ตอนที่แล้วEp.338 - แผนจัดตั้งกองทหาร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.340 - คุมตัว

Ep.339 - หน่วยข่าวกรองเมืองเจียงเฉิง


4/4

Ep.339 - หน่วยข่าวกรองเมืองเจียงเฉิง

หัวหน้าของสกายเน็ตสาขาเจียงเฉิง ผู้บัญชาการเล่ยและหัวหน้ากองพลคนอื่นๆถูกเรียกตัวมาเข้าประชุมสำคัญ

โดยเวลานี้เขากำลังอธิบายว่า

“รัฐบาลกลางได้ออกประกาศภายใน”

“ด้วยความพยายามอย่างไม่ลดละของรัฐบาลท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐในทุกระดับชั้น ทำให้ตอนนี้พวกเราสามารถถ่ายโอนประชากรเบื้องต้นสำเร็จแล้ว เมืองใหญ่กว่า 36 แห่งทั่วประเทศกำลังก่อตัวขึ้น”

“ในอนาคต เมืองและมณฑลทั้งหมดที่รองลงไปในระดับสาม สี่ ห้า และต่ำกว่านั้นจะถูกละทิ้ง ประชากรทั้งหมดของที่กล่าวมาจะถูกนำไปรวมเข้ากับเมืองใหญ่ทั้ง 36 แห่ง นี่จะเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการรวมประเทศของเรา ตลอดจนการพัฒนาระยะยาวในยุคโลกวิญญาณ”

“เจียงเฉิงคือหนึ่งใน 36 เมืองใหญ่ ดังนั้นเราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าการถ่ายโอนประชากรจะดำเนินไปอย่างราบรื่น มุ่งมั่นทุ่มเทย้ายประชากรในบริเวณใกล้เคียงมายังเมืองศูนย์กลางอย่างเจียงเฉิง”

“...”

ฉูเทียนหัวนั่งฟังด้วยใบหน้าจริงจัง

เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับแผนการก่อตั้งเมืองใหญ่ทั้ง 36 แห่งมานานแล้ว

เนื่องจากการรุกรานของโลกวิญญาณ ประเทศและกองทัพจึงได้เตรียมการและวางแผนเพื่อรับมือสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

และไม่ใช่แค่จีนเท่านั้นที่ทำแบบนี้ แต่อีกหลายประเทศก็เช่นกัน

นี่คืองานที่ท้าทายอย่างไม่ต้องสงสัย

ทางหนึ่งเพราะมีพลเมืองบางคนไม่ยินยอมที่จะออกจากที่ดินที่พวกเขาอาศัยอยู่ อีกทางหนึ่งสภาพป่าที่อยู่นอกเมืองในปัจจุบันอันตรายมาก การเคลื่อนย้ายและขนส่งประชากรในทางไกลมีความเสี่ยงมหาศาล

นอกเหนือไปจากนี้

การสร้างเมืองศูนย์กลางก็เป็นเรื่องท้าทายเช่นกัน

ยกตัวอย่างเมืองเจียงเฉิง

นี่คือเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน

แต่เมื่อซึมซับประชากรจากพื้นที่ใกล้เคียง คร่าวๆคาดว่าประชากรของพวกเขาน่าจะขยับขึ้นถึง 40 ล้านคน

กระโดดเป็นหลายเท่าตัว

และถึงแม้ตัวเมืองจะรองรับประชากรได้

แต่ก็จะทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา

เรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากรัฐบาล กองทัพ สกายเน็ต รวมไปถึงกำลังภาคพลเรือนอย่างสมาคมโลกวิญญาณคอยให้ความช่วยเหลือ

แผนการนี้มองยังไงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายได้ แต่ใครก็ตามที่มีวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์แม้เพียงเล็กน้อย จะสามารถรับรู้ถึงความจำเป็นของเรื่องนี้ได้ทันที

เมืองขนาดเล็กและเมืองขนาดกลาง

โดยเฉพาะในเมืองเล็กๆและหมู่บ้านที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 5

ที่กล่าวมามีประชากรน้อยเกินไป เมื่อถึงคราวเจอฝูงมอนสเตอร์เข้ารุกราน คงเป็นเรื่องยากที่จะรอดชีวิต

