832 - ภายในถ้ำโบราณ
832 - ภายในถ้ำโบราณ
ทั้งกลุ่มเดินไปตามถ้ำหินบนหน้าผา ลึกเข้าไปพวกเขาพบต้นกำเนิดบนพื้นดินเป็นครั้งคราว พวกมันสะท้อนแสงเปลี่ยนให้ท่านโบราณสว่างสดใสราวกับ
ภายในถ้ำมีน้ำหยดลงมาจากหินตลอดเวลา น้ำที่ไหลออกมามีห้าสี และหยดลงบนพื้นทำให้เกิดเสียงที่คมชัดและน่ารื่นรมย์ ทำให้ถ้ำโบราณที่เงียบสงบ ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
เย่ฟ่านและคนอื่นๆ กำลังเดินอยู่ในถ้ำด้วยจิตใจที่สั่นไหว
ถ้าไม่มีเหตุบังเอิญ ที่นี่น่าจะเป็นสุสานของเทพโบราณ ไม่แน่ว่าอาจจะมีอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่นี่ด้วย
พลังปราณที่ปั่นป่วนภายในถ้ำนี้ราวกับคลื่นมหาสมุทรที่พลุ่งพล่านซึ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
“เคร้ง…”
เสียงโซ่เหล็กที่แกว่งไปมาเบาๆ และดูเหมือนว่าเสียงของมันจะดังเป็นพิเศษในถ้ำอันเงียบสงบนี้ ราวกับว่ามันเป็นเสียงจากปีศาจที่กำลังจะหลุดออกจากโซ่ตรวน
หลังจากเดินต่อไปอีกสองสามลี้ ก็ได้ยินเสียงลมหวีดหวิวพัดมาจากช่วงว่างของทางแยก
พวกเขาไม่ได้เข้าไปสำรวจ เพราะมีเพียงเทพเท่านั้นที่รู้ว่าทางแยกที่มืดมิดจะนำไปสู่อะไร และในตอนนี้พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางหลักซึ่งได้รับการทำนายแล้วว่าค่อนข้างปลอดภัย
พวกเขาได้เห็นต้นกำเนิดขนาดเล็กเป็นครั้งคราวระหว่างทางเดิน ต้นกำเนิดเหล่านี้ติดอยู่บนกำแพงของถ้ำและส่องแสงสว่างไสว
ในบางครั้งพวกเขาขุดหินต้นกำเนิดศักดิ์สิทธิ์ออกมาเล็กน้อย หินเหล่านี้สามารถเรืองแสงได้ ในถ้ำโบราณที่มืดมิดแห่งนี้การดำรงอยู่ของพวกมันจึงทำให้ดินแดนที่ลึกลับนี้ไม่สยดสยองเท่าที่ควร
“เทพโบราณคนนี้รู้วิธีเลือกสถานที่จริงๆ ประมาณว่า ถ้าขุดที่นี่จะเจอต้นกำเนิดชนิดต่างๆ มากมายจนผู้คนได้รับผลกระทบจากความกดดันภายในทำให้ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้”
“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เราอาจจะไม่สามารถเข้าใกล้โลงศพไม่ได้ ข้าเกรงว่าระยะทางจะยังห่างไกลอยู่มาก และร่างกายของเราจะต้านทานแรงกดดันเช่นนี้ไม่ไหว”
ข้างหน้ามีต้นไม้โบราณขวางทางอยู่ ซึ่งทำให้ทุกคนประหลาดใจมาก ที่มีต้นไม้โบราณที่สูงตระหง่านเช่นนี้ในถ้ำ
ภายใต้การสะท้อนของหินต้นกำเนิด ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มีใบสีเขียวสด และเต็มไปด้วยพลังชีวิต แต่หลายคนรู้สึกถึงอันตรายที่แผ่กระจายออกมา
“อา...”
ในขณะนั้นมีเสียงกรีดร้องโหยหวนที่ทำให้หนังศีรษะชาดังออกมาจากส่วนลึกของถ้ำ ในชั่วพริบตาความเย็นก็เริ่มคืบคลานไปทั่วทั้งร่างทุกคน
“โฮก!”
ร่างสีดำพุ่งเข้ามาราวกับเงา มันสังหารผู้ฝึกตนไปหลายคนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกระแสลมและรัศมีที่น่าสะพรึงกลัว
“วานรปีศาจ!”
ต้วนเต๋อประหลาดใจ ใบหน้าของเขาซีดขาวราวกับหิมะ และถอยหลังไปสองสามก้าวทันที
หลายคนหน้าเปลี่ยนสี ทุกคนเตรียมถอยออกมา นี่คือวานรปีศาจที่มีความสูงถึงสิบจั้ง และมีเกล็ดสีดำปกคลุมอยู่ทั่วร่างกาย
ดวงตาทั้งสองข้างของมันอันตรายอย่างยิ่งกรงเล็บแหลมคมราวกับขอเกี่ยวของมันพยายามคว้าและแยกชิ้นส่วนมนุษย์
“นี่คือสิ่งมีชีวิตที่เติบโตในสุสานโบราณ มันแข็งแกร่งเหมือนปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ รีบถอยออกไปก่อน!” ต้วนเต๋อตะโกนเตือนหลายคน
“เคร้ง”
ด้วนเต๋อกดผนึกที่คล้ายกับถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็กเข้าใส่วานรที่อยู่ข้างหน้า แต่ภายใต้กรงเล็บอันแหลมคมของวานรปีศาจ ประกายไฟกระจายไปทุกทิศทุกทางและสมบัติวิเศษของเจ้าอ้วนก็ถูกทำลายในพริบตา
ทุกส่วนในร่างกายของต้วนเต๋อเต็มไปด้วยสมบัติหายาก แต่ก็ไม่สามารถรับมือกับวานรปีศาจตนนี้ได้ ใครจะจินตนาการได้ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน
“โฮก...”
วานรปีศาจคำรามอย่างดุดัน ราวกับปีศาจที่หลุดมาจากขุมนรกมันกำลังจะเริ่มโจมตีอีกครั้ง
ตงฟางเย่ลงมือ เขาถือกระดูกศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่ปราชญ์โบราณทิ้งไว้ฟาดเข้าหาคู่ต่อสู้
“อา...”
วานรปีศาจคำรามอย่างบ้าคลั่ง การเคลื่อนไหวของมันว่องไวอย่างยิ่ง มันก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วราวกับวิญญาณชั่วร้าย จากท่าทางของมันเห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวต่อกระดูกนี้เป็นอย่างมาก
“มีเรื่องแบบนี้จริงๆ นี่คือวานรปีศาจ ให้ตายสิ ถ้ามันเอาจริง แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ครึ่งเซียนก็อยากที่จะเคลื่อนไหวอย่างสบายใจได้!” ชายชราตาบอดประหลาดใจ
“นี่เป็นครั้งที่สามที่ข้าเจอปีศาจชนิดนี้ สองครั้งแรกข้าเกือบตายในสุสานของราชาอวี้หัวและสุสานของนักพรตซิงเหอ”
ต้วนเต๋อรู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงครั้งแรกที่ได้เผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าวานรปีศาจ
วานรปีศาจนั้นดุร้ายอย่างยิ่ง ทั้งร่างของมันมีเกล็ดสีดำระยิบระยับปกคลุมทั่วตัว มันจ้องไปที่กระดูกศักดิ์สิทธิ์อย่างหวาดหวั่น และไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า
ครู่หนึ่งมันจึงส่งเสียงร้องยาวราวกับเสียงนกเค้าแมวในยามราตรี
“อา”
ไม่นานนัก วานรปีศาจอีกสี่ตัวก็วิ่งออกมาจากป่าโบราณ พวกมันสูงสิบจั้ง ดุร้ายและว่องไว ไม่นานพวกมันล้อมกลุ่มผู้ฝึกตนไว้
“ตามตำนาน นี่คือศพของคนโบราณที่กลายเป็นวานรปีศาจ คราวนี้มีพวกมันถึงห้าตัว เราตกอยู่ในอันตรายแน่แล้ว!” ชายชราตาบอดกัดฟัน
เหล่าผู้ฝึกตนต่างก็ถอยกลับพร้อมกัน วานรปีศาจสองตัวไม่กล้าโจมตี พวกมันยังคงกลัวกระดูกแขนของปราชญ์โบราณ จึงทำได้เพียงคำรามเสียงต่ำๆ
“หลังจากเวลาผ่านไป พวกมันจะโจมตีแน่นอน นี่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา!” เย่ฟ่านขมวดคิ้ว
ต้วนเต๋อกัดฟันและกล่าวว่า “มันกำลังบังคับให้ข้าใช้ไพ่ลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
เขาหยิบตะเกียงทองแดงเก่าๆ ออกมา และเมื่อเขาเปิดใช้งานพลังงานที่อธิบายไม่ถูกก็ปลดปล่อยความสามารถอย่างรวดเร็ว
เปลวไฟนั้นนุ่มนวลและศักดิ์สิทธิ์อย่างหาที่เปรียบมิได้ แสงที่สว่างเจิดจ้าเปลี่ยนให้ถ้ำที่มืดมิดสดใสราวกับเป็นเวลากลางวัน
ตะเกียงนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่แสงสว่างของมันก็สามารถทะลุทะลวงเข้าไปในพื้นที่อันมืดมิดได้ทุกตารางนิ้ว รัศมีอันศักดิ์สิทธิ์แผ่ซ่านไปทั่ว
วานรปีศาจทั้งห้าถอยกลับด้วยความหวาดกลัว พวกมันคำรามด้วยความโกรธและหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง
“ตะเกียงนี้…” ชายชราตาบอดตกใจเป็นอย่างมาก
“น้ำมันในตะเกียงทองแดงเป็นชิ้นส่วนร่างกายของปราชญ์โบราณหรือ?”
ทันทีที่คำกล่าวเหล่านี้ออกมา คนอื่นๆ ก็ตกใจและแสดงท่าทีที่เหลือเชื่อ
“ใช่ ตะเกียงนี้ไม่มีอะไร แต่น้ำมันในนั้นกลั่นจากซากศพของปราชญ์โบราณ มันจะไม่มีวันดับและสามารถนำมาใช้ปราบปรามความชั่วร้ายได้ตลอดกาล”
ต้วนเต๋อนำมันออกมาจากหลุมฝังศพของปราชญ์โบราณเมื่อหลายปีก่อน
ทันทีที่ตะเกียงน้ำมันของปราชญ์โบราณปรากฏออกมา วานรปีศาจทั้งห้าตัวก็หวาดกลัว แสงและกลิ่นของตะเกียงน้ำมันทำให้พวกมันไม่กล้าอยู่ที่นี่นาน
อันที่จริง กระดูกแขนที่หลงเหลือจากการเปลี่ยนแปลงของปราชญ์โบราณนั้นล้ำค่ากว่าแต่มันมีข้อจำกัดการใช้งานมากเกินไป และไม่ได้ปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้
ดังนั้นมันจึงไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับตะเกียงน้ำมันที่ไม่มีใครเทียบได้นี้
“อย่าเพิ่งเก็บตะเกียงเข้าไป อาจจะมีอย่างอื่นปรากฏอยู่ข้างหน้า ข้ากังวลว่าอาจมีวิญญาณชั่วร้ายปรากฏขึ้นอีกครั้ง” ชายชราตาบอดมีสีหน้าเป็นกังวล
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทุกคนต่างรู้สึกประหม่า เมื่อตระหนักถึงการดำรงอยู่ของวิญญาณแห่งเทพที่ไล่ฆ่าผู้คนมากมายพวกเขาก็หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
“ครืด”
เสียงโซ่เหล็กกำลังสั่นสะเทือนจากด้านหน้า และมันเขย่าหัวใจของทุกคนอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นทั้งห้าคนก็ยังเดินหน้าต่อด้วยความระมัดระวัง
หลังจากเดินหน้าไปหลายลี้ในที่สุดพวกเขาก็หยุดอยู่ขอบแม่น้ำสีดำที่กว้างใหญ่และไหลอย่างเงียบสงบอย่างยิ่ง มันสงบจนไม่มีแม้แต่ละอองน้ำสาดกระเซ็น!
“จริงๆ แล้วมันคือแม่น้ำหยินแห่งยมโลก! ถ้ามีไว้ในครอบครองแม้เพียงน้ำเต้าเล็กๆ สักขวด จะถือว่าเป็นสมบัติอันล้ำค่า แต่ที่นี่มีเป็นแม่น้ำเลย เหลือเชื่อจริงๆ”
เมื่อพวกเขามาถึงที่นี่ พลังศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาถูกปิดกั้นมากยิ่งขึ้น แม้แต่สมบัติของต้วนเต๋อก็ไม่สามารถช่วยให้บินได้อีกต่อไปและพวกเขาก็ไม่มีทางข้ามแม่น้ำไปได้เลย
“ข้ากลัวว่าแม้แต่จักรพรรดิผู้ไร้เทียมทานแห่งจงโจวก็คงจะบินไม่ได้หากเขาอยู่ต่อหน้าแม่น้ำนี้!”
ในขณะที่เดินค้นหาไปเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบโซ่เหล็กเส้นหนึ่งที่เชื่อมต่อกับอีกฝั่งหนึ่ง
“อย่าบอกนะว่าโซ่เหล็กนี้คือเส้นทางเดียวที่เราจะใช้ปีนไปยังฝั่งตรงข้าม?”
“ปีนข้ามไปไม่ได้ ดูสิมีบางอย่างอยู่บนโซ่เหล็ก”
พวกเขาเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง ทุกคนต่างก็เย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ มีศพคืนชีพจำนวนมากอยู่บนโซ่เหล็ก ดวงตาของพวกมันส่องสว่างไปด้วยแสงสีเขียว
(ขอโทษที่ไม่ลงหลายวันครับ คอมพิวเตอร์พังต้องรอเงินเดือนออกก่อนถึงจะมีเงินซื้อใหม่)