ตอนที่ 77 ทุกคนพากันยกย่อง
ในเวลาเดียวกัน.
ทั่วแผ่นดินเสินเซี่ยต่างมีเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือชนบท
ในห้องพยาบาล
พ่อวัยกลางคนจับมือลูกสาวที่นอนบนเตียงของโรงพยาบาล เขาร้องไห้อย่างขมขื่นและพูดด้วยความเศร้า “พ่อขอโทษ พ่อขอโทษ พ่อมันไม่ได้เรื่องเอง...”
“ต้องใช้เงินหนึ่งล้านถึงจะรักษาได้ พ่อเอาของทุกอย่างไปขายแล้วแต่ก็มีเงินแค่178,000...”
พ่อวัยกลางคนไม่เข้าใจ แค่สกิล‘ล้างสถานะผิดปกติ’ง่ายๆทำไมต้องใช้เงินเป็นล้านด้วย?
เขาพยายามหาผู้เล่นที่มีสกิลประเภทนี้ แต่ผู้เล่นที่มีสกิลประเภทนี้มีน้อยและหาตัวได้ยากมาก พอเจอคนที่มีสกิลนี้เขากลับบอกว่าต้องการเงินหนึ่งล้านเพื่อเป็นค่ารักษา
พ่อวัยกลางคนมองลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียง ตอนนี้ผมของเธอล่วงหมดแล้ว ใบหน้าของเธอซีดเหมือนดอกไม้ที่กำลังจะเหี่ยวเฉา
เมื่อเธอมองเขา เธอก็ส่งยิ้มน้อยๆที่ไม่เต็มให้
หมอฟาง Cai ได้เปิดเผยสถานการณ์ต่อผู้เป็นพ่ออย่างเป็นความลับ: ไม่มีทางอื่นนอกจากใช้สกิลของผู้เล่น การแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถช่วยเธอได้
เวลาเหลือน้อยแล้ว ควรใช้มันอย่างคุ้มค่า
ในขณะพ่อวัยกลางคนกำลังเศร้า ญาติและสมาชิกในครอบครัวของคนไข้เตียงด้านข้างก็ตะโกนอย่างตื่นเต้น “รอดแล้ว รอดแล้ว!”
“พี่ชายฉันรอดแล้ว!”
พ่อวัยกลางคนเห็นสมาชิกในครอบครัวของเตียงด้านข้างกำลังดูโทรศัพท์และพูดอย่างตื่นเต้น “มีคนบริจาคป้ายหินโบราณ ตราบใดที่หยดเลือดลงบนป้ายหินและตายอย่างไม่เป็นธรรมชาติ คนที่หยดเหลือจะฟื้นคืนชีพได้หนึ่งครั้ง!”
“และฟื้นคืนชีพด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ที่สุด!”
“หมายความว่าโรคที่อยู่น่างกายจะหายไปด้วย?” ญาติอีกคนหนึ่งถามอย่างรีบร้อน
“ใช่!”
พลังพูดเสร็จเขาก็รีบให้ญาติลงมือทันที “เร็วเข้า! เอาเลือดพี่ชายมาหลอดหนึ่ง เดี๋ยวฉันเอาไปหยดที่ป้ายหินเอง!”
ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังเร่งรีบ พ่อวัยกลางคนที่เห็นเรื่องราวทั้งหมดก็รีบเข้าไปถามทันที
และเมื่อเขาไปตรวจสอบเรื่องนี้ในฟอรัมด้วยตัวเอง พ่อวัยกลางคนจึงร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี เขาก้มหน้าพูดเสียงเบาทั้งน้ำตา “ดีจริงๆ....ดีจริงๆ...”
เขาเช็ดน้ำตาและวิ่งไปข้างเตียงของลูกสาวอย่างตื่นเต้นเพื่อบอกข่าวดีแก่เธอ
เขาจับมือเล็กๆซีดขาวของเธอและพูดอย่างหนักแน่นว่า “พ่อจะให้หมอมาเจอะเลือดลูกแล้วเอาไปหยดที่ป้ายหิน…”
ที่ตั้งของป้ายหินวิญญาณปกป้องชั่วนิรันดร์ยังไม่ได้รับการจัดเตรียม
แต่เมื่อมีการประกาศออกมา เหล่าผู้คนจึงเข้าไปโหวตกันอย่างล้นหลาม
ตำแหน่งในการตั้งของป้ายหินจะถูกกำหนดในไม่ช้า
“พอฟื้นคืนชีพแล้วลูกจะได้เป็นหญิงสาวสุขภาพแข็งแรง มีอนาคตสดใสไร้ขีดจำกัด...”
“ลูกต้องจำไว้นะว่าคนที่ชื่อ‘ศูนย์หนึ่ง’เป็นคนช่วยลูก...”
ในทุกมุมของแผ่นดินเสินเซี่ย
เหตุการณ์ที่คล้ายแบบนี้เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน
ผ่านไปไม่นาน
ชื่อ‘ศูนย์หนึ่ง’บนฟอรัมกลายเป็นที่รู้จักของทุกครอบครัว
และผู้คนเกือบทั้งหมดต่างยกย่องเขา
“จากนี้ไปศูนย์หนึ่งจะเป็นไอดอลของฉัน!”
“ฉันเคยเกลียดผู้เล่นเพราะพวกเขานำความวุ่นวายมาสู่โลกและไม่ช่วยคนธรรมดาอย่างพวกเรา แต่ตอนนี้ความคิดนั้นถูกลบออกไปจากหัวแล้ว...”
“ฉันจะจำชื่อของคนคนนี้ไปตลอดชีวิต เพราะเขาเป็นคนมอบชีวิตที่สองให้ฉัน!”
“ฉันเพิ่งตรวจสอบข้อมูลและพบว่าสูตรผสมแหวนมรกตที่‘ศูนย์หนึ่ง’ให้พันธมิตรสมบัติเป็นสมบัติประเภทป้องกัน ไอเทมชิ้นนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการเอาตัวรอดของผู้เล่นเสินเซี่ยได้เยอะมาก!”
“ไม่รู้ว่าป้ายหินวิญญาณปกป้องชั่วนิรันดรนี้สามารถช่วยชีวิตได้กี่คน แต่คงพูดเรื่องนี้ไม่ได้เลยถ้าไม่มีฮีโร่ไร้นามอย่างเขา!!”
“หลังจากนี้ลูกหลานของเราจะมีชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งชีวิต ไอเทมที่ยิ่งใหญ่ของประเทศต้องได้รับการปกป้อง!”
“ชื่อของพี่ใหญ่ศูนย์หนึ่งจะถูกส่งไปรุ่นสู่รุ่นพร้อมกับป้ายหินวิญญาณปกป้องชั่วนิรันดร์นี้”
“….”
แน่นอนว่านอกจากคนยกย่องแล้ว ต้องมีคนที่พูดไม่เหมาะสมเช่นกัน
คนพวกนี้ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองและ‘แสดงพลัง’ในฟอรัมที่ไม่มีใครหาตัวจริงของพวกเขาได้
“ก็แค่เรื่องบังเอิญไม่ใช่หรือไง ถ้าได้มาฉันก็บริจาคเหมือนกัน ต้องยกย่องขนาดนั้นเลย?”
“ทำไมถึงมีแค่พวกเราชาวเสินเซี่ยที่ได้ใช้ เป็นคนใจแคบจริงๆ”
“บทละครที่คุ้นเคย ขั้นต่อไปคือเรียกเก็บเงินเหมือนประเทศไป๋อิง ศูนย์หนึ่งอะไร? เขาก็แค่นั้นแหละ”
สายตาของมวลชนกลายเป็นแหลมคม
คำพูดไม่เหมาะสมเหล่านี้ได้รับต่อว่าจากผู้อื่นอย่างรวดเร็ว
แต่บรรดาคนที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของศูนย์หนึ่งและผู้เล่นต่างชาติส่วนใหญ่ล้วนชอบความคิดเห็นพวกนี้
พวกเขาไม่สนใจว่ามันจะส่งผลอย่างไร แต่ถ้ามันเป็นคำพูดไม่ดีสำหรับคนอื่นพวกเขาล้วนชอบมัน
——นี่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการชั่วร้ายด้วยการใช้หน้ากาก‘ความยุติธรรม’
......
เวลาแปดโมงเช้า
หลิงอี้ดึงเก้าอี้ไปนั่งรับลมข้างหน้าต่าง
ด้านหน้าเขาเป็นหน้าจอสนทนา
[ไนติงเกลร้องเพลง : ศูนย์หนึ่งที่ออกข่าวคือนายเหรอ?(✪ω✪)]
[ศูนย์หนึ่ง:ใช่ ]
[ไนติงเกลร้องเพลง : เอิ่ม...ฮ่าฮ่าฮ่า]
อีกฝ่ายตอบมาแบบนี้
เธอคงคิดว่าเขาพูดเล่นด้วย
ซึ่งเขารู้เหตุผลนั้นดี
เขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มพูด‘ศูนย์หนึ่งเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกของ20ปีก่อน เขามีเลเวลประมาณ80-90’จนทำให้คนจำนวนมากคิดว่าเป็นแบบนั้นและพูดกันปากต่อปาก
เขาจะออกไปบอกความจริงก็ได้แต่เขาไม่ทำ
เพราะเขามีเพื่อนชื่อ‘หลินชิงอวี่’
เธอคนนั้นรู้ว่าเขาอยู่ในเขต66 รู้ว่าเขาอยู่ในเมืองเชียนเจียง และได้เห็นใบหน้าแท้จริงของเขาด้วย
คงลำบากน่าดูถ้าไปบอกเธอว่า‘ศูนย์หนึ่ง’ที่โด่งดังไปทั่วโลกคือ‘ศูนย์หนึ่ง’ที่เป็นเพื่อนของเธอ
‘หลินชิงอวี่ ต้องกำจัดเธอทิ้งไหมนะ...'
แม้ว่าเป็นเรื่องตลกแต่หลิงอี้ก็รู้ดี
เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาให้คนอื่นรู้ว่าศูนย์หนึ่ง’คนไหนคือศูนย์หนึ่ง’ตัวจริง
ถ้าต้องการเปิดเผยเมื่อไหร่ เขาจะเป็นคนบอกเอง
ส่วนเสินเซี่ยและพันธมิตรเสินจะแทงหลังเขาได้ไหมน่ะเหรอ?
คำตอบคือทำไม่ได้แน่นอน
เพราะเสินลู่ไม่มีฟังก์ชัน‘@’(แท็กชื่อ)
พูดได้ว่าชื่อช่องสนทนาคือศูนย์หนึ่ง แต่พวกเขาไม่สามารถชี้ให้คนอื่นเห็นได้
ตอนนี้มีแค่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะระบุตัวเขาได้
นั่นคือการห้อย‘สกิล10ดาว’ไว้บนบัญชีของฟอรัม
คนทั้งโลกรู้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่มีพลังอันยิ่งใหญ่นี้
สิ่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนที่ดีที่สุด!
ขณะที่หลิงอี้กำลังคิดฟุ้งว่าน อีกฝ่ายก็ส่งข้อความอีก
[ไนติงเกลร้องเพลง : ใช่แล้ว คนนี้มีงานเลี้ยงสำหรับผู้สนับสนุนที่เลเวลต่ำกว่า30 นายอยากมาร่วมงานไหม?]