ตอนที่ 199 สงครามระหว่างสตรี
บุคคลที่ต้องรับผิดชอบในบริษัทการลงทุนแบบนี้ต้องเป็นคนที่มีทักษะพอสมควร ถึงบริษัทจะยังไม่ได้ตั้งขึ้นมาอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อมีโอกาสซูข่านก็ต้องการจะลงทุนบริษัทประเภทนี้
"ได้ค่ะ"
หลู่เฉียนซานพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ซูข่านยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า
"มีอีกอย่างทีเธอต้องทำ"
"วันจันทร์หน้า เธอเตรียมตัวไป HSBC กับฉันด้วย"
"ได้ค่ะ"
หลู่เฉียนซานพยักหน้า
หลังจากนั้นซูข่านก็ได้พูดคุยกับหลู่เฉียนซานต่ออีกเล็กน้อย จากนั้นซูข่านและพวกซงหมิงเจียงก็ได้เดินทางกลับโรงแรม หลู่เฉียนซานได้ขับรถคันใหม่ไปส่งซูข่านเองกับมือ
หลังจากทำกำไรจากมาก บริษัทว่านเซี่ยงได้ซื้อรถยนต์ยุโรปเพิมอีกหลายคัน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบรนด์ BMW เมอร์เซเดส-เบนซ์
หากว่าไม่ใช่รถยุโรป มันจะไม่เหมาะสมกับเงินที่บริษัทว่านเซี่ยงทำได้สักเท่าไหร่
เวลาผ่านไปเร็วอย่างกับอ่านนิยาย วันจันทร์ได้มาถึงเพียงแค่ไม่กี่คำ
หลังจากที่ฟิวเจอร์น้ำมันขายหมดแล้ว ไม่กี่วันต่อมาก็จะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พนักงานของ HSBC ไม่ทำงานในวันหยุดอยู่แล้ว
เหตุการณ์จึงได้เกิดขึ้นในวันจันทร์
ตอนเช้าตรู่ หลู่เฉียนซานได้ขับรถไปรับซูข่านถึงที่โรงแรม หลังจากซูข่านรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็เดินไปที่หน้าโรงแรม หลู่เฉียนซานได้จอดรถรอเขาอยู่
"รถคันเดิมนิ?"
ซูข่านมองไปที่รถแล้วก็แซวด้วยรอยยิ้ม
"มันยังสบายอยู่เลยค่ะ และอีกอย่างฉันชอบรถคันนี้ด้วย"
หลู่เฉียนซานยิ้มเล็กน้อย ซูข่านเห็นว่าใบหน้าที่เย็นชาของเธอมีรอยยิ้มอีกแล้ว
ซูข่านพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ นอกจากเงินเดือน 2 เท่าและโบนัสที่พนักงานได้รับแล้ว ซูข่านได้ให้โบนัสกับหลู่เฉียนซานเป็นพิเศษ รางวัลของเธอคล้ายกับจางหม่าน
เงินเพียงไม่กี่ล้านก็สามารถเปลี่ยนรถออดี้ของเธอให้กลายเป็นรถอีกระดับหนึ่งที่หรูกว่าเดิมได้ แต่น่าเสียดายที่หลู่เฉียนซานไม่ได้คนประเภทชอบเปลี่ยนรถบ่อยๆ
เธอยังคงขับออดี้ของเธอต่อ
หลู่เฉียนซานได้ขับรถอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยัง HSBC ไม่นานประมาณ 20 นาทีทั้งสองคนก็ได้มาถึง HSBC
หลู่เฉียนซานขับรถของเธอไปจอดที่ลานจอดรถ จากนั้นเธอและซูข่านก็ได้เดินมาที่ประตูของ HSBC
ซูข่านเข้าประตูมาก็เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย เป็นบุคคลที่เขาเคยร่วมงานกันตอนที่มาซื้อหุ้นครั้งแรก
เจิงเจียนเย่ เขาได้มารอซูข่านอยู่ที่หน้าประตู
วันนี้ซูข่านมีนัดกับหวางหมันหยู ไม่แปลกใจที่ทางเจิงเจียนเย่จะมาดักรอเขาอยู่ที่ล็อบบี้ธนาคาร
"คุณซูครับ"
เมื่อเห็นซูข่านเดินเข้ามา เจิงเจียนเย่รีบลุกขึ้นยืนและก้มหัวเล็กน้อย
"เจีงเจียนเย่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ"
ซูข่านพยักหน้าและกล่าวทักทาย เจิงเจียนเย่ได้นำทางซูข่านไปยังห้องทำงานของหวางหมันหยูทันที
เขาพาซูข่านเดินเข้าไปสำนักงานใหญ่มาถึงห้องของหวางหมันหยูดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เคาะที่ประตู
"ก็อกๆๆ"
"ผู้จัดการหวางครับ คุณซูมาแล้วครับ"
เจิงเจียงเย่พูดผ่านประตูจากนั้นเขาก็เปิดประตูให้กับซูข่าน
ซูข่านเดินเข้าห้องไป เขาเห็นหวางหมันหยูยืนรอเขาอยู่ ตัวเธอยังดูสูงเหมือนเดิม เสื้อผ้าของเธอดูบางกว่าปกติเล็กน้อย การแต่งหน้าก็เข้ากันได้ดีกับเสื้อผ้าของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะแต่งตัวสวยเป็นพิเศษในวันนี้
"คุณซูคะ"
เมื่อเห็นซูข่าน หวางหมันหยูก็ดูอารมณ์ดีขึ้นมาทันที สายตาของเธอดูตื่นเต้นกว่าปกติเล็กน้อย แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เมื่อเธอเห็นหลู่เฉียนซานเดินตามซูข่าน สีหน้าของหวางหมันหยูก็เปลี่ยนไปทันที
เธอเห็นหลู่เฉียนซานมีใบหน้าที่สวยงามไม่แพ้เธอ ใบหน้าของเธอดูเย็นชาอย่างบอกไม่ถูก มันทำให้เพิ่มเสน่ห์ให้เธอไม่น้อย
สายตาของหวางหมันหยูมองไปที่ซูข่านด้วยสายตาแปลกๆ
"ผู้จัดการหวางครับ"
ซูข่านตะลึง เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ เมื่อสักครู่เธอยังมีสีหน้าที่เป็นมิตรอยู่เลย ทำไมอยู่ดีๆถึงเปลี่ยนไปคนละคนเฉย
"ไม่ทราบว่าใครเหรอคะ?"
หวางหมันหยูมองผ่านไหล่ของซูข่านมาที่หลู่เฉียนซานและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร
ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่โทรหาฉันเลยแม้แต่วันเดียว แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครอีก?
หวางหมันหยูรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน เธอรู้สึกแบบนี้ทันทีที่เห็นหลู่เฉียนซาน
ซูข่านได้ยินน้ำเสียงของหวางหมันหยู เขาก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เขาก็เลยส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
"สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหลู่เฉียนซาน เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินของบริษัทว่านเซี่ยง กรุ๊ป"
หลู่เฉียนซานเองก็รู้สึกได้ความไม่เป็นมิตรที่แพร่กระจายออกมาจากผู้หญิงตรงหน้าเธอ
เธอไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่นิดเดียว เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาของเธอ พร้อมทั้งมองหน้าผู้หญิงตรงหน้า
เวลานี้เหมือนมีเปลวไฟอยู่ในห้องทำงานเล็กๆห้องนี้อยู่ เครื่องปรับอากาศก็เปิดอยู่แต่อุณภูมิภายในห้องดูร้อนผิดปกติ เจิงเจียนเย่ได้ปาดเหงื่อของเขาและพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
"ผู้จัดการหวางเชิญคุยกับคุณซูต่อได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมให้ใครสักคนมาเสิร์ฟชาให้"
ซูข่านหันหน้ามามองดูหลู่เฉียนซาน เกิดอะไรขึ้นกับหลู่เฉียนซานที่เย็นชา ทำไมสถานการณ์ตอนนี้ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เลย
"จางหม่านเดินทางไปประเทศน่ะ หลู่เฉียนซานตอนนี้เลยรักษาการณ์แทนไปก่อน เธอไม่ได้เป็นเพียงผู้จัดการแผนกการเงินแต่เธอยังเป็นรองประธานบริษัทด้วย"
ซูข่านอธิบายเพิ่มเติม
เมื่อได้ยินคำพูดของซูข่าน ดวงตาของหวางหมันหยูก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย สรุปว่าเธอได้เป็นคนจากบริษัทว่านเซี่ยงใช่ไหม?
แต่ก็ไม่ใช่ประธานบริษัทสักหน่อย?
เป็นแค่ผู้จัดการแผนการเงิน ตำแหน่งเดียวกับฉันเลย
คำโบราณเคยบอกเอาไว้ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
อย่างผู้หญิงคนนี้นับไปเสือด้วยไหมนะ?
"ทำไมกันคะ"
หวางหมันหยูเหลือบมองไปที่ซูข่านก่อนจะพูดว่า
"บริษัทนี้ไม่มีผู้ชายเลยเหรอคะ ทำไมมีแต่พนักงานผู้หญิงสวยๆอย่างเดียว"
"แต่อย่าสนใจฉันเลยค่ะ ฉันแซวเล่นเฉยๆ"
ทั้งจางหม่าน ทั้งหลู่เฉียนซาน ทำไมสองคนข้างกายเขาถึงเป็นผู้หญิงที่สวยขนาดนี้
ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่เชิญฉันไม่ดื่มกาแฟหรือชา ไม่แม้กระทั่งชวนไปกินข้าวในวันหยุดด้วยซ้ำ
หวางหมันหยูรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
"คุณซูคะ ผู้จัดการหลู่ เชิญนั่งค่ะ"
หวางหมันหยูรีบผ่อนคลายอารมณ์ที่มีต่อหลู่เฉียนซานลง เธอรีบพูดให้ทั้งสองคนนั่ง
จากนั้นซูข่านและหลู่เฉียนซานก็นั่งลงอย่างเรียบร้อย
ขณะซูข่านมองไปที่หวางหมันหยู ออร่าไม่เป็นมิตรจากตัวผู้จัดการหวางได้ลดลงเล็กน้อย เขาจึงรีบพูดเข้าประเด็น
"ผู้จัดการหวางครับ HSBC ขายฟิวเจอร์น้ำมันหมดแล้ว ผมสงสัยว่าผมจะได้กำไรอยู่ที่ประมาณกี่ % ครับ"
หวางหมันหยูได้เปลี่ยนตัวตนของเธอเข้าสู่สถานะทำงานทันที เธอรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า
"คุณซูคะพวกเราขายฟิวเจอร์น้ำมันหมด แล้วนี่คือเอกสารทั้งหมดค่ะ"
จากนั้นหวางหมันหยูก็เปิดแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะและหยิบเอกสาร 2-3 ฉบับออกมา
ซูข่านมองไปที่หลู่เฉียนซาน เธอพยักหน้าให้กับซูข่านและก็หยิบเอกสารมาจากกระเป๋าเธอเหมือนกัน
นี่เป็นสัญญาระหว่างทั้งสองฝ่าย อันหนึ่งเป็นสัญญาที่มีรายละเอียดเลเวอเรจและเงินกู้ ส่วนอีกหนึ่งเป็นสัญญาส่วนตัวของซูข่านกับ HSBC