บทที่ 784 กลุ่มแลกเปลี่ยน(ตอนฟรี)
บทที่ 784 กลุ่มแลกเปลี่ยน
“สวัสดีค่ะบอส ฉันมีเรื่องจะแจ้งให้คุณทราบ”
ทันทีที่จี้เฟิงรับโทรศัพท์ เสียงของผู้หญิงที่หนักแน่นและมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของซูหยวนก็ดังออกมาจากหูโทรศัพท์ “ฉันได้รับคำเชิญจากประธานโจวของเฉินซื่อจี๋กรุ๊ป ดังนั้นฉันเลยวางแผนที่จะไปเจียงโจวและเจ้อเจียงในสัปดาห์หน้า”
“ประธานโจว?”
จี้เฟิงตกใจและถามกลับอย่างรวดเร็ว “คุณหมายถึงโจวเฟยเฟยใช่มั้ย? เธอเชิญคุณไปทำอะไร?”
ตั้งแต่ที่โจวเฟยเฟยมาที่เจียงโจว ก็ผ่านมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว เธอมาเจรจากับจี้เฟิงเรื่องจะขอความร่วมมือทางธุรกิจกับโรงงานเซียว ขอสิทธิ์ตัวแทนขายในผลิตภัณฑ์คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ในพื้นที่มณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง ในตอนนั้นจี้เฟิงตกลงเห็นด้วย และตอนนี้เธอได้เชิญซูหยวนไปที่เจียงซูและเจ้อเจียง เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
“ประธานโจวแจ้งว่า มีลูกค้าของเธอรายหนึ่งที่ไต้หวัน จะมาจีนแผ่นดินใหญ่ในสัปดาห์หน้า และมีความเป็นไปได้ว่าลูกค้าของเธออาจจะร่วมมือกับเรา ดังนั้นประธานโจวจึงตั้งใจที่จะให้เราเข้าไปทำการติดต่อเจรจาในเบื้องต้นหลังจากที่ลูกค้าของเธอมาถึง” เสียงของซูหยวนเบาลงเล็กน้อยและกล่าวต่อไปว่า “ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์ของเราที่จะเข้าสู่ตลาดไต้หวัน ฉันอยากจะไปลองดูซักหน่อย”
“ลูกค้าประเภทไหนในไต้หวัน?” จี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขายังไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้นว่าโรงงานเซียวจะร่วมมือกับบริษัทจากไต้หวันในสักวันหนึ่ง เพราะตอนนี้ ลำพังแค่ในประเทศ คังหยวนสลิมมิ่งพาวเดอร์ยังไม่ได้ทำการโปรโมตอย่างทั่วถึงเลย เขาจึงยังไม่เคยคิดว่าผงลดน้ำหนักของเขาจะไปไต้หวันหรือตลาดต่างประเทศเร็วๆนี้
“ตามที่ประธานโจวกล่าว ลูกค้ารายนี้เป็นกลุ่มบริษัทชั้นแนวหน้าในวงการอุตสาหกรรมเภสัชในไต้หวัน” ซูหยวนกลัวว่าจี้เฟิงจะไม่คุ้นเคย เลยอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไปว่า “ฉันตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมาแล้ว เป็นกลุ่มบริษัทที่ชื่อว่าไพโอเนียร์ฟามาซูติคอลกรุ๊ป ที่นี่เป็นองค์กรที่มีอำนาจมาก ยอดขายต่อปีหลายพันล้าน ไม่เพียงแต่จะเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความสำคัญต่อไต้หวันเท่านั้น แต่ยังมีช่องทางการขายที่ค่อนข้างหลากหลายในระดับสากล
พันล้าน....
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง นี่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของจริง ลำพังแค่มูลค่าซื้อขายเพียงอย่างเดียวก็เป็นจำนวนเงินมหาศาลแล้ว คำนวณตัวเลขที่เป็นกำไรอย่างง่ายๆของไพโอเนียร์ฟามาซูติคอลกรุ๊ป อย่างน้อยๆก็น่าจะมีหลายร้อยล้านและอาจจะเป็นพันล้าน!
“คุณจะไปเจียงซูและเจ้อเจียงสัปดาห์หน้าใช่มั้ย?” จี้เฟิงถาม
“ใช่ค่ะ ประธานโจวบอกว่ารองประธานกลุ่มบริษัทไพโอเนียร์ฟามาซูติคอลกรุ๊ปจะมาถึงในสัปดาห์หน้า” ซูหยวนกล่าว
จี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ไม่น่ามีปัญหา ฉันน่าจะสอบเสร็จภายในหนึ่งสัปดาห์ แล้วถ้ามีเวลาเพียงพอ ฉันจะไปที่เจียงซูและเจ้อเจียงกับเธอด้วย!”
“โอเคค่ะบอส” ซูหยวนกล่าวทันที
หลังจากวางสาย จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะลูบคางและพึมพำกับตัวเองว่า “เฟยเฟย.. แค่เพียงอาทิตย์เดียว เธอทำได้ดีขนาดนี้เลยเชียวเหรอ? หรือว่าเธอมีจุดประสงค์อย่างอื่นอยู่กันแน่?!”
จี้เฟิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย สัปดาห์ที่ผ่านมา โจวเฟยเฟยได้เดินทางมายังเจียงโจวเพื่อมาคุยเรื่องความร่วมมือกับโรงงานเซียวโดยเฉพาะ และตอนนี้เธอก็กำลังสนับสนุนโรงงานเซียวอย่างเต็มที่ เธอจะกระตือรือร้นเกินไปหน่อยไหม?
ลืมไปหรือเปล่าว่า โจวซื่อหลิน น้องชายของโจวเฟยเฟยยังคงกินข้าวแดงอยู่ในคุก!
และคนที่ส่งโจวซื่อหลินเข้าคุกไปก็คือจี้เฟิง!
แม้ว่าในเหตุการณ์ตอนนั้นจี้เฟิงจะไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตัวเอง แต่เขาก็เป็นต้นเหตุ แต่ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้วที่โจวซื่อหลินไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ โจวเฟยเฟยยังคงกระตือรือร้นอย่างมาก มันทำให้จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกระแวงและต้องคิดให้มากขึ้น และเพื่อความปลอดภัย เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปหางโจวกับซูหยวน เพื่อว่าหากเกิดอะไรขึ้นกับซูหยวน เขาจะได้ป้องกันได้ทัน
แม้ว่าจะมีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ป้องกันไว้ก่อนก็ดีกว่ารอให้เกิดขึ้นแล้วมาตามแก้
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มันทำให้ความระมัดระวังของจี้เฟิงเพิ่มขึ้น และคิดอย่างรอบคอบมากขึ้น
“โจวเฟยเฟยคิดแค่เรื่องธุรกิจและมีน้ำใจขนาดนั้นเลยจริงๆน่ะหรือ?”
เมื่อนึกถึงฉากที่เขาได้พบกับโจวเฟยเฟยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อย ใครจะไปรู้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
ตึก! ตึก! ตึก!
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังมาจากชั้นบน จี้เฟิงกลับมารู้สึกตัวทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเซียวหยูซวนที่สวมเสื้อโค้ทกำลังเดินลงมาข้างล่างอย่างรีบร้อน
“เกิดอะไรขึ้น?” จี้เฟิงถามทันที
“หัวหน้าแผนกโทรมาเมื่อกี้นี้ เขาบอกว่ามีประชุมด่วน และทุกคนที่เข้าใจภาษาเจี๋ยเผิงจะต้องเข้าร่วม!” เซียวหยูซวนกล่าวในขณะที่เธอกำลังเดินออกไป
จี้เฟิงตกใจ “เธอพูดภาษาเจี๋ยเผิงได้เหรอ?”
“นายลืมสินะ....” เซียวหยูซวนยิ้มหวาน “ภาษาต่างประเทศภาษาที่สองที่ฉันใช้ในวิทยาลัยคือภาษาเจี๋ยเผิงไม่ใช่เหรอ?”
“.........”
จี้เฟิงอดหัวเราะไม่ได้ “จริงด้วยแฮะ หยูซวนคนสวยของเราก็เป็นผู้หญิงที่มากความสามารถ สวยก็สวยแถมยังเก่งอีก!”
“พอเลย ไม่ใช่เวลามาเยินยอ นายอยู่กับเล่ยเล่ยและก็เสี่ยวอิงที่บ้านนี่แหละ ฉันจะไปที่มหาวิทยาลัยก่อน ไม่ต้องรอกินข้าวกลางวันนะ!” เซียวหยูซวนกล่าวอย่างเร่งรีบและกำลังจะเดินออกไป แต่ถูกจี้เฟิงหยุดไว้
“หยูซวน เดี๋ยวก่อน ฉันจะไปกับเธอ!” จี้เฟิงพูดทันทีและหยิบเสื้อโค้ทบนโซฟาขึ้นมา เขาก้าวสั้นๆสองก้าวไปหาเซียวหยูซวนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ ไปแวะอ่านหนังสือที่มหาลัยซักหน่อยน่าจะดีกว่า”
“แล้วเล่ยเล่ยล่ะ?!” เซียวหยูซวนถาม
“มีเสี่ยวอิงอยู่ ไม่น่ามีอะไรให้ห่วง เสี่ยวอิงจะปกป้องเล่ยเล่ยเอง” จี้เฟิงกล่าว
ทักษะของเสี่ยวอิงเรียกได้ว่าค่อนข้างดี แถมอยู่ที่บ้านก็มีระบบรักษาความปลอดภัยครบครัน แต่ถ้าเซียวหยูซวนออกไปข้างนอกคนเดียว ก็จะไม่มีใครปกป้องเธอ แล้วยิ่งเป็นช่วงนี้ จี้เฟิงจะไม่ยอมประมาทแม้แต่น้อย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการเปิดโอกาสให้ศัตรูที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดมาโจมตี!
แน่นอนว่าเซียวหยูซวนเข้าใจเจตนาของจี้เฟิง เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นหัวใจและยิ้มหวาน “งั้นไปบอกเล่ยเล่ยก่อน”
.........
“หยูซวน มีเรื่องด่วนอะไรที่เธอต้องรีบไปจนถึงขนาดไม่กินข้าว?” ในขณะขับรถ จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและถาม “แล้วทำไมต้องเป็นคนที่เข้าใจภาษาเจี๋ยเผิง ทำไมไม่ใช้ภาษาจีนคุย?”
“ในประเทศจีน มีคนตั้งหลายล้านคน ทำไมถึงต้องเป็นเธอด้วย?!”
เซียวหยูซวนรู้สึกขบขัน เธอชำเลืองมองจี้เฟิงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนที่หัวหน้าแผนกโทรมา เขาบอกว่ามีกลุ่มแลกเปลี่ยนของมหาวิทยาลัยจากประเทศเกาะมาที่จีนพร้อมกับคณะผู้แทนวัฒนธรรมของพวกเขา เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยของเรา ทางมหาวิทยาลัยก็เลยมองหาคนที่เข้าใจภาษาเจี๋ยเผิงและน่าจะมอบหมายงานบางอย่างให้!”
“กลับกันเถอะ!”
ใบหน้าของจี้เฟิงมืดครึ้มทันที เขาตีไฟเลี้ยวและจอดรถไว้ข้างถนนก่อนจะพูดอย่างไม่พอใจ “ถ้าไม่โง่ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นงานอะไร เขาจะให้เธอไปเป็นล่ามให้กับไอ้พวกประเทศเกาะเวรนั่น! ทำไมต้องให้คนจีนที่เข้าใจภาษาเจี๋ยเผิงไปเป็นล่ามให้ด้วย ถ้ามาประเทศคนอื่นก็หาล่ามมาเองสิ!”
“นายโกรธอะไรเนี่ย?” เซียวหยูซวนพูดอย่างขบขัน “นายไม่ชอบคนประเทศเกาะเหรอ?”
“ใช่!” จี้เฟิงไม่คิดที่จะปกปิดความโกรธเคืองที่มีต่อคนประเทศเกาะ เขาพยักหน้ายอมรับทันที “ไม่ใช่แค่ไม่ชอบนะ แต่เกลียด!”
“นาย... ไปโกรธเคืองคนประเทศเกาะตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?” เซียวหยูซวนเม้มริมฝีปากและหัวเราะ
“มากกว่าหนึ่งปีแล้ว!” จี้เฟิงพูดอย่างโกรธเคือง “เธอจำได้มั้ยว่าเมื่อปีที่แล้ว มีเหตุการณ์การโจรกรรมที่ตึกอี้เหอในเจียงโจว?”
“จำได้ มันทำไมเหรอ?” เซียวหยูซวนถามด้วยความสงสัย
“คนที่เป็นคนบงการในเรื่องนี้ ก็คือคนจากประเทศเกาะ!” จี้เฟิงกล่าวเสียงเย็น
“ห๊ะ?!” เซียวหยูซวนตกตะลึง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน และในตอนนั้นจี้เฟิงก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดให้เธอฟัง ดังนั้นเซียวหยูซวนจึงคิดมาโดยตลอดว่าเป็นเพียงแค่การปล้นจี้ของพวกอันธพาลแถวๆนั้น และเธอก็ไม่ได้คิดจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก และยิ่งคิดไม่ถึงไปใหญ่ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับคนประเทศเกาะ”
“ไอ้พวกประเทศเกาะนี่ แทบไม่มีอะไรดีเลย!” จี้เฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
เหตุการณ์การโจรกรรมในตึกอี้เหอ จี้เฟิงยังคงจำได้อย่างชัดเจนจนมาถึงวันนี้เกี่ยวกับสิ่งที่คนประเทศเกาะทำ! ความอุกอาจก้าวร้าวของพวกประเทศเกาะที่ทำกับจีน ไม่ใช่เรื่องที่จะเพิกเฉยได้ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตึกอี้เหอ จี้เฟิงได้เห็นเองกับตาทุกอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะปัญหาที่อาจจะลุกลามบานปลายและส่งผลเสียไปยังตระกูล จี้เฟิงแทบอยากจะฆ่าสัตว์ร้ายเหล่านั้นให้สิ้นซาก
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะมีความประทับใจที่เลวร้ายกับพวกประเทศเกาะ
“จะกลับเลยมั้ย?” จี้เฟิงถาม
เซียวหยูซวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังส่ายหัวปฏิเสธ และเมื่อเห็นใบหน้าที่บึ้งตึงของจี้เฟิง เธอจึงพูดทันทีว่า “ฟังฉันก่อน ฉันเดาว่าที่ทางมหาวิทยาลัยเรียกฉันไป ไม่ใช่เพื่อคนประเทศเกาะเหล่านั้น แต่เป็นล่ามให้กับผู้นำของมหาวิทยาลัย คนของประเทศเกาะมาจีน ก็ต้องนำล่ามมาเองอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงติดต่อสื่อสารกันลำบากแย่!”
จี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “อืม ที่เธอพูดก็มีเหตุผล แต่เราต้องตกลงกันก่อน ถ้าทางมหาลัยต้องการให้เธอเป็นล่ามให้กับไอ้พวกนั้น เธอห้ามทำเด็ดขาด! แล้วใครหน้าไหนมันกล้ามาบังคับให้เธอทำ ฉันจะทำให้พวกมันได้เสียใจ!”
“เข้าใจแล้วค่าคุณชายใหญ่ของฉัน!” เซียวหยูซวนหัวเราะคิกคักและพูดว่า “แล้วเมื่อไหร่คุณชายใหญ่จะเลิกอารมณ์ไม่ดีคะ?”
“อะไรๆ ก็เปลี่ยนได้ แต่ทัศนคติของฉันที่มีต่อประเทศเกาะจะไม่มีวันเปลี่ยน!” จี้เฟิงพ่นลมหายใจและสตาร์ทรถใหม่อีกครั้ง “การกระทำของพวกประเทศเกาะ... ไม่อาจทำให้ฉันมีทัศนคติที่ดีต่อพวกมันได้!”
“เรื่องนี้เราก็คุยกันเองก็ได้นี่ ถ้าคนประเทศเกาะไม่ได้มายุ่งกับเราก่อน เราก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับพวกเขา” เซียวหยูซวนรู้นิสัยของจี้เฟิงดี ถ้าเกิดว่าเขาตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว จะไม่มีใครเปลี่ยนการตัดสินใจของเขาได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงแค่เตือน “อีกอย่าง ถ้าเกิดความขัดแย้งกับคนประเทศเกาะขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่ส่งผลกระทบกับที่บ้านของนายเหรอ?”
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและกล่าวว่า “ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
“หวังว่าจะใช้สติในการคิดเป็นหลักมากกว่าอารมณ์นะ” เซียวหยูซวนชำเลืองมองจี้เฟิงและพูดอย่างช่วยไม่ได้ ในฐานะแฟนสาว เธอเข้าใจอารมณ์ของจี้เฟิงเป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้ที่ปกติจะดูใจดีและไม่เคยระรานคนอื่น แต่ถ้าเป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจแล้ว ก็ไม่มีใครโน้มน้าวเขาให้เปลี่ยนใจได้
ถ้าพูดให้ดูดีหน่อย เขาเป็นคนที่หนักแน่น แต่ถ้าพูดแบบแย่ๆ ก็เป็นคนที่ดื้อรั้น!
…จบบทที่ 784~❤️