ตอนที่แล้ว839 - ฝาหม้อ? 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป841 - เรียกทัณฑ์สวรรค์ 

840 - อาวุธปราชญ์โบราณ  


840 - อาวุธปราชญ์โบราณ

หม้ออสูรกลืนสวรรค์โบราณ ... เป็นอาวุธเต๋าสุดขั้วของตงหวง ฝาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่หายไปได้ปรากฏออกมาแล้ว!”

“อย่ากลัวเลยนั่นเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของอาวุธเต๋าสุดขั้วเท่านั้น เว้นแต่ปราชญ์โบรารจะมาที่นี่ด้วยตนเอง จะไม่มีใครสามารถแสดงพลังที่แท้จริงของมันได้”

“เช่นนั้นก็ไปลองดูสิ!” มีคนกระตุ้นหวังหยางซาน

อาวุธของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน!

เกิดความโกลาหลบนแท่นหยกหมื่นจั้ง และไม่มีใครเต็มใจที่จะไปกลับ ทุกคนต่างขยับไปข้างหน้าเพื่อแย่งชิงสมบัติของเจ้าอ้วนต้วนเต๋อ

เย่ฟ่านพูดไม่ออก นี่คือฝาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ที่จักรพรรดิดำไม่เคยลืมเลือน

“เจ้าจะยังกล้าอวดกระจกแตกต่อหน้าข้าอีกไหม?” ต้วนเต๋อเงยหน้าขึ้นสงบสติอารมณ์แล้วพูดว่า “เจ้าจบแล้ว บังอาจทำให้ข้าขุ่นเคือง! ข้าจะขุดหลุมฝังศพของบรรพชนของเจ้า แม้แต่ซากศพของบรรพบุรุษเจ้าข้าก็จะเอามาทำโถปัสสาวะ!”

ความแข็งแกร่งของหม้ออสูรกลืนสวรรค์นั้น ทำให้ต้วนเต๋อกล้าที่จะท้าทายผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้

ทุกคนที่นี่ต่างพูดไม่ออก พวกเขาไม่เคยเห็นคนแบบนี้มาก่อน เป็นเรื่องปกติที่จะมีการข่มขู่คู่ต่อสู้  แต่ไม่เคยมีใครข่มขู่คนตายที่นอนอยู่ในสุสานมาก่อน

ถ้าขัดแย้งกันชายคนนี้จะไปขุดหลุมฝังศพของบรรพบุรุษ รบกวนคนตาย เรื่องแบบนี้ใครจะกล้าล้อเล่น? แน่นอนว่าการแก้แค้นแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเจ็บปวดอย่างแท้จริง

เจ้าอ้วนคนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? นี่เป็นความคิดของคนจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนสงบลงพวกเขาก็ยิ่งหวาดกลัวอาวุธศักดิ์สิทธิ์ซึ่งล่องลอยอยู่บนท้องฟ้ามากยิ่งขึ้น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปไหนแต่ก็ไม่มีใครเต็มใจที่จะก้าวออกไปเป็นคนแรก

จักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมสามารถกล่าวได้ว่าเป็นบุคคลที่น่าทึ่งที่สุดในสมัยโบราณ แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแต่ตำนานของเขายังคงถูกเล่าขานมาจนถึงปัจจุบัน

เหนือศีรษะของต้วนเต๋อ บนฝาของหม้ออสูรกลืนสวรรค์ มีร่องรอยของน้ำตาถูกเขียนเป็นรูปรอยยิ้มที่มีความลึกลับเป็นอย่างมาก

ใบหน้านั้นเหมือนร้องไห้แต่ไม่ร้องไห้ เหมือนหัวเราะแต่ไม่หัวเราะ คราบน้ำตาทำให้รอยยิ้มจางลงเล็กน้อย นี่อาจเป็นน้ำตาของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยม มันคือการแสดงอารมณ์ที่แท้จริงของเขาหรือไม่

มันเป็นร่องรอยของการสลักเล็กๆ แต่มันทำให้ทุกคนรู้สึกหวาดกลัว เมื่อคิดทักษะของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่คนนี้อีกครั้ง พวกเขาก็อดที่จะเดินถอยหลังกลับมาไม่ได้

“ทำไมเขาถึงมีอาวุธของจักรพรรดิกลืนสวรรค์?” นี่เป็นคำถามของใครหลายคน

อาวุธระดับเต๋าสุดขั้วนิแม้ว่าจะไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้ แต่พลังของมันเพียงพอที่จะบดขยี้อาวุธระดับปราชญ์โบราณได้อย่างเหลือเฟือ

“มีอะไรจะโอ้อวดอีกไหม กระจกแตกของเจ้าควรจะเก็บไว้ให้สตรีชื่นชมโฉมของตัวเองเถอะ” ด้วนเต๋อเดินไปข้างหน้าพร้อมกับพุงที่หย่อนคล้อย

เหนือศีรษะของเขามีแสงสีดำถูกปลดปล่อยออกมาจากฝาหม้ออสูรกลืนสวรรค์โบราณ ในตอนนี้แสงสีดำเริ่มหนาแน่นราวกับม่านฝนแล้ว

ทุกคนถอยกลับ อาวุธเต๋าสุดขั้วของจักรพรรดิคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาทุกยุคทุกสมัย และในปัจจุบันมันก็เหลือเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิต่อให้เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดก็เพียงพอที่จะใช้มันสังหารปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน

“เอากระจกแตกๆ นี่มาส่องหน้าของข้าสิ ข้าจะดูว่าใบหน้าของข้าหล่อเหลามากแค่ไหน” ต้วนเต๋อเดินไปข้างหน้า

หวังหยางซานผู้นำนิกายหยินหยางหน้าเปลี่ยนสี ในตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองโชคร้ายอย่างยิ่งที่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือเจ้าคนที่ไม่ได้เรื่องของตระกูลเซียว

“พวกเจ้าคิดว่าจะรังแกข้าได้ง่ายๆ หรือ?” เจ้าอ้วนต้วนตะโกนด้วยความโกรธ

ในที่สุดเขาก็จ้องไปที่เซียวอวิ๋นเฉิงซึ่งหน้าผากของเขาถูก เย่ฟ่านใช้เท้ากดไว้กับพื้นและกล่าวว่า

“เจ้าหนูนั่นถ้าคิดจะรอดชีวิตก็รีบคลานมาหาบิดาของเจ้าแดง”

เจ้าอ้วนคนนี้ช่างเหยียบย่ำคนล้มได้อย่างไร้ศิลธรรมจริงๆ

ใบหน้าของเซียวอวิ๋นเฉิงเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ เขามีอายุนับพันปีแต่กลับถูกเด็กน้อยสองคนย่ำยีศักดิ์ศรีครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาก็ไม่มีปัญญาทำอะไรได้

ในตอนนี้จิตใจของเขาหวาดกลัวอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่เย่ฟ่านจะเหยียบศีรษะของเขาอยู่เท่านั้น แม้แต่อาวุธเต๋าสุดขั้วที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าก็อาจจะกระแทกศีรษะของเขาได้ตลอดเวลา

“แล้วตาแก่ผมขาวนั่นเจ้าไม่ต้องการชามของข้าแล้วหรือ มาฉกมันไปสิ” ต้วนเต๋อจ้องไปที่หวังหยางซานอีกครั้ง

ผู้อาวุโสนิกายหยินหยางรู้สึกเหมือนกินหนูตายเข้าไปคำใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงจะอ้วนคนนี้ที่เขาไม่สามารถตรวจจับพลังการบ่มเพาะได้ เพียงแค่ชายชราตาบอดที่เป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ทางด้านหลังเขาก็ไม่กล้าลงมืออย่างบุ่มบ่ามแล้ว

“ตึง”

ต้วนเต๋อไม่หยุด ในระหว่างทางเขาฟื้นเสียอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยดังนั้นเขาจึงเกิดความโกรธเกรี้ยวอยู่ตลอดเวลา เมื่อมีโอกาสได้รังแกผู้คนเขาก็ไม่คิดจะละเว้นใครทั้งสิ้น

ในขณะนั้นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวของฝาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ได้โหมกระหน่ำขึ้นมาอย่างรุนแรง

เซียวอวิ๋นเฉิงไม่พูดอะไร เขาระเบิดพลังออกมาทั้งหมดและกระโจนลงไปที่ด้านล่างของแท่นหยกจากความสูงนับหมื่นวาโดยไม่เกรงกลัวความตายแม้แต่น้อย

ในขณะเดียวกันหวังหยางซานก็ใช้พลังอันยิ่งใหญ่ห่อกระจกโบราณที่เสียหายและเปลี่ยนให้เป็นกระแสแสงก่อนจะถอยห่างออกไปหลายร้อยวาเช่นกัน

“กรี๊ดดดด!”

เมื่อสูญเสียเป้าหมายชิ้นส่วนของอาวุธจักรพรรดิกลืนสวรรค์ก็ดูเหมือนจะเกิดความคุ้มคลั่งขึ้นมาแล้ว ใบหน้าที่บิดเบี้ยวบนฝาหม้อเริ่มร้องไห้และหัวเราะทำให้ผู้คนเกิดความหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด

ผู้คนที่อยู่ในบริเวณี้ รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่เสียดแทงเข้าไปถึงกระดูก ตามตำนานฝาหม้อนี้ทำมาจากหัวของจักรพรรดิผู้โหดเหี้ยมและเป็นแก่นแท้ของอาวุธจักรพรรดิ

บางคนบอกว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เมื่อครั้งยังเยาว์วัยเป็นช่วงที่เขาหรือนางมีความสุขที่สุดในชีวิต หลังจากที่เติบโตขึ้นเขาหรือนางก็กลายเป็นศัตรูของคนทั้งโลกและปราศจากความทุกข์อีกต่อไป

แม้ว่าเขาจะเป็นผู้อยู่ยงคงกระพันในโลก แต่สิ่งที่เขาหรือนางประทับใจมากที่สุดคือความทรงจำในวัยเด็กอันแสนสั้นจนเป็นเหตุให้ฝาหม้ออสูรกลืนสวรรค์ถูกสลักไว้ด้วยใบหน้าของเขาหรือนางในช่วงที่ยังเยาว์วัยอยู่

“มาช่วยหน่อย ฝาหม้อนี้กำลังจะดูดพลังชีวิตข้าแล้ว” ด้วนเต๋อส่งสัญญาณเสียง

เย่ฟ่านและตงฟางเย่ก้าวไปข้างหน้าและพยายามถ่ายทอดพลังศักดิ์สิทธิ์อันน้อยนิดเข้าสู่ร่างของเจ้าอ้วน ชายชราตาบอดก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า

“อย่ารีบเก็บมันเข้าไป อาวุธต้องห้ามนี้เพียงพอสำหรับเราที่จะปกป้องตนเอง คนเหล่านั้นคือมหาอำนาจในแผ่นดิน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการปรมาจารย์เหล่านี้ได้ทั้งหมด”

ต้วนเต๋อพยักหน้าเห็นด้วยและเริ่มเรียกพลังของอาวุธเต๋าสุดขั้วให้กลับมาปกป้องตัวเองอีกครั้ง

“ชิ้ง”

ในขณะนั้นชุดเกราะสีทองปรากฏขึ้นพร้อมแสงระยิบระยับ มันเป็นชุดเกราะที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ และอาวุธชิ้นนี้คือสมบัติระดับปราชญ์ของจักรพรรดิกู่แห่งราชวงศ์อมตะของจงโจว

“อาวุธศักดิ์สิทธิ์เริ่มปรากฏขึ้นมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้กำลังจะลงมือ” หลายคนอ้าปากค้าง

อาวุธนี้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์และมีแสงสีทองอร่ามงดงามราวกับเทพโบราณที่มีชีวิตทำให้ผู้คนเกิดความหวั่นไหวแทบจะคุกเข่าลงไปกราบไหว้

“บูม”

พร้อมกันนั้นพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปั่นป่วนได้ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ราชาอสูรหนานหลิงเรียกภาพธรรมของผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งให้ปรากฏออกมาจากความว่างเปล่า

คนคนนั้นถือกงล้อที่ร้อยมาจากดวงอาทิตย์เก้าดวงปลดปล่อยความร้อนและแสงเจิดจ้าอย่างถึงที่สุด เมื่อกงล้อสุริยันเคลื่อนไปข้างหน้าเสียงกรีดร้องของนกเฟิ่งหวงก็ดังขึ้น

นี่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาจากยุคโบราณยังไม่ต้องสงสัย มันถูกทิ้งไว้โดยปราชญ์ที่ไม่มีใครเทียบและเขาเป็นหนึ่งในยอดฝีมือเผ่าพันธุ์อสูรเมื่อหนึ่งแสนห้าหมื่นปีก่อน

มันเป็นสมบัติที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของอาวุธระดับปราชญ์โบราณและมีความแข็งแกร่งเป็นรองอาวุธเต๋าสุดขั้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“เพล้ง”

อีกด้านหนึ่งแสงแห่งการรู้แจ้งก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เหนือศีรษะของนักบวชแห่งทะเลทรายตะวันตกคนหนึ่งมีภาพธรรมของเจดีย์เจ็ดชั้นที่มีพลังน่ากลัวอย่างถึงที่สุด

นี่คืออาวุธที่พระโพธิสัตว์ใช้ในการปราบมาร อาวุธชิ้นนี้ไม่เพียงแต่มีอำนาจในการทำให้ผู้คนเกิดความรู้แจ้งเท่านั้น มันยังเป็นที่กักขังอสูรผู้ทรงพลังอีกด้วย

พลังของมันช่างน่าสะพรึงกลัว และมีอาวุธเพียงไม่กี่อย่างที่เทียบได้กับเจดีย์นี้ได้ มันเป็นหนึ่งในวัตถุศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของพระพุทธศาสนาตั้งแต่สมัยโบราณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด