Ep.346 - ปฏิบัติการแฝงตัว
1/2
Ep.346 - ปฏิบัติการแฝงตัว
สองสามวันถัดมา หลายๆอย่างดำเนินไปตามขั้นตอน
ทุกครั้งที่ฮังอวี่กลับบ้าน เขาอุทิศเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิจัยสกิลการผลิต
นอกจากนี้ เขายังขอให้เจ้าอ้วนไห่ปรุงอาหารคุณภาพสีเขียวเพื่อเพิ่มแก่นแท้สีเขียวในตัว
และเมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ ส่วนใหญ่เขาจะนำผู้คนและกองกำลังไปฟาร์มมอนสเตอร์ในพื้นที่ที่มีมอนสเตอร์ชั้นยอดหนาแน่น ดรอปอุปกรณ์และหินคริสตัลเพื่อเพิ่มทรัพยากรขององค์กร
ระหว่างออกล่า หวังเอ๋อสามารถอัพเลเวล 10 ได้ในที่สุด
ฮังอวี่เองก็พัฒนาขึ้นเช่นกัน เวลานี้แก่นแท้สีเขียวของเขาใกล้ถึง 60% แล้ว!
เขาใช้แต้มวิญญาณราวๆ 6000 แต้มเพื่ออัพเลเวลสกิลขั้น 3 ‘ชุบโลหิต’ จนเต็มเลเวล 3
ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องทำคืออัพเลเวลปราณสงครามคลั่งเป็นเลเวล 3 จากนั้นสามารถสืบทอดมรดกขั้น 3 ได้อย่างเป็นทางการ
ส่วนการพัฒนาทีม
ฉูและจ้าวคอยช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี
สวนพืชวิญญาณคุณภาพสูงในเมืองหุบเขาเดียวดายเริ่มปลูกพืชวิญญาณ
นี่จะกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญทางหนึ่งของดินแดนและทีม
นอกจากนี้ยังเริ่มมีการขุดเหมืองหลายแห่งเพื่อรวบรวมแร่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว แร่ที่ขุดได้จากที่นี่เกือบทั้งหมดเป็นแร่คุณภาพเยี่ยมสีขาวเลเวล 10 และมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย
ขณะเดียวกัน ประชากรเมืองหุบเขาเดียวดายเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 100 คนต่อวัน
ชนชั้นยอดส่วนใหญ่ถูกดึงดูดเข้าสู่มังกรคราม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นดินแดนเล็กๆ
ทำให้อาณาเขตที่มนุษย์สามารถออกล่าได้มีจำกัด
ทรัพยากรช่วงหลังๆมานี้ก็รีเฟรชไม่ทันเช่นกัน
ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มอนสเตอร์ชั้นยอดและมอนสเตอร์เจ้าถิ่นจึงเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการ
จากจุดนี้ จะเห็นได้ว่าการขยายตัวของเผ่าพันธุ์มนุษย์จะขยับไปถึงดินแดนอื่นเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา
มังกรครามในโลกวิญญาณมีกระบี่และโล่อย่างจ้าวและฉูคอยดูแล
มังกรฟ้าในเจียงเฉิงมีสุนัขและหญิงงาม
ซูหยุนปิงกับหวังเอ๋อสามารถร่วมงานกันได้เป็นอย่างดี
สองมังกรภายใต้การควบคุมของฮังอวี่กำลังพัฒนาไปอย่างราบรื่น
กำไรสุทธิของกลุ่มทำลายสถิติใหม่ขึ้นเป็นวันละ 4500 หินคริสตัลเมื่อวานนี้
ในเวลานี้ ภายใต้การบริหารของซูหยุนปิง ร้านอุปกรณ์มังกรฟ้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตมังกรฟ้ากำลังจะเปิดทำการ
สมาชิกอย่างเป็นทางการของกลุ่มมังกรฟ้าทะลุ 1400 คนเข้าไปแล้ว และ ซูหยุนปิงยังคงรับสมัครสมามชิกอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเริ่มกลืนกินกองกำลังพลเรือนอื่นๆ ดึงดูดชนชั้นยอดจากทุกสายอาชีพ ตั้งใจว่าจะขยับขึ้นเป็น 3000 คนในเร็วๆนี้
แม้กล่าวว่าเร่งเพิ่มจำนวนสมาชิกกลุ่ม
แต่สมาชิกกลุ่มที่พวกเขาเร่งเพิ่มนั้นไม่เหมือนกับกองกำลังอื่นๆ
ทั้งซูหยุนปิงและฮังอวี่ไม่ได้มุ่งเน้นไปทางรับสมัครนักสู้
เพราะอย่างไรเสียกลุ่มมังกรฟ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลเจียงเฉิง , สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง , กองทัพ รวมไปถึงสมาคมโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิง
กองกำลังพลเรือนในเมืองเจียงเฉิงที่พอมีช่องทางในการรับข้อมูลจึงไม่โง่พอที่จะเข้ามายั่วยุกลุ่มมังกรฟ้า ดังนั้นซูหยุนปิงเลยสามารถมุ่งเน้นรับสมัครสมาชิกไปทางฝ่ายผลิตไม่น้อยกว่า 60% ของกลุ่ม นี่ก็เพื่อวิจัยและพัฒนาการผลิต จวบจนการค้าขาย กุมความได้เปรียบเชิงพาณิชย์
ที่ยังคงไว้ซึ่ง 60%
เพราะนักสู้เองก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน
โลกใบนี้กำลังวุ่นวาย ฉะนั้นจำเป็นต้องมีพลังรบไว้คอยปกป้อง
และตรงจุดนี้ก็แตกต่างจากกองกำลังอื่นๆเช่นกัน กองกำลังอื่นจะเน้นรับสมัครนักสู้เพื่อสร้างกองกำลัง
ขณะที่เกณฑ์การรับสมัครนักสู้ของกลุ่มมังกรฟ้าค่อนข้างสูงมาก พวกเขาจะคัดเลือกเฉพาะชนชั้นยอดที่แท้จริงเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ภารกิจสร้างโรงงานของชาลู่ในเมืองหยุนสุ่ยยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น
อนาคตของกลุ่มมังกรฟ้านั้นไร้ขีดจำกัด
...
บ่ายวันนี้
เสี่ยวไป๋จัดเรียงวัสดุ
เธอพูดกับฮังอวี่ว่า “วัสดุอื่นๆถูกรวบรวมมาได้หมดแล้ว แต่ยังเหลือ ‘ผลึกอาคมเหล็กเย็น’ เลเวล 10 ที่ขาดหายไป มันคือวัสดุสีฟ้าราคาแพง เสี่ยวไป๋ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ไหน ... ”
ในฐานะผู้ช่วยตัวน้อย
ในฐานะผู้อำนวยการผลิตของกลุ่ม
เมื่อได้ยินว่าฮังอวี่ต้องการสร้างอาวุธสีฟ้า ‘ขวานปีศาจแมงป่อง’
เสี่ยวไป๋ก็อาสารับงานหลอมรวมไปถึงการหาวัสดุทั้งหมดจากฮังอวี่ทันที
แต่อาวุธเลเวล 11 สีฟ้าไหนเลยจะสร้างได้ง่ายๆ ถึงวัสดุส่วนใหญ่จะรวบรวมจากหุบเขามันติคอร์มาได้อย่างราบรื่น และที่ขาดเหลืออีกเกือบทั้งหมดจะหาซื้อได้ด้วยเงินราวๆ 2000 หินคริสตัลขาวในช่วงสองวันที่ผ่านมา
แต่ยังขาดผลึกอาคมเหล็กเย็น
มันคือหนึ่งในแร่เหล็กเย็นที่หาได้ยาก
ในฐานะภูติมายา ฮังเสี่ยวไป๋เก่งด้านการผลิต จึงมีความเข้าใจในเรื่องวัสดุเป็นอย่างดี หากตอนนี้เธออยู่ในป่าภูติ เธออาจสามารถขอซื้อพวกมันจากขุนนางตนอื่นๆในราคาสูง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ถึงจะมีเงินก็หาซื้อมันไม่ได้
เรื่องนี้ทำให้เสี่ยวไป๋รู้สึกผิดมาก
หวังเอ๋อกับซูหยุนปิงได้ทำสิ่งต่างๆมากมายเพื่อช่วยพี่ชายของเธอ
แต่ตัวเธอแค่อยากสร้างอาวุธให้กลับทำไม่ได้
“เธอไม่ต้องโทษตัวเองหรอก เพราะต่อให้เป็นฉันก็คงหามันไม่ได้เหมือนกัน” ฮังอวี่ยกมือขึ้นลูบคางแล้วกล่าวว่า “ผลึกอาคมเหล็กเย็นไม่ใช่แค่มีราคาแพง แต่มันยังหายาก ไม่มีทางหาพบได้ในเวลาสั้นๆ ดูท่าพวกเราคงต้องรบกวนเหล่าฉู ฝากเขาไปสอบถามจากทางสกายเน็ตหรือพวกทหารซะแล้ว”
นี่ช่วยไม่ได้
อาวุธสีฟ้ามีค่ามากในการเพิ่มพูนพลังรบ
ฮังอวี่ใกล้สืบทอดมรดกขั้น 3 ได้แล้ว และหากเขาถืออาวุธขวานปีศาจแมงป่องคู่กับกระบี่คำสาปกระดูกสามานย์ ในเจียงเฉิงจะไม่มีใครสู้เขาแบบตัวต่อตัวได้อีก
แต่จะเอ่ยขอเหล่าฉูยังไงดี?
ระหว่างที่กำลังคิดหาวิธี
ฉูเทียนหัวก็โทรเข้ามาพอดี “เรื่องสมาคมฤาษีลี้ลับมีความคืบหน้าแล้ว!”
ฮังอวี่ไม่กล้าชักช้า เดินทางไปพบฉูเทียนหัวทันทีและรับฟังถึงสถานการณ์
จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้ในช่วงไม่กี่วันก่อน แผนการของสมาคมฤาษีลี้ลับดำเนินการมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว พวกมันกำลังเริ่มพิธี
ฮังอวี่เอ่ยถาม “คุณพอจะระบุตำแหน่งทำพิธีของพวกมันได้ไหม?”
“เจ้าพวกนี้เจ้าเล่ห์มากกว่าที่คิดไว้ หวังจุนเหวินกับกลุ่มของเขาคอยส่งของทุกวัน แต่กระทั่งพวกเขาก็ยังไม่ทราบตำแหน่งที่แน่นอน แถมลูกเล่นซ่อนกลิ่นอายของพวกมันก็แปลกมาก ไม่ต้องพูดถึงคนของฉัน แม้แต่หวังเอ๋อก็ยังตรวจไม่พบ”
ฮังอวี่ถาม “แล้วแผนการรับมือของคุณ?”
“ถ้าคืนนี้พวกเรายังหาไม่เจอ คงทำได้แค่ปูพรมค้นหา!”
ฮังอวี่ส่ายหัว “เขาวงกตใต้ดินนับวันยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ การปูพรมค้นหามีความเสี่ยงมาก โอกาสที่จะบาดเจ็บหรือตายสูง แต่เรื่องนี้คุณคงคิดได้อยู่แล้ว ยังมีวิธีอื่นอีก ถูกไหม?”
ฉูเทียนหัวพยักหน้า “มี โชคดีที่มีเหตุการณ์พลิกผันเกิดขึ้น หวังจุนเหวินได้ออกประกาศเรียกตัวสมาชิก 8 คนที่มีพลังจิตมากกว่า 80 หน่วยจากในกลุ่มและเข้าสู่เขาวงกตใต้ดินพร้อมกับเขาเย็นวันนี้”
ฮังอวี่เดา “แสดงว่าพิธีกรรมจำเป็นต้องใช้ค่าพลังจิตจำนวนมาก หน้าที่ของทั้ง 8 คนที่ถูกเรียกตัวน่าจะเป็นการคอยถ่ายโอนพลังจิตให้กับพิธี หมายความว่าพิธีจะเริ่มในคืนนี้ คุณจะรับมือยังไง?”
ฉูเทียนหัวตอบ “หูเจี้ยนได้เปิดเผยตำแหน่งของทั้ง 8 คนให้พวกเรารู้แล้ว ทีมปฏิบัติการพิเศษของสกายเน็ตกำลังเริ่มลงมือ พวกเราตั้งใจว่าจะสวมรอยเข้าไปแทนที่บางคนในนั้น และฉวยจังหวะดีๆทำลายพิธี”
ฮังอวี่ “สวมรอยเข้าแทรกซึม? แล้วคุณมีลูกเล่นปลอมตัวที่สมบูรณ์พอจะไม่ถูกจับได้รึยัง?”
ฉูเทียนหัวหยิบขวดโพชั่นออกมา
ฮังอวี่อ่านข้อมูล “โพชั่นมนตราคนสองหน้า? ผมไม่นึกเลยว่าคุณจะหาของแบบนี้ได้!”
โพชั่นมนตราคนสองหน้าคือโพชั่นเปลี่ยนร่างชนิดพิเศษ ผลการเปลี่ยนแปลงของมันมิได้ทำให้ผู้ดื่มกลายเป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์อื่น แต่ใช้เปลี่ยนร่างเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน สามารถคัดลอกความสามารถของอีกฝ่ายได้เป็นการชั่วคราว ดังนั้นในแง่ของกลิ่นอายและบุคลิกจึงเหมือนกันแทบจะสมบูรณ์ ยากจะแยกแยะ
อย่างไรก็ตาม วิธีการกลั่นโพชั่นมนตราคนสองหน้านั่นค่อนข้างยาก
อย่างน้อยกลุ่มมังกรฟ้าของฮังอวี่ไม่สามารถผลิตได้
นอกจากนี้ กระบวนการกลั่นโพชั่นมนตราคนสองหน้าค่อนข้างโหดร้าย จำเป็นต้องบังคับดึงพลังจิตและพลังชีวิตของบุคคลที่ถูกลอกเลียนแบบออกมาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากเดาไม่ผิด บุคคลที่เป็นเป้าหมายในการเปลี่ยนร่างในโพชั่นขวดนี้น่าจะถูก ฉูเทียนหัวฆ่าตายแล้ว
ฮังอวี่เอ่ยถาม “มีใครเข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้บ้าง?”
“ยังเลือกไม่ได้ แต่อย่างน้อยทุกคนเป็นยอดฝีมือระดับหัวหน้ากองขึ้นไปทั้งสิ้น”
ฮังอวี่ไม่เรื่องมาก รับโพชั่นมนตรามา “ครั้งนี้ผมจะช่วยคุณ”
ฉูเทียนหัวแสดงท่าทีซาบซึ้งใจ “ถ้านายเข้าร่วม นั่นคงเป็นการดีที่สุด สกายเน็ตสาขาเจียงเฉิงจะไม่มีวันลืมผลงานของนายอย่างแน่นอน”
“แม่มดซัคคิวบัสกับมือกระบี่ดาร์คเอลฟ์ค่อนข้างอันตราย แต่ด้วยความสามารถของพวกเราตอนนี้ น่าจะสามารถรับมือกับพวกมันได้” ฮังอวี่กล่าว “อย่าพึ่งดีใจไป ผมไม่ได้ช่วยฟรีๆ หลังจบเรื่องนี้ ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมตามหาผลึกอาคมเหล็กเย็น”
ฉูเทียนหัวไม่เอ่ยถามถึงรายละเอียดของวัสดุ
เขาตอบรับทันที “ไม่มีปัญหา!”
ฮังอวี่แหงนมองฟ้าแล้วเอ่ยกับฉูเทียนหัว “ใกล้ดึกแล้ว กลับไปเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเถอะ”
“รับทราบ!”
ไม่นานมานี้ ในโลกวิญญาณ ฉูเทียนหัวฟังคำสั่งของฮังอวี่มาโดยตลอด ฟังซะจนบางครั้งรับคำสั่งของฮังอวี่จนเป็นนิสัย
บวกกับตอนนี้ เมื่อได้รับคำยืนยันว่าจะช่วยเหลือจากฮังอวี่ มันทำให้ฉูเทียนหัวยากจะระงับความดีใจ เขาเกิดความรู้สึกว่าวันนี้มีโอกาสสำเร็จ 9 ใน 10 ส่วน ดังนั้นลืมตัวตนในฐานะผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองสาขาเจียงเฉิงไปชั่วคราว