ตอนที่แล้ว836 - จักรพรรดิโบราณที่อยู่ในโลงศพ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป839 - ฝาหม้อ? 

837 - ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง 


837 - ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง

“จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นที่เคารพนับถือจากทุกสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์ในยุคโบราณและสมัยใหม่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะคู่ควรได้เห็นร่างของเขา เพราะจะเป็นการดูหมิ่นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างร้ายแรง”

หวังหยางซานผู้อาวุโสของนิกายหยินหยางกล่าว

มีคนพยักหน้าเห็นด้วย ทุกคนรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร ตอนนี้พวกเขากำลังจะเป็นการเปิดโลงศพเพื่อดูว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ได้ทิ้งสมบัติอะไรไว้

ดังนั้นหากมีคนมองเห็นเหตุการณ์นี้มากเกินไปสมบัติอาจไม่เพียงพอที่จะแบ่งปันก็ได้

ดังนั้นคำกล่าวของเขาจึงเป็นการผลักดันคนที่อ่อนแอให้ออกจากที่นี่และทุกคนที่จะอยู่ได้ก็มีเพียงมหาอำนาจไม่กี่แห่ง ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้สมบัติก็จะถูกแบ่งปันในหมู่ของพวกเขา

ประมุขตระกูลเซียวยืนอยู่ข้างเดียวกับผู้นำนิกายหยินหยาง เซียวอวิ๋นเฉิงดูเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม เขาจ้องไปที่เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ก่อนจะกล่าวว่า

“ถ้าพวกเจ้าออกไปก่อน ก็จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น”

“เจ้ากำลังหมายถึงอะไร?” เย่ฟ่านจ้องมองอย่างเฉยเมย

“ทุกคนที่นี่เป็นที่รู้จักในนามผู้ยิ่งใหญ่และคู่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก แต่เจ้าเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน เจ้ามีคุณสมบัติใดในการมองเห็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของเรา”

เซียวอวิ๋นเฉิงจ้องไปที่ เย่ฟ่านและคนอื่นๆ ด้วยความดูถูก

“นี่เป็นโชควาสนาครั้งใหญ่อย่างแน่นอน ผู้ที่ไม่คู่ควรจะต้องถูกขับไล่ออกไป”

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่กล่าว มีคนพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาคิดว่าบางคนต้องถูกขับไล่ออกไป

ต้วนเต๋อและตงฟางเย่ต่างก็โกรธแค้น และชายชราตาบอดก็ส่งเสียงขู่สองครั้ง ดวงตาของเขากลับกลอกไปมาอย่างน่ากลัว

เซียวอวิ๋นเฉิงกล่าวอย่างเฉยเมย “ที่นี่พวกเราทั้งหมดล้วนเป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ มดปลวกอย่างเจ้าคู่ควรที่จะยืนอยู่ระดับเดียวกันกับเราหรือ”

เย่ฟ่านเหยียดนิ้วออกไป โดยไม่แสดงความเคารพต่อสิ่งมีชีวิตระดับผู้สูงสุดแม้แต่น้อย เขาชี้ไปที่จมูกของเซียวอวิ๋นเฉิงแล้วกล่าวว่า

“แล้วเจ้าเป็นอะไร เจ้าไม่มีปัญญาเอาชนะข้าด้วยซ้ำ?”

แรงอาฆาตปรากฏขึ้นในดวงตาของเซียวอวิ๋นเฉิง และเขาต้องการสังหารเย่ฟ่านให้ตาย แต่ทว่าที่แห่งนี้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่ราบรื่นดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะแค่งเสียงอย่างเย็นชา

“ที่นี่คือสถานที่สำหรับปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ข้าบอกให้เจ้าไสหัวไป”

เย่ฟ่านยิ้มเยาะโดยไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

ในขณะนั้นเซียวอวิ๋นเฉิงเดินเข้ามาประชิดตัวเขาและกล่าวว่า

“เจ้ากำลังรนหาที่ตายหรือ? สหายทั้งหลายเชิญเด็กน้อยพวกนี้ออกไปก่อน หากใครลงมือชามแตกใบนี้ก็จะเป็นสมบัติของคนคนนั้น”

