ตอนที่แล้วตอนที่ 194 คนที่รวยที่สุดในมณฑล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 196 ความโกรธของหวางหมันหยู!!

ตอนที่ 195 ส่วนแบ่ง


ทุกวันนี้จะมีสักกี่คนที่เป็นแบบลู่กั๋วเฉียงและจางเฉียง เขาทำงานกับพี่สามมานานแค่ไหนแล้ว?

นอกจากสองคนนั่นแล้ว พี่สามยังมีเสี่ยวหู่และหวางเอ๋ออีก รายได้ร้านอาหารที่ชื่อ KFC ต่อเดือนไม่รู้จะเดือนละกี่แสน ถึงแม้ว่ายังไม่ได้หักต้นทุนก็เถอะ

พวกเขาทั้งคู่กำลังจะเปิดสาขาที่สามในต่างเมืองอีก ใครก็ตามที่ทำงานกับพี่สามล้วนได้ดีทุกคน

"พี่สามครับ พี่สั่งพวกผมมาได้เลย พวกเราจะทำอย่างสุดความสามารถ"

ไทเกอร์พูดออกมาด้วยความมั่นใจ และเอามือมาทุบอกตัวเอง

"ไม่มีอะไรมากหรอก"

ซูข่านส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม

"ฉันมีตัวเลือกให้พวกนาย 2-3 ข้อ"

"พวกนายอยากไปทางตอนเหนือไหม? ฉันวางแผนที่จะทำธุรกิจที่นั่น"

"อะไรนะ แถบอาร์กติกเหรอครับ?"

ซงหมิงเจียงถามด้วยความประหลาดใจ

"ประเทศในแทบเหนือเหรอครับ?"

เสี่ยวจุนก็ถามด้วยความประหลาดใจเช่นเดียวกัน

"พี่สามจะทำธุจกิรกับพวกรัฐเซียเหรอครับ?"

ไทเกอร์เป็นคนเดียวที่ดูไม่ประหลาดใจ เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

ซูข่านพยักหน้า

"ใช่ ฉันเห็นทักษะของพวกนายทุกคนแล้ว พวกนายสามารถต่อสู้ได้ดี บุคลิกแบบนี้เข้ากันได้ดีกับพวกรัฐเซียมาก แถมพวกนายยังดื่มกันเก่งอีก"

"สภาพแวดล้อมที่นั่นค่อนข้างแย่ แต่มันก็ยังสามารถทำธุรกิจได้"

"ลองคิดดูสิ ใครจะอยากไปที่มันลำบากมั่ง พวกนายต้องนำของจากที่หนานจิงไปที่นั่น หากพวกนายเต็มใจที่จะไป พวกนายจะได้รับผิดชอบสถานที่ตรงนั้น"

ซูข่านพูดจบก็มองทั้งสามคน ตอนนี้ที่ตรงนั้นยังมียักษ์ใหญ่อยู่ มันต้องใช้เวลาอีกนานจนกว่าพวกมันจะล่มสลาย

ถ้าหากว่ารอจนถึงตอนนั้น น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่สายเกินไป

เพราะฉะนั้นแล้ว เราต้องเป็นฝ่ายที่เริ่มทำธุรกิจในพรมแดนนั้นก่อน

ต้องค่อยๆเริ่มที่ละนิด ไม่จำเป็นต้องไปไกลจากพรมแดนมาก ค่อยๆขยายเข้าไปเรื่อยๆก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย หากฐานของเรามั่นคงและแข็งแรง มันก็ยากที่ล้มลงมา

ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมที่นั่นจะค่อนข้างแย่ ซูข่านรับประกันว่ามันก็ไม่แย่ไปกว่าการมาดูแลบริษัทแบบนี้หรอก

ซงหมิงเจียงทำหน้าครุ่นคิด หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารู้สึกว่าอยากจะไปทำงาน แต่ในใจลึกๆก็ไม่อยากจะอยู่ไกลจากซูข่าน

เขาอยากจะทำงานใกล้กับพี่สามที่เขาเคารพรัก ถึงแม้ที่นั่นอาจจะได้เงินเยอะกว่า แต่การอยู่ตรงนี้ทำให้เขาสบายใจไม่ใช่น้อย

"ไปครับ ผมไป"

ไทเกอร์ได้ยินดวงตาของเราก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีและพูดอย่างรวดเร็ว

"ผมด้วยครับ"

เสี่ยวจุนก็รีบพูดตามไทเกอร์มาติดๆ เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ที่นั่นก็ไม่ได้แย่ไปกว่าที่เวียดนามสักเท่าไหร่หรอก แถมมีพี่สามให้คำปรึกษาอีกด้วย

หากว่าฉันได้ทำงานกับไทเกอร์ แล้วถ้ามีคนให้พวกเขาอีก 2-3 คน เมื่อเดินทางไปถึงที่แถบเหนือ จะมีใครกล้ามาแหยมกับพวกเขาบ้าง หากว่ากล้ามาทำร้ายหรือทำลายธุรกิจของพี่สาม พวกมันจะต้องเจอดีแบบไอ้ฮงจินหมิง

เสี่ยวจุนกับไทเกอร์ดูตื่นเต้นที่จะได้ทำงานใหม่ ซูข่านได้มองไปที่ซงหมิงเจียง เขาเห็นว่าซงหมิงเจียงไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาดูเหมือนอยากจะไปแต่เหมือนจะติดอะไรบางอย่าง

ซงหมิงเจียงไม่กล้าสบตากับซูข่าน เขาได้แต่เอามือมาเกาตัวพร้อมยิ้มด้วยความเขินอาย

"เสี่ยวจุน ไทเกอร์ งั้นพวกนายทั้งสองไปรัฐเซียละกัน สำหรับหมิงเจียง ฉันว่าจะให้นายอยู่กับฉันเหมือนเดิม แต่ฉันมีอะไรให้นายทำด้วยในหนานจิง"

ซูข่านพูดจบ ซงหมิงเจียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาไม่คิดเลยว่าพี่สามจะไม่ว่าอะไรเขาเลย แถมยังมีงานใหม่ให้เขาอีกด้วย

พี่สามเข้าใจตัวของเราได้อย่างดี สายตาของพี่สามสามารถอ่านเราออกได้ทะลุปรุโปร่ง

ซงหมิงเจียงรู้สึกประทับใจในตัวซูข่านอย่างมาก เขาอยากจะก้มไปลงกราบขอบคุณที่เท้า

"งั้นเดี๋ยวพวกนายทั้งสองเดินทางไปที่แถวพรมแดนก่อน แทบตะวันออกเฉียงเหนือใกล้ๆกับรัฐเซีย"

"ฉันจะให้จางเฉียงส่งของไปให้ทุกเดือน พวกนายลองหาสถานที่สำหรับเก็บของหรืออะไรพวกนั้นก่อน"

ซูขานพูดด้วยรอยยิ้ม

แม้ว่าที่นั่นจะยังไม่ล่มสลาย แต่เสบียงของที่นั่นก็เริ่มที่จะขาดแคลนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นของกินหรือของใช้ประจำวัน มูลค่าของพวกนี้จะเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆหากคนยิ่งต้องการเยอะ

ถึงแม้ว่ายังไม่เท่ากับไฟแช็กและกับรถก็เถอะ แต่เมื่อถึงตอนที่คนขาดไฟแช็กจริงๆ พวกเขาก็ยอมแลกทุกอย่างได้ บ้านแลกไฟแช็คก็มีมาแล้ว

ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนน่าจะยังไม่ค่อยมีใครเริ่มต้นธุรกิจกันที่นั่น น่าเสียดายจะทิ้งภูมิภาคนี้

