ตอนที่แล้ววันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0079
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปวันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0081

วันเบาๆ ของมือเก๋าจากต่างโลก 0080


บทที่ 27 การพักผ่อน, คือส่วนหนึ่งของการเดินทาง (1)

* * *

คงเป็นเรื่องยากที่ชาวเบสแคมป์จะไม่ตกตะลึงกับเหตุการณ์ในวันนี้

มังกรบินเอย ภูเขาละลายในพริบตาเอย มีอักขระแปลกๆ ถูกสลักไว้เอย

ถ้าลองคิดในมุมมองของชาวบ้าน เป็นฉันก็คงไม่รู้ว่าควรเริ่มทำความเข้าใจจากตรงไหน

เมื่อมังกรบินจากไป ความร้อนจากเบรธเริ่มเจือจาง อากาศกลับมาเย็นอีกครั้ง

ฉันสัมผัสถึงการมาเยือนของคนกลุ่มหนึ่ง

เดาได้ไม่ยากว่าใคร

หัวหน้ารปภ.กับลูกน้อง…

นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด แต่เมื่อหันไปมอง ฉันพบว่าจำนวนคนมากกว่าปรกติ

บางคนแหงนมองฟ้า บางคนมองมาที่กระท่อม

ทุกคนมีสายตากระสับกระส่าย แต่งกายกันตามปรกติ — สวมอุปกรณ์ป้องกันพื้นฐานบ้าง สวมเครื่องแบบทหารบ้าง

ในสถานการณ์แบบนี้ ตามปรกติแล้วพวกเขาจะพกกระบอง ถือปืนช็อตไฟฟ้า หรือไม่ก็สตันกัน

แต่ไม่ใช่กับปัจจุบัน

“…ปืน?”

ทุกคนถือปืนไรเฟิลจู่โจม แต่งกายด้วยชุดพร้อมรบ

บางคนสวมอุปกรณ์ป้องกันเต็มพิกัด ดูคล้ายกับชุดกันไฟที่ผลิตจากวัสดุพิเศษ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นผลจากการได้เห็นลมหายใจเพลิงของกิโฮเต้เมื่อครู่

หัวหน้ารปภ.ค่อยๆ เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับคำนับ

“คุณซอนฮู กลับมาแล้วหรือครับ…”

“ใช่ เพิ่งกลับมาถึง”

“เอ่อ… แล้วมังกรเมื่อครู่คือ?”

ฉันแหงนมองฟ้าอีกครั้ง ร่องรอยของกิโฮเต้หายไปแล้ว

“เพื่อนใหม่น่ะ”

“…ฮุ!”

ลิลี่หลุดขำ

…ขำอะไร? เข้าใจที่พูดด้วยหรือ?

“…เล่าความเป็นมาให้เราฟังได้ไหมครับ”

“ทำไมล่ะ”

“ผมต้องรายงานเบื้องบนครับ”

“ขอโทษด้วยนะ”

ฉันไม่อยากให้เรื่องของมังกร เกาะท้องฟ้า หรืออัศวิน รู้ไปถึงหูเบื้องบน OWIC

ดูเหมือนหัวหน้ารปภ.จะเข้าใจ จึงไม่ได้บังคับให้ฉันเล่า

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอถามอีกหนึ่งเรื่อง… เบสแคมป์ปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ”

“ที่จริงก็ไม่ได้อันตรายมาตั้งแต่แรก… ผมควรแจ้งให้หมู่บ้านทราบล่วงหน้า แต่ก็ไม่มีโอกาส ต้องขอโทษด้วยที่เสียมารยาท”

หัวหน้ารปภ.ส่ายศีรษะ

“ไม่เป็นไรครับ ในต่างโลกมักมีเหตุการณ์แปลกๆ ที่ยากจะคาดเดาระดับอันตรายเกินขึ้นเสมอ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ไม่ต่างจากที่ผ่านมา… ไม่สิ อาจจะรุนแรงกว่าปรกติเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”

หัวหน้ารปภ.หันไปมองจองจีฮุน อีกฝ่ายกำลังยืนเหม่อ แตกต่างจากปรกติที่จะทำตัวสุขุม

เมื่อได้สติกลับมา จองจีฮุนทำหน้าขรึมพร้อมกับเดินเข้าหาหัวหน้ารปภ.

