ตอนที่ 17 ฆ่าล้างบาง
หลังจากหายใจทิ้งอยู่ครู่หนึ่ง พื้นที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนของความทรมานและการอ้อนวอนขอความเมตตา เลือด และแขนขา
หัวใจของไมเคิลเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเจตนาฆ่า ดวงตาแดงก่ำ ยิ่งเขาตัดขาของพวกมันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ปลดปล่อยความโกรธที่สุมอยู่ในอกกับสาวกเหล่านี้ เขาเพิกเฉยต่อคำอ้อนวอนขอความเมตตาของพวกมันโดยสิ้นเชิง
เขารู้ว่าคนพวกนี้เป็นเหมือนสัตว์ที่สัญจรไปมาบนโลกใบนี้และสมควรที่จะตายทั้งหมด เขารู้ว่าเขาต้องทำให้พวกมันรู้สึกอย่างที่ชาวบ้านและเด็กๆ รู้สึกก่อนที่พวกมันจะตาย
ในเวลาเดียวกัน จิตใจของเขาเต็มไปด้วยเสียงและการเตือนอย่างต่อเนื่องของระบบ
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!”
รัฟฟี่ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาได้อีกต่อไปหลังจากมองสาวกที่แขนขาขาดของเขานอนจมกองเลือดอยู่
กลุ่มผู้อาวุโสตกใจมากเมื่อเห็นคาถาและเทคนิคแปลกๆ ของเขา แต่พวกเขารู้ว่าถ้าพวกเขาไม่ลงมือตอนนี้ รัฟฟี่จะฆ่าพวกเขา
"เข้ามาสิ!"
เขาหัวเราะลั่นขณะจับขวานและพุ่งเข้าหากลุ่มผู้อาวุโสที่มีท่าทางหวาดกลัว เมื่อมองไปที่ความเร็วของเขา พวกเขาก็หยุดเคลื่อนไหวด้วยความตกใจและไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว
ในวินาทีสุดท้าย เหล่าผู้อาวุโสฟื้นความรู้สึกและเริ่มร่ายคาถาต่างๆ เพื่อป้องกันตัวเอง แต่ก็ยังกลัวอย่างมาก
ไม่ว่าพวกเขาจะร่ายคาถาหรือทักษะใดก็ตาม พวกมันก็ไม่สามารถทะลุผ่านโล่ของไมเคิลได้
หลังจากความพยายามที่จะฆ่าเขาไร้ผลอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาจ้องไปที่คมขวานสีทองด้วยความรู้สึกเจ็บปวดมหาศาล ในเวลาต่อมา ร่างของพวกเขาก็ล้มลงกับพื้น ซึ่งมีขาเปื้อนเลือดอยู่ตรงหน้า
คาถากระจอกๆของพวกเขาจะสร้างความเสียหายให้กับเขาได้ยังไง เขาใช้คะแนนสุดโกง 2,500 แต้มไปกับโล่ และท่ามกลางผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายา เขาไร้เทียมทาน
กลุ่มของคลาร่าเบิกตากว้าง ประหลาดใจอย่างมาก และเริ่มรู้สึกกลัวเขา
“เขาแข็งแกร่งและเร็วเกินไป พวกผู้อาวุโสไม่มีโอกาสได้ร่ายเวทย์ป้องกันด้วยซ้ำ”
ผู้ชายคนหนึ่งกระซิบกับเพื่อนของเขา
“เขาแข็งแกร่งเกินไป เขาต้องปกปิดระดับการบ่มเพาะของเขาจากคนอื่นแน่ๆ!”
“เห็นเขาเลื่อนจากระดับรากฐานไประดับหลอมกายาทั้งอย่างนั้นไหม?”
“เขาต้องใช้คาถาปกปิดบางอย่างเพื่อซ่อนระดับการบ่มเพาะที่แท้จริงของเขา และใช้สิ่งนี้มาหลอกสาวกเลือดและกระดูก เขาเป็นผู้ฝึกบ่มเพาะระดับเสริมกายาหรือเปล่า?”
“จากพลังของเขา มันต้องใช่แน่ๆ !”
เขากำลังสับขาของสาวกที่เหลือ ขณะที่รัฟฟี่ดูเหมือนลังเลที่จะโจมตีเขา ระบบส่งเสียงติ๊ดในใจซ้ำๆ เพื่อแจ้งรางวัลที่เขาได้รับ
ในตอนท้าย ไมเคิลกระแทกขวานลงกับพื้นและยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าสาวกที่เกือบตายและขาขาด จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่รัฟฟี่ "เจ้าจะโจมตีข้าอยู่ไหม?"
แม้ว่ารัฟฟี่จะโกรธ แต่สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าคนๆ นี้มีพลังมหาศาล เขารู้สึกไม่ดีเมื่อจ้องมองเขาและถามว่า "เจ้าเป็นใคร?"
“เจ้าไม่มีสิทธิ์รู้ชื่อข้า”
เขายิ้ม แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
“แกทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?”
รัฟฟี่ชี้ไปที่เหล่าสาวกและกลุ่มชายชราที่กำลังคลานอยู่บนพื้น
" หมู่บ้านไม้กุหลาบ "
เขาพูดแค่สองคำ แต่น้ำเสียงของเขาต่ำและจริงจัง
“นั่นมันชื่อหมู่บ้านเล็กๆ แถวนี้ไม่ใช่หรอ?”
หญิงสาวที่อยู่ข้างหลังคลาร่าขมวดคิ้ว รัฟฟี่เองก็จำหมู่บ้านนี้ได้
“เพื่ออะไรงั้นเหรอ?”
คลาร่าและกลุ่มของนางเอียงคอและรอคำตอบ แต่แทนที่จะพูด เขากลับหัวเราะราวกับคนบ้าที่ชั่วร้าย
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็หยุดหัวเราะและจ้องไปที่รัฟฟี่
“เพื่ออะไร เพื่ออะไร ห๊ะ เจ้าใช้ชาวบ้าน เด็กน้อยเป็นหุ่นเพื่อฝึกคาถาของเจ้า แล้วเผาทั้งหมู่บ้านเพื่ออะไร?”
รัฟฟี่กำหมัดแน่นขณะที่เส้นเลือดหลายเส้นปูดขึ้นที่แขนของเขา เขายังคงหน้าซีดในขณะที่หัวเราะออกมาอย่างโกรธเคือง
“ดี ดี เจ้าทำอย่างนี้เพราะมดไร้ค่าเหล่านั้น นับตั้งแต่วันที่นิกายเลือดและกระดูกของข้าก่อตัง จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครกล้ามีปัญหากับเรา แกเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้าย”
วินาทีถัดมา เขาก็หยิบดาบออกมาแล้วพุ่งใส่ไมเคิล และโยนแผ่นจารึกสีทองทิ้งไป
“เขาทำอย่างนี้เพราะมนุษย์ธรรมดาไม่กี่คนอย่างงั้นเหรอ?”
ชายหนุ่มคนหนึ่งถามกลุ่มเหมือนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย
“พี่คลาร่า เราควรทำยังไงดี”
คลาร่าถอนหายใจและหยิบแผ่นจารึกสีทองขึ้นจากพื้น
“มาดูกันว่าเรื่องนี้จะคลี่คลายยังไง ข้าไม่คิดว่าเขาจะฆ่าเจ้านิกายรัฟฟี่ได้”
รัฟฟี่เป็นผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายา ความแตกต่างระหว่างระดับหลอมกายาและระดับการเสริมกายานั้นสูงมาก และไม่น่าเป็นไปได้มากที่ผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาจะสามารถฆ่าผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายาในการต่อสู้โดยตรงได้
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของนางหยุดนิ่งเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
มือและขาของรัฟฟี่กลายเป็นโลหะด้วยคาถาบางอย่าง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สามารถสร้างรอยบุ๋มบนโล่สีฟ้ารอบๆ ชายหนุ่มได้
"เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่”
กายะประหลาดใจอย่างยิ่งเมื่อเห็นพลังของเขา นางคาดว่าจะมีการต่อสู้ระหว่างเขากับรัฟฟี่ แต่ตอนนี้ผู้บ่มเพาะระดับเสริมกายากลับกำลังหอบหายใจอยู่ต่อหน้ามนุษย์ผู้นี้
“ข้าจะทำให้เจ้าเห็นพวกมันทรมาน”
ตามที่เขาพูด เขาทิ้งขวานแล้วหยิบมีดออกมา กายะสังเกตเห็นสีเขียวบนพื้นผิวของใบมีด
"ปล่อย...ข้า...ไปเถอะ"
รัฟฟี่พยายามพูด ขณะที่ไมเคิลหัวเราะอย่างเย็นชา
"เราควรจะเริ่มกันเลยไหม?"
ไมเคิลแทงมีดเข้าไปในหน้าอกขวาของรัฟฟี่หลีกเลี่ยงหลอดเลือดแดงและเส้นเลือดใหญ่
เมื่อมีดแทงเข้าไปในร่างกายของเขา เขาก็รู้สึกถึงความเย็นที่วิ่งลงกระดูกสันหลัง ทั้งตัวของเขากลายเป็นชาด้านไร้ความรู้สึกยกเว้นที่ปาก หลังทำให้รัฟฟี่เป็นอัมพาต เขาก็จับรัฟฟี่นอน
"เจ้าจะทำอะไร?"
“เจ้ากังวลกับสิ่งที่ข้ากำลังจะทำเหรอ? ลองเดาดูสิ?”
เขาหัวเราะแล้วเตะใส่ท้องของรัฟฟี่
"เจ้าสารเลว"
“ข้าจะเผาสมาชิกนิกายของเจ้าทั้งเป็น”
นาทีที่คำพูดนั้นดังออกมาจากปาก ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ก็หยุดนิ่ง ตกตะลึง
สาวกบางคนและผู้อาวุโสทั้งหมดกำลังคลานโดยไม่มีขาและหวาดกลัวอย่างมาก แม้จะรู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
สาวๆ ที่อยู่ข้างหลังคลาร่าตกใจและตะโกนออกมาอย่างกังวล
“พี่ชาย อย่าใจร้อนแบบนั้น!”
"ใจเย็นๆ มีเหตุผลหน่อยสิ!!"
“เจ้านองเลือดมามากพอแล้วและทำให้ฐานบ่มเพาะพวกเขาพิการ นั่นแย่ยิ่งกว่าความตายสำหรับผู้บ่มเพาะแล้ว”
“ถ้าเจ้าฆ่าและเผาพวกเขา เจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากนิกายเลือดและกระดูก”
คลาร่าตะโกน
แต่เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นสายฟ้าขณะที่พวกเขานำร่างของพวกสาวกมาซ้อนอยู่ตรงกลางพื้นดิน
“อย่าไปฟังนางตัวดีพวกนั้น มนุษย์ เจ้าพูดถูกแล้ว เราต้องย่างพวกมัน เหมือนที่พวกมันทำ”
"เจ้าผิดแล้ว"
เขาพูด และหยุดเคลื่อนไหว กลุ่มของคลาร่ารู้สึกไม่ดีเมื่อมองใบหน้าและเจตนาฆ่าในดวงตาของเขา
“ข้าแย่ยิ่งกว่าพวกมัน”
สีแดงปรากฏในมือของเขา สาวๆ ปิดจมูกเพราะกลิ่นเหม็นรุนแรงเมื่อเขาเริ่มเทของเหลวลงบนร่างของกลุ่มชายชราและเหล่าสาวกที่ส่งเสียงโหยหวน
"ไม่!!!"
รัฟฟี่กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ขณะที่สายฟ้าจากมือของไมเคิลก็พุ่งเข้าใส่กองมนุษย์
กลุ่มนิกายอรุณรุ่งทั้งหกตกใจมากจนสองสาวกรีดร้องออกมาด้วยความสยดสยอง ทุกคนตกตะลึง ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขามอง
เปลวไฟสีแดงเข้มกำลังลุกไหม้สูงถึงต้นไม้ที่โตเต็มที่ ทั้งหกสามารถสัมผัสได้ถึงความร้อนอย่างชัดเจน
แม้แต่คลาร่าที่ผ่านการต่อสู้มาหลายครั้งและพวกผู้ชายก็ยังตกใจ พวกเขาใช้เวลานานกว่าเรียกคืนความสงบในตอนแรกกลับคืนมา
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของที่ประสบความสำเร็จในการเป็นคนเลว รางวัลคือ 200 คะแนนสุดโกง]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 6 รางวัลคือ 4500 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 7 รางวัลคือ 5,000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 8 รางวัลคือ 6000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]
[ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับเจ้าของสำหรับการฆ่าผู้บ่มเพาะระดับหลอมกายาขั้น 10 รางวัลคือ 7000 คะแนนประสบการณ์และ 200 คะแนนสุดโกง]
...
เสียงติ๊งของระบบดังขึ้นหลายครั้งในหัวของเขาในขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปที่รัฟฟี่