หลังจากพูดจบเขาก็ถอยกลับและจ้องมองไปที่ชามของต้วนเต๋อ ถ้าชามแตกถูกแย่งไป ทั้งห้าคนก็จะกลายเป็นเพียงฝุ่นผงอย่างแน่นอน

คนเหล่านั้นได้เห็นความพิเศษของชามใบนี้มานานแล้ว และหลายคนก็ก้าวไปข้างหน้าทันที

“ขอดูหน่อยว่าเด็กน้อยเช่นเจ้ามีความพิเศษแค่ไหนกัน”

ใครบางคนลงมือโจมตี

แต่ในขณะนั้นใบหน้าของเขาก็แข็งค้างด้วยความตกตะลึง เพราะกําปั้นสีทองของเย่ฟ่านพุ่งผ่านใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะสัมผัสกับแก้มเซียวอวิ๋นเฉิง

ปัง!

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และความว่างเปล่าด้านหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยวจากพลังหมัดที่น่าสะพรึงกลัว ทุกคนตกตะลึง ชายหนุ่มผู้นี้ก้าวร้าวเกินไปและการลงมือของเขาก็หยาบคายอย่างยิ่ง

ท้ายที่สุดเขาเป็นเพียงผู้ฝึกตนในอาณาจักรแปลงมังกร ดังนั้นการโจมตีบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้จึงเป็นการดูหมิ่นอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

สีหน้าของเซียวอวิ๋นเฉิงเปลี่ยนเป็นโกรธแค้นอย่างแสนสาหัส เขามีอายุหลายร้อยปีและไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเขาเช่นนี้มาก่อน

เขาใช้มือข้างหนึ่งปิดกั้นใบหน้าของตัวเอง แม้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะไม่ราบรื่นนัก แต่พลังความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขายังคงไม่แตกต่างจากสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อสูร

ในขณะนั้นเขาก็พุ่งทะยานเข้าหาเย่ฟ่านและต้องการฉีกเด็กน้อยคนนี้ออกจากกันเป็นหมื่นชิ้น

“บูม”

เย่ฟ่านกระแทกกำปั้นเข้าหาฝ่ายตรงข้ามโดยปราศจากความเกรงกลัว และทั้งคู่ก็ถอยหลังไปคนละสองสามก้าว

“เด็กคนนี้มีที่มาอย่างไร พลังกายที่บริสุทธิ์ของเขาสามารถต้านทานการโจมตีของผู้สูงสุดได้เชียวหรือ?”

ผู้คนที่ปรากฎตัวที่นี่ล้วนเป็นวีรบุรุษทั้งหมด แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่

เพราะสำหรับพวกเขาทักษะการบ่มเพาะร่างกายล้วนเป็นสิ่งที่ป่าเถื่อนและความจำเป็น

“เจ้าก็แค่ต้นหอมเท่านั้นแต่กลับคิดจะขับไล่ข้า มาดูกันว่าข้าจะหักแขนเจ้าได้สักข้างหรือไม่?” เย่ฟ่านกล่าวและวิ่งเข้าหาฝ่ายตรงข้ามอย่างไร้ความปราณี

ใบหน้าของเซียวอวิ๋นเฉิงซีดเผือด ทุกคนที่นี่ต่างก็มีพลังมหาศาล ต่อหน้าทุกคนเขาถูกคนตัวเล็กๆ ในอาณาจักรแปลงมังกรดูหมิ่นเหยียดหยาม มันจะทำให้เขาทนได้อย่างไร

“บูม”

แม้ว่าพลังศักดิ์สิทธิ์จะทำงานได้ไม่ราบรื่น แต่การตอบโต้ของเขายังคงทรงพลังอย่างยิ่ง แสงสว่างที่ลึกล้ำตรงหน้าเขาเป็นเหมือนแม่น้ำและทะเลที่ไหลเชี่ยว กฎต่างๆ ก็เริ่มพัวพันกัน

แม้แต่อาวุธต้องห้ามที่อยู่เหนือศีรษะของเขาก็ยังถูกฟาดฟันออกไปข้างหน้า

“ทุกคนเคลื่อนไหวตามข้า”

เย่ฟ่านส่งเสียงร้องเพื่อให้ทุกคนเดินอยู่ข้างหลังเขาและมันจะทำให้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น

“บูม”

เย่ฟ่านโจมตีเหมือนมังกรดุร้ายที่มีร่างกายเป็นมนุษย์ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาแทบจะทำให้ความว่างเปล่าถูกบดขยี้ ในขณะที่การโจมตีของเขาก็รุนแรงราวกับภูเขาถล่มลงมา

“บูม”

เซียวอวิ๋นเฉิงที่ปะทะกับเย่ฟ่านตรงๆไม่สามารถทนรับความแข็งแกร่งครั้งนี้ได้ แขนของเขาพับไปทางด้านหลังในขณะที่รูขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าอกของเขาเช่นกัน

“ปัง!”

เขาหวาดผวาถึงขีดสุด เย่ฟ่านดุร้ายเหมือนสัตว์ประหลาด เขาปลดปล่อยการโจมตีอย่างรุนแรงสองครั้งติดๆ กัน และผลกระทบนั้นยิ่งใหญ่และน่ากลัวมาก

“ทุกคนรีบตามมา!” เย่ฟ่านตะโกนและขอให้สหายทุกคนติดตามเขาไปอีกครั้ง

เย่ฟ่านประสานอินเพื่อปลดปล่อยผนึกขุนเขาก่อนจะผลักเข้าหาคู่ต่อสู้ที่อยู่ข้างหน้า

“ปัง”

คราวนี้เซียวอวิ๋นเฉิงรับการโจมตีได้ทัน แต่พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขาสามารถรีดเร้นออกมานั้นก็มีน้อยนิดจนน่าเวทนา กำปั้นของเย่ฟ่านพุ่งทะลุฟ้ามือเซียวอวิ๋นเฉิงก่อนจะบดขยี้ซี่โครงของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง

“อา...”

เซียวอวิ๋นเฉิงตะโกนและถอยกลับอย่างรวดเร็ว มือขวาของเขาหักสะบั้น ในขณะที่ซี่โครงแถบหนึ่งของเขาก็ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด

เย่ฟ่านยังคงวิ่งไปข้างหน้า และกำปั้นสีทองขนาดใหญ่ของเขาก็กระแทกเข้าหาเซียวอวิ๋นเฉิงราวกับพายุคลั่ง

“อุ๊บ!”

เลือดสาดกระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้า แขนขวาที่แตกหักของเซียวอวิ๋นเฉิงถูกฉีกออกจากร่างด้วยความโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด!

นี่คือร่างกายแบบไหนกัน? แม้แต่คนแข็งแกร่งอย่างปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถต่อสู้กับเขาตัวต่อตัวได้

ในขณะนั้นเย่ฟ่านได้เปลี่ยนมาใช้ทักษะลับแห่งสวรรค์พร้อมกับตบฝ่ามือออกไปอย่างรวดเร็ว

“ปัง!”

เซียวอวิ๋นเฉิงถูกฝ่ามือของเย่ฟ่านกระแทกเข้าที่ปาก ขากรรไกรล่างของเขาหัก เลือดของเขาสาดกระจายไปทั่ว แม้แต่ลิ้นของเขาก็ยังห้อยต่องแต่งน่าเวทนาอย่างยิ่ง

“เจ้าทำได้อย่างไร?”

ปอดของเซียวหยุนเฉิงกำลังจะระเบิดด้วยความโกรธ ในเวลานี้เขาพยายามหยิบอวัยวะที่แตกหักของเขาขึ้นมาต่อกลับด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด

เย่ฟ่านเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว สหายคนอื่นของเขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต้วนเต๋อถือชามแตกเดินอยู่ด้านหลังของเย่ฟ่านโดยพยายามไม่ให้เขาหลุดออกจากการปกป้องของชามแตกได้

“ปะ”

เย่ฟ่านตบด้วยหลังมืออีกครั้งยังคงเป็นทักษะลับของสวรรค์ซึ่งเต็มไปด้วยความลึกลับและป้องกันไม่ได้

เซียวอวิ๋นเฉิงอับอายอย่างมาก เขาถูกทุบตีซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนตอนนี้ร่างกายของเขาแทบจะไม่มีโอกาสยืนขึ้นด้วยซ้ำ

“ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง” เย่ฟ่านถามอย่างเย็นชา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด