ตอนที่ 29 อิศวินที่แท้จริง
เฉินเหิงวิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ตอนนี้เขาไม่ได้ดูสะดุดตามากนัก เขาไม่ได้วิ่งเร็วหรือช้าเกินไป เขาอยู่ที่ศูนย์กลางของกลุ่ม เขาไม่ได้เป็นผู้นำหรือล้าหลังจนเกินไป
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา เขาได้ฝึกเทคนิคการฝึกฝนร่างกายจนถึงระดับหนึ่ง แม้ว่าจะค่อนข้างห่างไกลจากความแข็งแกร่งของเขาในชีวิตจริง แต่ก็ยังดีกว่าคนทั่วไปมาก
การออกกำลังกายแบบนี้ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา
ขณะที่กำลังวิ่ง เขาก็ยังมีพละกำลังและสมาธิมากพอที่จะสังเกตคนรอบข้าง
รอบตัวเขา ทุกคนวิ่งเร็วมาก
ในตอนแรก ความแตกต่างระหว่างแต่ละคนไม่ชัดเจนนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความแตกต่างของความแข็งแกร่งก็ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
เฉินเหิงกลายเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ข้างหน้าโดยไม่รู้ตัว
คนที่วิ่งอยู่ข้างหน้าสุดคือครูโด
เมื่อเทียบกับเฉินเหิง ความแข็งแกร่งทางกายภาพของครูโดอยู่คนละระดับกับเขาโดยสิ้นเชิง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ เขาวิ่งอยู่ข้างหน้ามาตลอดราวกับว่าเขาไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลย
เฉินเหิงอยู่ข้างหลังเขา ไม่ห่างและไม่ล้าหลังกับเขามากนัก
นอกจากพวกเขาสองคนแล้ว ยังมีอีกสองสามคนอยู่ข้างหลังพวกเขา
ส่วนคนอื่น ๆ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งค่อย ๆ หมดแรงล้มลงไปแล้ว และมีบางคนกำลังนั่งหอบอยู่บนพื้น
คอร์ริโปยืนอยู่ห่าง ๆ คอยเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ
เขาไม่ได้มองไปยังคนที่ล้มลงไป เขามองดูเฉพาะคนที่อยู่ข้างหน้าอย่างใจเย็นเท่านั้น
“คนที่อยู่ข้างหลังคุณ” เขาชี้ไปที่เฉินเหิงและคนอื่น ๆ ที่ด้านหน้า ก่อนจะมองไปยังคนที่ยอมแพ้ไปแล้ว “และพวกคุณทุกคนออกไปได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ นักเรียนที่ถูกปฏิเสธก็ตกอยู่ในความโกลาหล
“ทำไม?”
มีคนพูดขึ้นว่า “เราจ่ายค่าธรรมเนียมสำหรับชั้นเรียนนี้ไปแล้ว! คุณไล่เราออกไปได้ยังไง”
คนที่พูดเป็นชายหนุ่มสวมชุดคลุมสีแดงที่มีลวดลายสีทองปักอยู่บนนั้น เห็นได้ชัดว่าครอบครัวของเขามีฐานะค่อนข้างดี
เฉินเหิงรู้จักคน ๆ นี้
เพื่อนคนนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกชายคนสุดท้องของเคานต์ เพราะเคานต์คนนั้นรักเขามาก เขาจึงถูกส่งมาที่สถาบันแห่งนี้
เขายืนอยู่ตรงนั้นและชี้ไปที่คอร์ริโปอย่างโมโห “คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่? คุณกำลังทำให้ลูกหลานของตระกูลเมดอดต้องอับอายขายหน้า! คุณจะต้องได้รับความโกรธแค้นจากตระกูลเมดอด!”
“ตระกูลเมดอด?” คอร์ริโปหัวเราะอย่างเย็นชา นี่เป็นครั้งแรกที่การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไป
บรรยากาศของเขาตอนนี้ต่างออกไปกับตอนที่เขาเยือกเย็นโดยสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะกำลังยิ้มเล็กน้อยก็ตาม
ขณะที่เฉินเหิงและคนอื่น ๆ กำลังเฝ้าดูอยู่ เขาก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปที่เอวของเขา
“ไม่มีทาง”
เมื่อดูการกระทำของคอร์ริโป ดวงตาของเฉินเหิงก็เบิกกว้าง
วินาทีต่อมา ฉากเลือดสาดก็ปรากฏขึ้น
แสงดาบสีเงินจาง ๆ ปรากฏออกมาจากร่างคอร์ริโป เขาเร็วมากจนยากจะมองเห็นการเคลี่อนไหวของเขาได้ทัน
เลือดสาดกระเซ็นไปทุกที่
หัวของเมดอดหนุ่มบินออกไปพร้อมกับความตกใจที่ยังคงแสดงอยู่บนใบหน้าของเขา เขาไม่คาดคิดว่าคอร์ริโปจะกล้าโจมตีเขา
เฉินเหิงก็ไม่คาดคิดเหมือนกัน
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ชายหนุ่มจากตระกูลเมดอดเสียชีวิตและได้กลายเป็นศพที่เย็นชืดไปแล้ว ร่างกายส่วนที่เหลือของเขาก็ล้มลงกับพื้น
เขาฆ่าลูกชายคนเล็กของเคานต์อย่างนั้นเหรอ?
