Ep.349 - แข่งกับเวลา
2/3
Ep.349 - แข่งกับเวลา
แรงสั่นสะเทือนยิ่งมายิ่งร้ายแรง
แสงสว่างยิ่งนานยิ่งพร่างพราย
พลังงานที่ปล่อยออกมาจากแท่นบูชาน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
พวกฮังอวี่รู้สึกได้ว่าค่าพลังชีวิตและค่าพลังจิตกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว
รอยแยกที่ดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญใดๆซึ่งเดิมตั้งอยู่เหนือแท่นบูชา เวลานี้ขยายออกด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
กลิ่นฉุนรุนแรงของกำมะถัน รวมไปถึงของเหลวสีแดงฉานจำนวนมากไหลออกมาจากรอยแยกนี้ ตกลงสู่ใจกลางของแท่นบูชาที่เป็นพื้นที่คล้ายอ่างเก็บน้ำ
เสมือนลาวาร้อนระอุ เสมือนเยลลี่เนียนใส ดูไม่เหนียวเหนอะหนะ
ขณะที่ของเหลวยังคงไหลไปยังแท่นบูชา ร่างอันพร่ามัวค่อยๆลุกยืนขึ้น
ตามผิวของร่างกายมันค่อยๆเย็นลงและแข็งตัว มีสีไหม้เกรียมเหมือนถ่าน และในทุกๆวินาทีตรงรอยแยกมิติ เวลานี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิงชุกโชน ร่างๆหนึ่งค่อยๆก่อตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คล้ายเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ที่สิ้นสุด แม้ตอนนี้จะยังพร่ามัวเห็นไม่ชัด แต่สามารถระบุรูปลักษณ์เค้าโครงร่างได้คร่าวๆแล้ว
มันคือสัตว์ประหลาดลาวาที่มีรูปร่างคล้ายอมนุษย์กำลังถูกเผาไหม้
ขนาดตัวของมันใหญ่โตถึง 3.5 เมตร มีเขาบนหัว และมีปีกลาวาคู่หนึ่งอยู่บนแผ่นหลัง
แน่นอน ณ เวลานี้รูปร่างของมันยกคงคลุมเครือเหมือนถูกเคลือบไว้ด้วยลาวา แต่เมื่อเวลาผ่านไป รายละเอียดของร่างกายมันก็จะค่อยๆสมบูรณ์แบบขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊าาาาา”
เหล่าเครื่องสังเวยเริ่มกรีดร้องและชักกระตุกอย่างอนาถ
ร่างกายของพวกเขาเริ่มแห้ง พลังงานเริ่มเหือดหาย
ฮังอวี่สัมผัสได้ว่าเอฟเฟกต์ของโพชั่นมนตรากำลังถูกระบายอออกอย่างรวดเร็ว ไม่นานร่างที่แท้จริงคงถูกบังคับให้เผยโฉม
เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ออกคำสั่งเสียที ฉูเทียนหัวก็อดลอบร้องเสียงต่ำไม่ได้ “พวกเรายังไม่เริ่มอีกหรือ? ฉันรู้สึกว่าร่างกายกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ ฉันไม่อยากทำได้แค่นั่งเฉยรอรับความตาย!”
ฮังอวี่เหงื่อไหลโชกไม่ต่างกัน แต่เขากัดฟันตอบว่า “ยังไม่ถึงเวลา รออีกซักพัก!”
