ตอนที่แล้วEp.343 - ปลุกเลือดปีศาจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.345 - พลสอดแนมจากเมืองทรายดำ

Ep.344 - เอฟเฟกต์ที่ทรงพลัง


1/2

Ep.344 - เอฟเฟกต์ที่ทรงพลัง

ตามตัวของฮังอวี่เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งร่างถูกเคลือบไปด้วยเลือด สีผิวและสีผมของเขาเปลี่ยนไป จากเดิมร่างนี้ไม่ดูสูงหรือกำยำเป็นพิเศษ แต่ขณะนี้กลับกลายเป็นสูงกว่า 2.5 เมตร และบนแผ่นหลังมีปีกสีแดงงอกออกมา

แต่เอาจริงๆไม่ต้องกล่าวถึงรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป แค่แรงกดดันที่แผ่ออกมาก็ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆเข่าอ่อนแทบยืนไม่ไหวแล้ว!

จ้าวหมิง เจียงหนานต่างตกตะลึง

สกิลนี่มันอะไรกัน?

จะน่ากลัวเกินไปไหม!

นอกจากนี้ อุปกรณ์บนโลกวิญญาณไม่ได้มีขนาดตายตัว มันจะเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติตามขนาดร่างกายของผู้ใช้ ดังนั้นต่อให้รูปร่างเปลี่ยนไป อาวุธหรืออุปกรณ์ก็ยังคงเหมาะมือ

หลังจากที่ฮังอวี่เปลี่ยนร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจ อุปกรณ์ทั้งตัวเขาก็เปลี่ยนไป หอกคลื่นมังกรโลหกที่เดิมทีมีขนาดใหญ่และยาวอยู่แล้ว เวลานี้ยืดขยายกว่า 5 -6 เมตร

ดูเปี่ยมไปด้วยพลัง!

ช่างเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอะไรขนาดนี้!

ฮังอวี่สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน

ว่าความแข็งแกร่งของสกิลนี้มันมากยิ่งกว่าคลุ้มคลั่งกระหายเลือดถึงสองเท่า!

แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้สกิลเองก็มากกว่าเดิมเช่นกัน ในทุกๆวินาทีพลังชีวิตของเขาไหลราวกับสายน้ำ

หากให้ยืนอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไร แค่ประมาณครึ่งนาทีฮังอวี่คงตาย

ทว่าตอนนี้เนื่องจากมีสุดยอดผู้รักษาอย่างเจียงหนานและกลุ่มทหารรักษาอยู่เบื้องหลัง ฮังอวี่จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก เขาย่ำลงกับพื้น ถ่ายเทพละกำลังไปที่ขาทั้งสอง ดีดตัวไปข้างหน้าราวกระสุนปืนใหญ่

ระหว่างทาง คู่ปีกบนแผ่นหลังกางออก

บินขึ้นไปในอากาศ

คอยโฉบเข้าสังหารฝูง มันติคอร์ทีละตัว ทีละตัว

หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจ เขาได้รับความสามารถแฝงมาสองอย่าง

อย่างแรกคือความสามารถในการบิน ปีกของขุนนางเลือดปีศาจแตกต่างจากปีกหินของชุดเซ็ทการ์กอยล์ ปีกขุนนางเลือดมีความยืดหยุ่นในการบินสูง มันไม่มีข้อจำกัดใดๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด

อย่างที่สองคือเสริมประสิทธิภาพสกิล เมื่ออยู่ในร่างขุนนางเลือดปีศาจ สกิลที่เกี่ยวข้องกับมรดกสืบทอดนี้จะได้รับการเสริมประสิทธิภาพขึ้นระดับหนึ่ง ลดระยะเวลาคูลดาวน์ และเพิ่มเอฟเฟกต์ของสกิล

มันติคอร์ตอบโต้ ฮังอวี่ทันที

หางที่เหมือนแมงป่องของพวกมันชูขึ้น

เหล็กไนที่มีพิษร้ายแรงถูกยิงออกมา

ฮังอวี่ระเบิดความเร็วในอากาศ เปิดใช้งานคลุ้มคลั่งเข้าสังหาร

ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เหล็กไนพิษส่วนใหญ่พลาดเป้าไม่ถูกตัวเขา โฉบเข้ากลางวงฝูงมันติคอร์

วินาทีถัดมา

คอมโบต่อเนื่องฉับไว!

เจียงหนาน จ้าวหมิงเห็นแค่เพียงแสงวูบไหว

กระทั่งผู้ที่มีพลังรบมากที่สุดในที่นี้อย่างฮังเสี่ยวไป๋ยังมองเห็นแค่ภาพติดตา

เงาหอกมากมายถูกปลดปล่อยในพริบตา เข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทาง มันติคอร์หลายตัวถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ดาเมจที่เกิดจากอาวุธสีฟ้านั่นมิใช่เล็กน้อย

“ก๊าซซซ”

มันติคอร์เจ้าถิ่นคำรามด้วยความโกรธ วิ่งตรงเข้ามา

ฮังอวี่รู้ดีว่าเจ้าหมอมีพลังมหาศาล ดังนั้นเหวี่ยงคลื่นมังกรปฐพีออกไป

มันติคอร์เจ้าถิ่นน่ะว่องไวมาก มันตัดสินใจหลบเลี่ยงในฉับพลัน แต่ก็ยังถูกคลื่นปะทะจากสีข้าง ล้มกลิ้งลงได้รับดาเมจบางส่วน แต่สำหรับเจ้าถิ่นเลเวล 12 แล้ว ความเสียหายเพียงเท่านี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร

มันลุกขึ้นยืนทันที

ทั้งตนทั้งร่างค่อยๆถูกไอพิษเข้าห่อหุ้ม

มันกำลังคิดสังหารฮังอวี่ เอาจริงเต็มที่แล้ว

จ้าวหมิงฉวยโอกาสนี้เปิดใช้งาน ‘ดูดซับเจตนาฆ่า’

บังคับให้มันติคอร์เจ้าถิ่นเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตี หันเหความสนใจมายังตนเอง

ดูดซับเจตนาฆ่าเป็นสกิลที่โกงมาก เช่นเดียวกันสกิลยั่วยุในเกม มันสามารถดึงดูดความเกลียดชังและบังคับให้เป้าหมายหันมาโจมตีตัวเอง และเวลาเดียวกัน เจตนาฆ่าที่ดูดซับมายังถูกเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตและค่าคุณสมบัติต่างๆแก่ตัวเอง

“เจ้าหมอนี่ให้ฉันถ่วงเวลาให้เอง!”

จ้าวหมิงรู้ดีว่ามอนสเตอร์เจ้าถิ่นทุกตัวมีสกิลสังหารหมู่ที่ทรงพลัง ดังนั้นหลังจากดึงดูดความเกลียดชังของมันติคอร์เจ้าถิ่น เขาก็หันหลังและล่อมันออกจากฝูงมอนสเตอร์ทันที

สติปัญญาของมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นตนนี้ไม่สูงนัก

แต่จะมากจะน้อย

ตามปกติแล้วมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นจะไม่แยกจากฝูง ทว่าด้วยอิทธิพลของสกิลขั้น 3 บวกกับความช่วยเหลือของเสี่ยวไป๋ มันติคอร์เจ้าถิ่นอย่างไรก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สุดท้ายโดนจูงจมูกลากออกไปไกลกว่า 200 เมตร

มันไม่สามารถสลัดการดึงดูดของเหล่าจ้าวได้ เว้นแต่จะฆ่าเขาให้ตายเท่านั้น มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะเบนไปโจมตีเป้าหมายอื่น แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเสี่ยวไป๋และทหารรักษาทั้งสามนาย คิดว่าน่าจะยื้อได้นานถึง 3 4 นาที

ดีมาก!

ทางสะดวกแล้ว!

ไม่มีมอนสเตอร์เจ้าถิ่นคอยเกะกะอีก!