“ด้วยอำนาจของฝ่ายวิเคราะห์บูรณาการ ผมขอออกคำสั่งยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ช่วยดำเนินการตามขั้นตอนให้ด้วย”

“ตกลง”

หัวหน้ารปภ.ยืนเหม่อเล็กน้อย สายตาหันไปทางวงแหวนเวทขนาดมหึมาบนภูเขาหินฝั่งตะวันตก จากนั้นก็ถอนหายใจและรีบเดินกลับหมู่บ้าน

เห็นภาพดังกล่าว ฉันฉุกคิดบางสิ่ง

“…จีฮุน”

“ครับ”

“แบบนี้ชาวบ้านจะไม่แตกตื่นและกรูกันออกมาล้อมกระท่อมเหมือนคราวก่อนหรือ? ฉันล่ะกลัวจริงๆ”

ชาโซฮีระเบิดเสียงหัวเราะ

“พวกเขาน่ากลัวกว่ามังกรอีกหรือ”

“ใช่สิ”

“นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”

จองจีฮุนตอบพร้อมกับยิ้มจางๆ

“วันนี้ไม่มีครับ แต่พรุ่งนี้ไม่แน่”

“ทำไมล่ะ”

“หากเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินระดับสูงสุด ประตูมิติจะถูกปิดตายจนกว่าจะยกเลิกคำสั่ง สามารถใช้งานเพื่อการอพยพเท่านั้น และถึงจะยกเลิกคำสั่ง ก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมาเปิดใหม่”

กล่าวคือ มีเวลาให้ฉันได้พักหายใจหายคอ

ดวงตาชาโซฮีส่องประกายทันที

“…คุณจีฮุน คุณเป็นเจ้าหน้าที่ของ OWIC ใช่ไหม”

“ใช่ครับ คุณเป็นเพื่อนของคุณซอนฮูสินะครับ ผมเคยเห็นหลายครั้ง”

“เอ่อ ถ้าประตูมิติถูกปิดตาย… หมายความว่าฉันจะกลับไปที่โลกไม่ได้ใช่ไหม”

“คุณสามารถกลับในนามผู้อพยพ…”

“หมายความว่า ถ้าฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถอพยพ ก็ไม่จำเป็นต้องกลับโลกใช่ไหม?”

จองจีฮุนครุ่นคิดเล็กน้อย คล้ายกับไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายถาม

“…ซอนฮู”

“มีอะไร”

“ฉันอพยพไม่ได้ใช่ไหม”

…?

“ฉันอพยพไม่ได้ เพราะเอาแต่นอนขดตัวสั่นอยู่ในกระท่อมของนายตลอดทั้งคืน… ฟังดูเข้าท่าดี”

“เธอคิดจะทำอะไร”

“นี่คือโอกาสที่จะได้หยุดงาน! ฉันจะปล่อยให้หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด!”

“…”

ในมุมมองของฉัน ข้ออ้างของเธอไม่มีพิรุธ เพราะใช่ว่าเธอจะเคยมานอนที่กระท่อมแค่ครั้งสองครั้งสักหน่อย

“ตามใจเถอะ”

“เยส!”

จินซอยอนที่ฟังบทสนทนาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หันไปพูดกับจองจีฮุน

“จีฮุน”

“ครับ พี่สาว”

“คืนนี้ฉันก็อพยพไม่ได้เหมือนกัน เพราะกำลังซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินของโรงแรม”

“…ไม่อยากเชื่อว่าพี่จะเอากับเขาด้วย ยังเหลือวันลากิจอีกเป็นสิบเลยไม่ใช่หรือ ไหนจะลาพักร้อนอีก?”

“นายนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ การลากิจต้องแจ้งล่วงหน้า แต่ฉันอยากหยุดวันนี้”

จากนั้น เธอฉันมามองฉันพร้อมกับยิ้ม

“เพราะวันนี้ฉันต้องได้ฟังเรื่องเจ๋งๆ”

เฮ้อ…

สำหรับฉัน พฤติกรรมของพวกเธอไม่ส่งผลเสียอะไร

“แต่ฉันต้องจัดของก่อน ยังเล่าตอนนี้ไม่ได้”

“ถ้าอย่างนั้น ฉันค่อยแวะมาใหม่ช่วงค่ำดีไหม? จะไปหาเหล้าเจ๋งๆ มาให้… จริงสิ กลับโลกไม่ได้นี่นา”

“ซื้อเอาจากโรงแรมก็ได้! แล้วเจอกันตอนค่ำ!”

พูดจบ ชาโซฮีวิ่งเข้าไปในเบสแคมป์ทันที

“…ขอให้เธอบังเอิญไปเจอเพื่อนร่วมงานและถูกลากตัวกลับโลก”

“ฮะฮะ! แล้วเจอกันช่วงค่ำนะครับ”

จองจีฮุนคำนับ ฉันพยักหน้ารับ

จากนั้น ฉันแบกกระเป๋าเดินเข้าไปในกระท่อมพร้อมกับลิลี่

ลิลี่วิ่งออกไปที่บ่อน้ำซึมเพื่อล้างตัว ส่วนฉันเตรียมเสื้อผ้าสะอาดให้ จากนั้นก็นำอุปกรณ์การผจญภัยออกมาวางเรียงราย

เนื่องจากในกระเป๋ามีสัมภาระเป็นจำนวนมาก จึงใช้เวลานานกว่าจะเรียงเสร็จ

แต่ก็มีหลายสิ่งถูกเก็บกลับเข้าไปทันที พวกมันคืออุปกรณ์สำคัญในการผจญภัยครั้งถัดไป

สำหรับคำถามที่ว่า รอบหน้าควรพกอะไรไปบ้าง ฉันจะคิดให้ถี่ถ้วนอีกที

จากนั้น ฉันนำแหวนนักบันทึกออกมาสวม และยิงอักษรรูนลงบนโต๊ะทำงาน

อักษรรูน ‘บาเรียกีดกัน’

ได้มาจากหอคอยสุริยัน อำนาจของมันประจักษ์ชัดแล้วในการล่าปรสิต

แต่ในคราวนี้ ฉันสัมผัสได้ว่าประสิทธิภาพลดลงพอสมควร

อันที่จริงก็คิดไว้แล้ว ขนาดของอักษรรูนจะส่งผลต่ออานุภาพด้วย

กล่าวคือ หากขนาดไม่ใหญ่จนถึงระดับหนึ่ง อักษรรูนก็จะแสดงผลได้ไม่ตรงตามที่คาดหวัง

ไม่ควรทดสอบสิ่งที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์จริง

เห็นทีคงต้องวิจัยอักษรรูนนี้ให้ละเอียดทุกซอกมุม

คิดถึงตรงนี้ ฉันเก็บมันกลับเข้าแหวน

และอักษรรูนถัดมา

“หืม…”

คงต้องหาทางทดสอบเจ้านี่ด้วยเหมือนกัน…

อักษรรูนที่คล้ายกับรูนสร้างลิฟวิงเมทัล แค่เปลี่ยนโครงสร้างในบางส่วน

ผลลัพธ์คือการทำให้คนตายขยับได้

ฟังจากที่ลิลี่พูด ดูเหมือนจะเรียกสิ่งนี้ว่าศาสตร์หมอผี

ถ้าจำไม่ผิด ลูกหลานดวงดาวในหอคอย ถูกบังคับให้สวดวิงวอนบางอย่างตลอดเวลา

กล่าวคือ สามารถออกคำสั่งบางอย่างกับศพ?

แน่นอน ฉันไม่คิดจะเป็นหมอผี แต่ก็ต้องศึกษาไว้เผื่อได้ใช้ในอนาคต

เก็บไว้ก่อนก็แล้วกัน ไว้ค่อยทดสอบวันหลัง

ถัดมา ฉันนำอัญมณีสีขาวออกมาถือ แสงสว่างเอ่อล้นและค่อยๆ กลายเป็นหนังสือเล่มหนา

หนังสือนักพยากรณ์

“…”

คงต้องทดสอบมันอย่างละเอียด

แต่ที่แน่ๆ ก็คือ มันเป็นหนังสือที่มีหน้าปกเหมือนกับสมุดบันทึกของฉัน

…เพราะอะไรกันนะ?

ไว้ค่อยคิดหาเหตุผลก็แล้วกัน ยังมีเวลาเหลือเฟือ

และถัดมา

ศิลาสุริยัน

ฉันรู้แค่ว่า มันคือวัตถุดิบที่ใช้ในวงการแปรธาตุ

แต่ประโยชน์อีกหนึ่งอย่างก็คือ คนโบราณใช้มันสร้างหอคอยโดยหวังจะกลายเป็นสุริยเทพ

“สรุปแล้วมันคือหินอะไรกันแน่? ข้าสัมผัสถึงพลังงานประหลาด”

ในเวลาเดียวกัน ลิลี่เดินเข้ามาในกระท่อม

ฉันอดขำไม่ได้เมื่อเห็นเส้นผมของเธอเปียกชุ่มยังกับสาหร่ายทะเล

“ไม่ได้ผ่องใสแบบนี้นานแล้วสินะ”

“พวกเราออกผจญภัย เป็นธรรมดาที่จะสกปรก”

ใช่แล้ว ฉันทึ่งมากที่เธอยอมบุกน้ำลุยไฟโดยไม่ปริปากบ่น (?)

ลิลี่สัมผัสศิลาสุริยันที่ฉันถือ

“…อุ่น ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้ารู้สึกว่าข้างในมีพลังงานมหาศาล”

“เธอก็คิดเหมือนกันสินะ”

“ไม่แน่ใจ… จับแล้วรู้สึกอ่อนโยน… ลุ่มลึก”

ฉันเห็นด้วย

บางสิ่งที่มีศักยภาพสูงกำลังหลับใหลอยู่ภายใน แถมยังผนึกไว้เป็นอย่างดี

ถ้าจะให้เดาเล่นๆ

“เธอเคยเล่าให้ฟังใช่ไหม คนโบราณที่สร้างหอคอยสุริยัน พกหินก้อนนี้ติดตัวตลอดเวลา”

ลิลี่พยักหน้า

“เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นเทพ… แต่สุดท้ายก็เขาถูกเทพลงทัณฑ์จนจมธรณี”

“ทำไมเทพถึงต้องลงทัณฑ์เขา”

“หืม… ก็คงเพราะไปลบหลู่เทพ”

“โลกนี้เต็มไปด้วยคนที่ลบหลู่เทพ… ไม่ใช่แค่นั้น ทำไมต้องลงทุนจมหอคอยมหึมานั่นลงใต้ดิน”

“เรื่องนั้น…”

“หอคอยจะสร้างปัญหาอะไรให้เทพรึเปล่า?”

ลิลี่ไตร่ตรองคำถามของฉัน

“…เท่าข้าทราบ มีเพียงไม่กี่ครั้งที่เทพใช้พลังแทรกแซงโลก”

สมมติฐานของฉันคือ

“ชายคนนั้นอาจเป็นภัยคุกคามต่อเทพ”

“…”

“ชายผู้สร้างหอคอยด้วยศิลาสุริยัน มีศักยภาพสูงจนเทพหวาดกลัว”

สุริยเทพรู้เรื่องนี้ดี จึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

การลงมือขัดขวางหมายความว่า มีเหตุผลสำคัญให้ต้องขัดขวาง

“…แต่นี่ยังเป็นแค่การคาดเดา”

“นั่นก็จริง แต่ว่านะลิลี่ เธอไม่เอะใจบ้างหรือ”

ลิลี่จ้องหน้าฉัน

“แท้จริงแล้ว มังกรมิได้ขัดขวางวีรบุรุษ… แท้จริงแล้ว สุริยเทพอุปโลกน์คือวีรบุรุษที่สร้างหอคอยเพราะมีเหตุผลสำคัญ และแท้จริงแล้ว ดาวดำไม่ใช่คนชั่ว”

ลิลี่นึกทบทวนตำนานเก่าแก่สักพัก ก่อนจะยิ้ม

สำหรับฉัน เธอตอบสนองได้ดี เพราะการที่ยิ้มออก หมายความว่าลิลี่มองมันในแง่บวก

“…ตำนานมักถูกเขียนโดยผู้ชนะ และบางครั้งก็พลิกข้อเท็จจริงจากหน้าเป็นหลังมือ”

ลิลี่เปิดปาก

“เรื่องราวของเจ้าก็เช่นกัน”

“เรื่องราวของฉัน?”

“เรื่องราวของเจ้าจะกลายเป็นตำนาน”

“…ขนาดนั้นเชียว?”

“มนุษย์ที่ถูกยอมรับจากดารากรและนิรันดร์ชน… ไม่มีทางที่เรื่องนี้จะไม่ถูกเล่าขาน”

เมื่อลองจินตนาการตาม นั่นก็ไม่เลวนัก

ขณะเดียวกัน ฉันจัดของเสร็จ

ส่วนลิลี่ยังคงยืนจ้องหน้า

ประหนึ่งกำลังถามว่า ‘เจ้าจะทำอะไรต่อ’

แน่นอนอยู่แล้ว

“พักผ่อนกันเถอะ”

ลิลี่พยักหน้าก่อนจะกระโดดขึ้นเตียง

* * *

“…ซอนฮู!”

ฉันลืมตาขึ้น

นี่อาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่กลับจากโลก ที่ฉันไม่รู้ตัวว่ามีคนเข้ามาใกล้ๆ ขณะหลับ

ต้องเหนื่อยแค่ไหนกัน?

หรือบางที กระท่อมหลังนี้คงทำให้ฉันผ่อนคลายเกินไป

“หืม…”

ขณะลิลี่ยกหัวขึ้นจากอีกเตียง ฉันเดินไปเปิดประตูในสภาพงัวเงีย

“นายหลับอยู่หรือ”

“…มีอะไร”

ชาโซฮีเขย่าเหล้าขวดใหญ่

ไม่สิ… ไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่มันใหญ่มาก

“มันเจ๋งมาก! บ้าบอจริงๆ!”

“มันคืออะไร”

“เหล้าไง”

“…เรื่องนั้นฉันรู้ แต่มันเจ๋งยังไง? บ้าบอยังไง?”

“ห้าล้านวอน”

“…?”

ชาโซฮีกล่าวเสียงขรึม

ดูเหมือนจะยังไม่ได้เปิดฝา เพิ่งซื้อมาแน่นอน

“จากโรงแรม?”

ชาโซฮีพยักหน้า

ที่นั่นขายของแปลกๆ หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือเหล้าราคาแพง

ว่าแต่… เงินใคร?

แต่ฉันไม่จำเป็นต้องถาม

เพราะจองจีฮุนโผล่มาจากด้านหลัง

“เจอกันอีกแล้วนะครับ”

“…กับคุณซอยอนอาจไม่แปลก แต่ฉันไม่คิดว่าจีฮุนจะยอมสละวันพักร้อนของตัวเอง”

“วันพักร้อนที่ไหนกัน ผมกำลังทำงาน”

จากนั้น จองจีฮุนก้มมองขวดเหล้า

“ทางเราแบ่งงบก้อนหนึ่งไว้สำหรับสร้างความพึงพอใจให้คุณซอนฮูโดยเฉพาะ เป็นเงินของบริษัทน่ะครับ”

“เจ๋งเป้ง! บ้าไปแล้ว! เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้ลองเหล้าหรูๆ แบบนี้!”

ภาพจำของฉันที่มองว่าจองจีฮุนขยันทำงานและเป็นมืออาชีพ ค่อยๆ เลือนหายไปทีละนิด

เกิดเป็นวงเหล้าพิสดารขึ้นรอบกองไฟด้านนอกกระท่อม

ซอจีอากำลังยืนสูบบุหรี่ในมุมหนึ่ง สายตาชำเลืองไปทางลิลี่ที่เอาแต่นั่งในกระท่อมและมองออกมา

“ทำไมไม่มานั่งด้วยกัน?”

ดูเหมือนว่าลิลี่จะยังกลัวการรวมตัวของกลุ่มมนุษย์

ฉันกวักมือเรียก

“มานั่งสิ… คิดว่ากำลังผจญภัยก็ได้”

จินซอยอนเงยหน้ามองฟ้าด้วยสายตาเปล่งประกาย

ฉันแหงนมองเช่นกัน

แม้จะกลุ่มดาวจะเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ แต่ฉันยังคงมองเห็นดารากรที่เพิ่งขึ้นสวรรค์

จากนั้นก็กลับมามองจินซอยอน

ควรเล่าลึกแค่ไหน?

คำตอบไม่ซับซ้อน

มีอะไรต้องปกปิดด้วยหรือ?

จินซอยอนไม่ได้พกสมุดจดหรือเครื่องบันทึกเสียงมาด้วย

สำหรับเธอ บทสนทนาในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับบริษัท ไม่เกี่ยวกับการวิจัยหรือรายงาน

ฉันจึงพร้อมเล่าทุกเรื่อง

“…กิโฮเต้ไปที่ไหนกันนะ”

เป็นเสียงของลิลี่

รู้ตัวอีกที เธอเดินมานั่งข้างๆ ฉัน ในมือถือแก้วใบหนึ่ง สายตามองเข้าไปในกองไฟ

…?

ซอจีอา ฉัน จินซอยอน จองจีฮุน และชาโซฮี

ทุกคนหันมาจ้องลิลี่ด้วยสีหน้าแตกต่างกัน

“เธอ… พูดเกาหลีได้แล้ว?”

“…ตั้งแต่เมื่อไร?”

ลิลี่จ้องฉันด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

แม้จะยังไม่ชำนาญ แต่แค่ฟังดูก็รู้ว่าอยู่ในระดับที่สื่อสารได้

“ความลับน่ะ”

ในบางครั้ง ลิลี่ก็ชอบแกล้งให้ฉันตกใจเล่น

ดูเหมือนว่าจะประมาทหญิงสาวที่พูดได้สิบหกภาษาเกินไป

“…นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งสำคัญก็คือ จะเล่าทุกเรื่องจริงหรือ? ทั้งมังกร อัศวินแห่งท้องฟ้า ดารากร นักบุญหญิง…? เวลาจะไม่พอเอานะ”

ที่เธอพูดก็ไม่ผิด

แต่ในบางครั้ง ฉันคิดว่าการเอาแต่พักผ่อนอยู่เฉยๆ ก็ไม่แย่นัก จึงไม่ใช่คนชอบกำหนดกรอบเวลาเท่าไร

ความผ่อนคลายคือกุญแจสำคัญของการเดินทาง

______________________

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (1/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด