ตอนที่แล้วEp.334 - เปิดร้านค้าลับอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.336 - พลังรบที่เพิ่มพูน

Ep.335 - สืบทอดมรดก


2/2

Ep.335 - สืบทอดมรดก

การอัญเชิญแต่ละครั้งต้องจ่าย 5000 แต้มวิญญาณซึ่งแบ่งปันส่วนเล็กส่วนน้อยมาจากทุกคน

อากาศที่บิดเบี้ยวแยกจากกันอย่างช้าๆ

ชายร่างเตี้ยและผอมแห้งในชุดเสื้อคลุมดำตัวกว้าง บนหัวคลุมด้วยฮู้ดสีดำ ในมือสวมถุงมือสีดำ และหน้ากากปกปิดใบหน้า นอกเหนือจากดวงตาลึกโบ๋คู่หนึ่ง ตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่มีส่วนไหนโผล่ให้เห็นอีกเลย

เขากุมบังเหียนไว้ในมือ จูงสิ่งมีชีวิตอันแปลกประหลาดออกจากอากาศที่บิดเบี้ยว “แขกผู้มีเกียรติ ยินดีที่ได้รับใช้อีกครั้ง ข้าคือหมายเลข 90024”

เจียงหนานสุภาพกว่าใครเพื่อน เธอเป็นฝ่ายทักทายตอบ “ดีใจที่ได้เจอกันอีกเถ้าแก่ลึกลับ!”

เรียงตามลำดับ ฮังอวี่จะเป็นคนแรกที่ซื้อขาย ตามด้วยจ้าวหมิง ฉูเทียนหัว และสมาชิกลำดับสูงคนอื่นๆ

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ทุกคนได้จัดเตรียมหินคริสตัลโดยคำนวณให้เพียงพอต่อราคาของไอเท็มที่ต้องซื้อ จากนั้นมอบมันให้แก่ผู้นำระดับสูง เพื่อให้พวกเขาจัดการซื้อเหมาแบบทีเดียว ซึ่งเรื่องนี้ช่วยประหยัดเวลาได้มาก

เพราะยังไงซะ

ร้านค้าลึกลับจะเปิดให้บริการเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น

ขณะที่ในเมืองมีผู้คนมากมาย ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมีโอกาสซื้อของกับพ่อค้าลึกลับ

ต่อให้ใช้เวลากันแค่คนละ 1 นาที แต่ด้วยเวลาสองชั่วโมง สุดท้ายก็ซื้อขายได้แค่ 120 คนเท่านั้น

นอกจากนี้

ทุกครั้งที่พ่อค้าลึกลับขนสินค้ามา แม้จะมากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีที่สิ้นสุด

ดังนั้นยิ่งต่อแถวยาวเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้ของดีๆก็มีน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ฮังอวี่จึงต้องเป็นคนแรกที่ทำการซื้อขาย ตามด้วยระดับผู้นำอย่างจ้าวหมิงและ ฉูเทียนหัว จากนั้นก็ตามด้วยสมาชิกคนสำคัญอย่างเจียงหนาน ฯลฯ

หลังจากทีมงานของฮังอวี่ซื้อของเสร็จแล้ว

ในที่สุดก็ถึงตาของทีมอื่นๆ แต่พวกเขาจะซื้อได้มากแค่ไหนนั้นไม่ใช่ธุระของฮังอวี่

ครั้งนี้ฮังอวี่เตรียมหินคริสตัลเฉพาะของตัวเองมามากกว่า 17000 เม็ด ซึ่งพวกมันจะถูกใช้เพื่อตัวเขาและสมาชิกในครอบครัวอย่างเสี่ยวไป๋หรือหวังเอ๋อ

ที่เหลือนอกจากนั้นเป็นคนอื่นๆในทีมหรือคนรู้จักฝากให้ซื้ออีกที

ฮังอวี่ไม่เสียเวลา เขาพูดกับพ่อค้าลึกลับทันทีว่า “ผมต้องการซื้อสัญญาอุปการะกับสัญญาวิญญาณในเลเวล 10 คุณมีสินค้าพวกนี้หรือเปล่า?”

