ตอนที่แล้วEp.346 - ปฏิบัติการแฝงตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.348 - ราชาปีศาจโลกันตร์

Ep.347 - สถานที่จัดพิธี


2/2

Ep.347 - สถานที่จัดพิธี

ฮังอวี่มาถึงจุดนัดพบ

ฉูเทียนหัวมอบชุดให้เขา พวกมันคืออุปกรณ์ที่ถูกนำออกจากตัวเจ้าของร่างแปลงในโพชั่น เพื่อนำมาใช้ในการปลอมตัว และระหว่างนั้น คนสองคนได้ปรากฏตัวขึ้น

หนึ่งคือลั่วหยวนเจิ้ง หัวหน้ากองคนแรกของสกายเน็ต

อีกหนึ่งคือไป่เฉิงเทียน หัวหน้ากองพลน้อยที่ 5 แห่งสกายเน็ต

ไป่เฉิงเทียนผู้นี้ฮังอวี่ไม่เคยเจอหน้ามาก่อน แต่เขาไม่ธรรมดาแน่นอน

ไป่เฉิงเทียนเดิมเป็นนักบวชในตำแหน่งหัวหน้าหน่วย แต่เนื่องจากพลังรบส่วนบุคคลที่โดดเด่นของเขา ทำให้เขาไม่ด้อยไปกว่าหัวหน้ากองคนอื่นๆ ดังนั้น หลังจากการก่อตั้งกองพลน้อยที่ห้าเมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เขาจึงได้รับมอบหมายให้ไปคุมในฐานะหัวหน้ากอง

นักบวชโดยทั่วไปแล้วจะแบ่งออกเป็นสายสนับสนุน สายต่อสู้ และสายรักษา

เห็นได้ชัดว่าไป่เฉิงเทียนเหมาทั้งสองอย่างแรก เขาเรียนรู้สกิลรักษาระดับต่ำเพียงหนึ่งหรือสองสกิลเช่น รักษาบาดแผลขั้นต้นเท่านั้น นอกจากนี้ในแง่ของการต่อสู้แล้วยังเก่งกาจกว่าสายต่อสู้ส่วนใหญ่ เขามีพลังป้องกันที่สูงมาก และสกิลสายสนับสนุนอันยอดเยี่ยม

หลังจากทำความรู้จักกัน

สีหน้าของฉูเทียนหัวก็กลายเป็นจริงจัง “ฉันจะแนะนำสถานการณ์สั้นๆ เป้าหมายพวกเราเปลี่ยนแล้ว หลังจากนี้อีก 30 นาทีพวกเราจะไปรวมตัวกับหวังจุนเหวินในที่ๆกำหนด จากนั้นตามเขาเข้าสู่เขาวงกตใต้ดิน”

ว่าจบ ฉูเทียนหัวยื่นถุงเอกสารให้ฮังอวี่

“นี่คือข้อมูลของคนที่พวกเราจะเปลี่ยนร่าง เนื่องจากเวลากระชั้นชิดมาก พวกเรามีเวลาแค่ 20 ในนาทีในการจดจำข้อมูล พยายามอย่าลืมข้อมูลสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แผนแตกก่อนถึงเวลาอันควร”

ฮังอวี่เปิดเอกสารหลายหน้า

เขาต้องปลอมตัวชายคนหนึ่งชื่อหลิวเฟย

เอกสารสองสามหน้าได้บันทึกประวัติครอบครัวบุคลิกภาพ งานอดิเรก นิสัย วลีติดปาก และข้อมูลพื้นฐานอื่นๆ ของบุคคลนั้นอย่างชัดเจน

ส่วนเหตุผลที่ฉูเทียนหัวสามารถรับข้อมูลเหล่านี้ในเวลาอันสั้น

ทั้งหมดเกิดจากความช่วยเหลือของหูเจี้ยน แต่เวลาเตรียมการน้อยเกินไป จึงเป็นการยากที่จะยืนยันความถูกต้อง

อาจเป็นเพราะเหตุนี้ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงในการถูกจับได้ จึงมีเพียงสี่ในแปดคนเท่านั้นที่ถูกแทนที่ แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มหวังจุนเหวิน

ความทรงจำของฮังอวี่น่ะดีมาก

อ่านเพียงครั้งเดียวเขาก็สามารถจดจำสถานการณ์ทั้งหมดได้

ฉูเทียนหัวกล่าวต่อว่า “พวกเราจะลอบทิ้งร่องรอยไว้ตลอดทาง ทีมปฏิบัติการของสกายเน็ตได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว พวกเขาจะตามเราไปติดๆ แต่สถานการณ์ยากจะคาดเดา บางอย่างพวกเราอาจต้องด้นสด”

“ใกล้ถึงเวลาแล้ว”

“ไปกันเถอะ”

“ทั้งสี่คนไม่มีแม้กระทั่งเวลาสื่อสารกันโดยละเอียด”

ฮังอวี่ดื่มโพชั่นมนตราคนสองหน้า เขารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย ยานี้ทำให้เขาเตี้ยลงและอ้วนขึ้น ในที่สุดกลายเป็นชายหนุ่มบุคลิกค่อนข้างลามก

เลเวลและสกิลก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ตอนนี้เขาคือผู้ใช้วิญญาณเลเวล 8 ที่มีสกิลพรสวรรค์ประเภทพลังจิต และครอบครองสกิลขั้น 1 สายผู้ใช้วิญญาณอีกสามสกิลแต่ยังไม่มีมรดกที่สามารถสืบทอดได้สมบูรณ์

ฮังอวี่รู้

นี่คือเอฟเฟกต์ที่เกิดจากโพชั่นมนตราคนสองหน้า

มันสามารถเปลี่ยนบุคลหนึ่งให้กลายเป็นอีกคนหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์ แน่นอน เลเวลของคนที่ใช้เปลี่ยนร่างจะต้องไม่สูงกว่าผู้ดื่มมัน และการเปลี่ยนร่างนี้สามารถยกเลิกเองได้ตลอดเวลา

ฮังอวี่รู้สึกว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่ความหล่อของเขาลดลง แต่พลังรบเองก็ลดทอนลงมากเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อหันไปมองร่างแปลงของฉูเทียนหัว เขาก็กลืนคำโวยวายลงทันที

ใบหน้าที่เดิมยุติธรรมและจริงจังของ ฉูเทียนหัว

เวลานี้กลายเป็นเถ้าแก่เนี้ยไปแล้ว

หากเป็นเถ้าแก่เนี้ยสวยๆก็ไม่เป็นไร แต่เธออยู่ในสภาพตัวบวม หน้าอกหย่อนคล้อย เหมือนป้าร้านขายแผงลอยในตลาดสด

ฮังอวี่เดิมอยากจะสัมภาษณ์ความรู้สึกในใจของเหล่าฉู แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่างานต่อไปสำคัญมาก เขาจึงไม่เสียเวลากับเรื่องนี้

ลั่วหยวนเจิ้งกลายเป็นชายชราร่างผอมบาง

ไป่เฉิงเทียนกลายเป็นวัยรุ่นทรงนักเลง

ทั้งสี่เปลี่ยนร่างเสร็จสิ้นก็สวมอุปกรณ์และรีบไปยังจุดรวมพลทันที

หวังจุนเหวินและอีกสี่คนมาถึงก่อนแล้ว

หวังจุนเหวินกวาดสายตามองลูกน้องของเขาด้วยความสงสัย อาจเพราะเป็นคนประเภทมีสัญชาตญาณเฉียบแหลม จึงเกิดฉุกใจถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างได้

มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

จิตใต้สำนึกเขาร้องเตือน

หวังจุนเหวินเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ แต่มองยังไงแปดคนข้างหน้าก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จึงเริ่มสงสัยใจตัวเอง

วันนี้คือวันสำคัญ

ฉันอาจประหม่าเกินไปจนคิดมาก

หวังจุนเหวินระงับความไม่สบายใจลงชั่วคราว เขารู้ดีว่าสิ่งต่างๆมาถึงจุดนี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหันหลังกลับอีก ทำได้แค่ดำเนินการต่อ

หากพิธีกรรมผ่านไปอย่างราบรื่น

เมื่อคืนนี้จบลง ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป!

สมาคมฤาษีลี้ลับจะกลายเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง และหากตนสามารถเข้าร่วม และกลายเป็นตัวแทนของพวกเขาในโลกนี้ ผลประโยชน์ที่ตามมาย่อมมหาศาล!

หวังจุนเหวินพูดกับคนทั้งแปดว่า “ความสำคัญของแผนการนี้ พวกนายคงเข้าใจกันแล้ว ฉันไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดในนาทีสุดท้าย ไปได้!”

“รับทราบ!”

ทั้งแปดตอบรับพร้อมกัน

ฮังอวี่ ฉูเทียนหัว และอีกสองคนแฝงตัวตามเข้าไปในเขาวงกตใต้ดิน

ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะผ่านไปอย่างราบรื่นแบบนี้ หวังจุนเหวินไม่พบสิ่งผิดปกติ ดูท่าตนคงคิดมากไปจริงๆ

ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องนี้จะตำหนิหวังจุนเหวินที่ชะล่าใจก็ไม่ได้ เพราะยังไงซะก่อนการมาเยือนของโลกวิญญาณ เขาเป็นแค่พนักงานธรรมดาๆในบริษัท ไม่ใช่ทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ ดังนั้นยากที่จะระบุว่าอะไรคือการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆที่เป็นปัญหา

เขาวงกตใต้ดินเต็มไปด้วยมอนสเตอร์

เมื่อเทียบกับช่วงแรกๆ เวลานี้พลังรบของมอนสเตอร์แก่กล้าขึ้นมาก

ระหว่างทาง ฮังอวี่ ฉูเทียนหัว และคนของสกายเน็ตจงใจใช้สกิลพรสวรรค์เพื่อปกปิดตัวตนของพวกเขา ซึ่งการใช้งานมันสามารถขจัดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาได้

เพราะจนถึงตอนนี้

จากข้อมูลที่เก็บรวบรวม

โอกาสที่คนสองคนจะมีสกิลพรสวรรค์ซ้ำกันนั้นต่ำมาก สกิลพรสวรรค์ส่วนใหญ่มีความเฉพาะตัวสูง ตอนนี้ลูกน้องทั้งหมดใช้สกิลพรสวรรค์ต่อสู้ ดังนั้นหวังจุนเหวินคงไม่คิดว่ามีใครปลอมตัวมา

อย่างน้อยก็จนถึงตอนนี้

โพชั่นมนตราคนสองหน้ายังไม่มีใครรู้จัก

หวังจุนเหวินยังคงพยายามตรวจสอบความผิดปกติ “หลิวเฟย ปกตินายปากมากนี่นา ทำไมวันนี้ไม่พูดล่ะ? แล้วอีกอย่าง ทำไมครั้งนี้ดูทะมัดทะแมงจัง ร่ายคาถาได้แม่นยำตั้งแต่เมื่อไหร่?”

หัวใจของฮังอวี่สั่นไหวเล็กน้อย หรือว่ามันจะรู้ตัวแล้ว?

ฉูเทียนหัว ลั่วหยวนเจิ้ง ไป่เฉิงเทียนเริ่มตื่นตัว

ฮังอวี่ยิ้มลามกตามบุคลิก “นี่ ... ก็ผมกำลังจะได้เจอใต้เท้าแห่งโลกวิญญาณ พอคิดว่ากำลังจะได้ติดตามพวกเขาก็เลยตื่นเต้น มือดีขึ้นแบบนี้”

หวังจุนเหวินกวาดสายตามองเขาขึ้นๆลงถึงสามรอบแล้วเอ่ยว่า “เข้าใจใช่ไหม เมื่อใต้เท้าโลกวิญญาณปรากฏตัว ทุกคนต้องหุบปากให้แน่น ห้ามพูดอะไรไร้สาระ ถ้าไปทำให้ท่านขุ่นเคือง พวกนายอาจโดนจับกินได้!”

“ใช่ ใช่ ใช่!”

ฮังอวี่รีบพยักหน้า

คนทั้งเก้าเดินวนอยู่ในเขาวงกตเป็นชั่วโมง

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาของหวังจุนเหวินพลันเปล่งประกาย เดินไปยังถุงดินบนพื้น ขั้นแรกเขายืนยันเครื่องหมายบนถุง จากนั้นหยิบนกหวีดกระดูกขึ้นมาแล้วเป่ามัน

ถุงดินเริ่มสั่นไหวอย่างรวดเร็ว

โครงกระดูกสูงสามเมตรคืบคลานออกมา

เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่โครงกระดูกมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลักษณะของมันที่ดูดุร้ายเป็นพิเศษ อย่างน้อยคงเป็นมอนสเตอร์เลเวล 10 ดวงไฟในเบ้าตาของมันกวาดมองไปข้างหลังกลุ่มของพวกเขา อาจเป็นการตรวจสอบว่ามีผู้ติดตามมาหรือไม่

ไม่กี่วินาทีต่อมา

โครงกระดูกก็หันหลังกลับและเดินนำทาง

พอได้เห็นแบบนี้ ฮังอวี่ก็เข้าใจว่าหวังจุนเหวินติดต่อกับคนจากโลกวิญญาณได้ยังไง

ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ติดต่อกันตรงๆ แต่ชาวโลกวิญญาณจะจัดเตรียมสถานที่เอาไว้ และให้หวังจุนเหวินมายังตำแหน่งนั้นเพื่อส่งมอบวัสดุ

จากนั้นอัญเชิญมอนสเตอร์อันเดธที่เตรียมไว้

แล้วมอนสเตอร์อันเดธจะขนส่งสิ่งของไปยังจุดหมายปลายทางอีกทีหนึ่ง

กลุ่มของหวังจุนเหวินไม่ได้รับอนุญาตให้ตรงไปกับสถานที่ประกอบพิธีสำคัญเพื่อกันความลับรั่วไหลจนกระทั่งถึงวันนี้ เพราะต้องการความช่วยเหลือจากคนทั้งแปด

ฮังอวี่ลอบมองไปทางฉูเทียนหัว

ทั้งสองเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อันดุเดือดที่กำลังจะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กำลังเสริมของทางสกายเน็ตควรไปถึงตำแหน่งโบสถ์มอนสเตอร์ผีแล้ว และพวกเขาน่าจะตามรอยที่ทิ้งไว้ ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะมาถึงโดยเร็ว

เดินไปข้างหน้าอีกนานกว่าครึ่งชั่วโมง

เมื่อผ่านทางแยกถ้ำที่ไม่โดดเด่น

พื้นที่โล่งกว้างก็ปรากฏสู่สายตา

ฮังอวี่เห็นมือกระบี่ดาร์คเอลฟ์และแม่มดซัคคิวบัสทันที แต่ข้างๆทั้งสองยังมีคนอื่นๆอยู่อีก นี่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้ว

และอยู่ตรงกลางพื้นที่นี้

มีการสร้างแท่นบูชาสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่

บนแท่นบูชา คล้ายปรากฏมิติที่บิดเบี้ยว ราวกับว่ามีดวงตางูขนาดใหญ่กำลังสอดแนมโลกมนุษย์ผ่านรอยแยกนี้ และกลิ่นอายที่แผ่ออกมา ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันจนหายใจไม่ออก