เขาเป็นใครกันแน่?
เมื่อมองไปที่คอร์ริโป ซึ่งดูราวกับว่าเขาไม่ได้ฆ่าคนสำคัญแต่เหมือนฆ่าหมูฆ่าหมา เฉินเหิงก็ดูตกใจมาก
อีกทั้งการโจมตีครั้งนั้น...
เขานึกย้อนกลับไปถึงวิธีที่คอร์ริโปโจมตี
มีระยะห่างหลายเมตรระหว่างเขากับชายหนุ่มคนนั้น แต่ทันทีที่คอร์ริโปโจมตี หัวของชายหนุ่มก็โบยบินออกไป ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนแม้แต่เฉินเหิงก็ยังไม่สามารถมองเห็นมันอย่างชัดเจน
นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถทำได้
อัศวิน… อัศวินที่แท้จริง
นี่ไม่ใช่แค่คนที่ปลุกพลังชีวิต แต่เป็นอัศวินที่แท้จริงซึ่งมีความแข็งแกร่งพิเศษและได้ปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต
ย้อนกลับไปในการจำลองครั้งแรกของเขา เฉินเหิงได้เดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งในฐานะทหารรับจ้าง
ระหว่างการเดินทางของเขา เขาได้พบกับผู้เชี่ยวชาญหลายคน และเขาก็ได้เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างอัศวิน
มีอัศวินหลายประเภท
อัศวินที่เปิดใช้งานเพียงพลังงานแห่งชีวิตเท่านั้นจะเรียกว่าเป็นอัศวินฝึกหัด
ตัวอย่างเช่น อัศวินเอ็ดเวิร์ดในการจำลองครั้งแรกก็อยู่ในระดับดังกล่าว
มีเพียงคนที่ปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิต ซึ่งเป็นแก่นแท้ของชีวิตแล้วเท่านั้นถึงจะเรียกว่า อัศวินที่แท้จริง
ในระดับนี้ อัศวินสามารถควบคุมพลังงานชีวิตของพวกเขาได้อย่างแท้จริงและสามารถทำสิ่งต่าง ๆ มากมายที่คนธรรมดาไม่สามารถทำได้
เฉินเหิงเคยเห็นอัศวินระดับนี้ในหมู่ทหารรับจ้าง แต่เขาไม่กล้าสู้ด้วย ทุกครั้งที่เขาเห็นคนแบบนี้ เขาเลือกที่จะวิ่งหนีไปให้ไกลทันที
ว่ากันว่าเหนือกว่าอัศวินทั่วไป ยังมีสิ่งที่เรียกว่าอัศวินผู้ยิ่งใหญ่อีกด้วย…
อย่างไรก็ตามแม้กระทั่งตัวเฉินเหิงที่เดินทางไปมาหลายแห่งในฐานะทหารรับจ้าง เขาก็เพียงแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับการดำรงอยู่ระดับดังกล่าวเท่านั้นและไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน
การโจมตีที่คอร์ริโปปลดปล่อยออกไปนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีเพียงอัศวินชั้นหนึ่งเท่านั้นที่สามารถทำได้ เขาเป็นอัศวินที่ปลุกเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตแล้วอย่างแน่นอน
บุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
เฉินเหิงคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างทันที และเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลา ราวกับว่าเขากำลังกลัวความคิดของตัวเขาเอง
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เรื่องนี้ไม่สำคัญเพราะทุกคนมีปฏิกิริยาในลักษณะเดียวกัน
ในขณะนั้น แม้แต่ครูโดก็ยังตกตะลึง เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างโง่เขลาโดยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
“ข- เขาฆ่าคน…”
มองดูศพบนพื้นด้วยใบหน้าซีด พวกเขารู้สึกหวาดกลัวในใจ
แม้ว่ายุคนี้จะค่อนข้างป่าเถื่อนและโหดเหี้ยม ผู้คนมักจะตายกันได้ง่าย ๆ แต่การเห็นใครบางคนที่ยังมีชีวิตอยู่และได้พูดคุยกับพวกเขาในวินาทีก่อนและตายไปในวินาทีถัดมาก็ยังน่าตกใจอยู่ดี
ทุกคนตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ พวกเขาหลายคนมองไปยังคอร์ริโปด้วยความหวาดกลัว
คอร์ริโปดูเหมือนจะไม่สนใจสายตาเหล่านั้น เขาหัวเราะอย่างเหยียดหยามก่อนจะโบกมือ
ข้าง ๆ เขา มีคนรับใช้สองสามคนรีบก้าวออกมาและนำศพออกไป
“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดเหรอ?”
มองไปที่นักเรียนที่กำลังตกตะลึง คอร์ริโปแสดงสีหน้าเย็นชาและกล่าวว่า “ตอนนี้มีใครจะพูดอะไรอีกไหม”
เขาพูดอย่างสงบ แต่คลื่นแห่งเจตนาฆ่าฟันกลับแผ่กระจายออกไปทั่วสถานที่แห่งนี้
ใบหน้าของทุกคนซีดเซียวอย่างไม่น่าเชื่อ