(ฟรี) Dual Cultivation บทที่ 1005 ธุรกิจอายุสั้น
ซูหยางหัวเราะเบาๆ กับคำพูดของผู้อาวุโสนิกาย แล้วเขาก็พูดว่า “ถึงแม้ว่าข้าชอบคำพูดนั้น ข้าก็ไม่มีทางเข้าร่วมนิกายได้ในตอนนี้เพราะการสอบศิษย์จบไปแล้ว”
“ไม่ต้องกังวล มีวิธีอื่นในการเข้าสู่นิกายนอกเหนือจากการสอบศิษย์ ข้ารู้จักคนที่สามารถช่วยเจ้าเข้าสู่นิกาย ได้” นางกล่าว
“จริงรึ ใครกัน”
“ก่อนที่ข้าจะบอกเจ้า เจ้าจะสามารถเข้าร่วมนิกายได้เมื่อไหร่”
“ถ้าข้าสามารถเข้าร่วมได้ในวันนี้ ข้าจะทำเช่นนั้น”
ผู้อาวุโสนิกายพยักหน้าและนำเหรียญตราออกมา
“เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร” นางถามเขาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่ ข้าไม่รู้ มันคืออะไรงั้นรึ” ซูหยางทำเป็นโง่เขลา
แน่นอน เขารู้ว่าตรานั้นคืออะไร
“นี่คือสิ่งที่จะช่วยให้เจ้าเข้าสู่นิกายได้ ตราบใดที่เจ้ามีสิ่งนี้ เจ้าจะสามารถเข้าสู่นิกายได้ตลอดเวลาที่เจ้าต้องการ อย่างไรก็ตาม ตราเหล่านี้ไม่ได้แจกง่ายๆ ดังนั้นมันจึงมีค่ามาก”
“ข้าสามารถมอบตรานี้ให้กับเจ้าได้ แต่ข้าจะได้อะไรตอบแทนหรือไม่ ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว การได้รับตรานี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มีผู้คนมากมายที่ยินดีจ่ายเป็นจำนวนมหาศาลให้กับตรานี้ด้วยเช่นกัน”
ซูหยางครุ่นคิดและพูดว่า “น่าเสียดาย ข้าไม่ได้มีอะไรที่มีค่าในตัวข้าเลย… เจ้าต้องการเหรียญแห่งความสุขของข้าหรือไม่ ข้าไม่ต้องการมันอีกต่อไปเมื่อข้าออกจากที่นี่แล้ว”
“ข้าก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากมันได้เหมือนกัน ดังนั้นข้าก็จึงไม่ต้องการมัน”
“เช่นนั้นมีอะไรเฉพาะเจาะจงที่เจ้าต้องการหรือไม่”
ผู้อาวุโสนิกายยิ้มและพูดว่า “ข้าต้องการคู่ร่วมฝึก คนที่ทำให้ข้าพอใจได้เป็นเวลานาน”
ซูหยางเลิกคิ้วขึ้นและถามว่า “น่าจะมีผู้คนมากมายในนิกายหยินหยางไร้ขอบเขตที่สามารถช่วยเจ้าได้ ไม่ใช่หรือ”
"แน่นอน มีมากมาย และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้อาวุโสนิกาย แต่ข้าเป็นคนที่ชอบผู้ชายที่อายุน้อยกว่า มีบางอย่างที่น่าตื่นเต้นมากกว่าในการฝึกยุทธ์กับคนที่อายุน้อยกว่า เจ้ารู้หรือไม่” ผู้อาวุโสนิกายหัวเราะหึหึ
ซูหยางพูดไม่ออกกับคำพูดของนางและไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร
จากนั้นนางก็ชี้มาที่เขาและพูดว่า “แม้ว่าเจ้าจะมีความสามารถมากในตอนนี้ แต่เจ้ายังไม่ถึงระดับที่ข้าต้องการ ดังนั้นข้าต้องการเจ้าให้ฝึกฝนอย่างเหมาะสมในนิกายก่อนและค่อยมาเยี่ยมข้าอีกในอนาคตเมื่อเจ้าดีพอแล้ว”
“ถ้าเจ้าไม่แสดงความก้าวหน้าใดๆ หรือกลายเป็นคนเกียจคร้าน ข้ามีสิทธิ์ที่จะถอดเจ้าออกจากนิกายเนื่องจากข้าเป็นคนนำเจ้าเข้าไปในนิกายตั้งแต่แรก”
ซูหยางพยักหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง เมื่อข้ามีความสามารถเพียงพอ ข้าจะเอาอกเอาใจเจ้าตราบเท่าที่เจ้าต้องการ”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการได้ยิน” ผู้อาวุโสนิกายยิ้มและยื่นเหรียญตราให้เขา
“พี่สาว เจ้าชื่ออะไร” จากนั้นซูหยางก็ถาม
“เรียกข้าว่าศิษย์ชูเถอะ” นางพูด ยังไม่ได้วางแผนที่จะเปิดเผยตัวตนของนางในฐานะผู้อาวุโสนิกายด้วยเหตุผลบางประการ
“ตกลง ศิษย์ชู”
“เช่นนั้นข้าจะพบเจ้าที่นิกาย ศิษย์เซี่ยว” นางโบกมือลาเขาก่อนจะจากไป
หลังจากที่ผู้อาวุโสนิกายจากไปแล้ว ซิงอ้ายหยิงก็เข้าไปในห้องแล้วถามเขา “ผลเป็นอย่างไรบ้าง”
ซูหยางแสดงตราในมือของเขาพร้อมกับหน้าตายิ้มแย้ม “ข้าจะเป็นศิษย์ของนิกายหยินหยางไร้ขอบเขตนับตั้งแต่วันนี้…”
“เราจะออกจากที่นี่เมื่อไหร่” จากนั้นนางก็ถาม
"คืนนี้"
“ลูกค้าของเจ้าจะต้องเสียใจ โดยเฉพาะผู้ที่รอคอยมาระยะหนึ่งแล้ว”
ซูหยางส่ายหน้าแล้วพูดว่า “น่าเสียดาย ข้าไม่มีเวลาทำให้ทุกคนพอใจ แม้ว่าข้าจะทำงานทั้งวันไปถึงปีหน้า แถวนอกอาคารของข้าจะไม่สั้นลง และข้าไม่ได้ตั้งใจจะอยู่ที่นี่ตลอดไป”
“แล้วสองคนนั้นล่ะ”
“ข้าจะพูดกับพวกนางหลังจากนั้น”
เวลาต่อมาหลังจากนั้น ซูหยางก็ปรากฏตัวที่โต๊ะแผนกต้อนรับ
“ผู้จัดการ เจ้าพร้อมสำหรับลูกค้าหรือยัง” เม่ยซิงถามเขา ไม่รู้เลยว่าธุรกิจกำลังจะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้
“ไม่ เรากำลังปิดร้านตอนนี้” เขาพูด ทำให้นางงงงัน
“วันนี้เราจะปิดทำการแล้วงั้นรึ เจ้าไม่สบายงั้นรึ” เม่ยซิงถามเขาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ยังคงไม่รู้ถึงสถานการณ์
“ข้าจะอธิบายหลังจากนั้น”
จากนั้นซูหยางก็เดินออกไปข้างนอกและพูดกับลูกค้าที่รออยู่ข้างนอกว่า “มันค่อนข้างกะทันหัน แต่นวดขั้นเทพจะไม่ทำธุรกิจต่อไปแล้ว ขออภัยในความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้น”
“หือ”
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าไม่เข้าใจคำพูดของเขาในตอนแรก และจ้องมาที่เขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ม-ไม่ทำธุรกิจต่อไปแล้ว… หรือว่าจะปิดร้าน…” หนึ่งในพวกนางพลันถาม
"ถูกตัอง" ซูหยางพยักหน้า
"อะไร ช่างกะทันหันเกินไป ทำไมเจ้าจึงพลังปิดกิจการทั้งๆ ที่มันทำได้ดีมาก” ลูกค้าสับสนและตกใจในเวลาเดียวกัน
“เจ้าช่วยคิดทบทวนใหม่ได้หรือไม่ หากมีอะไรรบกวนเจ้า พวกเราช่วยได้”
ซูหยางส่ายหน้า “ข้าขอโทษ แต่ข้าตัดสินใจไปแล้ว”
“อย่างน้อยเจ้าบอกเราได้หรือไม่ว่าทำไมถึงเกิดอะไรเช่นนี้ขึ้น” อีกคนถาม
“บอกความจริงกับพวกเจ้า ข้าทำธุรกิจนี้เพียงเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอบางอย่าง ตอนนี้ข้าไม่ต้องรออีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาที่ข้าออกเดินทางแล้ว นั่นคือทั้งหมด”
ซูหยางกลับเข้าไปในอาคารหลังจากพูดถ้อยคำเหล่านั้นแล้ว ปล่อยให้ผู้คนข้างนอกพูดไม่ออก
“ผ-ผู้จัดการ … จริงหรือไม่ เจ้าจะปิดธุรกิจนี้จริงๆ งั้นรึ” เม่ยซิงมองมาที่เขาด้วยสีหน้างุนงง ขณะที่นางไม่แน่ใจว่าจะแสดงอารมณ์นับอนันต์ที่นางรู้สึกในขณะนี้ได้อย่างไร
แม้ว่านางจะรู้ว่าในที่สุดเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นในเมื่อซูหยางเคยพูดกับนางมาก่อน แต่นางไม่คาดหวังว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้
“ใช่ ข้ากำลังจะปิดร้านนี้ตั้งแต่วันนี้” ซูหยางพยักหน้า
น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้มเม่ยซิงทันที ในเมื่อนี่อาจหมายถึงการสิ้นสุดความสัมพันธ์ที่เพิ่งเริ่มต้น