ตอนที่ 20 ชื่อเสียง
ท้องฟ้าเริ่มมืดและดวงดาวที่สว่างไสวเริ่มที่จะเด่นออกมา ในขณะที่ลมยามเย็นพัดมาเบาๆ
“ดูนั่นสิ คุณชายกำลังมา”
“เด็กที่อยู่ข้างหลังเขาคือใคร?”
แดเนียลและริคกี้เห็นไมเคิล ผู้หญิงคนหนึ่ง และกลุ่มเด็กเดินเข้ามาหาพวกเขา
“พวกเขาคงเป็นผู้รอดชีวิตจากหมู่บ้านไม้กุหลาบ”
ในฐานะคนธรรมดาที่เกิดและเติบโตในหมู่บ้านไม้กุหลาบ แดเนียลรู้สึกเสียใจกับคนเหล่านั้น ผู้ปกครองและราชาหลายคนจะไม่กล้ามีปัญหากับนิกายเลือดและกระดูกที่สังหารหมู่สามัญชน เพราะคิดว่ามันจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขากับนิกาย
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำอะไรอย่างนี้กับนิกายเลือดและกระดูก พวกเขายังไม่อยากเชื่อเลยว่ากระดูกของผู้นำนิกายยังห้อยอยู่ที่เสานอกประตูเมืองราวกับของประดับตกแต่งแปลกๆ เมืองแม่น้ำทั้งเมืองวุ่นวายเมื่อได้ยินข่าวการกวาดล้างนิกายและในคืนพรุ่งนี้ทั้งอาณาจักรก็จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาและใครคือคนที่ฆ่าพวกเขา ในเวลานั้นผีจะกลายเป็นคนดัง
คนที่ได้กำไรอย่างมากในสถานการณ์นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทหารยามสองคน แดเนียลและริคกี้ ก่อนที่ไมเคิลจะมายังเมืองแม่น้ำ พวกเขาเป็นเพียงทหารขยะสองคนในกองทัพที่ราชาเบรเดียส่งมาดูแลดินแดนอันห่างไกลนี้ พวกเขาไม่เป็นที่เคารพในหมู่นักผจญภัยหรือสาวกของนิกายต่างๆ ที่มาเมืองแม่น้ำ ในเมืองอื่นๆ ทหารยามมีเกียรติมากกว่าและจะได้รับการเคารพและส่วนลดในทุกที่พวกเขาไป แต่ที่นี่ แม้แต่เจ้าของโรงเตี๊ยมก็ไม่ยอมให้ส่วนลดแม้เล็กน้อยสำหรับค่าเบียร์และอาหาร
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชื่อเสียงและความเคารพของพวกเขาพุ่งสูงขึ้น ทุกคนในเมืองเริ่มแสดงความเคารพอย่างท่วมท้นต่อพวกเขาเพราะไมเคิล ตอนนี้แดเนียลและริคกี้ไม่ได้เป็นแค่ทหารยาม แต่เป็นลูกน้องของผี ผู้ที่สังหารหมู่นิกายเลือดและกระดูกและเผาผู้นำนิกายทั้งเป็น ขณะที่พวกเขากำลังหาที่พักขนาดใหญ่ ผู้คนเข้ามาถามพวกเขาเกี่ยวกับผีและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา แดเนียลที่พยายามจะปิดปาก ส่วนริคกี้คุยโวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับผี
เขายังคุยโวว่าเขาและผีดื่มเครื่องดื่มร่วมกัน ซึ่งก็ค่อนข้างจะจริง
เมื่อเข้าใกล้ประตูเมืองมากขึ้น เรลีนก็เห็นโครงกระดูกสีขาวห้อยลงมาจากเสา ทันใดนั้นนางก็รู้สึกกลัวเมื่อมองไปที่โครงกระดูก
“เจ้าเห็นโครงกระดูกนั่นไหม มันคือผู้นำนิกายเลือดและกระดูก”
ในทันทีนั้น เรลีนตกใจจนเกือบหยุดหายใจ ทุกคำถูกเว้นวรรคอย่างชัดเจนในหูของนาง
“คุณชาย ท่าน...ท่านฆ่าเขา...”
"ใช่"
ดวงตาของเรลีนยังคงดูตกใจอย่างมาก ขณะที่แดเนียลและริคกี้วิ่งเข้ามา
“คุณชายผี เจ้าของแจ้งราคาสุดโหด แต่เราต่อรองได้ที่สามร้อยเหรียญเงินขอับ”
ริคกี้อุทานด้วยความภูมิใจและยื่นซองใส่เหรียญให้ไมเคิล
“ทำได้ดีมาก เก็บนี่ไว้ ข้าให้”
เขาหยิบเหรียญเงินยี่สิบเหรียญมอบให้แก่ริคกี้ ท่านกลางเสียงขัดของกายะ
“ไปแบ่งกันทีหลัง ตอนนี้ช่วยพาพวกเขาไปที่ที่นั่น ข้าต้องไปโรงเตี๊ยม”
“พี่ชาย ไม่มาอยู่กับเราหรอ?”
ซินดี้ดึงแขนเสื้อออกแล้วถาม เขาลูบหัวนางอย่างเพลิดเพลิน
"ไม่ แต่ข้าจะอยู่ไม่ไกลจากเจ้านะ ซินดี้"
“คุณชาย แต่”
เรลีนตกใจมากหลังจากได้ยินว่าเขาใช้เงินไปสามร้อยเหรียญเพื่อพวกนาง และทำไมเขาต้องค้างคืนที่โรงเตี๊ยมในขณะที่พวกนางพักอยู่ในบ้านที่เขาเช่าด้วยเหรียญของเขา
“ไม่ ข้าไม่ควรค้างคืนที่นั่น”
ผู้คนมักจะปล่อยข่าวลือที่น่ารังเกียจเมื่อแม่เลี้ยงเดี่ยวนอนค้างคืนกับชายหนุ่ม มันจะส่งผลต่อทั้งนางและซินดี้ในอนาคต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจจะพักในโรงเตี๊ยม และถ้ามีใครเริ่มพูดจาไร้สาระหลังจากนี้ เขาจุอนฟันพวกเขาให้หมดปากจะได้หุบปากไปตลอดกาล
“คุณชายผีพูดถูก คุณผู้หญิง คนพวกนี้ปากร้ายมาก”
แดเนียลกล่าวและใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เรลีนจะคิดเกี่ยวกับผลที่จะตามมาและเห็นด้วยกับพวกเขา
“แต่ถ้าคนเลวพวกนั้นมาอีกล่ะ?”
ซินดี้ตัวสั่น และจับมือเขาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับนางก่อนหน้านี้
“ไม่มีทาง คนเลวๆ พวกนั้นจากโลกนี้ไปแล้วและจะไม่กลับมาอีก”
"ค่ะ"
เขาอุ้มนางขึ้นและหอมแก้มนาง
“ไปกับพี่สองคนนี้แล้วนอนพักเถอะ อย่าดื้อกับแม่ล่ะ”
“ข้าจะไม่ดื้อ”
จู่ๆ เด็กสาวก็เอามือเล็กๆ ของนางคล้องคอเขาแล้วหอมแก้มเขา หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และเขาไม่รู้ว่าด้านใหม่ของเขานี้ได้รับอิทธิพลจากเศษวิญญาณของอับบราสในจิตวิญญาณของเขา
เขาหอมที่หน้าผากของนางและยิ้ม ในขณะที่ทหารยามประหลาดใจเมื่อเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเขา ในเวลานี้เขาดูเข้าถึงได้ แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เขาดูเหมือนปีศาจกลับชาติมาเกิดที่มีเจตนาฆ่าท่วมท้น
เขาเป็นคนเลวหรือคนดีกันแน่?
คำถามเดียวกันนี้เกิดขึ้นในใจของกายะเช่นกัน และจนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่รู้เขาเป็นมนุษย์แบบไหน
“พาพวกเขาไป”
เขาบอกแดเนียล ในขณะที่เขาอุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนด้วยรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าของเขา
เขาเดินไปกับพวกเขาจนถึงโรงเตี๊ยม จากนั้นเขาก็ส่งพวกเขาไปกับแดเนียลและริคกี้
“เจ้าเป็นเด็กกำพร้าหรือเปล่ามนุษย์?”
เมื่อเด็กๆ และทหารยามออกไปจากสายตาของเขา กายะก็ถามเขา ขณะที่เขาตัวแข็ง
“อย่าพยายามปฏิเสธเลย มนุษย์ ข้าเห็นสายตาที่เจ้ามองพวกเขา มนุษย์ มันคือสายตาของคนที่เติบโตมาโดยไม่มีพ่อแม่”
“ว้าว เจ้าก็มีสมองนะ เจ้าหญิง ข้าแปลกใจนะเนี่ย”
“ขอบคุณ เดี๋ยวนะ อะไร เจ้ากล้าดียังไง?!”
นางกรีดร้องด้วยความโกรธ แต่มันก็สนุกดีเวลาที่เขาทำให้นางโกรธ
ขณะที่นางตะโกนใส่เขา เขาก็เข้าไปในโรงเตี๊ยมและทันทีที่คนในนั้นเห็นเขา สถานที่นั้นก็เงียบสงัดจนได้ยินเสียงลม
เนื่องจากโรงเตี๊ยมอยู่ใกล้ประตูเมือง ทุกคนในนี้จึงเห็นสิ่งที่เขาทำกับรัฟฟี่และทุกคนในนี้ก็กลัวเขา
“คุณชายผี”
พนักงานเสิร์ฟที่มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของนางเมื่อวันก่อน ตอนนี้ตัวสั่นและพยายามจะฝืนยิ้มออกมา
“ผ่อนคลายกันหน่อยทุกคน ข้าแค่ฆ่าคนที่ทำให้ข้าโกรธ พวกเจ้าพยายามจะทำให้ข้าโกรธด้วยการเงียบหรือไง? เราอยู่ในโรงเตี๊ยมนะพวก”
“ไม่ ไม่ คุณชาย”
พนักงานเสิร์ฟส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ลูกค้าในโรงเตี๊ยมค่อยๆ กลับคืนสภาพเดิมทีละน้อย แม้ว่าโรงเตี๊ยมจะไม่เสียงดังเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังดีกว่าโรงเตี๊ยมที่เงียบสงัด
กลุ่มนักผจญภัยสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะที่เขานั่งก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเห็นเขาเดินเข้าไปใกล้ พวกเขาก็รีบลุกออกจากโต๊ะ
“ใช่แล้ว หนีไปซะ”