ตอนนี้จางเฉียงคุมสินค้าตอนเหนือเกือบทั้งหมดแล้ว กำลังแพร่ขยายไปยังตอนกลางอีกด้วย ช่องทางทั้งหมดอยู่ในมือของจางเฉียง และแน่นอนรายได้ส่วนแบ่งของเขาก็ย่อมสูงตามเงินที่หามาได้

"หากพวกนายไปทำงานที่นั่น พวกนายก็จะได้ส่วนแบ่งอีกด้วย ยิ่งทำเงินได้เยอะ พวกนายก็จะได้เงินเยอะขึ้น"

ซูข่านอธิบายจบก็มองไปยังทั้งสาม เสี่ยวจุนกับไทเกอร์ดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ

"ครับ"

เสี่ยวจุนก้มหัวเล็กน้อย ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้งานแบบเดียวกับลู่กั๋วเฉียงหรือจางเฉียง ได้ยินมาว่าพวกเขาก็ได้ส่วนแบ่งเหมือนกัน

ได้ข่าวว่า ทำงานกับพี่สามครึ่งปีแต่พวกเขาได้ส่วนแบ่งแล้วถึง 500,000 หยวน เราจะต้องเป็นอย่างงั้นให้ได้

"ขอบคุณมากครับพี่สาม"

ไทเกอร์พูดขอบคุณซูข่าน

"ไว้ใจพวกผมได้เลยครับพี่สาม พวกผมจะตั้งใจทำงานให้พี่สามสุดชีวิตเลย"

เสี่ยวจุนพูดด้วยความมั่นใจ

ถึงแม้ว่าส่วนแบ่งที่เขาได้อาจจะได้แค่ 10%

แต่ถ้าหากว่าเดือนหนึ่งขายได้ 1,000 หยวน เขาก็ได้เงินแล้วถึง 100 หยวน นี่ยังไม่รวมเงินเดือนที่เขาจะได้อีกนะ แล้วคิดเหรอว่าสินค้าของซูข่านจะขายได้เพียง 1,000 หยวน?

มันไม่มีทางเป็นอย่างงั้นได้เลย ซูข่านรู้ว่าคนที่อยู่ติดพรมแดนต้องการอะไร เขาจะต้องเน้นสินค้าแบบนั้นเป็นพิเศษ ในเดือนเดียวอาจจะได้เงินจากจุดนี้หลายหมื่นหรือหลายแสน

สำหรับเสี่ยวจุนแล้วไม่ว่าส่วนแบ่งที่เขาได้จะกี่ % แต่เขารู้ดีว่ามันจะเยอะกว่าการทำนาในบ้านเกิดแน่นอน

เขามองไปที่ซูข่านราวกับมองพระเจ้าของเขา

ซงหมิงเจียงได้ยินซูข่านพูดถึงเรื่องส่วนแบ่ง เขารู้สึกยินดีกับเสี่ยวจุนและไทเกอร์มาก ด้วยเงินส่วนแบ่งแบบนี้ เงินเฉลี่ยต่อเดือนของทั้งสองคนก็น่าจะ 1,000 ขึ้น

แต่ในเวลาเดียวกันซงหมิงเจียงก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขารีบสลัดความคิดนี้ออกไปทันทีและยอมรับในการตัดสินใจของตัวเขาเอง

เขาต้องงานให้กับซูข่านอยู่ที่หนานจิง ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับคนชื่อเหลาสูก็เถอะ แต่เขาก็จะไม่อิจฉาใครอีกต่อไป

"เดี๋ยวตอนกลับไปที่หนานจิง พวกนายหาคนที่นั่นไปด้วยก็ได้ซักคน เป็นการดีกว่าที่พี่น้องของพวกนายจะไปทำงานนี้ด้วย"

ซูข่านพูดด้วยรอยยิ้ม เขาจำได้ว่าท่ามกลางกลุ่มคนที่กลับมาจากสงครามหรือเป็นพี่น้องกับซงหมิงเจียง พวกเขามีคนที่มาจากตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ด้วย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด