ตอนที่แล้วตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 56 บุกป้อมวายุทมิฬ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 58 ยันต์ราชันสงคราม

ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 57 เหยียบย่ำป้อมวายุทมิฬ


ตำนานเทพปีศาจข้ามภพ บทที่ 57 เหยียบย่ำป้อมวายุทมิฬ

แปลโดย iPAT  

หน้าไม้ยิงลูกดอกพุ่งผ่านอากาศและเจาะทะลวงเกราะเหล็กเข้าไปในร่างของหลี่ฉิงซาน นั่นทำให้เขาหยุดเคลื่อนไหวทันที

ซ่งเซียงอู๋เย้ยหยัน “เจ้าคิดว่าตนเองมีคุณสมบัติที่จะสู้กับข้างั้นหรือ? สุดท้ายเจ้าก็ตายอย่างง่ายดายในลักษณะนี้!” เขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้รับหน้าไม้เหล่านี้มาไว้ในการครอบครอง นอกจากนั้นเขายังใช้เวลามากมายในการฝึกให้ลูกน้องของเขาใช้งานพวกมัน สิ่งนี้เป็นไพ่ตายที่แท้จริงของป้อมวายุทมิฬ

เขาทำความชั่วมามากเกินไป ผู้คนของเมืองชิงหยางต่างมองพวกเขาเป็นหอกข้างแคร่ ดังนั้นหากเขาไม่ระวังตัว พวกเขาคงไม่สามารถนอนหลับได้ในยามค่ำคืน กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับสูงก็อาจถึงวาระหากพวกเขาถูกลอบโจมตีด้วยหน้าไม้เหล่านี้

“แค่นี้?” หลี่ฉิงซานที่ควรตายไปแล้วเงยหน้าขึ้นและเปิดปากถาม หน้าไม้เจาะเกราะเหล็กแต่ไม่สามารถทะลวงร่างของเขา ในความเป็นจริงหากไม่ใช่เพราะเกราะเหล็กที่ช่วยลดพลังส่วนใหญ่ของลูกดอก เขาจะไม่สามารถปิดกั้นมัน อย่างไรก็ตามแม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง แต่เขายังต้องใช้เวลาฟื้นตัวค่อนข้างนาน หลังจากทั้งหมดธนูและหน้าไม้เป็นเครื่องจักรสังหารที่ใช้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญ

“ปกป้องหน้าไม้ บุกเข้าไป!” หัวหน้าลำดับที่สองออกคำสั่งเสียงดัง กลุ่มโจรพุ่งเข้าโจมตีหลี่ฉิงซานขณะที่โจรหน้าไม้รีบบรรจุกระสุนใหม่ หน้าไม้ใช้งานง่ายแต่มันไม่เร็วเท่าธนู ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่ผู้ใช้หน้าไม้จะถูกโจมตีสวนกลับ อย่างไรก็ตามด้วยคำสั่งของหัวหน้าลำดับที่สอง พวกเขาสามารถแสดงพลังอำนาจของความได้เปรียบเชิงตัวเลขออกมา เขาสามารถสั่งกลุ่มโจรภูเขาได้เหมือนกองทัพ

“เก็บให้หมด!” ไม่มีเหตุผลที่หลี่ฉิงซานจะไว้ชีวิตเป้าหมาย เขาถือหอกทรราชพุ่งเข้าเผชิญหน้าศัตรูอย่างกล้าหาญ หอกทรราชหมุนไปรอบๆและคร่าชีวิตโจรหลายสิบคนเหมือนมังกรดำกลืนกินเหยื่อของมัน

หลังจากทั้งหมดคนเหล่านี้จะหยุดเขาได้อย่างไร

โจรหน้าไม้คนหนึ่งถูกหอกทรราชแทงทะลุหน้าออก เมื่อหอกสะบัดออกไป ทั้งหอกและศพของโจรหน้าไม้คนแรกก็พุ่งเข้ากระแทกร่างของโจรหน้าไม้อีกคนและตายตกไปตามกัน

หลี่ฉิงซานรวมเป็นหนึ่งกับหอกขณะที่เขาอาละวาดอยู่ในฝูงชน เขาโจมตีโดยไม่สนใจการป้องกัน อาวุธที่ปะทะเกราะเหล็กของเขาจะกระเด็นออกไปทั้งหมด พวกมันไม่สามารถทำอันตรายเขาได้แม้แต่น้อย ในทางตรงข้าม เมื่อเขากวาดหอกออกไป ไม่มีแม้แต่ชีวิตเดียวที่เหลือรอด

ในเวลาไม่นาน เขาฆ่าโจรไปแล้วหลายสิบคน โจรหน้าไม้มากกว่าครึ่งตายไปแล้วเช่นกัน เขายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มโจรด้วยเกราะที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด กลิ่นอายและจิตสังหารของเขาสร้างความหวาดกลัวให้กับกลุ่มโจรเป็นอย่างมาก

โจรคนหนึ่งพยายามลอบโจมตีจากด้านหลัง แต่ทั้งหมดที่หลี่ฉิงซานทำคือการหันหน้ากลับไป แสงสีแดงในดวงตาของเขาส่องประกายขึ้น ก่อนที่โจรผู้นั้นจะสามารถโจมตี ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นแข็งค้าง เขาหวาดกลัวจนตายไป ณ จุดนั้น

ซ่งเซียงอู๋เฝ้ามองด้วยความโกรธและปวดหัวอยู่บนหอคอย ใบหน้าของหัวหน้าคนอื่นๆก็ดูน่าเกลียดเช่นกัน ทักษะการต่อสู้ของหลี่ฉิงซานอยู่นอกเหนือจินตนาการของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง

เป็นเพียงเวลานี้ที่หัวหน้าลำดับที่สองเปิดปากกล่าว “พี่ใหญ่ อย่ากังวล หลี่ฉิงซานสวมชุดเกราะและถือหอกขนาดใหญ่ เขาอาจดูแข็งแกร่งและไม่สามารถหยุดยั้ง แต่เขากำลังแบกน้ำหนักมากกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมเอาไว้ ไม่ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาจะยอดเยี่ยมเพียงใด เขาก็ไม่สามารถอยู่ในสภาพนี้ได้นานนัก เราเพียงต้องรอให้เขาเหนื่อยก่อนจะจู่โจม ในอนาคตเราสามารถหาคนมาชดเชยคนที่ตายไป”

หัวใจของซ่งเซียงอู๋สงบลง เขาคิดว่าต่อให้เป็นตัวเขาเอง เขาก็อยู่ในสภาพดังกล่าวได้ไม่นานนัก ท้ายที่สุดแม้คนผู้หนึ่งจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อพวกเขาหมดแรง พวกเขาก็จะกลายเป็นลูกแกะที่รอเวลาถูกเชือด นี่เป็นแง่มุมที่น่าสะพรึงกลัวของสนามรบ มดทั้งฝูงล้มช้าง วลีนี้ไม่ได้เป็นเพียงสำนวนที่ผู้คนพูดกันเท่านั้น

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยคิดว่าหลี่ฉิงซานจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตรงข้าม เขายิ่งรุนแรงและก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเขาต่อสู้ สุราจิตวิญญาณที่เขาดื่มเข้าไปก็ยิ่งออกฤทธิ์ มันแผดเผาร่างกายของเขาและมอบความแข็งแกร่งให้เขาอย่างไม่รู้จบสิ้น หอกทรราชร่ายรำอยู่ในมือของเขา มันเคลื่อนที่ไปตามความประสงค์ของเขา เข่นฆ่าอย่างเต็มที่ ขณะที่ร่างกายของเขาถูกอาบย้อมไปด้วยเลือดของศัตรู เคล็ดวิชาหมัดปีศาจวัวที่เขาฝึกฝนไม่ได้โดดเด่นด้านความแข็งแกร่งแต่เป็นความอดทน

โจรเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ วงล้อมใกล้พังทลาย เหงื่อปกคลุมหน้าผากของหัวหน้าลำดับที่สอง เขากล่าวอย่างยากลำบาก “เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”

หิมะตกหนักขึ้น เกล็ดหิมะหล่นลงสู่พื้นและปกคลุมภูเขาเอาไว้ทั้งหมด

พายุหอกกวาดโจรผู้หนึ่งออกไป เขาล้มลงและย้อมพื้นหิมะด้วยสีแดงเลือด โจรที่เหลือสูญเสียเจตจำนงแห่งการต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาเร่งล่าถอยออกไปอย่างบ้าคลั่ง หอกของหลี่ฉิงซานหยุดลงชั่วคราว “หิมะตกหนักนัก!”

เป็นเพียงเวลานี้ที่ซ่งเซียงอู๋ออกคำสั่ง “ไป!” หัวหน้าทั้งหมดทะยานร่างลงไป นี่ทำให้ขวัญกำลังใจของเหล่าโจรพุ่งสูงขึ้นทันที

หัวหน้าลำดับที่เจ็ดเหวี่ยงกระบองขนาดใหญ่ของเขาขึ้นสู่อากาศ ก่อนที่มันจะปะทะกับสิ่งใด มันก็ทำให้เกิดสายลมกรรโชกแรงพุ่งออกไปด้วยพลังอำนาจที่น่าตกใจ เขาเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งตามธรรมชาติ มันมากพอที่จะฆ่าเสือหรือหมี

หัวหน้าลำดับที่สองตะโกนเตือน “อย่าเผชิญหน้ากับเขาโดยตรง!”

“ในที่สุดพวกเจ้าก็ออกมา!”

หลี่ฉิงซานใช้หอกทรราชปะทะกระบอง กระบองปลิวไปข้างหลัง มันกระแทกศีรษะหัวหน้าลำดับที่เจ็ดและทำให้สมองของเขาพุ่งออกมา

ด้วยการฉวยโอกาสนี้ กระบองสามท่อนของหัวหน้าลำดับที่สี่ก็ฟาดเข้าที่เอวของหลี่ฉิงซาน หัวหน้าลำดับที่ห้าเหวี่ยงดาบใหญ่ไปที่แผ่นหลังของเขา ขณะเดียวกันหัวหน้าลำดับที่สองก็ใช้พัดเหล็กโจมตีด้านหลังศีรษะของหลี่ฉิงซาน

อย่างไรก็ตามการโจมตีที่อันตรายที่สุดคือมือของซ่งเซียงอู๋ที่พุ่งเข้ามาที่ใบหน้าของหลี่ฉิงซาน

แม้หลี่ฉิงซานจะสามารถอดทนต่อการโจมตีเหล่านี้ด้วยเกราะเหล็กและความแข็งแกร่งของกระทิงหนึ่งตัว แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็จะหยุดชะงักซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดแม้แต่ผู้อาวุโสมากประสบการณ์เช่นหลิวหงยังปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเขาจะบุกป้อมวายุทมิฬเพียงลำพัง สิ่งนี้อยู่นอกเหนือจินตนาการของชายชราไปอย่างสมบูรณ์

‘ปีศาจวัวกระทืบ!’ หลี่ฉิงซานเกิดแรงบันดาลใจขึ้นอย่างกะทันหัน นั่นทำให้เขาส่งพลังปราณทั้งหมดไปที่เท้าขวาก่อนจะกระทืบพื้นอย่างแรง เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในรัศมีไม่กี่เมตรรอบตัวเขาขณะที่พื้นแตกและจมลง

ทักษะการต่อสู้ส่วนใหญ่เป็นการดึงพลังมาจากพื้น ตราบเท่าที่พวกเขาไม่สามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกเขาก็ไม่สามารถหลบหนีจากพลังอำนาจของปฺฐพี การโจมตีของหัวหน้าเหล่านี้ค่อนข้างรุนแรงแต่เท้าของพวกเขายังหยั่งรากอยู่บนพื้น

ตราประทับของหลี่ฉิงซานทำให้พวกเขาเสียสมดุล พวกเขาสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เท้า ขณะเดียวกันพวกเขาก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะและแทบอาเจียนออกมาเป็นเลือด การโจมตีของพวกเขากลายเป็นไร้พลัง พวกมันไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง มีเพียงซ่งเซียงอู๋เท่านั้นที่สามารถรักษาพลังการโจมตีของเขาเอาไว้ ท้ายที่สุดเขาก็แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางคนเหล่านี้

หลี่ฉิงซานหัวเราะเสียงดัง เขาถอยหลังหลบการโจมตีของซ่งเซียงอู๋เป็นเหตุให้ร่างของเขาพุ่งชนหัวหน้าลำดับที่สี่ที่อยู่ด้านหลังอย่างแรง ในเวลาเดียวกันเขาก็แทงหอกไปที่หน้าอกของซ่งเซียงอู๋

หัวหน้าลำดับที่สี่กรีดร้อง กระดูกของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆจากการปะทะ ขณะเดียวกันซ่งเซียงอู๋ก็ดึงมือของเขาและบิดร่างกายของตนเพื่อหลบเลี่ยงหอกที่เหมือนมังกรของหลี่ฉิงซาน

หัวหน้าลำดับที่ห้าอ่อนแอที่สุด เขายังไม่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว หลี่ฉิงซานใช้โอกาสนี้ตวัดหอกไปที่ลำคอของหัวหน้าลำดับที่ห้าและส่งศีรษะของเขาหลุดออกจากบ่า เลือดพุ่งขึ้นสู่อากาศราวกับน้ำพุธรรมชาติ จากนั้นหลี่ฉิงซานก็ดึงหอกกลับมาและใช้ท่ากวาดล้างทรราช

เขาฉีกกระชากวงล้อมของป้อมวายุทมิฬและฆ่าคนระดับหัวหน้าหลายคนในพริบตา นักสู้ชั้นสามกลายเป็นเปราะบางเหมือนทารกเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

กลุ่มโจรตกตะลึง ทุกคนราวกับถูกแช่งแข็งและไม่สามารถขยับเขยื้อน พวกเขาไม่เคยคิดว่าป้อมวายุทมิฬของพวกเขาจะอ่อนแอถึงเพียงนี้ มันอ่อนแอเหมือนหมู่บ้านที่พวกเขาเคยปล้นสะดมก่อนหน้านี้

หิมะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ พื้นดินถูกย้อมด้วยเลือดก่อนที่มันจะถูกปกคลุมด้วยหิมะและกลายเป็นน้ำแข็ง สีขาวและสีแดงผสมกันอยู่บนพื้นทำให้เกิดเป็นฉากที่น่าสยดสยอง

คำสัญญาของเขาที่จะเหยียบย่ำป้อมวายุทมิฬค่อยๆกลายเป็นจริงขึ้นมาแล้ว