมนุษย์ปลาที่บุกรุกเจียงเฉิง ผนวกพวกมันเข้าสู่กองกำลังของตนเอง และได้แรงงานจำนวนมากมาในคราเดียว!
ลองจิตนาการดูเถอะ
หากกองกำลังอื่นๆ คิดผลิตโพชั่นในปริมาณมาก พวกเขาต้องไล่ทำตั้งแต่การหาซื้อเมล็ดพันธุ์สมุนไพรและทำฟาร์ม จากนั้นนำไปแปรรูป
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ต้องมีการจ้างวานผู้คนจำนวนมาก และนั่นเท่ากับค่าใช้จ่ายมหาศาล นอกจากกองกำลังของรัฐ มันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับกองกำลังฝั่งพลเรือน
ทว่าตอนนี้ ฮังอวี่ได้ก้าวข้ามจุดนั้นมาแล้ว เขาฮุบเอาพวกมนุษย์ปลาเป็นพนักงานฝ่ายผลิต พวกมันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่รับค่าจ้าง และไม่พร่ำบ่น นี่ช่วยให้ต้นทุนการผลิตลดลงได้เป็นอย่างมาก
และนั่นทำให้คู่แข่งรายอื่นๆแทบไม่มีโอกาสต่อสู้กับร้านในเครือของมันกรฟ้าได้!
ถึงจุดนี้
ในที่สุดฉูเทียนหัวก็เข้าใจ ว่าเหตุใดฝั่งฮังอวี่ถึงสามารถให้ข้อมูลของพวกมนุษย์ปลาแก่ทางสกายเน็ตได้หลายต่อหลายครั้ง ที่แท้เป็นเพราะฮังอวี่ได้ส่งสายลับแทรกซึมเข้าไปในชาวเผ่าวายุคลั่งนี่เอง แถมพวกมันยังไม่รู้ตัวเสียด้วย!
“นายสามารถเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นแรงงาน นี่มันอัจฉริยะมาก ฉันจะแนะนำอะไรได้อีก?” ฉูเทียนหัวส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขม
เขากวาดตามองมนุษย์ปลารอบตัวที่กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น “สิ่งเดียวที่ฉันกังวลก็คือ พวกมันเชื่อถือได้ไหม? มีโอกาสก่อกบฏรึเปล่า?”
ฮังอวี่กล่าว “ไม่หรอก ตราบใดที่ยังคงถูกชาลู่ควบคุม และชาลู่ได้ขึ้นเป็นผู้นำของเหล่าผู้เบิกทาง ถึงเวลานั้นพวกเราจะสามารถยึดครองกองทัพมนุษย์ปลาได้อย่างสมบูรณ์”
นี่คงจะเป็นเอฟเฟกต์ของเสน่ห์ถาวรสินะ?
ฉูเทียนหัวเคยเห็นความสามารถนี้แล้ว
เสน่ห์ถาวระเป็นสกิลที่บิดเบือนอย่างยิ่ง
เพราะเสน่ห์ถาวรคือการดัดแปลงในระดับส่วนลึกของความคิด ยากที่จะตรวจสอบได้
แล้วอีกอย่าง ยิ่งเวลาผ่านไป เอฟเฟกต์ก็จะยิ่งติดทนขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นาน ฉูเทียนหัวก็ได้พบกับมนุษย์ปลาชาลู่
หลังจากเห็นทัศนคติที่ชาลู่แสดงออกมา ความกังวลในใจเขาก็มลายหายไปจนหมดสิ้น
อย่างไรก็ตาม พอลองคิดตามดู ฮังอวี่เป็นคนระมัดระวังตัวมาก หากเขาไม่แน่ใจจริงๆ ย่อมไม่กล้าลงมือทำแบบนี้
อันตรายที่ซ่อนเร้นของมนุษย์ปลาฝังรากลึกมานาน นับเป็นภัยคุกคามอันดับต้นๆต่อรัฐบาลเจียงเฉิง
หากสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ มันจะสามารถลดแรงกดดันภายนอกที่ใหญ่ที่สุดของเจียงเฉิงได้
