ตอนที่ 69 หุบเขาลมกรด
เกาอู๋ได้ยินคำแบบนั้นจึงมองดูคนทั้งห้าและยกกรอบแว่นของเขาขึ้น “นายรู้ไหมหรือเปล่าว่าห้าคนนั้นเป็นใคร?”
หลิงอี้หันหน้าไปตรวจสอบข้อมูลของทั้งห้าอย่างรอบคอบ
ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคย
‘หืม!? ฉันเคยเห็นที่ไหนนะ คนพวกนี้เหมือนจะเป็น...ผู้เล่นมืด? '
หลิงอี้นึกได้ขึ้นทันที
เมื่อไม่กี่วันก่อนหลินซูโหรวเอาข่าวในกลุ่มชุมชนให้เขาดู
ในข่าวแสดงให้เห็นใบหน้าของผู้เล่นมืดด้วย
และใบหน้าพวกนั้นแทบจะเหมือนกับคนพวกนี้เลย
ผู้เล่นมืดเป็นคำเรียกรวมสำหรับผู้เล่นที่ไม่ชอบธรรมทั้งหมดเช่น ผู้เล่นที่ทำผิดกฏหมาย
หลิงอี้ไม่รู้ว่าคนพวกนี้มาทำอะไร แต่แน่นอนว่าพวกเขาเป็นคนชั่วที่ไม่ทำตามกฏหมาย
เมื่อคิดได้แบบนั้นเขาจึงคาดเดาจุดประสงค์ของเกาอู๋
'เมื่อเห็นใครบางคนพยายามจัดการกับคนที่ตัวเองเกลียด ดังนั้นฉันขอช่วยคุณได้ไหม?'
เขาเริ่มเข้าใจที่เกาอู๋พูดว่า‘แค่ช่วยและหนีไป’แล้ว
เมื่อเห็นว่าชายคนนั้นไม่พูด เกาอู๋จึงพูดกับตัวเองว่า “ฉันเกลียดพวกผู้เล่นมืด”
“ถ้านายอยากจัดการกับพวกเขา ฉันสามารถช่วยนายได้”
เขาคิดแบบนี้จริงๆ
ไม่มีความคิดอื่นแฝงเลย
พอเห็นแบบนั้นหลิงอี้จึงพยักหน้าตอบ “มาเถอะ”
เขาไม่อยากเสียความช่วยเหลือฟรีที่เพิ่มพลังต่อสู้ได้ชั่วคราวโดยไร้ประโยชน์
“ดี”
เกาอู๋ยื่นมือไปทางหลิงอี้และพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “สกิล3ดาว! อวยพรเพิ่มความเร็ว”
หลังจากนั้นในทันที เอฟเฟกต์แสงสีน้ำเงินไหลไปมารอบๆร่างกายของหลิงอี้
เมื่อแสงค่อยๆหายไป ความรู้สึกที่ร่างกายเบาขึ้นก็ทำให้หลิงอี้แสดงยิ้มออกมา
ตาทิพย์ของเขาสามารถเห็นผลของสกิลได้อย่างชัดเจน
[อวยพรเพิ่มความเร็ว(3 ดาว)]: เพิ่มความเร็วของเป้าหมาย10%เป็นเวลา5นาที
ผลค่อนข้างธรรมดา
ระยะเวลาถือว่าใช้ได้
“สกิลห้าดาว! โล่แสง”
เกาอู๋ใช้สกิลเสริมพลังครั้งที่สองให้หลิงอี้
หลังจากเสริมพลังให้เสร็จ เกาอู๋หันหลังและกำลังจะจากไป
ในตอนนั้นเองหลิงอี้หยุดเขาไว้และถามคำถาม
“พูดแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆนะ ฉันเข้าใจเรื่องที่นายพูดชื่อสกิล แต่ทำไมต้องพูดจำนวนดาวด้วย?”
อันที่จริงเขาสับสนเรื่องนี้ตั้งแต่สู้กับจ้าวเจ๋อที่ประตูบ้านแล้ว
ก่อนหน้านี้เขายุ่งกับเรื่องอื่นอยู่จึงไม่มีเวลาสนใจเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยนี้
เมื่อกี้เกาอู๋พูดระดับดาวเขาถึงนึกขึ้นได้
“เอ่อ....”
เกาอู๋ตัวแข็งทื่อ เขาหันหน้ากลับมาแล้วเกาแก้มด้วยความเขิน
“อันที่จริง...”
“มันไม่จำเป็นต้องพูดระดับดาวหรอก”
เขาพูดด้วยความเขินเล็กน้อย “ส่วนใหญ่แล้ว...ผู้เล่นหลายคนที่ได้สกิลดาวสูงมา พวกเขาจะพูดจำนวนดาวของสกิลด้วยเพื่อเสแสร้ง”
“นายไม่สนุกกับการเห็นคนอื่นอิจฉาตอนที่นายพูดสกิลแปดดาวหรือเก้าดาวออกมาดังๆเหรอ?”
หลิงอี้: (*゚ロ゚)
เขากำลังอึ้งและคิดภาพตามโดยไม่รู้ตัว
หลิงอี้พยักหน้าเห็นด้วยทันที “จริงด้วย มันดีมากเลย”
ปรากฏว่ามันเป็นการเสแสร้ง
เขาคิดว่ามันง่ายกว่าที่จะอ่านการจัดอันดับดาวและอื่นๆ...
“แต่สกิลเร่งความเร็วของนายเป็นแค่สกิลสามดาวไม่ใช่เหรอ แล้วนายตะโกนทำไม?”
“ฮ่าฮ่า...มันติดเป็นนิสัยแล้วน่ะ”
เมื่อเห็นเกาอู๋จากไป หลิงอี้ก็หันกลับมามองโล่แสงสีเหลืองที่อยู่รอบร่างกายเขา
[โล่แสง(5 ดาว)]: ให้โล่กับเป้าหมายมีและมีระยะเวลา10นาที สามารถลดความเสียหายได้ในจำนวนหนึ่ง ในขณะที่มีโล่อยู่จะช่วยให้เป้าหมายเร่งการฟื้นฟูได้เล็กน้อย โล่นี้ไม่สามารถทับซ้อนกับโล่อื่นได้
โล่นี้เป็นหนึ่งในโล่ทั่วไป
ผลที่ได้คือปานกลาง
“ในเมื่อได้เร่งความเร็วกับเสริมเกราะป้องกันแล้ว ก็ถึงเวลาโจมตี”
หลิงอี้มองคนทั้งห้าที่ต่อสู้ผีเสื้อเทพสายลมด้านล่าง แผนการไหลเข้ามาในหัวเขาอย่างรวดเร็ว
อย่างแรกเลย
ดาวตกของเขาไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง โลกจะรู้ทันทีว่าผู้เล่นลึกลับเขต66อยู่ที่แผ่นดินเสินเซี่ยนครเชียนเจียง
เขาลงทะเบียนกับพันธมิตรเสินสาขาอึ๋งหั่วของนครเชียนเจียงมาก่อน คนอื่นจะหาเขาเจอได้ในไม่กี่นาทีถ้าเขาใช้ดาวตก
ข้อสอง คงดีกว่าถ้าไม่อัญเชิญจักรพรรดิน้ำแข็ง
ถ้าอัญเชิญเธอออกมาคงต้องแต่งตัวให้เธอ และต้องระวังว่าเธอจะไม่ใช้สกิลที่มีหมอกน้ำแข็ง
หมอกขาวที่แช่แข็งวัตถุได้หายากมากในโลกนี้
ถ้าจะลำบากขนาดนั้นสู้ไม่เรียกออกมาตั้งแต่แรกดีกว่า
ตัวเลือกที่เหลือคือการใช้ดาวธาตุสู้ระยะประชิด!
'ฉันมีดาบธาตุคู่ มีแค่หลินซูโหรวและจ้าวเจ๋อเท่านั้นที่เคยเห็นฉันใช้มัน'
'ไม่ต้องกังวลเรื่องหลินซูโหรว ส่วนจ้าวเจ๋อคงยังไม่ฟื้น...ถ้าอย่างนั้นฉันสามารถใช้ดาบธาตุได้อย่างเต็มที่!’
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา พันธมิตรเสินออกประกาศมาใหม่
หลังจากทดสอบระยะหนึ่งแล้ว พวกเขาพบว่าการลงโทษด้วยการคืนชีพให้คนชั่วเมื่อตายไม่ใช่การลงโทษทีได้ผล
พันธมิตรจึงยกเลิกมาตรการนี้
พวกเขาวางแผนใช้มาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ซึ่งมันอยู่ในขั้นพิจารณา
เพราะแบบนั้นจ้าวเจ๋อจึงไม่ถูกฟื้นคืนชีพ
เขาใช้ดาบธาตุคู่ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องตัวตนของตัวเอง!
'ดาบธาตุทำให้ฉันมั่นใจ และฉันคัดลอกคุณสมบัติความว่องไวจากจักรพรรดิน้ำแข็งก่อนออกไปแล้วด้วย ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องความเร็ว’
'ฉันแค่ฆ่าพวกมันให้เร็วที่สุด’
ผีเสื้อเทพสายลมเป็นบอสมอนสเตอร์ที่รู้จักกันดีในเรื่องความเร็ว
ความเร็ว
เพื่อไล่ตามให้ทันและฆ่ามันก่อนจะหนีไป หลิงอี้จึงคัดลอกความว่องไวจากจักรพรรดิน้ำแข็ง
เขาเคยไม่คิดว่าความว่องไวที่สูงลิ่วนี้จะถูกนำมาใช้ฆ่าผู้เล่นมืดมาก่อน
เมื่อยืนยันแผนการในใจแล้ว หลิงอี้ก็หยุดอ้ำอึ้งและวิ่งไปใจกลางหุบเขาทันที
......
หุบเขาลมกรดตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนลับป่าสีเขียว
หุบเขาทั้งหมดมีพื้นที่ประมาณ100,000ตารางเมตร
ซึ่งมันไม่ได้กว้างมากนัก
ที่ขอบหุบเขา มีผู้เล่นจำนวนมากนอกจากมอนสเตอร์เลเวล20-30อยู่ด้วย
พวกเขามองคนทั้งห้าที่กำลังสู้กับผีเสื้อเทพวายลมตรงใจกลางหุบเขา แต่ละคนแสดงความคิดที่ต่างกัน
“สกิลพิเศษของผีเสื้อเทพสายลมคือพายุหมุน สกิลหายากระดับ8ดาว ถ้าพวกมันได้สกิลนั้นไป นครเชียนเจียงของเราคงลำบากกันแน่!”
“เฮ้อ ฉันหวังว่าพวกมันจะสู้กับผีเสื้อเทพสายลมไม่ได้”
“ผีเสื้อเทพสายลม คิดไม่ถึงว่าบอสหายากแบบนี้จะถูกพวกมันดึงดูดมา เราต้องแจ้งพันธมิตรเสินในนครเชียนเจียงให้ส่งคนมาโดยเร็วที่สุด!”
ดินแดนลับเป็นพื้นที่อิสระ
คนที่อยู่ในนี้สามารถติดต่อกับคนภายนอกด้วยการใช้ฟังก์ชันสนทนาของฟอรัมเสินลู่เท่านั้น
ข้อมูลการสื่อสารของโลกปัจจุบันยังไม่สามารถนำเข้ามาได้
และเมื่อมีคนแจ้งพันธมิตร บางคนก็แอบติดต่อไปยังองค์กรอย่างลับๆ
นอกจากสกิลพายุหมุนระดับ8ดาวแล้ว ผีเสื้อเทพสายลมยังดรอปสกิลระดับสูงอื่นๆอีกด้วย
สำหรับองค์กรที่มีผู้เล่นชั้นนำจำนวนมาก ผีเสื้อเทพสายลมก็เป็นเหมือนขุมสมบัติเคลื่อนที่ได้!