Ep.344 - เอฟเฟกต์ที่ทรงพลัง
1/2
Ep.344 - เอฟเฟกต์ที่ทรงพลัง
ตามตัวของฮังอวี่เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งร่างถูกเคลือบไปด้วยเลือด สีผิวและสีผมของเขาเปลี่ยนไป จากเดิมร่างนี้ไม่ดูสูงหรือกำยำเป็นพิเศษ แต่ขณะนี้กลับกลายเป็นสูงกว่า 2.5 เมตร และบนแผ่นหลังมีปีกสีแดงงอกออกมา
แต่เอาจริงๆไม่ต้องกล่าวถึงรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป แค่แรงกดดันที่แผ่ออกมาก็ทำให้ผู้คนที่อยู่ใกล้ๆเข่าอ่อนแทบยืนไม่ไหวแล้ว!
จ้าวหมิง เจียงหนานต่างตกตะลึง
สกิลนี่มันอะไรกัน?
จะน่ากลัวเกินไปไหม!
นอกจากนี้ อุปกรณ์บนโลกวิญญาณไม่ได้มีขนาดตายตัว มันจะเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติตามขนาดร่างกายของผู้ใช้ ดังนั้นต่อให้รูปร่างเปลี่ยนไป อาวุธหรืออุปกรณ์ก็ยังคงเหมาะมือ
หลังจากที่ฮังอวี่เปลี่ยนร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจ อุปกรณ์ทั้งตัวเขาก็เปลี่ยนไป หอกคลื่นมังกรโลหกที่เดิมทีมีขนาดใหญ่และยาวอยู่แล้ว เวลานี้ยืดขยายกว่า 5 -6 เมตร
ดูเปี่ยมไปด้วยพลัง!
ช่างเปี่ยมไปด้วยพละกำลังอะไรขนาดนี้!
ฮังอวี่สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ว่าความแข็งแกร่งของสกิลนี้มันมากยิ่งกว่าคลุ้มคลั่งกระหายเลือดถึงสองเท่า!
แต่ค่าใช้จ่ายในการใช้สกิลเองก็มากกว่าเดิมเช่นกัน ในทุกๆวินาทีพลังชีวิตของเขาไหลราวกับสายน้ำ
หากให้ยืนอยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไร แค่ประมาณครึ่งนาทีฮังอวี่คงตาย
ทว่าตอนนี้เนื่องจากมีสุดยอดผู้รักษาอย่างเจียงหนานและกลุ่มทหารรักษาอยู่เบื้องหลัง ฮังอวี่จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรมาก เขาย่ำลงกับพื้น ถ่ายเทพละกำลังไปที่ขาทั้งสอง ดีดตัวไปข้างหน้าราวกระสุนปืนใหญ่
ระหว่างทาง คู่ปีกบนแผ่นหลังกางออก
บินขึ้นไปในอากาศ
คอยโฉบเข้าสังหารฝูง มันติคอร์ทีละตัว ทีละตัว
หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นขุนนางเลือดปีศาจ เขาได้รับความสามารถแฝงมาสองอย่าง
อย่างแรกคือความสามารถในการบิน ปีกของขุนนางเลือดปีศาจแตกต่างจากปีกหินของชุดเซ็ทการ์กอยล์ ปีกขุนนางเลือดมีความยืดหยุ่นในการบินสูง มันไม่มีข้อจำกัดใดๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด
อย่างที่สองคือเสริมประสิทธิภาพสกิล เมื่ออยู่ในร่างขุนนางเลือดปีศาจ สกิลที่เกี่ยวข้องกับมรดกสืบทอดนี้จะได้รับการเสริมประสิทธิภาพขึ้นระดับหนึ่ง ลดระยะเวลาคูลดาวน์ และเพิ่มเอฟเฟกต์ของสกิล
มันติคอร์ตอบโต้ ฮังอวี่ทันที
หางที่เหมือนแมงป่องของพวกมันชูขึ้น
เหล็กไนที่มีพิษร้ายแรงถูกยิงออกมา
ฮังอวี่ระเบิดความเร็วในอากาศ เปิดใช้งานคลุ้มคลั่งเข้าสังหาร
ด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เหล็กไนพิษส่วนใหญ่พลาดเป้าไม่ถูกตัวเขา โฉบเข้ากลางวงฝูงมันติคอร์
วินาทีถัดมา
คอมโบต่อเนื่องฉับไว!
เจียงหนาน จ้าวหมิงเห็นแค่เพียงแสงวูบไหว
กระทั่งผู้ที่มีพลังรบมากที่สุดในที่นี้อย่างฮังเสี่ยวไป๋ยังมองเห็นแค่ภาพติดตา
เงาหอกมากมายถูกปลดปล่อยในพริบตา เข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจากทุกทิศทาง มันติคอร์หลายตัวถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ดาเมจที่เกิดจากอาวุธสีฟ้านั่นมิใช่เล็กน้อย
“ก๊าซซซ”
มันติคอร์เจ้าถิ่นคำรามด้วยความโกรธ วิ่งตรงเข้ามา
ฮังอวี่รู้ดีว่าเจ้าหมอมีพลังมหาศาล ดังนั้นเหวี่ยงคลื่นมังกรปฐพีออกไป
มันติคอร์เจ้าถิ่นน่ะว่องไวมาก มันตัดสินใจหลบเลี่ยงในฉับพลัน แต่ก็ยังถูกคลื่นปะทะจากสีข้าง ล้มกลิ้งลงได้รับดาเมจบางส่วน แต่สำหรับเจ้าถิ่นเลเวล 12 แล้ว ความเสียหายเพียงเท่านี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร
มันลุกขึ้นยืนทันที
ทั้งตนทั้งร่างค่อยๆถูกไอพิษเข้าห่อหุ้ม
มันกำลังคิดสังหารฮังอวี่ เอาจริงเต็มที่แล้ว
จ้าวหมิงฉวยโอกาสนี้เปิดใช้งาน ‘ดูดซับเจตนาฆ่า’
บังคับให้มันติคอร์เจ้าถิ่นเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตี หันเหความสนใจมายังตนเอง
ดูดซับเจตนาฆ่าเป็นสกิลที่โกงมาก เช่นเดียวกันสกิลยั่วยุในเกม มันสามารถดึงดูดความเกลียดชังและบังคับให้เป้าหมายหันมาโจมตีตัวเอง และเวลาเดียวกัน เจตนาฆ่าที่ดูดซับมายังถูกเปลี่ยนเป็นพลังชีวิตและค่าคุณสมบัติต่างๆแก่ตัวเอง
“เจ้าหมอนี่ให้ฉันถ่วงเวลาให้เอง!”
จ้าวหมิงรู้ดีว่ามอนสเตอร์เจ้าถิ่นทุกตัวมีสกิลสังหารหมู่ที่ทรงพลัง ดังนั้นหลังจากดึงดูดความเกลียดชังของมันติคอร์เจ้าถิ่น เขาก็หันหลังและล่อมันออกจากฝูงมอนสเตอร์ทันที
สติปัญญาของมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นตนนี้ไม่สูงนัก
แต่จะมากจะน้อย
ตามปกติแล้วมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นจะไม่แยกจากฝูง ทว่าด้วยอิทธิพลของสกิลขั้น 3 บวกกับความช่วยเหลือของเสี่ยวไป๋ มันติคอร์เจ้าถิ่นอย่างไรก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สุดท้ายโดนจูงจมูกลากออกไปไกลกว่า 200 เมตร
มันไม่สามารถสลัดการดึงดูดของเหล่าจ้าวได้ เว้นแต่จะฆ่าเขาให้ตายเท่านั้น มิฉะนั้นอย่าหวังว่าจะเบนไปโจมตีเป้าหมายอื่น แต่ด้วยความช่วยเหลือจากเสี่ยวไป๋และทหารรักษาทั้งสามนาย คิดว่าน่าจะยื้อได้นานถึง 3 4 นาที
ดีมาก!
ทางสะดวกแล้ว!
ไม่มีมอนสเตอร์เจ้าถิ่นคอยเกะกะอีก!
ชุบโลหิต!
ฮังอวี่เปิดใช้งานสกิลขั้น 3 อีกสกิล
พลังงานสีแดงเลือดโหมกระหน่ำเข้าสู่อาวุธผ่านมือทั้งสองข้าง
หอกคลื่นมังกรปฐพีดูเหมือนกำลังถูกแผดเผาอย่างรุนแรง แปรสภาพเหมือนเป็นใบมีดโลหิตยาวแปดเมตรที่กำลังลุกไหม้
ฮังอวี่เหวี่ยงหอกกวาดออกไป
สกิลขั้น 1
ปะทะเดือด!
-180!
-182!
-179!
...
พลังทำลายล้างที่เกิดจากหอกคลื่นมังกรปฐพี + ที่ได้รับพรจากชุบโลหิต
ส่งผลให้โจมตีทีเดียวโดนถึงสามเป้าหมาย มันกวาดผ่านร่างมันติคอร์ตัวแรก เหวี่ยงไปโดนมันติคอร์อีกตัวที่อยู่ข้างๆ และยังคงทะลุผ่านไปยังมันติคอร์ตัวที่สาม
อย่างไรก็ตาม แม้กล่าวว่ากวาดผ่าน แต่ร่างของมันติคอร์ทั้งสามมิได้บุบสลาย
ทว่ายังคงได้รับความเสียหายใหญ่หลวง
มองย้อนกลับไปทางเจียงหนาน
เมื่อเห็นมหาเทพเปลี่ยนร่าง แล้วต่อมาอาวุธของเขาพลันลุกไหม้ จากนั้นกุมใบมีดยาวที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงสีเลือดกวาดโจมตีมอนสเตอร์หลายตัวในชั่วพริบตาเดียว
ใบมีดยาวเล่มนี้ราวกับไม่มีอยู่จริง
มันสามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้
ดังนั้นเลยสามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง เหมาะเป็นอย่างยิ่งในการต่อสู้รูปแบบกลุ่ม
นอกจากนี้ เจียงหนานสังเกตเห็น ว่ามันติคอร์หลายตัวที่ถูกฮังอวี่โจมตีนั้นได้รับผลกระทบจากสกิลกระแทก ถูกบังคับให้ถอยหลังไปหลายเมตร และเอฟเฟกต์สั่นสะเทือนของหอกคลื่นมังกรปฐพีก็เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
-99!
-76!
-81!
คลื่นสั่นสะเทือนซ้อนทับกัน
ส่งผลให้มันติคอร์หลายตัวได้รับดาเมจซ้อนทับ สูญเสียพลังชีวิตมากขึ้น
ช่างรุนแรง! ช่างแข็งแกร่ง! เป็นการโจมตีที่ช่างทรงพลัง!
ฉากนี้ไม่ต่างจากการกวาดล้างทหารนับพัน
ดวงตาของเจียงหนานเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ นี่น่ะหรือคือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฮังอวี่ในตอนนี้?
“สมกับเป็นพี่มหาเทพ! เขาแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ออกสู้ด้วยกัน!”
แน่นอน
ยังประมาทไม่ได้!
ในที่นี้มีจ่าฝูงมันติคอร์อยู่ถึง 4 ตัว
พลังรบของพวกมันเทียบเท่าได้กับระดับเจ้าถิ่นขั้นบรอนซ์ในเลเวล 10
นอกจากนี้ยังมีมันติคอร์ชั้นยอดอีกเกือบ 20 ตัวกำลังปิดล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ด้วยจำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้ฮังอวี่แข็งแกร่งเพียงใด แต่ลำพังเขาคงไม่อาจต้านทานได้ ดังนั้นจำเป็นต้องเรียกสมุนทหารเข้ามาช่วยสนับสนุน เจียงหนานไม่รอช้า รีบวิ่งมาข้างๆฮังอวี่ ร่ายเวทย์รักษาที่ทรงพลังใส่ตัวเขา
หมาหวังเอ๋อก็ไม่เกียจคร้านเช่นกัน
มันแบ่งปันความเสียหายบางส่วนจากเจ้านาย ในขณะเดียวกันบังคับร่างแยกหลายตัวล่อ มันติคอร์ให้เข้ามาใกล้ระยะโจมตีของฮังอวี่ เพื่อให้เขาสามารถโจมตีมันติคอร์ได้หลายตัวในการกวัดแกว่งอาวุธแต่ละครั้ง
ด้วยพลังรบอันแก่กล้าของฮังอวี่
ด้วยอาวุธในมือเขาที่กวาดผ่านร่างศัตรูราวกับไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
ต่อให้มันติคอร์จะเป็นพวกหนังหนาเนื้หยาบและมีพลังป้องกันสูง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้ ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ว่ายังมีสมุนทหารคอยโจมตีสนับสนุน
การต่อสู้จบลงในเวลาราวๆ 3 4 นาที
ฮังอวี่สังเกตเห็นว่าเหล่าจ้าวตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก แม้พลังป้องกันของเขาจะแก่กล้า แต่ก็ยังยากหากคิดหยุดมอนสเตอร์ระดับเจ้าถิ่นเลเวล 12
หากไม่ใช่เพราะมีเสี่ยวไป๋คอยสนับสนุน ทุกครั้งที่เห็นว่าเหล่าจ้าวใกล้ตาย เธอจะใช้สกิลสายควบคุมอันแข็งแกร่งเพื่อหยุดยั้งมันติคอร์เจ้าถิ่น ทิ้งช่วงให้เหล่าจ้าวมีเวลาพักหายใจ เกรงว่าตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว
ฮังอวี่ยังคงรักษาสถานะเปลี่ยนร่าง
ทหารรักษา 7 8 นายวิ่งตามหลังเขาคอยเติมเลือด
เขานำกลุ่มทหารตีกรอบล้อมมันติคอร์เจ้าถิ่น แม้เจ้าหมอนี่จะมีพลังชีวิตและพลังป้องกันที่แก่กล้า ทว่าเมื่อตกอยู่ภายใต้สถานการณ์นี้ สุดท้ายก็ไร้อำนาจใดๆจะตอบโต้
ผลลัพธ์ไม่ต้องสงสัย
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
มันติคอร์เจ้าถิ่นก็ล้มลง
ครั้งนี้มันปลดปล่อยแต้มวิญญาณกว่า 600 - 700 แต้มออกมาในคราเดียว
แก่นแท้สีเขียวในตัวฮังอวี่เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในลมหายใจเดียว
ฮังอวี่ถอนสถานะเปลี่ยนร่าง และรู้สึกได้ว่าเกิดอาการเหนื่อยเล็กน้อย ดูเหมือนว่าแม้การเปลี่ยนร่างของเลือดปีศาจจะทรงพลัง แต่ก็ทำให้ร่างกายได้รับภาระ และเปลืองพลังงานเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม
ปฏิเสธไม่ได้
นี่เป็นสกิลที่ทรงพลังอย่างแน่นอน!
มันติคอร์เจ้าถิ่นดรอปสินสงคราม 5 ชิ้น
เป็นอุปกรณ์สีเขียว 3 ชิ้น , หินสกิลสีเขียวและพิมพ์เขียวคุณภาพสีเขียวใส
เลเวลอุปกรณ์ทั้งสามอยู่ในช่วง 10 11 ส่วนหินสกิลเป็นมรดกขั้น 2 ‘คำสาปพิษ’ ของผู้ใช้วิญญาณ
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฮังอวี่จริงๆคือพิมพ์เขียว
[พิมพ์เขียวการเล่นแร่แปรธาตุ : ขวานปีศาจแมงป่อง] พิมพ์เขียวเลเวล 11 , สีเขียวคุณภาพสูง
พิมพ์เขียวคณภาพสีเขียวใสเช่นนี้
ตามปกติแล้วหากผลิตได้จะสร้างอุปกรณ์สีฟ้า
ขวานปีศาจแมงป่องเป็นอาวุธมือเดียว
ฮังอวี่ยังขาดอาวุธมือเดียวสีฟ้าอยู่พอดี
ซึ่งหากเป็นอาวุธมือเดียว จะดาบ มีด หรือขวานมันก็ไม่สำคัญ
เพราะระหว่างการต่อสู้ หลังจากเปิดใช้งานชุบโลหิต สภาพของพวกมันก็แทบจะเหมือนๆกัน
ขวานปีศาจแมงป่องนั้นคล้ายกับหอกคลื่นมังกรปฐพี วัสดุหลักของมันคืออุปกรณ์สีเขียวใสเลเวล 10 ‘ขวานพิษมันติคอร์’ ซึ่งเป็นอาวุธที่ดรอปจากมันติคอร์เจ้าถิ่น
และบังเอิญว่าในของที่ดรอป หนึ่งในนั้นมีมันอยู่พอดี
ส่วนวัสดุรอง บางชิ้นสามารถหาได้จากการใช้เทคนิครวบรวมวัตถุดิบใส่ศพมันติคอร์เจ้าถิ่น และที่เหลือสามารถหาซื้อจากที่อื่นได้ด้วยเงิน
หากสามารถผลิตอาวุธชิ้นนี้ได้
พลังรบในการต่อสู้แบบตัวต่อตัวของฮังอวี่จะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน!
ฮังอวี่ เสี่ยวไป๋ใช้สกิลรวบรวมวัตถุดิบใส่ศพ มันติคอร์เจ้าถิ่นอย่างรวดเร็ว
เจียงหนานนับจำนวนทหาร เอ่ยด้วยสีหน้าหดหู่ “เฮ้อ มีทหารราบสองนาย ทหารธนูหนึ่งนาย และทหารรักษาหนึ่งนายเสียชีวิต”
แม้กระบวนการรบจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
แต่ก็ยังหลีกเลี่ยงการสูญเสียไม่ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะในศึกนี้มีจ่าฝูงมันติคอร์มากถึง 4 ตัว และความเสียหายที่เกิดจากสกิลของพวกมันนั้นรุนแรงมาก การโจมตีมีพิษ ทำให้เลือดลดลงอย่างต่อเนื่อง ไหนจะมีความสามารถในการโจมตีระยะไกล และหากโดนจังๆแค่สองสามทีก็มากพอที่จะฆ่าทหารนายหนึ่งได้แล้ว
ทว่าเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้มา
การสูญเสียเพียงเล็กน้อยนี้เทียบกันไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไร 4 นายก็ดีกว่าที่คิดไว้มากแล้ว” ฮังอวี่กล่าว “วันนี้พวกเราเก็บเกี่ยวได้เยอะแล้ว กลับกันเถอะ”
การล่าในวันนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
กล่าวได้เลยว่าทุกคนฟันกำไรยับ!
สำหรับหินคริสตัลที่ได้มา ส่วนใหญ่ฮังอวี่จะนำไปใช้สร้างทหาร ส่วนอุปกรณ์กับหินสกิล อาจเก็บไว้ใช้กันภายในกลุ่ม และนำบางส่วนออกไปแลกเปลี่ยนวัสดุ
ในขณะที่ฮังอวี่กำลังวุ่นอยู่กับการระบายอุปกรณ์
จู่ๆหวังเอ๋อก็วิ่งเข้ามารายงานกับเขา “ฮ่ง เจ้านาาย ไม่ได้การ ทีมสอดแนมตรวจพบกลิ่นอายแปลกปลอมในดินแดนของพวกเรา!”
ฮังอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง
กลิ่นอายแปลกปลอมที่ปรากฏขึ้น
มีโอกาสเก้าในสิบส่วนว่าจะเกี่ยวข้องกับขุนนางที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง
ฮังอวี่เอ่ยทันที “มันอยู่ที่ไหน ตรวจสอบเพิ่มเติมให้ฉันรึยัง!”
สุนัขกระดิกหางแล้วกล่าวว่า “ฮ่ง เจ้านายไม่ต้องห่วง เปิ่นหวังส่งร่างแยกออกไปแล้ว ไม่ว่าพวกมันจะอยู่ที่ไหน ตราบใดที่อยู่ในดินแดนของพวกเรา ยังไงก็หลบรอดสายตาพวกเราไม่พ้น!”