ชุบโลหิต!

ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลขั้น 3 อีกสกิล

พลังงานสีแดงเลือดโหมกระหน่ำเข้าสู่อาวุธผ่านมือทั้งสองข้าง

หอกคลื่นมังกรปฐพีดูเหมือนกำลังถูกแผดเผาอย่างรุนแรง แปรสภาพเหมือนเป็นใบมีดโลหิตยาวแปดเมตรที่กำลังลุกไหม้

ฮังอวี่เหวี่ยงหอกกวาดออกไป

สกิลขั้น 1

ปะทะเดือด!

-180!

-182!

-179!

...

พลังทำลายล้างที่เกิดจากหอกคลื่นมังกรปฐพี + ที่ได้รับพรจากชุบโลหิต

ส่งผลให้โจมตีทีเดียวโดนถึงสามเป้าหมาย มันกวาดผ่านร่างมันติคอร์ตัวแรก เหวี่ยงไปโดนมันติคอร์อีกตัวที่อยู่ข้างๆ และยังคงทะลุผ่านไปยังมันติคอร์ตัวที่สาม

อย่างไรก็ตาม แม้กล่าวว่ากวาดผ่าน แต่ร่างของมันติคอร์ทั้งสามมิได้บุบสลาย

ทว่ายังคงได้รับความเสียหายใหญ่หลวง

มองย้อนกลับไปทางเจียงหนาน

เมื่อเห็นมหาเทพเปลี่ยนร่าง แล้วต่อมาอาวุธของเขาพลันลุกไหม้ จากนั้นกุมใบมีดยาวที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีเลือดกวาดโจมตีมอนสเตอร์หลายตัวในชั่วพริบตาเดียว

ใบมีดยาวเล่มนี้ราวกับไม่มีอยู่จริง

มันสามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้

ดังนั้นเลยสามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้รูปแบบกลุ่ม

นอกจากนี้ เจียงหนานสังเกตเห็น ว่ามันติคอร์หลายตัวที่ถูกฮังอวี่โจมตีนั้นได้รับผลกระทบจากสกิลกระแทก ถูกบังคับให้ถอยหลังไปหลายเมตร และเอฟเฟกต์สั่นสะเทือนของหอกคลื่นมังกรปฐพีก็เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

-99!

-76!

-81!

คลื่นสั่นสะเทือนซ้อนทับกัน

ส่งผลให้มันติคอร์หลายตัวได้รับดาเมจซ้อนทับ สูญเสียพลังชีวิตมากขึ้น

ช่างรุนแรง! ช่างแข็งแกร่ง! เป็นการโจมตีที่ช่างทรงพลัง!

ฉากนี้ไม่ต่างจากการกวาดล้างทหารนับพัน

ดวงตาของเจียงหนานเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ นี่น่ะหรือคือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฮังอวี่ในตอนนี้?

“สมกับเป็นพี่มหาเทพ! เขาแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ออกสู้ด้วยกัน!”

แน่นอน

ยังประมาทไม่ได้!

ในที่นี้มีจ่าฝูงมันติคอร์อยู่ถึง 4 ตัว

พลังรบของพวกมันเทียบเท่าได้กับระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์ในเลเวล 10

นอกจากนี้ยังมีมันติคอร์ชั้นยอดอีกเกือบ 20 ตัวกำลังปิดล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ด้วยจำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้ฮังอวี่แข็งแกร่งเพียงใด แต่ลำพังเขาคงไม่อาจต้านทานได้ ดังนั้นจำเป็นต้องเรียกสมุนทหารเข้ามาช่วยสนับสนุน เจียงหนานไม่รอช้า รีบวิ่งมาข้างๆฮังอวี่ ร่ายเวทย์รักษาที่ทรงพลังใส่ตัวเขา

หมาหวังเอ๋อก็ไม่เกียจคร้านเช่นกัน

มันแบ่งปันความเสียหายบางส่วนจากเจ้านาย ในขณะเดียวกันบังคับร่างแยกหลายตัวล่อ มันติคอร์ให้เข้ามาใกล้ระยะโจมตีของฮังอวี่ เพื่อให้เขาสามารถโจมตีมันติคอร์ได้หลายตัวในการกวัดแกว่งอาวุธแต่ละครั้ง

ด้วยพลังรบอันแก่กล้าของฮังอวี่

ด้วยอาวุธในมือเขาที่กวาดผ่านร่างศัตรูราวกับไม่มีสิ่งใดกีดขวาง

ต่อให้มันติคอร์จะเป็นพวกหนังหนาเนื้หยาบและมีพลังป้องกันสูง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่ายังมีสมุนทหารคอยโจมตีสนับสนุน

การต่อสู้จบลงในเวลาราวๆ 3 4 นาที

ฮังอวี่สังเกตเห็นว่าเหล่าจ้าวตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก แม้พลังป้องกันของเขาจะแก่กล้า แต่ก็ยังยากหากคิดหยุดมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเลเวล 12

หากไม่ใช่เพราะมีเสี่ยวไป๋คอยสนับสนุน ทุกครั้งที่เห็นว่าเหล่าจ้าวใกล้ตาย เธอจะใช้สกิลสายควบคุมอันแข็งแกร่งเพื่อหยุดยั้งมันติคอร์เจ้าถิ่น ทิ้งช่วงให้เหล่าจ้าวมีเวลาพักหายใจ เกรงว่าตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว

ฮังอวี่ยังคงรักษาสถานะเปลี่ยนร่าง

ทหารรักษา 7 8 นายวิ่งตามหลังเขาคอยเติมเลือด

เขานำกลุ่มทหารตีกรอบล้อมมันติคอร์เจ้าถิ่น แม้เจ้าหมอนี่จะมีพลังชีวิตและพลังป้องกันที่แก่กล้า ทว่าเมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์นี้ สุดท้ายก็ไร้อำนาจใดๆจะตอบโต้

ผลลัพธ์ไม่ต้องสงสัย

หลังจากนั้นไม่กี่นาที

มันติคอร์เจ้าถิ่นก็ล้มลง

ครั้งนี้มันปลดปล่อยแต้มวิญญาณกว่า 600 - 700 แต้มออกมาในคราเดียว

แก่นแท้สีเขียวในตัวฮังอวี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในลมหายใจเดียว

ฮังอวี่ถอนสถานะเปลี่ยนร่าง และรู้สึกได้ว่าเกิดอาการเหนื่อยเล็กน้อย ดูเหมือนว่าแม้การเปลี่ยนร่างของเลือดปีศาจจะทรงพลัง แต่ก็ทำให้ร่างกายได้รับภาระ และเปลืองพลังงานเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม

ปฏิเสธไม่ได้

นี่เป็นสกิลที่ทรงพลังอย่างแน่นอน!

มันติคอร์เจ้าถิ่นดรอปสินสงคราม 5 ชิ้น

เป็นอุปกรณ์สีเขียว 3 ชิ้น , หินสกิลสีเขียวและพิมพ์เขียวคุณภาพสีเขียวใส

เลเวลอุปกรณ์ทั้งสามอยู่ในช่วง 10 11 ส่วนหินสกิลเป็นมรดกขั้น 2 ‘คำสาปพิษ’ ของผู้ใช้วิญญาณ

แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฮังอวี่จริงๆคือพิมพ์เขียว

[พิมพ์เขียวการเล่นแร่แปรธาตุ : ขวานปีศาจแมงป่อง] พิมพ์เขียวเลเวล 11 , สีเขียวคุณภาพสูง

พิมพ์เขียวคณภาพสีเขียวใสเช่นนี้

ตามปกติแล้วหากผลิตได้จะสร้างอุปกรณ์สีฟ้า

ขวานปีศาจแมงป่องเป็นอาวุธมือเดียว

ฮังอวี่ยังขาดอาวุธมือเดียวสีฟ้าอยู่พอดี

ซึ่งหากเป็นอาวุธมือเดียว จะดาบ มีด หรือขวานมันก็ไม่สำคัญ

เพราะระหว่างการต่อสู้ หลังจากเปิดใช้งานชุบโลหิต สภาพของพวกมันก็แทบจะเหมือนๆกัน

ขวานปีศาจแมงป่องนั้นคล้ายกับหอกคลื่นมังกรปฐพี วัสดุหลักของมันคืออุปกรณ์สีเขียวใสเลเวล 10 ‘ขวานพิษมันติคอร์’ ซึ่งเป็นอาวุธที่ดรอปจากมันติคอร์เจ้าถิ่น

และบังเอิญว่าในของที่ดรอป หนึ่งในนั้นมีมันอยู่พอดี

ส่วนวัสดุรอง บางชิ้นสามารถหาได้จากการใช้เทคนิครวบรวมวัตถุดิบใส่ศพมันติคอร์เจ้าถิ่น และที่เหลือสามารถหาซื้อจากที่อื่นได้ด้วยเงิน

หากสามารถผลิตอาวุธชิ้นนี้ได้

พลังรบในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวของฮังอวี่จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน!

ฮังอวี่ เสี่ยวไป๋ใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบใส่ศพ มันติคอร์เจ้าถิ่นอย่างรวดเร็ว

เจียงหนานนับจำนวนทหาร เอ่ยด้วยสีหน้าหดหู่ “เฮ้อ มีทหารราบสองนาย ทหารธนูหนึ่งนาย และทหารรักษาหนึ่งนายเสียชีวิต”

แม้กระบวนการรบจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว

แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงการสูญเสียไม่ได้

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะในศึกนี้มีจ่าฝูงมันติคอร์มากถึง 4 ตัว และความเสียหายที่เกิดจากสกิลของพวกมันนั้นรุนแรงมาก การโจมตีมีพิษ ทำให้เลือดลดลงอย่างต่อเนื่อง ไหนจะมีความสามารถในการโจมตีระยะไกล และหากโดนจังๆแค่สองสามทีก็มากพอที่จะฆ่าทหารนายหนึ่งได้แล้ว

ทว่าเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้มา

การสูญเสียเพียงเล็กน้อยนี้เทียบกันไม่ได้เลย

“ไม่เป็นไร 4 นายก็ดีกว่าที่คิดไว้มากแล้ว” ฮังอวี่กล่าว “วันนี้พวกเราเก็บเกี่ยวได้เยอะแล้ว กลับกันเถอะ”

การล่าในวันนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

กล่าวได้เลยว่าทุกคนฟันกำไรยับ!

สำหรับหินคริสตัลที่ได้มา ส่วนใหญ่ฮังอวี่จะนำไปใช้สร้างทหาร ส่วนอุปกรณ์กับหินสกิล อาจเก็บไว้ใช้กันภายในกลุ่ม และนำบางส่วนออกไปแลกเปลี่ยนวัสดุ

ในขณะที่ฮังอวี่กำลังวุ่นอยู่กับการระบายอุปกรณ์

จู่ๆหวังเอ๋อก็วิ่งเข้ามารายงานกับเขา “ฮ่ง เจ้านาาย ไม่ได้การ ทีมสอดแนมตรวจพบกลิ่นอายแปลกปลอมในดินแดนของพวกเรา!”

ฮังอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง

กลิ่นอายแปลกปลอมที่ปรากฏขึ้น

มีโอกาสเก้าในสิบส่วนว่าจะเกี่ยวข้องกับขุนนางที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง

ฮังอวี่เอ่ยทันที “มันอยู่ที่ไหน ตรวจสอบเพิ่มเติมให้ฉันรึยัง!”

สุนัขกระดิกหางแล้วกล่าวว่า “ฮ่ง เจ้านายไม่ต้องห่วง เปิ่นหวังส่งร่างแยกออกไปแล้ว ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ที่ไหน ตราบใดที่อยู่ในดินแดนของพวกเรา ยังไงก็หลบรอดสายตาพวกเราไม่พ้น!”