1999 - ผู้สูงสุดอีกคนที่ร่วงหล่น
1999 - ผู้สูงสุดอีกคนที่ร่วงหล่น
ทันใดนั้นเส้นขนทุกเส้นในร่างกายของผู้สูงสุดตำหนักเซียนก็ตั้งตรงสัมผัสได้ถึงอันตราย
ร่างกายของเขาตึงเครียดรู้สึกเหมือนกับว่าวันโลกาวินาศจะมาเยือน เขาจึงเรียกวังทองแดงออกมาปกป้องตัวเองจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกตัวช้าเกินไป พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นลดลงไปมากเนื่องจากความแก่ชราเมื่อปะทะกับสือฮ่าวมันจึงไม่อาจทำร้ายฝ่ายตรงข้ามได้
ภูมิคุ้มกันญาณวิเศษ!
หลังจากผ่านไปหลายปี ในที่สุดสือฮ่าวก็ใช้วิชาต้องห้ามนี้อีกครั้ง หลังจากที่เขากลายเป็นผู้สูงสุดแล้ว เขาก็พบช่วงเวลาที่ดีที่สุดและต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อสังหารผู้สูงสุดของตำหนักเซียน!
เมื่อไม่นานมานี้จินไท่จุนยังไม่มีโอกาสได้รับทราบความร้ายกาจของวิชาลึกลับนี้ เป็นเพราะว่านางมุ่งมั่นในการหลบหนีเพียงอย่างเดียวสือฮ่าวจึงไม่มีปัญญาใช้ออก
ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับผู้สูงสุดของตำหนักเซียนแล้วเขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร
อ๊ากกก!!!
ผู้สูงสุดของตำหนักเซียนกรีดร้องเสียงดังสนั่น กลุ่มดาวสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เขาประสบกับหายนะไม่มีความหวังที่จะรอดชีวิตไปได้ ในตอนนี้เขาเผาผลาญแก่นแท้ของชีวิตจนหมดสิ้นโดยต้องการที่จะลากสือฮ่าวให้ตายไปพร้อมกัน
เมื่อมาถึงสภาวะเช่นนี้เขารู้ตัวดีว่าไม่สามารถหลีกเลี่ยงความตายได้ ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถูกนำมาเผาผลาญเพื่อสร้างพลังการโจมตีครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตามสือฮ่าวก็ถือเป็นหนึ่งในคนที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้มากที่สุดคนหนึ่งเช่นกัน แสงสีแดงที่เขาแย่งชิงมาจากใบมีดประหารเซียนถูกปลดปล่อยออกไปตัดศีรษะของผู้สูงสุดตำหนักเซียนคนนั้น
แม้จะเหลือเพียงศีรษะแต่ผู้สูงสุดตำหนักเซียนยังคงพยายามดิ้นรนหลบหนี
จิ!
จากนั้นลำแสงสีแดงก็พุ่งทะลวงกะโหลกศีรษะของเขาออกไปตรงๆ
“อ๊าาา!…” ผู้สูงสุดตำหนักเซียนกรีดร้องอย่างน่าสังเวชวิญญาณดั้งเดิมที่ได้รับบาดเจ็บของเขาพยายามดิ้นรนเข้าสู่วังทองแดง
“คิดจะไปไหน!” สือฮ่าวคำรามออกมา กระบี่เซียนในมือของเขาฟาดฟันเข้าใส่วังทองแดงอย่างดุเดือด
แดง!
ประกายไฟบินไปทุกทิศทุกทาง!
ภายในวังทองแดงวิญญาณดั้งเดิมของผู้สูงสุดนั้นกรีดร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง มันเริ่มแตกออกเป็นชิ้นๆภายใต้แรงสั่นสะเทือนของพลังอันยิ่งใหญ่
ในขณะเดียวกันแก่นแท้ของผู้สูงสุดตำหนักเซียนยังคงเผาผลาญไม่หยุด
พลังงานอมตะแผ่ซ่านไปทั่วอากาศ วังทองแดงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนจะฉีกท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวต้องการจะหลบหนีออกจากสนามรบ
สือฮ่าวไล่ตามโดยไม่ลังเลกระบี่เซียนของเขาฟาดฟันเข้าใส่วังทองแดงไม่หยุด
ปู!
ภายในวังทองแดงแก่นแท้ของผู้สูงสุดตำหนักเซียนนั้นถูกเผาผลาญจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
วิญญาณดั้งเดิมของเขากรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่จะระเบิดอย่างรุนแรงทุกสิ่งทุกอย่างสูญสลายไป
ไม่ใช่ว่าพลังของวังทองแดงไม่แข็งแกร่งพอ แต่คลื่นแห่งพลังนี้ยิ่งใหญ่เกินไป ยิ่งไปกว่านั้นวิญญาณดั้งเดิมของผู้สูงสุดตำหนักเซียนยังได้รับบาดเจ็บจากการเผาผลาญตัวเองเขาจึงไม่สามารถรับแรงกระแทกได้
“เจ้าก็แค่ล่วงหน้าไปก่อนบรรพบุรุษของเจ้าเท่านั้น!” ดวงตาของสือฮ่าวนั้นลึกล้ำเหมือนทะเลดวงดาว ค่อนข้างเย็นชาและโหดเหี้ยม แม้แต่เส้นผมของเขายังถูกชโลมไปด้วยเลือด
วังทองแดงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว รอบๆตัวมันถูกล้อมด้วยพลังแห่งความโกลาหลต้องการจะหลบหนีออกจากที่นี่
นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ขั้นเซียนที่มีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง เมื่อผู้ควบคุมของมันตายไปแล้วมันจึงพยายามกลับสู่ดินแดนบรรพบุรุษเดิม
สือฮ่าวไม่ได้หยุดมัน เขารู้ว่าวังทองแดงแห่งนี้มีบางอย่างที่แปลกประหลาด ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขาย่อมไม่สามารถควบคุมมันได้
ถ้าหากเขายังครอบครองมันนั่นอาจจะเป็นเหตุให้เจ้าง่อยของตำหนักเซียนกำหนดทิศทางของเขา และอาจจะตามมาแลกต่อสู้แลกชีวิตจริงๆ
ในตอนนั้นสายฝนสีแดงเริ่มเทลงมาจากท้องฟ้า น้ำพุโลหิตผุดขึ้นมาจากความว่างเปล่า นี่เป็นน้ำตาแห่งสวรรค์และปฐพีซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากผู้สูงสุดได้เสียชีวิตลง
นี่เป็นครั้งแรกที่สือฮ่าวฆ่าผู้สูงสุดจากเก้าสวรรค์สิบพิภพ! คนผู้นี้เคยมองว่าเขาเป็นมดแมลงและพยายามจะปราบปรามสังหารเขาอยู่ตลอด ในตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามได้รับกรรมสนองแล้ว
ผู้สูงสุดของตำหนักเซียนนั้นตายไปด้วยความคับแค้น เป็นเพราะศัตรูที่เขาเผชิญคือคนที่เขาเคยมองว่าเป็นมดแมลง
แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่ปีมดแมลงตัวนั้นกับทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นมังกรที่แท้จริง
สือฮ่าวฟื้นฟูสภาพร่างกายที่นี่ชั่วครู่จากนั้นเขาก็ออกเดินทางทันที เพื่อจะมุ่งหน้าไปยังสถานที่นัดหมายกับสุนัขตัวน้อย
“สถานการณ์เป็นอย่างไร” สือฮ่าวถาม
“ไม่มีทางที่เราจะเข้าไปได้ หลังจากค่ายกลฟื้นตัวขึ้นมาดินแดนโบราณนั้นถูกปกคลุมอย่างสมบูรณ์ ใครก็ตามที่เข้าไปจะต้องตาย มังกรเงินครึ่งตัวนั้นเราไม่สามารถไปเก็บมาได้แล้ว” เจ้าหมาน้อยพูดอย่างเสียใจ
จากนั้นสีหน้าของมันก็แปลกไปโดยพูดว่า
“เจ้าฆ่าผู้สูงสุดคนนั้นได้จริงๆ อัจฉริยะอย่างเจ้าแม้แต่ในยุคโบราณข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน!”
หลังจากนั้นมันเผยให้เห็นการแสดงออกที่จริงจังว่า “เจ้าง่อยนั่นยังไม่ตาย ดังนั้นจะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่อย่างแน่นอน บางทีมันอาจจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อสังหารเจ้า!”
สือฮ่าวตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขายังไม่เพียงพอจึงต้องล่าถอยชั่วคราว
“มันก็แค่เศษซากของผู้อมตะ สักวันข้าจะเอาวิญญาณดั้งเดิมของมันมาทรมานให้สาสม!” สือฮ่าวกล่าว
เมื่อสามสิบปีที่แล้วเขาถูกทำร้ายที่ด้านหน้าตระกูลฉินภูเขาอมตะ ฝ่ายตรงข้ามสามารถบดขยี้เขาอย่างง่ายดาย หากไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือจากภูเขาห้าใบหน้าป่านนี้เขาคงตายไปแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่เขาก็ยังต้องกลับเข้าสู่อาณาจักรด้านล่างด้วยความอัปยศอดสูครั้งใหญ่
“ผลของการต่อสู้ในวันนี้ไม่สามารถซ่อนไว้ได้ หลายคนในเก้าสวรรค์สิบพิภพจะทราบเรื่องนี้ แม้ว่าฉากน้ำตาของสวรรค์จะปรากฎบนท้องฟ้าแต่ผู้ที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงจะสัมผัสได้อย่างแน่นอน” เจ้าหมาน้อยกล่าว
มันเตือนสือฮ่าวให้ระวัง ถ้าเจ้าง่อยนั่นบ้าคลั่งขึ้นมามันจะเป็นผลร้ายอย่างถึงที่สุด
"เจ้าอย่าได้กังวลเลยในเมื่อเราครอบครองตาน้ำพุนี้ไว้ครึ่งนึงเจ้าง่อยนั่นจะไม่มีปัญญาไล่ตามเราได้ เพราะว่ามันไม่อาจอยู่ห่างจากน้ำพุเซียนได้นาน!” สือฮ่าวกล่าว
เขามีเหตุผลที่จะคิดเช่นนี้ยิ่งกว่านั้นยังมีความมั่นใจอยู่บ้าง เป็นเพราะผู้อมตะของตำหนักเซียนคนนั้นอ่อนแอเกินไป
ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส หากปราศจากการบำรุงเลี้ยงดูของน้ำพุเซียนเขาจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
แม้ว่าเขาจะเคยเป็นผู้อมตะที่มีพลังมากมายมหาศาล แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการตอบโต้อย่างรุนแรงก่อนตายของคุนเผิงก็มั่นใจได้เลยว่าเขาจะต้องได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ร่างกายของเขาก้าวเข้าสู่ยมโลกไปครึ่งหนึ่งแล้ว แม้แต่วิญญาณดั้งเดิมของเขายังถูกเกาะเกี่ยวไว้ด้วยโซ่แห่งคำสั่งของเทพเจ้าที่ถูกใช้ออกมาของคุนเผิง
เหตุผลที่เขายังมีชีวิตอยู่แม้จะผ่านไปเป็นเวลาหลายล้านปีก็เพราะต้องพึ่งพาน้ำพุเซียนแห่งนั้น
คราวที่แล้วเขามุ่งหน้ามายังภูเขาอมตะเพื่อจัดการสือฮ่าว ก็ถือได้ว่าเขาต้องเสี่ยงชีวิตสุดๆและใช้ความพยายามอย่างมาก โดยปกติเขาไม่สามารถละทิ้งน้ำพุเซียนใต้ดินได้
ในขณะเดียวกัน ในครั้งนี้เนื่องจากเกี่ยวข้องกับว่าเขาจะสามารถเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้หรือไม่จึงเป็นข้อยกเว้น
เขาได้ไปเยี่ยมผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรเซียนที่กำลังถอนตัวอยู่ โดยหวังว่าเขาจะสามารถติดตามคนพวกนั้นกลับสู่อาณาจักรเซียนได้
“ในตอนที่ข้ากำลังหลบหนีข้าสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิตทรงพลังที่กำลังรีบเร่งมาในทิศทางของตำหนักเซียน” เจ้าหมาน้อยกล่าว
………..
เป็นไปตามที่คาดผู้อมตะของตำหนักเซียนกลับมาแล้วจริงๆ เขายืนอยู่บนยอดของวังทองแดงพร้อมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
น้ำพุเซียนถูกใครบางคนหยิบฉวยไปครึ่งหนึ่ง ความเป็นจริงนี้ยากสำหรับเขาที่กล้ำกลืนไว้ เป็นเพราะตอนนี้เขาไม่อาจเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้เขาจึงจำเป็นต้องใช้น้ำพุนั้นเพื่อดำรงชีวิตอยู่