ราชาปีศาจโลกันตร์คือปีศาจระดับสูง
ราชาปีศาจโลกันตร์ คือสิ่งมีชีวิตกึ่งธาตุ และมีเพียงสิ่งมีชีวิตประเภทนี้เท่านั้นถึงจะพอฝืนกฏเกณฑ์ลงมายังโลกมนุษย์ได้ หากเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทอื่นในโลกวิญญาณ คาดว่าระหว่างการข้ามมิติ ด้วยพลังรบของตนที่มากเกินไป อาจถูกมิติขับไล่และได้รับอันตรายถึงตายได้
และในตอนนี้ การข้ามมิติของราชาปีศาจโลกันตร์ยังไม่เข้าสู่ช่วงสำคัญที่สุด
สิ่งที่เห็นตอนนี้เป็นเพียงกระบวนการข้ามร่างกายทางกายเท่านั้น ซึ่งจังหวะที่ดีที่สุดที่ฮังอวี่พูดถึงคือกระบวนการข้ามทางวิญญาณ
หากขัดขวางพิธีในตอนนั้น อย่างน้อยราชาปีศาจโลกันตร์ จะได้รับบาดเจ็บสาหัสและตกอยู่ในสภาพใกล้ตาย
และอย่างมากคือจิตวิญญาณถูกทำลายลงสู่ความพินาศตลอดกาล
ฮังอวี่รู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชาปีศาจโลกันตร์ ดังนั้นไม่สามารถปล่อยให้ภัยคุกคามนี้ปรากฏขึ้นได้ เขาจึงต้องขจัดต้นตอของปัญหาไปตลอดกาล ขืนราชาปีศาจโลกันตร์หนีรอดไปได้ แม้คราวนี้จะสามารถหยุดมัน แต่การขัดจังหวะพิธีกรรมในครั้งนี้คงไม่มีความหมาย
และราชาปีศาจโลกันตร์ไม่ช้าก็เร็วต้องหวนคืนกลับมาใหม่
ถึงเวลานั้น ถ้าเขาต้องตกเป็นเป้าหมายของสิ่งมีชีวิตอันน่าสะพรึงในระดับราชันย์
ฮังอวี่จะยังใช้ชีวิตต่อไปอย่างสงบสุขได้อีกหรือ?
ดังนั้น เวลานี้เขาทำได้แค่เสี่ยงฝืนทน และคว้าโอกาสฆ่าอีกฝ่ายเท่านั้น!
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกได้เช่นกันว่าร่างกายกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆ และหากยังถูกดึงพลังชีวิตและพลังจิตต่อไป พลังกายของเขาคงอ่อนแอลง และเกรงว่าคนอื่นๆคงทนไม่ไหวเช่นกัน ดังนั้นฮังอวี่กำลังคิดว่าจะลงมือก่อนกำหนด
แต่ในตอนนั้นเอง
เขาเห็นได้ชัด
ว่าร่างอันกำยำที่กำลังก่อตัวในแท่นบูชาเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
ราชาปีศาจโลกันตร์ลืมตาขึ้นทันใด ดวงตาของมันลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ ใบหน้าของมันที่ยังไม่สมบูรณ์ค่อยๆแสดงอาการ แผ่รัศมีอันน่าเกรงขามออกมาราวกับราชาที่ครองบัลลังก์
“ถึงเวลาแล้ว!”
“ลงมือได้!”
ฮังอวี่รู้ว่าวิญญาณส่วนหนึ่งของราชาปีศาจโลกันตร์ได้ข้ามมิติมาแล้ว แต่วิญญาณส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระหว่างข้ามมิติ แม้พิธีกรรมจะเร่งเวลาในการข้ามมิติได้ระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้มิติยังคงเสถียร ดังนั้นจึงต้องจำกัดเวลาให้เชื่องช้า เป็นไปไม่ได้ที่จะข้ามมิติอย่างสมบูรณ์ได้ในทันที
และในครั้งนี้
เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะขัดจังหวะพิธีกรรม!
ฮังอวี่ไม่ลังเลอีกต่อไป สลายเอฟเฟกต์โพชั่นคนสองหน้า ปราณสงครามสีแดงถูกปลดปล่อยออกจากร่างกายเขา สลายวงแหวนสีดำที่คอยผูกมัด ขณะเดียวกันก็ทำลายวงแหวนสีดำที่คอยควบคุมร่างกายฉูเทียนหัว
เมื่อหลุดจากเวทย์ควบคุม ฉูเทียนหัวชักกระบี่หนักออกมาและฟันสองฉับอย่างรวดเร็ว ทำลายวงแหวนสีดำที่ผูกตัวลั่วหยวนเจิ้งกับ ไป่เฉิงเทียนเอาไว้
ลั่วหยวนเจิ้งเรียกหอกด้วยมือขวา
ในเวลาเดียวกัน มือซ้ายเปิดใช้งานม้วนคัมภีร์
คัมภีร์สีเขียวเลเวล 10 ‘ห่วงโซ่สายฟ้า!’
สายฟ้าทอวาบ ชิ่งไปโดนเครื่องสังเวยทั้งสี่ที่อ่อนแอก่อน จากนั้นชิ่งต่อไปยังมอนสเตอร์อันเดธที่อยู่ใกล้เคียงอีก 5 -6 ตัว
“อ๊ากกกกก!”
เสียงกรีดร้องด้วยความทุกข์ระทมดังขึ้น
เหล่าเครื่องสังเวชอ่อนแอทั้งสี่ถูกไฟช็อตดำเป็นถ่าน
อันเดธหลายตัวที่อยู่ใกล้เคียงก็ถูกสายฟ้าฟาดกระเด็นออกไปเช่นกัน
ไป่เฉิงเทียนฉวยโอกาสนี้เปิดใช้งานคัมภีร์ฟื้นฟู ห่อหุ้มทั้งสี่คนเอาไว้ ช่วยให้ค่าพลังชีวิต ค่าพลังจิต และพลังรบของทั้งหมดฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ตามด้วยการเอาโล่และกระบองของอาชีพนักบวชออกมา ร่ายสกิลบัฟหลายอย่างให้คนอื่นๆทันที ค่าคุณสมบัติโดยรวมของฮังอวี่และคนอื่นๆเพิ่มขึ้นในช่วงสั้นๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
ปรากฏว่าดันเกิดจุดผิดพลาดในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้
ชาวโลกวิญญาณทั้งสี่และหวังจุนเหวินซึ่งอยู่ไม่ไกล ทุกคนเผยสีหน้าตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นคนทั้งสี่ที่ปลอมตัวมากลับสู่สภาพเดิม พวกเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างไม่สู้ดี
บัดซบ!
มีการแทรกซึม!
นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง!?
หวังจุนเหวินจำฉูเทียนหัวกับ ลั่วหยวนเจิ้งได้
แต่เขาไม่เข้าใจ เห็นได้ชัดว่าเขาระวังตัวมาก และลูกน้องทุกคนของเขาต่างได้รับการปกปิดเป็นความลับ
เช่นนั้นแล้วทางสกายเน็ตแทรกซึมเข้ามาได้อย่างไร? ทำถึงขั้นกระทั่งเข้าแทนที่คนอื่นๆโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ฮังอวี่เลือกทำลายแท่นบูชาก่อนเป็นอันดับแรก หากสูญเสียแท่นบูชา พิธีกรรมที่กำลังดำเนินจะได้รับผลกระทบ เมื่อไม่มีเครื่องสังเวย ราชาปีศาจโลกันตร์ต่อให้ข้ามมิติสำเร็จ แต่คาดว่าพลังรบของมันคงลดทอนลงมาก
“พวกเจ้ากล้าดียังไง!”
เสียงอันมืดมนดังขึ้น
ราชาปีศาจโลกันตร์ที่ยังไม่ได้ก่อตัวสมบูรณ์เปิดปากพูด
คนทั้งสี่จากโลกวิญญาณต่างตื่นตระหนก พวกมันตรวจสอบหวังจุนเหวินหลายต่อหลายครั้ง และพบว่าคนผู้นี้ไม่มีปัญหาจริงๆ ดังนั้นวางใจปล่อยให้พาคนอื่นเข้ามา แต่ใครจะคิด ว่ากลับเกิดเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้น!
อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!
ต้องฆ่าพวกมันแล้วหั่นศพเป็นชิ้นๆ!
แม้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ในฐานะผู้ทรงอำนาจแห่งโลกวิญญาณ ผู้ที่ข้ามผ่านประสบการณ์มามากมาย มันจึงไม่เสียสติจากเรื่องไม่คาดฝันครั้งนี้ เอ่ยสั่งดาร์คเอลฟ์และโทรลล์ “วิญญาณของข้ายังไม่มั่นคง พิธีห้ามถูกขัดจังหวะ พวกเจ้าทั้งสองออไปฆ่าพวกมันซะ!”
นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของพิธีกรรม!
อีกเพียงสองหรือสามนาทีก็จะเสร็จสมบูรณ์!
แม้การถูกทำลายเครื่องสังเวยจะสร้างความเสียหายต่อราชาปีศาจโลกันตร์ แต่ตราบใดที่พิธีกรรมเสร็จสิ้น พลังรบของมันก็ยังคงเหนือกว่าเผ่าพันธุ์แสนอ่อนแอกลุ่มนี้ และเพื่อให้พิธียังคงดำเนินต่อไป วิญญาณจำแลงกับแม่มดซัคคิวบัสจึงรับช่วงต่อ ขณะที่ดาร์คเอลฟ์กับโทรลล์เป็นสายนักรบ ดังนั้นต่อให้ออกไปตอนนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา
“รับทราบ!”
โทรลล์และดาร์คเอลฟ์ไม่กล้าที่จะชักช้า
ทั้งสองดึงตัวเองออกจากแท่นบูชาทันทีและมุ่งหน้าไปยังฮังอวี่ที่กำลังต่อสู้กับพวกอันเดธ
ฮังอวี่ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเด็ดขาดขนาดนี้ กวาดหอกทำลายกระดูกทั้งสองที่ขวางทางและร้องเตือนว่า “พิธียังไม่ถูกขัดจังหวะ พวกเราต้องทำลายแท่นบูชา!”
ฉูเทียนหัวยังไม่ทันเอ่ยปากตอบ โทรลล์ที่อยู่เบื้องหน้าเขาขว้างหอกที่พัวพันไปด้วยไอสีดำเข้ามา และทันทีที่มันหลุดจากมือ ตัวหอกพลันหายวับไป เมื่อปรากฏขึ้นอีกครั้งก็โผล่มาตรงหน้าแล้ว ไม่อาจมองเห็นเส้นทางบินของมันได้เลย เอฟเฟกต์นี้เกิดจากสกิลขั้น 3 - ขว้างเงา!
ไป่เฉิงเทียนไม่รอช้า ยกโล่ขึ้นป้องกัน ฉูเทียนหัว
แสงสีขาวถูกปล่อยออกมาจากผิวโล่ของเขา
หอกพุ่งทะลุม่านแสงสีขาวและตอกลงบนโล่ แต่ก็สามารถหยุดเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที!
สมแล้วที่มีพลังรบในระดับหัวหน้ากอง!
อันเดธกว่า 7 8 ตัวเข้าปิดล้อมเขา
โทรลล์หยิบหอกออกมาอีกด้าม
ฉูเทียนหัวแผดเสียงต่ำ พุ่งเข้าชาร์จคู่ต่อสู้
ลั่วหยวนเจิ้งไล่ตามไปติดๆ ขณะเดียวกันตะโกนบอกฮังอวี่ “พวกเราจะถ่วงเวลาให้ รีบไปทำลายพิธีซะ!”
ฮังอวี่พยักหน้า
พร้อมเข้าสู่สถานะจู่โจมมุมอับ มุ่งหน้าเข้าไปยังแท่นบูชา
อย่างไรก็ตาม ฮังอวี่พึ่งเดินมาได้ไม่กี่ก้าว ปราณกระบี่คมกริบหลายสายพลันโฉบเข้าหาเขา บังคับฮังอวี่ออกจากสถานะจู่โจมมุมอับ และต้องถอยออกไปสองก้าว
เป็นดาร์คเอลฟ์!
ฮังอวี่หันไปมองรอบๆ
แต่เขาพบว่าดาร์คเอลฟ์ได้หายตัวไปแล้ว
ใช่สิ เจ้าหมอนี่ก็มีความสามารถในการล่องหนเหมือนกัน ทั้งยังแข็งแกร่งกว่าของตัวเขา!
ฮังอวี่ตระหนักดีว่าเทคนิคตาเหยี่ยวไม่ช่วยอะไร ดังนั้นเปิดใช้งานสกิลมิติ ‘รับรู้พื้นที่’
วิสัยทัศน์ปรากฏขึ้นในหัวเขา
โลกสีขาวดำแผ่ขยายออกไปรอบๆ
และทันใดนั้นเอง เงาร่างที่เหมือนกับมนุษย์ก็ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วในขอบเขตการมองเห็น
ในขณะนี้ กระบี่คู่สองเล่มกำลังทิ่มแทงเข้าหาเขาด้วยความเร็วสูง
ฮังอวี่รู้ว่าไม่มีเวลาแล้ว เขากุมหอกยาวในมือ ฟาดปลายหอกสร้างคลื่นสั่นสะเทือนอันทรงพลัง ระเบิดกระจายลงตามพื้น ครอบคลุมร่างกายของคู่ต่อสู้
คลื่นมังกรปฐพี!