แล้วอีกอย่าง เผ่าวายุคลั่งที่นำโดยมนุษย์ปลาล้วนเป็นเผ่าพันธุ์ทางทะเล พวกมันมีความสามารถในการยึดครองน่านน้ำ หากใช้ประโยชน์จากเรือของพวกมัน เท่ากับว่ามนุษย์สามารถเปิดการคมนาคมทางน้ำได้อีกครั้ง
จำได้ใช่ไหมว่า ทุกวันนี้ถนนและรถไฟใช้การไม่ได้แล้ว
น่านฟ้าก็ถูกยึดครองโดยสิ่งมีชีวิตบางอย่างทำให้เครื่องบินใช้ไม่ได้
มนุษย์ยังไม่สามารถค้นพบวิธีการขนส่งรูปแบบใหม่ที่สามารถรับมือภัยคุกคามเหล่านี้
ขณะที่ชนเผ่าวายุคลั่งในฐานะชาวพื้นเมืองจากโลกวิญญาณ พาหนะของพวกมันได้รับการพัฒนาในโลกวิญญาณ ฉะนั้นในแง่ความทนทานยังไงก็ดีกว่าของมนุษย์แน่นอน
ในที่สุด
ฉูเทียนหัวก็นั่งลง
ถือข้อมูลที่ฮังอวี่มอบให้ไว้ในมือ
นี่คือข้อมูลของพวกมนุษย์ปลากลุ่มใหญ่ที่ตั้งฐานอยู่ใกล้ๆเมืองเจียงเฉิง
มันระบุข้อมูลโดยละเอียดของขุมกำลังที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆของผู้เบิกทางแห่งเผ่าวายุคลั่ง
ไล่ตั้งแต่พลังรบของผู้นำไปจนจำนวนกำลังพลทหารและทำเลที่ตั้ง
ทุกอย่างมีการระบุไว้ในรัศมีเกือบ 200 กม.
ซึ่งข้อมูลนี้ทางเจียงเฉิงไม่ทราบอะไรเลย โชคดีที่มันมาถึงทันเวลา
ไม่อย่างนั้นหากรอช้ากว่านี้อีกซัก 2 3 เดือน กองทัพมนุษย์ปลาอาจใกล้จะสร้างประเทศที่อยู่ไม่ไกลจากเจียงเฉิงสำเร็จแล้วก็ได้
ฉูเทียนหัวคือผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง หากเขาส่งต่อข้อมูลนี้จะได้รับเครดิตก้อนโต
“เหล่าฉู ระหว่างพวกเราคงไม่จำเป็นต้องปิดบังจุดประสงค์กันถูกไหม?” ฮังอวี่จิบชาแล้วเอ่ยว่า “มาร่วมมือกัน!”
ฉูเทียนหัวสงบใจลงแล้วเอ่ยถาม “นายอยากจะร่วมมือแบบไหน?”
“นั่นขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายรัฐบาลอยากร่วมมือแบบไหน” ฮังอวี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ตราบใดที่เงื่อนไขสมเหตุสมผล พวกเราหารือเรื่องนี้กันได้”
ฉูเทียนหัวเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ “ถ้าอย่างนั้นฉัน ... เอ่อ ... หมายถึงถ้ารัฐบาลเจียงเฉิงต้องการถือหุ้นโรงงานมนุษย์ปลา นายจะตกลงไหม”
ฮังอวี่รู้ดีว่าหากคิดตั้งฐานผลิตมนุษย์ปลาหน้าประตูบ้านเมืองเจียงเฉิง ย่อมหลีกเลี่ยงความหวาดระแวงจากรัฐบาลไม่ได้
แล้วอีกอย่าง กองกำลังมนุษย์ปลามีขนาดใหญ่มาก
กลุ่มมังกรฟ้ากลุ่มเดียวกินรวบทั้งหมดไม่ได้
“อย่างที่ผมบอกไป ตราบใดที่เงื่อนไขสมเหตุสมผล สามารถเจรจาร่วมมือกันได้ และนั่นรวมไปถึงการขอถือหุ้นของทางรัฐบาล” ฮังอวี่กล่าว “แน่นอน สิทธิ์ในการควบคุมกองทัพมนุษย์ปลาต้องยังคงอยู่กับกลุ่มมังกรฟ้า”
“ตกลง! ฉันจะให้คำตอบนายโดยเร็วที่สุด! ส่วนข้อมูลนี้ฉันขอรับไปแบบไม่เกรงใจล่ะนะ!” ฉูเทียนหัวหัวเราะและยืนขึ้น “ตราบใดที่เรามีข้อมูลนี้ พวกเหล่าผู้เบิกทางเผ่าวายุคลั่งจะไม่มีวันได้เชิดหน้าชูตาอีกต่อไป!”