ตอนที่ 200 ส่วนแบ่ง 2,700 ล้าน
"เชิญค่ะคุณซู"
หวางหมันหยูได้ยื่นหนังสือสัญญาให้ซูข่าน
ซูข่านรับสัญญามาก่อนอ่านเล็กน้อยและมอบให้กับหลู่เฉียนซานบางฉบับ จากนั้นเขาก็วางสัญญาที่เหลือลงบนโต๊ะ
"ผู้จัดการหวางคะ ฟิวเจอร์น้ำมันของคุณได้ขายตอนที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 33 ดอลล่าห์ใช่ไหมคะ?"
หลู่เฉียนซานเปิดอ่านสัญญาและถามกับหวางหมันหยู
"ใช่ค่ะ"
หวางหมันหยูพยักหน้า
"ราคาได้เพิ่มสองขึ้นจากเดิม 2 เท่า"
"งั้นเหรอคะ"
หลู่เฉียนซานถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ และอ่านบรรทัดต่อไปของสัญญาแล้วก็พูดต่อ
"ตามข้อตกลงนี้ เงินที่ทางบริษัทว่านเซี่ยงจะได้รับก็คือ 60% ของกำไรทั้งหมด"
หวางหมันหยูหรี่ตาลงและมองไปที่ซูข่าน ก่อนจะพยักหน้าและพูดว่า
"ใช่ค่ะ ตามข้อตกลงระหว่างคุณซูและฉัน ทางบริษัทว่านเซี่ยงจะได้รับ 60% ของกำไรที่ทาง HSBC ได้ขายฟิวเจอร์น้ำมันไปค่ะ"
หวางหมันหยูดพูดจบเธอก็ถอนหายใจออกมา เธอไม่คิดว่าข้อตกลงนี้มันจะเกิดขึ้นได้จริง
คุณซูเป็นคนวางแผนระยะยาวจริงๆ เขาไม่ได้มองเพียงเดือนเดียวหรือสองเดือนเท่านั้น
หลังจากที่ราคาน้ำมันได้สูงขึ้นในช่วงเดือนนี้ เราได้แบ่งขายออกไปก่อนแล้วก้อนหนึ่ง และขายอีกก้อนหนึ่งตามคำแนะนำของคุณซู
ด้วยวิธีการนี้คุณซูจะได้เงินถึง 60% และทาง HSBC จะได้เพียง 40% เท่านั้น
แต่ถ้าหากว่าไม่มีซูข่านพวกเขาก็จะทำกำไรได้เพียง 20 % ของเงินลงทุนเท่านั้น
โชคดีที่ได้ร่วมมือกับคุณซู ทาง HSBC เลยสามารถทำเงินได้เยอะกว่าแผนเดิมมหาศาล
ซูข่านหัวเราะเบาๆและพูดด้วยรอยยิ้ม
"ทาง HSBC ได้กำไรจากฟิวเจอร์น้ำมันครั้งนี้ 4,500 ล้าน"
"60% ของกำไรหมายความว่าพวกเราได้สูงถึง 2,700 ล้าน ใช่ไหมครับผู้จัดการหวาง?"
นี่น่าจะเป็นส่วนแบ่งที่ทาง HSBC ได้ให้กับคนอื่นเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว ตอนแรกพวกเขาคงไม่คิดว่าส่วนแบ่งจะเกิน 300 ล้านหรอก
และ 300 ล้านหากแบ่งให้กับซูข่านคงไม่มากเกินไป ทาง HSBC เลยรีบเซ็นสัญญากับซูข่านอย่างรวดเร็วหลังโดนหลอกล่อข้อเสนอไป
"ใช่ค่ะ"
หวางหมันหยูตอบเสร็จก็สูดหายใจเข้าเต็มปอดของเธอ คุณซูได้กำไร 2,700 ล้าน ทาง HSBC ได้เพียง 1,800 ล้านเท่านั้น ส่วนต่างห่างกันตั้ง 900 ล้าน เกินกว่าที่เธอคำนวนไว้ตอนแรกถึง 600 ล้าน
นี่คือเงินที่ได้จาก HSBC ทางซูข่านไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินจากจุดนี้ตั้งแต่แรก แต่การวางอุบายหลอกล่อให้ทาง HSBC ติดกับทำให้ซูข่านได้รับเงินเยอะกว่าเดิม
แต่ยังไงทางบริษัทว่านเซี่ยงของซูข่านก็ต้องใช้ธนาคาร HSBC อยู่แล้ว พวกเขาต้องกู้เงินและเลเวอเรจอีก ไม่อย่างงั้นพวกเขาก็ไม่สามารถมีเงินไปซื้อฟิวเจอร์น้ำมันได้มากขนาดนั้น
หวางหมันหยูได้หยิบสัญญาเลเวอเรจและเงินกู้ออกมา ซึ่งทั้งสองได้ลงนามของจางหม่าน ประธานบริษัทว่านเซี่ยงไว้เรียบร้อยแล้ว นี่ถือเป็นสัญญาที่เป็นทางการของบริษัทว่านเซี่ยง กรุ๊ป
"บริษัทว่านเซี่ยงต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยในครั้งนี้ 2,100 ล้าน หากว่าชำระเสร็จสิ้น สัญญาทั้งหมดของบริษัทว่านเซี่ยงกับ HSBC ก็จะถือเป็นที่สิ้นสุดทั้งหมดค่ะ"
"เฉียนซาน"
ซูข่านยิ้มและมองไปที่หลู่เฉียนซาน
"เธอไปจัดการเรื่องนี้กับผู้จัดการหวางที เคลียร์ทุกอย่างให้หมด"
"ค่ะเจ้านาย"
หลู่เฉียนซานพยักหน้า
หวางหมันหยูที่มองอยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนผู้หญิงที่เย็นชาคนนี้จะเป็นพนักงานของบริษัทว่านเซี่ยงจริงๆ
"เชิญค่ะ"
หวางหมันหยูยืนขึ้นและเดินนำหลู่เฉียนซานออกไป ตอนนี้หลู่เฉียนซานเป็นรองประธานของบริษัทว่านเซี่ยง
เธอก็มีสิทธิในการชำระหนี้ของบริษัทเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว ซูข่านยังได้มอบสิทธิธุรกรรมอื่นๆให้กับเธออีก ไม่อย่างงั้นภาระมันจะตกไปอยู่กับจางหม่านมากเกินไป
ไม่นานประมาณ 20 นาที หวางหมันหยูก็ได้กลับมาพร้อมกับหลู่เฉียนซาน
"เรียบร้อยค่ะ"
หลู่เฉียนซานพูดกับซูข่าน เธอได้ยื่นเอกสารในมือบางส่วนให้กับซูข่าน ซูข่านอ่านอย่างคร่าวๆ เขาเช็คตัวเลข ชื่อ และตราประทับ
ซูข่านพยักหน้าให้กับหลู่เฉียนซาน และหันไปพูดกับหวางหมันหยู
"เรียบร้อยแล้ว งั้นพวกผมขอตัวก่อนนะครับ"
"คุณซูรีบกลับจังเลยนะคะ"
หวางหมันหยูดูตกใจเล็กน้อย เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลต่อว่า
"ธุรกิจของพวกเราเพิ่งจบไปก็จริงแต่คุณซูก็ไม่ต้องรีบกลับนั้นก็ได้นะคะ ทางคุณซูสามารถทำเงินได้มหาศาลให้กับ HSBC เพราะฉะนั้นแล้ว คืนนี้ไปฉลองกันเถอะค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ"
ซูข่านส่ายหัวและพูดต่อ
"ผมไม่มีเวลาขนาดนั้น เดี๋ยวผมจะเดินทางกลับอีกฝั่งแล้วครับ"
"อะไรนะคะ"
เขาจะกลับอีกฝั่งแล้วอย่างงั้นเหรอ?
ได้ข่าวว่าเขาเพิ่งมาอยู่ได้เพียงครึ่งเดือนไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมเขาถึงรีบร้อนกลับอย่างนี้?
ยิ่งไปกว่านั้นหวางหมันหยูได้ออกตัวแรงในการเชิญซูข่านไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่ซูข่านได้ปฏิเสธเธออย่างรวดเร็ว
หวางหมันหยูรู้สึกอับอายจนอยากจะมุดดินหนีไปในตอนนี้
"ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ ผมจากฝั่งนู้นมานานเกินไป ถ้าผู้จัดการหวางได้จ่ายค่าจองไปแล้วเดี๋ยวผมจัดการให้เองครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"
หวางหมันหยูพูดพร้อมด้วยรอยยิ้ม แต่ซูข่านรู้ได้เลยว่ารอยยิ้มนั้นไม่ได้ออกมาจากใจของเธอ
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันหลังจากที่เห็นซูข่านปฏิเสธคำเชิญของหวางหมันหยู หลู่เฉียนซานรู้สึกมีความสุขเล็กน้อย ใบหน้าที่เย็นชาของเธอมีรอยยิ้มที่มุมปากจางๆ
จากนั้นซูข่านและหลู่เฉียนซานก็ได้เดินออกจาก HSBC การร่วมมือของบริษัทว่านเซี่ยงกับ HSBC ได้จบสิ้นหมดแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีอะไรจำเป็นต้องร่วมมือกันอีก
มีเรื่องเดียวที่กำลังทำอยู่ตอนนี้แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ HSBC ก็ได้
ไม่อย่างงั้นละก็ มันจะสร้างชื่อเสียงอย่างมากให้กับซูข่าน ตอนนี้ซูข่านยังไม่ได้ต้องการชื่อเสียงขนาดนั้น
ทันใดนั้นเองเสียงที่นุ่มนวลของหลู่เฉียนซานก็ได้ปลุกความคิดของซูข่านให้หลุดออกจากภวังค์ เธอได้มองไปที่ซูข่านและพูดช้าๆ
"เจ้านายคะ?"
ซูข่านส่ายหัวและพูดอย่างรวดเร็ว
"อืม ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับไปแล้ว"
"เอ๊ะ"
หลู่เฉียนซานคิดว่าเจ้านายกุเรื่องขึ้นมาเพื่อปฏิเสธการไปกินข้าวกับผู้จัดการหวางซะอีก นี่เจ้านายต้องการจะกลับจริงๆงั้นเหรอ?