พ่อค้าลึกลับตอบทันทีว่า “แน่นอน ข้าต้องมีอยู่แล้ว!”

[สัญญาอุปการะ] สัญญาเลเวล 10 , สีเขียวคุณภาพสูง , ราคา 120 หินคริสตัลเขียว

[สัญญาวิญญาณ] สัญญาเลเวล 10 , สีเขียวคุณภาพสูง , ราคา 200 หินคริสตัลเขียว

ฮังอวี่พยักหน้าด้วยความพอใจ

เขาเคยซื้อสัญญาอุปการะจากพ่อค้าลึกลับมาแล้วครั้งหนึ่ง

คราวก่อนเขาซื้อสัญญาอุปการะในเลเวล 8 ดังนั้นจึงมีราคาเพียง 100 หินคริสตัลเขียว คราวนี้เป็นสัญญาเลเวล 10 ราคาจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ฮังอวี่ตั้งใจว่าจะผูกมัดมนุษย์จิ้งจอกเย่กู่ เย่โน่เข้ากับทีมของเขา

แต่อุปนิสัยของมนุษย์จิ้งจอกนั้นเจ้าเล่ห์ไม่มั่นคง พวกมันมักกระทำการตามอำเภอใจ ดังนั้นวิธีเดียวที่จะสบายใจเมื่อมีพวกมันอยู่ใกล้ๆคือการทำสัญญาอุปการะเท่านั้น

ส่วนสัญญาวิญญาณ

เจ้าสิ่งนี้มีไว้เพื่อทำสัญญากับคนหมู่มาก

ให้เข้าใจว่าเป็นการรับสมัครสมาชิกกิลด์ก็ได้ สิ่งนี้จำเป็นสำหรับการสร้างกองกำลังขนาดใหญ่ เมื่อสัญญาได้รับการลงนาม สมาชิกทีมหลายร้อยหรือหลักพันคนจะผูกพันต่อสัญญา แม้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่ก็นำมาซึ่งความสะดวกสบายมากมาย

สัญญาเลเวล 10 นั้นไม่ถือว่าอยู่ในระดับสูง ดังนั้นสามารถรับสมาชิกได้ไม่เกิน 1000 คนเท่านั้น

ราคาของสัญญาวิญญาณนั้นแพงกว่าสัญญาอุปการะมาก และหากคำนวณตามมนุษย์ที่อยู่ในเมืองหุบเขาเดียวดาย เกรงว่าต้องใช้สัญญาวิญญาณมากกว่า 3 ม้วน!

ทว่าหากดึงตัวเฉพาะสมาชิกที่ผ่านการประเมิน ด้วยจำนวนพันคนก็นับว่าเพียงพอแล้ว!

ซื้อมัน!

ลำดับต่อไปที่ต้องซื้อคือของใช้ของตัวเอง

ฮังอวี่คาดหวังที่จะเพิ่มพูนพลังรบโดยเร็วที่สุด

แล้ววิธีอะไรน่ะหรือที่ช่วยเพิ่มพูนพลังรบโดยเร็วที่สุด? สิ่งที่จำเป็นคนย่อมไม่พ้นหินสกิล อุปกรณ์ และโพชั่นลับ!

ในบรรดาตัวเลือกข้างต้น อุปกรณ์มีข้อจำกัดด้านความทนทาน ใช้ไปนานๆก็อาจล้าสมัยไม่เหมาะกับความสามารถในอนาคต ขณะที่โพชั่นลับนั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าการเพิ่มฐานค่าคุณสมบัติอย่างถาวร ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้ว สิ่งที่คุ้มค่าและให้ผลประโยชน์ยาวนานที่สุดคือหินสกิลอย่างไม่ต้องสงสัย

ข้อดีอย่างแรกของมันก็คือ สามารถเรียนรู้สกิลได้อย่างไม่จำกัด

และข้อดียิ่งกว่าก็คือ เมื่อสามารถสืบทอดมรดกได้แล้ว ค่าคุณสมบัติก็จะเพิ่มขึ้น!

และในมรดกระดับสูงบางประการ นอกเหนือจากช่วยเพิ่มค่าคุณสมบัติแล้ว อาจยังสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายได้!

ฮังอวี่ทำการสรุปสั้นๆในใจเขา

‘ตอนนี้ฉันมีทั้งมรดกที่สามารถสืบทอดได้แล้วและยังไม่ได้รับการสืบทอด .... ’ ​

“ทั้งหมดที่กล่าวมาได้แก่ มรดกขั้น1 ‘นักธนู’ , มรดกขั้น 2 ‘เบอร์เซิร์กเกอร์’ , มรดกขั้น 2 ‘นักท่องวายุ’ , มรดขั้น 2 ‘ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้’ , มรดกที่ยังไม่สืบทอดก็มีจอมเวทย์บลิงค์ , นักวิจัยไสยเวทย์ ...”

จากความทรงจำของจอมปราชญ์

ลำดับขั้นของมรดกสืบทอดมีดังนี้

นักธนู → นักลอบยิง → มือยิงเทพเจ้า!

คนเถื่อน → เบอร์เซิร์กเกอร์ → ขุนนางคลั่ง!

นักสอดแนม → นักท่องวายุ → นักรบเงาลมกรด!

นักสู้ → ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้ → ปรมาจารย์เลือดเหล็ก!

ฮังอวี่ยังคงมีข้อจำกัดด้านทรัพยากรทางการเงินก็จริง

แต่อย่างน้อยตอนนี้เขามีมากพอที่จะซื้อหินสกิลที่มากพอจะใช้สืบทอดมรดกขั้น 3 ได้!

และปัจจุบันนี้ ‘ขุนนางคลั่ง’ กับ ‘นักรบเงาลมกรด’ คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด!

เนื่องจากมรดกทั้งสองมีส่วนช่วยพัฒนาการต่อสู้ในแนวหน้าได้ดีที่สุด

ขุนนางคลั่งส่งผลอย่างมากต่อค่าคุณสมบัติพละกำลังและร่างกาย เหมาะแก่การต่อสู้แบบกลุ่มและโจมตีหมู่

นักรบเงาลมกรดส่งผลอย่างมากต่อค่าความว่องไวและปราดเปรียว เหมาะแก่การต่อสู้แบบตัวต่อตัว

ส่วนปรมาจารย์เลือดเหล็ก? แม้คุณสมบัติของมันจะเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีส่วนช่วยในแง่การเพิ่มโอกาสรอดชีวิต หรือสลัดหลุดจากสกิลสายควบคุมหน่วงเหนี่ยวต่างๆ แต่สุดท้ายมันก็ยังไม่ดีเท่าสองอย่างแรกในแง่ของการเพิ่มพูนพลังรบ

ขณะที่นักธนูเป็นเพียงมรดกขั้น 1 เท่านั้น

มากสุดตอนนี้หากมีหินคริสตัลเหลือ ฮังอวี่อาจขอซื้อหินสกิลเพื่อสืบทอดมรดกขั้น 2 นักลอบยิงได้

สำหรับมรดกขั้น 3 ของนักธนู แม้ทุกการโจมตีจะเฉียบคมมาก แต่สุดท้ายเป็นการโจมตีระยะไกล ซึ่งฮังอวี่ไม่ได้ใช้มันบ่อยเท่าการต่อสู้ระยะประชิด และเนื่องจากยังไม่ได้สืบทอดมรดกขั้น 2 หากคิดสืบทอดมรดกขั้น 3 ของมัน เกรงว่าคงเสียเงินเยอะเกินไป

นอกเหนือไปจากนี้

ตามที่ฮังอวี่รู้

สกิลทั้งสามของจอมเวทย์บลิงค์ได้แก่ : เทคนิคบลิงค์ , เทคนิคโยกย้าย และเทคนิครับรู้พื้นที่

สามสกิลของนักวิจัยไสยเวทย์คือ : วิจัยพลังจิต , วิจัยสติปัญญา และวิจัยมนตร์สะกด

จอมเวทย์บลิงค์เป็นมรดกที่หาได้ยากมากๆ หากมีโอกาสได้เรียนรู้ไม่ควรพลาดมัน ขณะที่นักวิจัยไสยเวทย์นั้นถึงจะเป็นแค่มรดกขั้น 1 แต่มันช่วยเพิ่มค่าพลังจิตได้ไม่เลว แถมราคาหินสกิลก็ไม่สูงมาก ถ้ามีเงินเหลือ เขาก็ตั้งใจว่าจะสืบทอดมรดกนี้เช่นกัน

ฮังอวี่ทบทวนและจัดลำดับความสำคัญ เขาเอ่ยกับพ่อค้าลึกลับว่า “ผมสนใจหินสกิลของขุนนางคลั่ง , นักรบเงาลมกรด , ปรมาจารย์เลือดเหล็ก , นักลอบยิง , จอมเวทย์บลิงค์ และนักวิจัยไสยเวทย์”

ฮังอวี่เอ่ยชื่อมรดกออกมาในคราเดียว

นี่ทำให้หลายคนเผยสีหน้าตกใจ

ทั้งหมดนี้คือมรดกที่เขาต้องการสืบทอดใช่หรือไม่?

ถ้าเป็นเช่นนั้น ฮังอวี่จะขี้โกงเกินไปแล้ว! ทำไมเขาถึงได้ครอบครองมรดกมากมายขนาดนี้? แล้วแต้มวิญญาณที่เขาต้องเสียไปกับการเรียนรู้พวกมันมหาศาลขนาดไหนกัน?

นอกจากนี้ การเรียนรู้สกิลทุกครั้งต้องมีเวลาฝึกฝนเพื่อเพิ่มความชำนาญ ยิ่งสกิลขั้นสูงก็ยิ่งต้องใช้เวลาฝึกมาก หากรับสืบทอดมรดกมากเกินไป เกรงว่าจะเสียเวลาและพัฒนาได้ยากในอนาคต!

อย่างไรก็ตาม อยากจะบอกคนเหล่านี้เหลือเกิน

ว่าที่เขากล้าเรียนรู้มรดกมากขนาดนี้ นั่นก็เพราะด้วยสกิลพรสวรรค์ของเขา ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องเรียนรู้พวกมัน!

กระทั่งพ่อค้าลึกลับยังแสดงสีหน้าประหลาดใจ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะมืออาชีพ มันจะไม่เอ่ยถามถึงสถานการณ์ของลูกค้า

และด้วยประสบการณ์ที่เคยออกค้าขายไปทั่วโลก ตัวมันไหนเลยจะไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้

“มรดกที่เจ้าร้องขอมีมากเกินไป และบางส่วนเป็นถึงมรดกขั้น 3 ขณะที่หมายเลข 90024 เกรงว่าความสามารถในการจัดหาสินค้ายังคงมีจำกัด”

“แต่วางใจได้ สิ่งที่เจ้าต้องการ ข้ามีมันอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง!”

ระหว่างกล่าว

พ่อค้าลึกลับได้แสดงข้อมูลของหินสกิล

ฮังอวี่กวาดสายตามอง และพบว่ามีหินสกิลหลายก้อนที่หายไป แต่ก็มากพอแล้วที่จะช่วยเพิ่มพูนพลังรบแก่เขา!

*ปกติเวลาลงผมจะไม่แน่นอน ถ้าให้ชัวคือราวๆ 6 โมงหรือไม่เกิน 1 ทุ่มของแต่ละวันครับ