ในมุมมองของทางการ การที่ประชาชนอยู่กระจัดกระจาย มันไม่เอื้อต่อการจัดการ ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหาร โครงสร้างองค์กรหละหลวม สุดท้ายเมื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามระดับภูมิภาค ย่อมเกิดความสูญเสียใหญ่หลวง

โชคดีก็คือในยุคสมัยเช่นนี้อาหารไม่ขาดแคลน

เสบียงมีอยู่ทั่วทุกที่แม้บนถนนหรือในเขาวงกตใต้ดิน

อีกทั้งยังมีการรีเฟรชทุกวัน ปริมาณอาหารสำรองมีเยอะมากจนคุณไม่ต้องกังวลว่าต่อให้มีคนย้ายเข้ามามาก พวกเขาก็ไม่ถึงกับแย่งชิงอาหารกันกิน

และหากประชากรที่เพิ่มเข้ามาสามารถล่ามอนสเตอร์ทั้งหมดในเมืองได้จริงๆ พวกคนใหญ่คนโตในเมืองเจียงเฉิงคงลงมาเต้นรำฉลอง โห่ร้องไชโย

36 เมืองใหญ่กำลังก่อตั้งเป็นรูปเป็นร่าง!

คาดว่าประชากรในแต่ละเมืองจะมีประมาณ 35 - 40 ล้านคน!

และในบางเมืองอย่างเซี่ยงไฮ้หรือหยานจิงอาจมีประชากรสูงถึง 50 ล้านคน!

เมืองทั้ง 36 แห่งนี้จะอยู่ภายใต้คำสั่งของหยานจิง แต่ขณะเดียวกันโครงสร้างภายในของพวกเขาจะเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ แต่ละเมืองจะมีผู้บัญชาการสกายเน็ตเป็นของตัวเอง

“จากที่สังเกต”

“การกัดเซาะจากโลกวิญญาณยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง”

“โลกของพวกเราจะถูกรวมเข้ากับโลกวิญญาณเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา”

“ตอนนี้มีชาวโลกวิญญาณปรากฏตัวขึ้นเรื่อยๆ และพวกมันเป็นภัยต่อสังคมมนุษย์อย่างร้ายแรง และมีกระทั่งชาวโลกวิญญาณที่แทรกซึมเข้ามาในสังคมมนุษย์ของพวกเรา!”

“ซึ่งปัญหาข้างต้น ทางรัฐบาลกลางได้ให้คำแนะนำสำคัญแก่พวกเราแล้ว!”

“ตอนนี้จึงจำเป็นต้องจัดตั้งสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณ!”

“งานหลักคือการสังเกตการเคลื่อนไหวของทุกสายพันธุ์จากโลกวิญญาณในเมือง ไม่ว่าจะดีหรือร้าย หน่วยนี้ต้องทำหน้าที่ดูแลและรายงานพฤติกรรมของพวกมันเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่รับผิดชอบพิเศษในการรวบรวมและสืบสวน ตรวจสอบการแทรกซึมของสายพันธุ์จากโลกวิญญาณ และคอยจับตาดูสายลับภายใน”

“และในสาขาเมืองเจียงเฉิงของพวกเรา”

“รองผู้บัญชาการสกายเน็ต คุณฉูเทียนหัวคือผู้ที่ได้รับผิดชอบในตำแหน่งนี้!”

ฉูเทียนหัวยืนขึ้น

เขายอมรับการแต่งตั้งจากองค์กร

การแต่งตั้งครั้งนี้ทำให้เขามีอำนาจเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

ในองค์กรทางทหารอย่างสกายเน็ต ยศทหารนั้นไม่ได้สัมพันธ์กับอำนาจซะทีเดียว

อย่างเช่นตัว ฉูเทียนหัวในตอนนี้ แม้มียศมากกว่าหัวหน้ากองลั่ว แต่เอาจริงๆแล้วเมื่อเทียบกันด้านกำลังพล หัวหน้ากองมีทหารในกำมือ ดังนั้นมีอำนาจเหนือกว่าเขา

ขณะที่ตัวฉูเทียนหัวปราศจากผู้ใต้บังคับบัญชาให้ใช้งาน

กองพลน้อยสาขาเจียงเฉิงทั้งห้ากอง รวมไปถึงกองพลน้อยที่หก ที่พึ่งจัดตั้งขึ้น สมาชิกในทีมของพวกเขาจะปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้ากองและหัวหน้าทีมเท่านั้น

แต่นับจากนี้

ฉูเทียนหัวได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารสาขาเจียงเฉิงที่จัดตั้งขึ้นใหม่

ซึ่งเท่ากับว่าเขามีสิทธิเลือกกำลังพลและสร้างกองกำลังของตัวเอง!

สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณถือเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นควบคู่กับสกายเน็ต และทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกัน

สกายเน็ตคือองค์กรทางการที่ใหญ่และทรงพลังที่สุด มีหน้าที่รับผิดชอบในการต่อสู้ รักษาเสถียรภาพและความปลอดภัยของเมืองเป็นหลัก นอกจากนี้ยังรวมไปถึงงานวิจัยและการผลิตเช่นกัน จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นองค์กรครบวงจร

ขณะที่สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่องานข่าวกรองเท่านั้น พวกเขาต้องคอยสอดส่องชาวโลกวิญญาณในเจียงเฉิง ค้นหาชาวต่างเผ่าที่มีเจตนาร้าย รับผิดชอบในการปราบปราบการคุกคามทั้งหมดที่เกิดจากชาวโลกวิญญาณ และรายงานเรื่องส่งต่อให้แก่ทหารชั้นผู้นำ

พูดตามตรง

นี่เป็นงานที่สำคัญมาก!

ที่เจียงเฉิงยอมมอบความรับผิดชอบอันหนักอึ้งนี้ให้แก่ฉูเทียนหัว

ทางหนึ่งเป็นเพราะนับถือในความสามารถของฉูเทียนหัว ซึ่งเกิดจากหลากหลายองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง ความสามารถ และความภักดี

อีกทางหนึ่ง เนื่องจากชื่อเสียงในปัจจุบันของฉูเทียนหัวค่อนข้างยิ่งใหญ่ ด้วยคุณสมบัติแค่นี้ของเขาก็มากพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้แล้ว นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่ว่าเหล่าผู้บริหารระดับสูงต่างตระหนักดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฮังอวี่

ฮังอวี่คือมหาเทพที่ซ่อนตัวอยู่ในเจียงเฉิง

นั่นเท่ากับว่าสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิงสามารถหยิบยืมพลังของฮังอวี่ได้อย่างเต็มที่!

สามารถกล่าวได้ว่ารัศมีของฉูเทียนหัวถูกกลบด้วยแสงจากตัวฮังอวี่

ดังนั้นแม้ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าสำนักข่าวกรอง แต่เขากลับไม่รู้สึกมีความสุข ตรงกันข้ามเกิดความกดดัน

เขากระจ่างแก่ใจถึงความสำคัญของงานที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

เป็นเรื่องน่าละอายที่จะบอกว่าเขาอยู่ในเจียงเฉิงมาหลายวันแล้ว แต่เรื่องของสมาคมฤาษีลี้ลับ นอกจากการจับกุมแวมไพร์ด้วยความช่วยเหลือจากฮังอวี่ ก็ไม่มีข่าวความคืบหน้าอีกเลย

เขามีลางสังหรณ์

ว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว

มันจะชักนำหายนะครั้งใหญ่มาสู่เมืองเจียงเฉิง!

“เหล่าฉู ความสามารถของคุณ พวกเราทุกคนรู้ดี ได้คุณมาคุมสำนักข่าวกรองโลกวิญญาณ พวกเราทุกคนก็โล่งอก”

หลังการประชุมสิ้นสุดลง

ผู้บัญชาการเล่ยกับฉูเทียนหัวยังคงรั้งอยู่ในห้อง และพูดคุยถึงเรื่องการแต่งตั้งใหม่กับเขา “แผนกใหม่ที่จัดตั้งขึ้น ถ้านายต้องการสมาชิกคนไหนที่มียศต่ำกว่าหัวหน้าหน่วยขอให้บอกฉัน ฉันยินดีมอบให้”

ฉูเทียนหัวกล่าว “ขอบคุณจริงๆ”

“สหายอย่าได้เกรงใจ!” เล่ยหยิงหัวเราะและกล่าวว่า “ที่นายนำมนุษย์จิ้งจอกระดับสูงกลับมาจากโลกวิญญาณในครั้งนี้ มันทำให้พวกเราทึ่งจริงๆ”

ฉูเทียนหัวกล่าว “ฉันไม่ได้เป็นคนจับมัน และสัญญาที่ทำกับมันก็ได้มากจากฮังอวี่”

“ก็เหมือนกันนั่นแหละน่า!”

ทั้งสองเดินออกจากห้องประชุม

ฉูเทียนหัวเปิดมือถือของเขา และพบว่ามีสายไม่ได้รับ พร้อมกับข้อความที่ถูกส่งมา เมื่อเปิดอ่านมัน ใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความสุขทันที

ผู้บัญชาการเล่ยเอ่ยถาม “มีอะไรงั้นหรอ?”

“ฮังอวี่พบเบาะแสสำคัญ และมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมาคมฤาษีลี้ลับ!” ฉูเทียนหัวไม่ได้ปกปิดความดีใจของเขา “ฉันไปก่อนนะ!”

ในเวลาไม่ถึง 30 นาที

ฉูเทียนหัวก็มาถึงสถานที่นัดหมายกับฮังอวี่

ฮัสกี้ตัวหนึ่งกำลังนั่งยองๆรอเขาอยู่ริมถนน

ฉูเทียนหัวรีบเดินไปและถามว่า “หวังเอ๋อ นายพบเบาะแสของสมาคมฤาษีลี้ลับจริงๆหรือ?”

“ฮ่ง เปิ่นหวังพบเบาะแสจริงๆ” หวังเอ๋อกระดิกหาง คล้ายต้องการรับเครดิตนี้ “ตอนเปิ่นหวังกำลังลาดตระเวนตามถนนใกล้ๆ ก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคย สมควรเป็นกลิ่นของหัวหน้ามนุษย์คนทรยศที่หลบหนีไปได้!”

“หวังจุนเหวิน? แน่ใจนะว่าเป็นเขา?”

“ไร้สาระน่า จมูกของเปิ่นหวังไม่มีทางพลาด ถึงเขาจะปลอมตัว แต่กลิ่นอายบนร่างกายไม่มีทางปลอมได้”

หวังเอ๋อมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม

กลิ่นอายของคนส่วนใหญ่แตกต่างกัน

นี่ก็เหมือนลายนิ้วมือของมนุษย์ สำหรับหวังเอ๋อผู้ซึ่งยกอ้างตนว่าเป็นสุนัขเทพเจ้า แม้มันจะแยกแยะหน้าตามนุษย์ผู้หญิงผู้ชายไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องกลิ่นอายไม่มีทางผิดพลาด

นี่แหละคือความร้ายกาจของสุนัข!

มันคือสุนัขที่สำนักข่าวกรองโลกวิญญาณสาขาเจียงเฉิงต้องการ!

ฉูเทียนหัวคิดทบทวนพักหนึ่งแล้วเอ่ยถาม “ว่าแต่ฮังอวี่อยู่ไหน”

หวังเอ๋อตอบว่า “ฮ่ง เจ้านายเห็นว่าโทรหาคุณไม่ติด เขากังวลว่าจะพลัดหลงกับคนทรยศ เลยไล่ตามไปก่อนแล้ว”

ฮังอวี่ไล่ตามไป?

คนๆนี้มีนิสัยมักไม่ค่อยอยากยุ่งวุ่นวายเรื่องของคนอื่น

ปกติแล้วถ้าเจอเรื่องแบบนี้ เขาน่าจะแจ้งกับทางผู้บริหารระดับสูงของสกายเน็ต และปล่อยให้คนของสกายเน็ตปวดหัวแทน

แต่คราวนี้ยังไม่ทันมีใครเชิญ ฮังอวี่ก็เริ่มลงมือเองแล้ว และด้วยความสามารถของเขา เรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาอย่างแน่นอน!

ในเจียงเฉิงเต็มไปด้วยยอดฝีมือ

และในบรรดายอดฝีมือ พวกยอดฝีมือระดับสูงมีระดับพลังรบใกล้เคียงกับฉูเทียนหัวเท่านั้น

ดังนั้น ฉูเทียนหัวมั่นใจมาก ว่าถ้าถึงมือฮังอวี่แล้ว คราวนี้จะต้องมีความคืบหน้าแน่นอน!